ณ ที่นั่น แม่น้ำจะมีน้ำเต็มเปี่ยม และจะมีธัญพืชมากมาย ณ ที่นี่ พวกเขาได้สร้างเขื่อนที่ใหญ่และขุดคลองมากมายเพราะจำนวนประชากรเฝ้าแต่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่นั่น จากตอนเริ่มต้นจะมีประชากร 900,000 คน และจะไม่มีแผ่นดินอื่น ลูกไม่จำเป็นที่จะต้องไป ณ ที่ใด อากาศนั้นจะเป็นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา และธาตุต่าง ๆ จะไม่เคยสร้างปัญหาให้กับลูก แต่จะอยู่ในระเบียบอยู่เสมอ จะเป็นสวรรค์และดังนั้นลูกจะเป็นนายเหนือวัตถุ
จะมีต้นไม้ต่าง ๆ ที่สวยงามมากในสวรรค์ จะเป็นสวน และป่านั้นก็จะเต็มไปด้วยวัตถุท่เป็นประโยชน์ เพราะว่าลูกจะต้องใช้ไม้ แต่ทุกสิ่งจะอุดมสมบูรณ์ สัตว์และนกต่าง ๆ จะอาศัยอยู่ในป่าเพื่อที่จะเพิ่มความงามให้แก่ป่า พวกมันจะไม่สร้างสิ่งสกปรกใด ๆ แผ่นดินนั้นจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และดังนั้นทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นก็จะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน
ในยุคทองทุกสิ่งจะให้ความสุข จะไม่มีพายุไต้ฝุ่นหรือลมร้อน ในปัจจุบัน ธาตุทั้งหมดได้กลายมาเป็นศัตรูของลูก และด้วยเหตุนี้จึงมีแผ่นดินไหวและพายุเฮริเคน แต่เมื่อโลกเก่าได้ถูกทำลายด้วยความหายนะทางธรรมชาติ โลกใหม่ก็จะเกิดขึ้น
จะมีประชากรน้อยมาก ทั้งหมดนั้นจะงดงามตามธรรมชาติ จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอมใด ๆ แต่ละคนก็จะมีสวนดอกไม้ชั้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ชั้นหนึ่งและต้นไม้ชั้นหนึ่งเป็นของตนเอง จะไม่มีสิ่งใดที่จะก่อให้เกิดปัญหา
จะมีทรัพย์สมบัติมากมายในสวรรค์ เหมืองของเพชรและอัญมณีทั้งหมดนั้นจะเต็ม ณ ที่นี่ เพราะว่าแผ่นดินนั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่ มันจึงไม่มีพลังใด ๆ อีกต่อไป มีความแตกต่างราวกับกลางวันและกลางคืน ระหว่างดอกไม้และผลไม้ในสวรรค์และดอกไม้และผลไม้ ณ ที่นี่ ไม่สำคัญว่าจะนำเมล็ดพืช ฯลฯ เข้ามาจากอเมริกา ต้นไม้นั้นก็ไม่มีรสชาด ณ ที่นั่น แผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์มากซึ่งไม่มีใครจะต้องทำความเพียรพยายามใด วัตถุธาตุจะบริสุทธิ์ และดังนั้นทุกสิ่งก็จะบริสุทธิ์
ในสวรรค์นั้น ทุกสิ่งจะอุดมสมบูรณ์ แปดสิบหรือเก้าสิบปีมาแล้ว ข้าวนั้นมีราคาระหว่าง 10-12 แอนนาต่อหนึ่งกระสอบ เพียงแต่จินตนาการดูว่ามันเคยมีราคาถูกอย่างไรก่อนหน้านั้น ข้าวนั้นจะถูกและดีมากในยุคทอง
ขณะนี้แผ่นดินได้กลับมาแห้งแล้ง ดังนั้นธัญพืชนั้นจึงไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ณ ที่นั่น แผ่นดินทั้งหมดนั้นอุดมสมบูรณ์ ดาวเคราะห์ทั้งหมดและมหาสมุทรทั้งหมดนั้นเป็นของลูก ไม่มีการแบ่งแยก ลูกรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง ประชาชนนั้นถูกเรียกว่า ไวชนาฟ (Vaishnavs) ผู้สืบสกุลของวิษณุ พวกเขานั้นบริสุทธิ์ ยุคทองจะถูกเรียกว่าโลกที่บริสุทธิ์ ความโ่อ่อ่าหรูหราของสวรรค์นั้นไม่สามารถหาได้ ณ ที่นี่
เหล่าเทพนั้นรับประทานน้อยมาก พวกเขาไม่มีความละโมบใด ๆ เลย อาหาร 36 ชนิดได้ถูกเตรียมไว้ แต่พวกเขารับประทานน้อยมาก ในยุคทอง จะไม่มีป่าที่กว้างใหญ่ และจะไม่มีภูเขามากมาย เป็นเพียงราวกับว่าพวกเขาทำหุ่นจำลองของสวรรค์ เช่นเดียวกันในความเป็นจริง สวรรค์นั้นจะเล็ก การขยายตัวอย่างมากมายของโลกทั้งหมดที่ลูกเห็นในวันนี้จะไปอยู่ใต้มหาสมุทร มหาสมุทรจะกลืนมันเข้าไป ธาตุต่าง ๆ จะหลอมรวมเข้าไปในธาตุของพวกมันเอง แผ่นดินจะหลอมรวมเข้าไปสู่แผ่นดิน โลกนั้นจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ วัตถุธาตุจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และดังนั้นจะมีความงดงามตามธรรมชาติ
ในยุคทอง นกต่าง ๆ ฯลฯ นั้นจะมีความสวยงามชั้นหนึ่ง มนุษย์เป็นเช่นใด สิ่งที่อยู่แวดล้อมพวกเขาก็จะเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ทุกสิ่งจะสวยงามมาก ผลไม้จะมีรสชาดอร่อย ผลใหญ่และหวาน ยุคทองนั้นชั้นหนึ่ง และทุก ๆ สิ่งที่ลูกได้รับก็จะชั้นหนึ่ง ภารัตนั้นกลายเป็นนกระจอกทองคำ
ที่นั่นจะไม่มีขยะ วัวนั้นจะชั้นหนึ่ง แต่กฤษณะจะไม่ได้ดูแลพวกมัน นมนั้นจะส่งให้เขาโดยเฮรีคอปเตอร์ จะไม่มีสัตว์ชนิดใดที่ถูกเก็บไว้ในบ้าน
กฏกล่าวไว้ว่าในยุคทองนั้นไม่สามารถมีสัตว์ชนิดใดที่อาจจะให้ความทุกข์ สัตว์ก็ให้ความสุขแก่กันและกันเช่นเีดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีการกล่าวว่าสิงห์โตและแกะดื่มน้ำด้วยกัน ณ ที่นั่น ไม่มีความทุกข์อย่างแท้จริง
ทุก ๆ สิ่งผลิดอกบาน ณ ที่นั่น ไม่มีหนามใด ๆ สถานที่ทั้งหมดคือสวน พวกเขาจะไม่สุมไฟกลางแจ้ง เพราะว่าไม้จะทำให้เกิดควันซึ่งจะทำให้เกิดความทุกข์
Monday, July 8, 2013
Sunday, July 7, 2013
ยุคทอง(5)
ในยุคทอง ธาตุทั้งห้าของธรรมชาตินั้นเป็นเครื่องมือแห่งความสุขสำหรับเหล่าเทพ
การปรุงอาหารทั้งหมดนั้นทำด้วยพลังแสงอาทิตย์
สายลมนั้นจะเป็นพัดลมตามธรรมชาติสำหรับลูก และจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงของลูก ลมจะพัด ต้นไม้ต่าง ๆ ก็จะแกว่างไกว และกิ่งก้านก็จะเคลื่อนไหว ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ก็จะมีการบรรเลงเพลงตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติ ณ ที่นั่น ไม่มีการใช้พัดลมเพื่อระบายความร้อน แต่ธรรมชาติจะพัดลูกด้วยตัวของมันเอง สิ่งสร้าง ในฐานะที่เป็นลูกของลูก ก็จะบรรเลงเพลงต่าง ๆ แด่พ่อแม่แห่งโลกของพวกมันนด้วยการเคลื่อนไหวใบของมัน เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันจากการแกว่างไกวของต้นไม้ต่าง ๆ นั้น จะทำให้เกิดเสียงเพลงต่าง ๆ ตามธรรมชาติ
อากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวในสวรรค์ อากาศจะเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา ธาตุต่าง ๆ นั้นจะอยู่ในระเบียบ
ท้องฟ้านั้นจะเป็นอิสระเสรีสำหรับความพอใจของทุกคน ท้องฟ้าจะเป็นอาณาเขตสำหรับการขับเครื่องบินของลูก เส้นทางบินนั้นจะปราศจากอุบัติเหตุ แม้แต่เครื่องบินของเด็กอายุแปดขวบก็จะไม่ตก
น้ำนั้นจะำทำหน้าที่ในการสร้างกลิ่นหอม เนื่องจากสมุนไพรต่าง ๆ น้ำในแม่น้ำคงคานั้นก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำใด ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรต่าง ๆ ที่น้ำนำมากับมันนั้นจะให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ที่นี่่ น้ำนมนั้นให้พลังงาน ในทำนองเดียวกัน น้ำนั้นเต็มไปด้วยพลังงานและสะอาด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกล่าวว่ามีแม่น้ำของน้ำนมในสวรรค์ เช่นเดียวกับน้ำในแม่่น้ำคงคาในวันนี้ ซึ่งเป็นน้ำสำหรับอาบนั้นถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากแร่ธาตุและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นไหลมาจากภูเขาต่าง ๆ พร้อมกับน้ำนั้น ไม่มีแบคทีเรียในน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงถูกพิจารณาว่าบริสุทธิ์ ในทำนองเดียวกัน บนภูเขาต่าง ๆ นั้นมีสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมซึ่งเมื่อน้ำไหลมาจากที่นั่นก็จะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่มีความต้องการต่อสิ่งที่เป็นของเทียม
ในยุคทอง แม่น้ำทั้งหมดนั้นจะสะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งแม่น้ำคงคาจะไม่ถูกเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ในความเป็นจริง ในแม่น้ำอื่น ๆ ก็จะไม่มีมลภาวะ ในยุคทอง ไม่มีกฏที่จะทำให้สิ่งใดไม่บริสุทธิ์ ณ ที่นั่นทุกสิ่งคงอยู่อย่างบริสุทธิ์
พื้นดินจะให้ผลไม้ที่มีคุณภาพสูงมาก รสชาดใดก็ตามที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่มีรสชาดนั้นก็จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูก จะไม่มีเกลือหรือน้ำตาล เช่นที่อาหารนั้นสามารถทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยการเติมมะเขือเทศลงไปซึ่งจะมีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน รสชาดใดที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่ต้องการจะอยู่ ณ ที่นั่น เพียงแต่เติมน้ำผลไม้นั้น ก็จะได้รสชาดตามต้องการ พื้นดินจะรับใช้ลูกด้วยการให้ผลไม้และธัญพืชชนิดเลิศ เช่นที่ลูกได้ทำให้มีรสชาดหลากหลายด้วยการใช้เกลือ น้ำตาลและเครื่องเทศต่าง ๆ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะมีผลไม้ตามธรรมชาติอย่างหลากหลายที่จะให้รสชาดต่าง ๆ เหล่านั้น ผลไม้ตามธรรมชาติเหล่านี้จะให้รสชาดที่หลากหลายแก่ลูก จะไม่มีโรงงานน้ำตาล แต่จะมีผลไม้ที่เป็นน้ำตาล รสชาดใดที่ลูกต้องการ ลูกสามารถทำขึ้นมาด้วยผลไม้ตามธรรมชาติ ลูกจะไม่ทำแกงจากผักสีเขียว แต่ทำจากผลไม้และดอกไม้ต่าง ๆ จะมีผลไม้ซึ่งมีน้ำผลไม้ตามธรรมชาติ แยกกันสำหรับการรับประทานและการดื่ม ลูกจะไม่ต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะต้องคั้นน้ำผลไม้ ผลไม้แต่ละชนิดและทุก ๆ ชนิดจะบริบูรณ์อย่างมาก ซึ่งจะเป็นราวกับว่าลูกกำลังดื่มน้ำมะพร้าว ลูกจะเก็บผลไม้มา บีบมันเบา ๆ และน้ำผลไม้ก็จะปรากฏออกมา
อะไรก็ตามที่ลูกเรียกว่าทิวทัศน์ธรรมชาติก็จะเห็นได้ตามธรรมชาติ ภูเขานั้นจะไม่สูงชัน ภูเขาจะมีรูปลักษณ์หลากหลายที่งดงามตามธรรมชาติ บ้างก็จะเป็นรูปเป็นนก บ้างก็จะเป็นรูปดอกไม้ จะมีโครงสร้างตามธรรมชาติประเภทนี้ ในหนทางนี้ ธาตุทั้งห้าของธรรมชาติจะรับใช้ลูก
เช่นที่ทุกวันนี้พวกเขาทำเสียงเพลงขึ้นเอง ในสวรรค์นั้นเสียงของนกจะกลายเป็นเพลงบรรเลงที่หลากหลาย เหมือนกับเป็นของเล่นที่มีชีวิต พวกเขาจะแสดงการแสดงต่าง ๆ ให้ลูกดู ทุกวันนี้ ผู้คนได้เรียนรู้ที่จะผลิตของเล่นที่พูดได้ในหลาย ๆ รูปแบบ ณ ที่นั่นก็เช่นกัน เมื่อลูกใ้ห้สัญญาณนกต่าง ๆ ก็จะให้ความบันเทิงแก่ลูกด้วยเสียงที่ไพเราะและการแสดงที่สวยงามหลากหลาย
สวรรค์นั้นจะให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่นที่ในปัจจุบันนี้ที่ ไมซอร์ (Mysore) ผู้คนมากมายมาเพื่อที่จะชมความงาม จะมีความงดงามในสวรรค์ จะมีสายลมที่แสนสบายและมีน้ำตกที่สวยงาม ในสวรรค์ จะไม่มีการเปิดเพลงเพื่อที่จะปลุกลูกในอมฤตเวลา แต่จะมีเสียงเพลงที่แสนหวานของนกต่าง ๆ ที่ปลุกให้ลูกตื่น เวลาที่ลูกตื่นขึ้นมานั้นจะเป็นเวลาที่เช้ามาก แต่ลูกจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า เวลาของการตื่นนอนของเหล่าเทพที่มีชีวิตนั้นคือเวลาที่ผู้บูชากราบไหว้ได้ปลุกรูปปั้นของเหล่าเทพเพื่อที่จะทำการบูชากราบไหว้พวกเขาในเวลาเช้าตรู่ ในหนทางของการบูชากราบไหว้ ได้ให้ความสำคัญต่อชั่วโมงแห่งน้ำทิพย์ ลูกจะตื่นแต่เช้าตรู่ แต่ว่าตลอดเวลาลูกจะรู้สึกราวกับว่าลูกได้ตื่นเรียบร้อยแล้ว ลูกจะไม่ต้องทำงานหนักใด ๆ จะไม่มีทั้งงานที่หนัก และงานที่ต้องใช้สมอง และลูกจะไม่มีภาระใด ๆ เพราะสิ่งนี้ การตื่นหรือการนอนหลับจะเป็นสิ่งเดียวกัน
ในยุคทอง จะไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนอมฤตเวลาเพื่อที่จะนั่งสมาธิ เพราะว่าพวกเขาได้รับพลังของโยคะเรียบร้อยแล้ว จะเป็นราวกับว่าเมื่อลูกศึกษาเล่าเรียนตามระยะเวลาของหลักสูตรของการศึกษาของลูกเท่านั้น และจนกระทั่งลูกได้ผ่านการสอบทั้งหมดแล้ว
การปรุงอาหารทั้งหมดนั้นทำด้วยพลังแสงอาทิตย์
สายลมนั้นจะเป็นพัดลมตามธรรมชาติสำหรับลูก และจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงของลูก ลมจะพัด ต้นไม้ต่าง ๆ ก็จะแกว่างไกว และกิ่งก้านก็จะเคลื่อนไหว ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ก็จะมีการบรรเลงเพลงตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติ ณ ที่นั่น ไม่มีการใช้พัดลมเพื่อระบายความร้อน แต่ธรรมชาติจะพัดลูกด้วยตัวของมันเอง สิ่งสร้าง ในฐานะที่เป็นลูกของลูก ก็จะบรรเลงเพลงต่าง ๆ แด่พ่อแม่แห่งโลกของพวกมันนด้วยการเคลื่อนไหวใบของมัน เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันจากการแกว่างไกวของต้นไม้ต่าง ๆ นั้น จะทำให้เกิดเสียงเพลงต่าง ๆ ตามธรรมชาติ
อากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวในสวรรค์ อากาศจะเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา ธาตุต่าง ๆ นั้นจะอยู่ในระเบียบ
ท้องฟ้านั้นจะเป็นอิสระเสรีสำหรับความพอใจของทุกคน ท้องฟ้าจะเป็นอาณาเขตสำหรับการขับเครื่องบินของลูก เส้นทางบินนั้นจะปราศจากอุบัติเหตุ แม้แต่เครื่องบินของเด็กอายุแปดขวบก็จะไม่ตก
น้ำนั้นจะำทำหน้าที่ในการสร้างกลิ่นหอม เนื่องจากสมุนไพรต่าง ๆ น้ำในแม่น้ำคงคานั้นก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำใด ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรต่าง ๆ ที่น้ำนำมากับมันนั้นจะให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ที่นี่่ น้ำนมนั้นให้พลังงาน ในทำนองเดียวกัน น้ำนั้นเต็มไปด้วยพลังงานและสะอาด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกล่าวว่ามีแม่น้ำของน้ำนมในสวรรค์ เช่นเดียวกับน้ำในแม่่น้ำคงคาในวันนี้ ซึ่งเป็นน้ำสำหรับอาบนั้นถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากแร่ธาตุและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นไหลมาจากภูเขาต่าง ๆ พร้อมกับน้ำนั้น ไม่มีแบคทีเรียในน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงถูกพิจารณาว่าบริสุทธิ์ ในทำนองเดียวกัน บนภูเขาต่าง ๆ นั้นมีสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมซึ่งเมื่อน้ำไหลมาจากที่นั่นก็จะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่มีความต้องการต่อสิ่งที่เป็นของเทียม
ในยุคทอง แม่น้ำทั้งหมดนั้นจะสะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งแม่น้ำคงคาจะไม่ถูกเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ในความเป็นจริง ในแม่น้ำอื่น ๆ ก็จะไม่มีมลภาวะ ในยุคทอง ไม่มีกฏที่จะทำให้สิ่งใดไม่บริสุทธิ์ ณ ที่นั่นทุกสิ่งคงอยู่อย่างบริสุทธิ์
พื้นดินจะให้ผลไม้ที่มีคุณภาพสูงมาก รสชาดใดก็ตามที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่มีรสชาดนั้นก็จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูก จะไม่มีเกลือหรือน้ำตาล เช่นที่อาหารนั้นสามารถทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยการเติมมะเขือเทศลงไปซึ่งจะมีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน รสชาดใดที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่ต้องการจะอยู่ ณ ที่นั่น เพียงแต่เติมน้ำผลไม้นั้น ก็จะได้รสชาดตามต้องการ พื้นดินจะรับใช้ลูกด้วยการให้ผลไม้และธัญพืชชนิดเลิศ เช่นที่ลูกได้ทำให้มีรสชาดหลากหลายด้วยการใช้เกลือ น้ำตาลและเครื่องเทศต่าง ๆ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะมีผลไม้ตามธรรมชาติอย่างหลากหลายที่จะให้รสชาดต่าง ๆ เหล่านั้น ผลไม้ตามธรรมชาติเหล่านี้จะให้รสชาดที่หลากหลายแก่ลูก จะไม่มีโรงงานน้ำตาล แต่จะมีผลไม้ที่เป็นน้ำตาล รสชาดใดที่ลูกต้องการ ลูกสามารถทำขึ้นมาด้วยผลไม้ตามธรรมชาติ ลูกจะไม่ทำแกงจากผักสีเขียว แต่ทำจากผลไม้และดอกไม้ต่าง ๆ จะมีผลไม้ซึ่งมีน้ำผลไม้ตามธรรมชาติ แยกกันสำหรับการรับประทานและการดื่ม ลูกจะไม่ต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะต้องคั้นน้ำผลไม้ ผลไม้แต่ละชนิดและทุก ๆ ชนิดจะบริบูรณ์อย่างมาก ซึ่งจะเป็นราวกับว่าลูกกำลังดื่มน้ำมะพร้าว ลูกจะเก็บผลไม้มา บีบมันเบา ๆ และน้ำผลไม้ก็จะปรากฏออกมา
อะไรก็ตามที่ลูกเรียกว่าทิวทัศน์ธรรมชาติก็จะเห็นได้ตามธรรมชาติ ภูเขานั้นจะไม่สูงชัน ภูเขาจะมีรูปลักษณ์หลากหลายที่งดงามตามธรรมชาติ บ้างก็จะเป็นรูปเป็นนก บ้างก็จะเป็นรูปดอกไม้ จะมีโครงสร้างตามธรรมชาติประเภทนี้ ในหนทางนี้ ธาตุทั้งห้าของธรรมชาติจะรับใช้ลูก
เช่นที่ทุกวันนี้พวกเขาทำเสียงเพลงขึ้นเอง ในสวรรค์นั้นเสียงของนกจะกลายเป็นเพลงบรรเลงที่หลากหลาย เหมือนกับเป็นของเล่นที่มีชีวิต พวกเขาจะแสดงการแสดงต่าง ๆ ให้ลูกดู ทุกวันนี้ ผู้คนได้เรียนรู้ที่จะผลิตของเล่นที่พูดได้ในหลาย ๆ รูปแบบ ณ ที่นั่นก็เช่นกัน เมื่อลูกใ้ห้สัญญาณนกต่าง ๆ ก็จะให้ความบันเทิงแก่ลูกด้วยเสียงที่ไพเราะและการแสดงที่สวยงามหลากหลาย
สวรรค์นั้นจะให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่นที่ในปัจจุบันนี้ที่ ไมซอร์ (Mysore) ผู้คนมากมายมาเพื่อที่จะชมความงาม จะมีความงดงามในสวรรค์ จะมีสายลมที่แสนสบายและมีน้ำตกที่สวยงาม ในสวรรค์ จะไม่มีการเปิดเพลงเพื่อที่จะปลุกลูกในอมฤตเวลา แต่จะมีเสียงเพลงที่แสนหวานของนกต่าง ๆ ที่ปลุกให้ลูกตื่น เวลาที่ลูกตื่นขึ้นมานั้นจะเป็นเวลาที่เช้ามาก แต่ลูกจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า เวลาของการตื่นนอนของเหล่าเทพที่มีชีวิตนั้นคือเวลาที่ผู้บูชากราบไหว้ได้ปลุกรูปปั้นของเหล่าเทพเพื่อที่จะทำการบูชากราบไหว้พวกเขาในเวลาเช้าตรู่ ในหนทางของการบูชากราบไหว้ ได้ให้ความสำคัญต่อชั่วโมงแห่งน้ำทิพย์ ลูกจะตื่นแต่เช้าตรู่ แต่ว่าตลอดเวลาลูกจะรู้สึกราวกับว่าลูกได้ตื่นเรียบร้อยแล้ว ลูกจะไม่ต้องทำงานหนักใด ๆ จะไม่มีทั้งงานที่หนัก และงานที่ต้องใช้สมอง และลูกจะไม่มีภาระใด ๆ เพราะสิ่งนี้ การตื่นหรือการนอนหลับจะเป็นสิ่งเดียวกัน
ในยุคทอง จะไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนอมฤตเวลาเพื่อที่จะนั่งสมาธิ เพราะว่าพวกเขาได้รับพลังของโยคะเรียบร้อยแล้ว จะเป็นราวกับว่าเมื่อลูกศึกษาเล่าเรียนตามระยะเวลาของหลักสูตรของการศึกษาของลูกเท่านั้น และจนกระทั่งลูกได้ผ่านการสอบทั้งหมดแล้ว
Saturday, July 6, 2013
ยุคทอง(4)
การศึกษาเล่าเรียน
ณ ที่นั่นจะเป็นเหมือนกับการเล่นเกม พวกเขาจะมีการละเล่นในขณะที่ศึกษาเล่าเรียน พวกเขาจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองและการบริหาร พวกเขาจะศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการบริหาร แต่การศึกษาหลักจะเป็นการวาดภาพ ทุก ๆ คน ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มจะเป็นศิลปิน จะมีดนตรี ศิลป และ เกมส์ การศึกษาเล่าเรียนของลูกประกอบด้วยการละเล่นและดนตรี ศิลปะในการขับร้อง ณ ที่นั่น ประวัติศาสตร์นั้นอยู่ในรูปของเพลงและบทกวี จะไม่มีความเบื่อหน่าย ลูกจะเต้นรำและแสดงละคร แต่จะไม่มีภาพยนต์ ละครนั้นจะเป็นละครที่สนุกสนานและให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก และจะมีโรงละครมากมาย
ผู้ที่จะเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงในยุคทองจะมีวิทยาลัยที่โอ่โถงมาก ในวิทยาลัย ลูกจะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาซึ่งจะเป็นภาษาฮินดีที่บริสุทธิ์มาก
การสมรส
การสมรสของเหล่าเทพนั้นมีความโอฬารตระการตาเป็นอย่างมาก แต่การที่จะไปฮันนีมูนเพื่อที่จะหมกมุ่นในกิเลสนั้นจะไม่มีอยู่ในความคิดของพวกเขา ณ ที่นั่น ทุกคนจะเป็นเช่นดอกไม้ ผู้ที่กลายมาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์เหมือนดอกไม้ ณ ที่นี่ คือผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี ณ ที่นั่น สันสการ์ของการปราศจากกิเลสนั้นจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายชาติ จะไม่มีชื่อหรือร่องรอยของมายาปรากฏอยู่ในสวรรค์
ศรีราเด้และศรีกฤษณะนั้นคือมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงต่างอาณาจักรกัน พวกเขาไม่ใช่พี่ชายและน้องสาว พวกเขามีอาณาจักรของพวกเขาเองที่แยกจากกัน ราเด้มีอาณาจักรของเธอเอง และกฤษณะนั้นคือมกุฏราชกุมารแห่งอาณาจักรของเขาเอง หลังจากการสมรสพวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ
ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็กของลักษมีและนารายัญได้มีการบันทึกไว้ แต่พวกเขาแสดงเรื่องราวในวัยเด็กของราเด้และกฤษณะ พวกเขาเคยเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง ดังนั้นพวกเขาไม่เคยเป็นผู้ปกครอง หลังจากการสมรส พวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ แล้วอาณาจักรของพวกเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น
กฤษณะได้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มที่ สัญลักษณ์ของเขาคือพระจันทร์เต็มดวง เขาคือเจ้าชายองค์แรกแห่งยุคทอง สายของเขานั้นดำเนินต่อไปถึงแปดชั่วอายุ เมื่อเป็นเด็กเขาถูกเรียกว่า โมฮัน ซึ่งหมายถึงศรีกฤษณะ เช่นเดียวกับเจ้าชายแห่งเวลส์ บัลลังก์อันดับที่หนึ่งนั้นเป็นของเจ้าชายแห่ง Indraprasth หลังจากการเป็นเจ้าชาย เขาก็กลายเป็นกษัตริย์ แล้วชื่อของเขาก็ไม่ได้รับการสรรเสริญในฐานะที่เป็นกฤษณะอีกต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ
ณ ที่นั่นจะเป็นเหมือนกับการเล่นเกม พวกเขาจะมีการละเล่นในขณะที่ศึกษาเล่าเรียน พวกเขาจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองและการบริหาร พวกเขาจะศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการบริหาร แต่การศึกษาหลักจะเป็นการวาดภาพ ทุก ๆ คน ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มจะเป็นศิลปิน จะมีดนตรี ศิลป และ เกมส์ การศึกษาเล่าเรียนของลูกประกอบด้วยการละเล่นและดนตรี ศิลปะในการขับร้อง ณ ที่นั่น ประวัติศาสตร์นั้นอยู่ในรูปของเพลงและบทกวี จะไม่มีความเบื่อหน่าย ลูกจะเต้นรำและแสดงละคร แต่จะไม่มีภาพยนต์ ละครนั้นจะเป็นละครที่สนุกสนานและให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก และจะมีโรงละครมากมาย
ผู้ที่จะเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงในยุคทองจะมีวิทยาลัยที่โอ่โถงมาก ในวิทยาลัย ลูกจะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาซึ่งจะเป็นภาษาฮินดีที่บริสุทธิ์มาก
การสมรส
การสมรสของเหล่าเทพนั้นมีความโอฬารตระการตาเป็นอย่างมาก แต่การที่จะไปฮันนีมูนเพื่อที่จะหมกมุ่นในกิเลสนั้นจะไม่มีอยู่ในความคิดของพวกเขา ณ ที่นั่น ทุกคนจะเป็นเช่นดอกไม้ ผู้ที่กลายมาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์เหมือนดอกไม้ ณ ที่นี่ คือผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี ณ ที่นั่น สันสการ์ของการปราศจากกิเลสนั้นจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายชาติ จะไม่มีชื่อหรือร่องรอยของมายาปรากฏอยู่ในสวรรค์
ศรีราเด้และศรีกฤษณะนั้นคือมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงต่างอาณาจักรกัน พวกเขาไม่ใช่พี่ชายและน้องสาว พวกเขามีอาณาจักรของพวกเขาเองที่แยกจากกัน ราเด้มีอาณาจักรของเธอเอง และกฤษณะนั้นคือมกุฏราชกุมารแห่งอาณาจักรของเขาเอง หลังจากการสมรสพวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ
ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็กของลักษมีและนารายัญได้มีการบันทึกไว้ แต่พวกเขาแสดงเรื่องราวในวัยเด็กของราเด้และกฤษณะ พวกเขาเคยเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง ดังนั้นพวกเขาไม่เคยเป็นผู้ปกครอง หลังจากการสมรส พวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ แล้วอาณาจักรของพวกเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น
กฤษณะได้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มที่ สัญลักษณ์ของเขาคือพระจันทร์เต็มดวง เขาคือเจ้าชายองค์แรกแห่งยุคทอง สายของเขานั้นดำเนินต่อไปถึงแปดชั่วอายุ เมื่อเป็นเด็กเขาถูกเรียกว่า โมฮัน ซึ่งหมายถึงศรีกฤษณะ เช่นเดียวกับเจ้าชายแห่งเวลส์ บัลลังก์อันดับที่หนึ่งนั้นเป็นของเจ้าชายแห่ง Indraprasth หลังจากการเป็นเจ้าชาย เขาก็กลายเป็นกษัตริย์ แล้วชื่อของเขาก็ไม่ได้รับการสรรเสริญในฐานะที่เป็นกฤษณะอีกต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ
Friday, July 5, 2013
ยุคทอง(3)
การกำเนิดของเหล่าเทพ
ในยุคทอง เหล่าเทพนั้นกำเนิดด้วยพลังของโยคะ เหล่าเทพนั้นได้รับการสรรเสริญว่า สมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมทั้งหมด สมบูรณ์พร้อมด้วยสิบหกองศาแห่งสวรรค์ ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ทั้งโลกนั้นปราศจากกิเลส ลูก ๆ นั้นจะเกิดอย่างแน่นอน แต่จะไม่เกิดด้วยกิเลส ดังนั้น จะต้องมีวิธีการบางอย่าง ที่นี่ผู้คนนั้นมีกิเลสอย่างเต็มที่และที่นั่นพวกเขาปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง พระราชาและพระราชินีเป็นเช่นไร ปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น
อย่างแน่นอนที่จะมีกฏเกี่ยวกับอายุของผู้ที่จะให้กำเนิดแก่เด็ก ๆ ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นตามกฏเกณฑ์และระเบียบแบบแผน ไม่ใช่ว่าบางคนจะมีลูกเมื่ออายุ 15-20 ปี เช่นที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่ ไม่เลย ที่นั่น จะมีอายุขัยถึง 150 ปี แน่นอน พวกเขาจะมีลูก ๆ ในวัยที่เป็นหนุ่มสาวเต็มที่ของพวกเขา ก่อนครึ่งหนึ่งของอายุขัยของพวกเขาเล็กน้อย ในเวลานั้นพวกเขาจะมีบุตรชาย ที่นั่นจะมีอายุที่ยืนยาว จะมีการให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน และหลังจากนั้นก็จะเป็นบุตรสาว นี่ก็จะเป็นกฏ บุตรชายจะเกิดก่อนเสมอ ผู้ชายมาก่อน จากนั้นก็เป็นผู้หญิง บุตรชายและบุตรสาวจะมีอายุที่แตกต่างกันประมาณเก้าถึงสิบปี
เมื่อมีชัยชนะ การกำเนิดของเจ้าชายศรีกฤษณะก็จะเกิดขึ้น ในเวลาของการกำเนิดนั้น แม่ของเขาจะได้รับนิมิตของวิษณุซึ่งมีสี่แขน จะมีแสงสว่างรุ่งโรจน์ปรากฏโดยรอบ ในมือของเขาจะมีขลุ่ยที่ประดับด้วยเพชรพลอยเพราะว่า เขาเป็นเจ้าชาย แต่จะไม่มีความรู้ ณ ที่นั่น ชื่อของกฤษณะนั้นได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่่ แต่ชื่ของพ่อของเขานั้นไม่ไ้ด้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่ แต่ชื่อของพ่อของเขานั้นไ่ม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เขาจะต้องเป็นพระราชาอย่างแน่นอนเพราะกฤษณะนั้นจะต้องกำเนิดจากพระราชา แต่การกำเนิดของพระราชานั้นไม่บริสุทธิ์และด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงไม่โด่งดัง ในเวลาของการกำเนิดของศรีกฤษณะนั้น จะมีผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์มีชีวิตเหลืออยู่น้อยมาก เป็นเพียงเมื่อผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์ทั้งหมดได้ตายไปแล้ว ศรีกฤษณะจึงจะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ เขาจะครอบครองอาณาจักรของเขา และแล้วยุคสมัยของเขาก็จะเริ่มต้นขึ้น
สวรรค์นั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นมาจากมหาสมุทร พวกเขาแสดงไว้ในตำนานว่า หลังจากอุทกภัยอันใหญ่หลวง ศรีกฤษณะก็ได้ลอยมาบนใบโพธิ์ในมหาสมุทร กำลังดูดนิ้วเท้าของเขา ถ้านั่นคือความจริง ศรีกฤษณะจะมาเพียงลำพังและเพิ่มประชากรโลกได้อย่างไร? อย่างน้อยสองคนนั้นเป็นที่ต้องการ; ผู้หญิงนั้นก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตามตำนานกล่าวไว้ว่า กฤษณะนั้นได้กำเนิดในป่าเป็นเช่นเด็กแปดขวบ แต่นั่นก๋ไม่ถูกต้องเช่นกัน ดินแดนของคานส์ (Kans - ปีศาจ) ไม่ได้ปรากฏในเวลานั้น
ในยุคทอง การตายของสามีหรือบุตรชายของใครบางคนนั้นจะไม่เกิดขึ้น ไม่มีการตายโดยไ่ม่รู้ตัวล่วงหน้าเช่นนั้น ด้วยความสุขอย่างใหญ่หลวง ดวงวิญญาณจะออกจากร่างหนึ่งและเข้าไปสู่ครรภ์ การเกิดนั้นไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด ในพระราชวังแห่งครรภ์นั้น มีความสุขเหนือความสุข ในขณะที่ ณ ที่นี่ครรภ์นั้นคือคุก ใครก็ตามที่ขโมยหรือก่ออาชญากรรมใด ๆ นั้นถูกขังคุกโดยรัฐบาลในปัจจุบันนี้ ณ ที่นั่น ไม่มีคุกเช่นนั้นปรากฏอยู่ ไม่มีใครก่ออาชญากรรมใด ๆ ในสวรรค์ ไม่มีใครสร้างความยุ่งยากให้แก่ใคร ลูก ๆก็ไม่สร้างความยุ่งยากเช่นกัน พวกเขานั้นอ่อนหวานมาก
อายุขัย
เพราะว่าผู้คนนั้นกำเนิดด้วยพลังโยคะ อายุชัยในยุคทองนั้นจึงยาวมาก นี่คือเหตุผลที่ทำไมเหล่าเทพจึงถูกเรียกว่าเป็นอมตะ ในเวลาที่ถูกต้อง ดวงวิญญาณจะทิ้งเครื่องแต่งกาย (ร่างกาย) หนึ่งและไปใช้ชุดใหม่ เมื่อถึงเวลาอันควร คนนั้นจะมีนิมิต ... "บัดนี้ฉันจะต้องถอดเครื่องแต่งกายเก่านี้และไปสวมชุดใหม่ ; ฉันต้องไปสู่ครรภ์ ดวงวิญญาณก็จะทิ้งร่างหนึ่งและแล้วก็เข้าไปในลูกอ่อนในครรภ์โดยอัตโนมัติ ที่นั่น ครรภ์นั้นไม่ใช่คุก แต่ถูกเรียกว่า พระราชวัง ไม่มีบาปใดที่ใครจะต้องได้รับการทรมานจากการถูกลงโทษ พวกเขานอนอย่างสะดวกสบายอยู่ในพระราชวังแห่งครรภ์
ในยุคทอง เหล่าเทพนั้นกำเนิดด้วยพลังของโยคะ เหล่าเทพนั้นได้รับการสรรเสริญว่า สมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมทั้งหมด สมบูรณ์พร้อมด้วยสิบหกองศาแห่งสวรรค์ ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ทั้งโลกนั้นปราศจากกิเลส ลูก ๆ นั้นจะเกิดอย่างแน่นอน แต่จะไม่เกิดด้วยกิเลส ดังนั้น จะต้องมีวิธีการบางอย่าง ที่นี่ผู้คนนั้นมีกิเลสอย่างเต็มที่และที่นั่นพวกเขาปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง พระราชาและพระราชินีเป็นเช่นไร ปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น
อย่างแน่นอนที่จะมีกฏเกี่ยวกับอายุของผู้ที่จะให้กำเนิดแก่เด็ก ๆ ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นตามกฏเกณฑ์และระเบียบแบบแผน ไม่ใช่ว่าบางคนจะมีลูกเมื่ออายุ 15-20 ปี เช่นที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่ ไม่เลย ที่นั่น จะมีอายุขัยถึง 150 ปี แน่นอน พวกเขาจะมีลูก ๆ ในวัยที่เป็นหนุ่มสาวเต็มที่ของพวกเขา ก่อนครึ่งหนึ่งของอายุขัยของพวกเขาเล็กน้อย ในเวลานั้นพวกเขาจะมีบุตรชาย ที่นั่นจะมีอายุที่ยืนยาว จะมีการให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน และหลังจากนั้นก็จะเป็นบุตรสาว นี่ก็จะเป็นกฏ บุตรชายจะเกิดก่อนเสมอ ผู้ชายมาก่อน จากนั้นก็เป็นผู้หญิง บุตรชายและบุตรสาวจะมีอายุที่แตกต่างกันประมาณเก้าถึงสิบปี
เมื่อมีชัยชนะ การกำเนิดของเจ้าชายศรีกฤษณะก็จะเกิดขึ้น ในเวลาของการกำเนิดนั้น แม่ของเขาจะได้รับนิมิตของวิษณุซึ่งมีสี่แขน จะมีแสงสว่างรุ่งโรจน์ปรากฏโดยรอบ ในมือของเขาจะมีขลุ่ยที่ประดับด้วยเพชรพลอยเพราะว่า เขาเป็นเจ้าชาย แต่จะไม่มีความรู้ ณ ที่นั่น ชื่อของกฤษณะนั้นได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่่ แต่ชื่ของพ่อของเขานั้นไม่ไ้ด้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่ แต่ชื่อของพ่อของเขานั้นไ่ม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เขาจะต้องเป็นพระราชาอย่างแน่นอนเพราะกฤษณะนั้นจะต้องกำเนิดจากพระราชา แต่การกำเนิดของพระราชานั้นไม่บริสุทธิ์และด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงไม่โด่งดัง ในเวลาของการกำเนิดของศรีกฤษณะนั้น จะมีผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์มีชีวิตเหลืออยู่น้อยมาก เป็นเพียงเมื่อผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์ทั้งหมดได้ตายไปแล้ว ศรีกฤษณะจึงจะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ เขาจะครอบครองอาณาจักรของเขา และแล้วยุคสมัยของเขาก็จะเริ่มต้นขึ้น
สวรรค์นั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นมาจากมหาสมุทร พวกเขาแสดงไว้ในตำนานว่า หลังจากอุทกภัยอันใหญ่หลวง ศรีกฤษณะก็ได้ลอยมาบนใบโพธิ์ในมหาสมุทร กำลังดูดนิ้วเท้าของเขา ถ้านั่นคือความจริง ศรีกฤษณะจะมาเพียงลำพังและเพิ่มประชากรโลกได้อย่างไร? อย่างน้อยสองคนนั้นเป็นที่ต้องการ; ผู้หญิงนั้นก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตามตำนานกล่าวไว้ว่า กฤษณะนั้นได้กำเนิดในป่าเป็นเช่นเด็กแปดขวบ แต่นั่นก๋ไม่ถูกต้องเช่นกัน ดินแดนของคานส์ (Kans - ปีศาจ) ไม่ได้ปรากฏในเวลานั้น
ในยุคทอง การตายของสามีหรือบุตรชายของใครบางคนนั้นจะไม่เกิดขึ้น ไม่มีการตายโดยไ่ม่รู้ตัวล่วงหน้าเช่นนั้น ด้วยความสุขอย่างใหญ่หลวง ดวงวิญญาณจะออกจากร่างหนึ่งและเข้าไปสู่ครรภ์ การเกิดนั้นไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด ในพระราชวังแห่งครรภ์นั้น มีความสุขเหนือความสุข ในขณะที่ ณ ที่นี่ครรภ์นั้นคือคุก ใครก็ตามที่ขโมยหรือก่ออาชญากรรมใด ๆ นั้นถูกขังคุกโดยรัฐบาลในปัจจุบันนี้ ณ ที่นั่น ไม่มีคุกเช่นนั้นปรากฏอยู่ ไม่มีใครก่ออาชญากรรมใด ๆ ในสวรรค์ ไม่มีใครสร้างความยุ่งยากให้แก่ใคร ลูก ๆก็ไม่สร้างความยุ่งยากเช่นกัน พวกเขานั้นอ่อนหวานมาก
อายุขัย
เพราะว่าผู้คนนั้นกำเนิดด้วยพลังโยคะ อายุชัยในยุคทองนั้นจึงยาวมาก นี่คือเหตุผลที่ทำไมเหล่าเทพจึงถูกเรียกว่าเป็นอมตะ ในเวลาที่ถูกต้อง ดวงวิญญาณจะทิ้งเครื่องแต่งกาย (ร่างกาย) หนึ่งและไปใช้ชุดใหม่ เมื่อถึงเวลาอันควร คนนั้นจะมีนิมิต ... "บัดนี้ฉันจะต้องถอดเครื่องแต่งกายเก่านี้และไปสวมชุดใหม่ ; ฉันต้องไปสู่ครรภ์ ดวงวิญญาณก็จะทิ้งร่างหนึ่งและแล้วก็เข้าไปในลูกอ่อนในครรภ์โดยอัตโนมัติ ที่นั่น ครรภ์นั้นไม่ใช่คุก แต่ถูกเรียกว่า พระราชวัง ไม่มีบาปใดที่ใครจะต้องได้รับการทรมานจากการถูกลงโทษ พวกเขานอนอย่างสะดวกสบายอยู่ในพระราชวังแห่งครรภ์
ไม่มีเรื่องของความทุข์ใด ๆ และไม่มีการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดซึ่งจะเป็นเหตุที่ทำให้เด็กนั้นเจ็บป่วย ผู้คนทั้งหมดนั้นเป็นของสุริยวงศ์และจันทรวงศ์ ทั้งหมดนั้นบริสุทธิ์แะละเหตุนี้เองที่ทำให้พวกเขามีอายุที่ยืนยาว โลกนั้นใหม่ ทุก ๆ สิ่งนั้นใหม่
ณ ที่นี่ อายุเฉลี่ยของผู้คนนั้นคือ 35-40 ปี มีบางคนที่มีอายุถึง 100 ปี ณ ที่นั่น อายุเฉลี่ย คือ 125-150 ปี ในเวลานี้ อายุขัยของลูกนั้นกลายเป็นเช่นเดียวกับต้นกัลป; ลูกใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถมีการตายโดยไม่รู้ต้วล่วงหน้าได้
ณ ที่นี่ อายุเฉลี่ยของผู้คนนั้นคือ 35-40 ปี มีบางคนที่มีอายุถึง 100 ปี ณ ที่นั่น อายุเฉลี่ย คือ 125-150 ปี ในเวลานี้ อายุขัยของลูกนั้นกลายเป็นเช่นเดียวกับต้นกัลป; ลูกใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถมีการตายโดยไม่รู้ต้วล่วงหน้าได้
Thursday, July 4, 2013
ยุคทอง(2)
เหล่าเทพนั้นมีสุขภาพดีและมีความมั่งคั่งอยู่เสมอ มีผู้ปกครองซึ่งอำนาจของพวกเขานั้นแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก เพราะว่าดวงวิญญาณนั้นบริสุทธิ์จึงได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์ ผู้คนนั้นถูกเรียกว่าเหล่าเทพ พวกเขาบริสุทธิ์ ดังนั้น พวกเขาจึงมีทั้งสุขภาพดีและมีความมั่งคั่ง
ในยุคทอง ไม่มีศาล ไม่มีคุกตะราง ไม่มีผู้พิพากษาและนักกฏหมาย ฯลฯ เพราะว่าไม่มีผู้ใดที่กระทำสิ่งเป็นอาชญากรรม ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ที่มีอารยธรรม ที่นั่น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรงพยาบาลและไม่มีหมอ
ทุก ๆ สิ่งนั้นสะอาดอย่างสมบูรณ์ มีผู้ที่ทำความสะอาดถนน แต่ไม่มีใครถูกเรียกว่าคนกวาดถนน มีสัปเหร่อที่นั่น แต่ไม่ได้ถูกจัดประเภทเป็นเช่นนั้น ที่นั่น ร่างกายนั้นไม่มีค่าใด ๆ เพียงแต่วางไว้ในเครื่องไฟฟ้าและมันก็หายไปในทันที พวกเขาจะไม่นำเชิงตะกอนใด ๆ ไปทิ้งในแม่น้ำ และไม่มีใครที่จะต้องเก็บร่างกายและนำไป ณ ที่ใด กิจกรรมที่ยุ่งยากเช่นนั้นจะไม่ปรากฏที่นั่น
ในยุคทอง เมื่อใครใช้ร่างใหม่ ก็จะมีสายเลือดใหม่จากการให้กำเนิดใหม่ ที่นี่ร่างกายนั้นเก่าและสายเลือดก็เก่าด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในโลกเก่านี้ไม่มีสายเลือดใหม่
กฤษณะจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นนั้น ณ ที่นั่น แต่รูปร่างหน้าตาเดียวกันนั้นจะไม่เกิดชึ้นอีก ณ เวลาใดในวงจร และแล้วเมื่อยุคทองมาถึงอีกครั้งหนึ่ง เขาจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันในแต่ละชีวิต แต่ละคนจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันเฉพาะบุคคล รูปร่างหน้าตาในยุคทองนั้นงดงามตามธรรมชาติ ที่นี่ ลูกสามารถเห็นเด็ก ๆ บางคนนั้นเกิดมาพิการและแคระแกร็นอย่างไร ทุกสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นเช่นนั้นจะเกิดขึ้นในยุคทอง
เหล่าเทพที่เป็นชายนั้นจะไม่มีหนวดเครา ลูกสามารถบอกได้จากการแสดงออกทางสายตาและบนใบหน้าว่าใครเป็นชายหรือหญิง
ยุคทองถูกเรียกว่ากระท่อมซึ่งปราศจากความทุกข์ ไม่มีความทุกข์หรือความตายที่ไม่รู้ตัวล่วงหน้า ตรงกันข้าม แต่ละคนจะจากร่างกายของพวกเขาตามความปรารถนาของพวกเขาเอง เช่นเดียวกันที่ลูกทิ้งเสื้อผ้าเก่า ๆ ของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง ไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะทิ้งเสื้อผ้าของร่างกายของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง เมื่อเสื้อผ้านั้นหมดอายุและเก่า มันก็จะถูกเปลี่ยนใหม่ ในทำนองเดียวกัน ตามเวลาและเมื่อถึงอายุที่แน่นอนพวกเขาก็จะเปลี่ยนร่าง
ในตอนเริ่มต้นของยุคทอง จะมีดวงวิญญาณที่ทรงคุณธรรม 900,000 ดวงวิญญาณ วันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปีที่หนึ่งก็จะเริ่มขึ้น คุณภาพของธรรมชาติ ผู้คน และสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ในครอบครองทั้งหมดนั้นจะดีที่สุด ประชากรชั้นหนึ่งจำนวน 900,000 ผู้ที่มาในตอนเริ่มต้นของยุคทองนั้น อย่างน้อยที่สุด ในเวลานี้ ควรจะมีประสบการณ์ของความรักของพ่อ
พวกเขาเรียกกฤษณะว่าเป็นเจ้าชาย ดังนั้นเขาจะต้องถือกำเนิดจากพระราชาอย่างแน่นอน ถ้าเขาเคยถือกำเนิดจากผู้ที่มั่งคั่ง เขาจะไม่สามารถถูกเรียกว่าเจ้าชายได้ มีความแตกต่างเหมือนกลางวันกับกลางคืน ระหว่างสถานภาพของพระราชากับผู้ที่มั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม ชื่อของพ่อของกฤษณะไม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เป็นชื่อของกฤษณะที่เป็นที่เลื่องลือ ดังนั้น เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าพ่อของเขานั้นมีสถานภาพที่สูง เขามีสถานภาพชั้นสองซึ่งทำให้เขาเพียงแต่กลายเป็นเครื่องมือที่ให้กำเนิดแก่กฤษณะ ไม่ใช่เรื่องที่เขาได้ศึกษาเล่าเรียนมากกว่าดวงวิญญาณของกฤษณะ ไม่ใช่
กฤษณะคือผู้ซึ่งกลายมาเป็นนารายัญ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ชื่อของพ่อของเขานั้นหายไป การศึกษาเล่าเรียนของดวงวิญญาณของกฤษณะนั้นอยู่ระดับที่สูงกว่าพ่อของเขามาก ด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงยิ่งใหญ่ ในทำนองเดียวกัน มีพ่อแม่ของราเด้ แต่ชื่อของราเด้นั้นยิ่งใหญ่กว่าเพราะว่าพ่อแม่ของเธอนั้นศึกษาเล่าเรียนในระดับที่ต่ำกว่า
ในตอนสุดท้าย โลกทั้งหมดจะเป็นดินแดนภารัต ในเวลานี้ มีแผ่นดินที่แตกแยกออกไปมากมาย ทุกคนได้ยืดเอาดินแดนส่วนหนึ่งจากดินแดนอันยิ่งใหญ่ของภารัตมาเป็นของตน อะไรก็ตามที่ถูกนำไปจะต้องถูกนำกลับคืนมา เพราะว่าภารัตคือผู้บริจาคที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนได้รับที่ดินผืนหนึ่ง ลูกไม่ต้องขอเพื่อที่จะได้ที่ดินผืนหนึ่ง ลูกจะได้รับโดยอัตโนมัติ
ที่นี่ พวกเขากล่าวว่าสิ่งของพิเศษนั้นมาจากออสเตรเลียหรือจากญี่ปุ่น ทวีปเหล่านั้นจะไม่ปรากฏอยู่ ตามละครแล้ว สิ่งที่ผลิตที่นั่นจะถูกส่งมายังอินเดีย ข้าวสาสี ฯลฯ นั้นนำเข้ามาจากอเมริกา ในสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดขาดแคลน ทุก ๆ สิ่งนั้นบริสุทธิ์และใหม่อย่างสมบูรณ์ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอสิ่งใดจากใคร
อเมริกาและอังกฤษจะเป็นสถานที่สำหรับปิคนิค จะมีสถานที่เช่นนั้นน้อยมาก จะไม่ีมีแผ่นดินมากมายที่ไม่เป็นระเบียบเช่นทุกวันนี้ เมื่อลูกบินด้วยเครื่องบินของลูก ลูกจะถึงจุดหมายปลายทางด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเสียง เครื่องบินของลูกจะบินด้วยความเร็วที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ มันจะไปถึงจุดหมายปลายทางของลูกเร็วกว่าความเร็วของโทรศัพท์ นี่คือเหตุผลที่ลูกไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์ จะมีเครื่องบินขนาดครอบครัวพร้อมกับเครื่องบินส่วนตัว จะมีเครื่องบินจอดเรียงแถวอยู่ในพระราชวังของลูก เครื่องบินเหล่านี้จะขับได้ง่ายมาก เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ทั้งหมดจะใช้พลังงานอะตอม
สันสการ์ของยุคทองจะไม่ได้รับการพัฒนาเพียงแค่การคิดเกี่ยวกับสันสการ์เหล่านั้น หรือการนำมันเข้าไปอยู่ในสำนึกของลูก แต่ด้วยการนำสันสการ์เหล่านั้นไปใช้ในทางปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าลูกอาศัยอยู่ในโลกนี้ ในสายตาของลูกจะเห็นฉากของยุคทอง รูปร่างในอนาคตที่ลูกจะไปใช้จะปรากฏอย่างชัดเจนซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสายตาของลูกจริง ๆ ลูกจะเพียงแต่ทิ้งเสื้อผ้านี้ในขณะหนึ่งและไปใช้เสื้อผ้าที่ได้รับการประดับประดาไว้อย่างงดงาม ลูกจะมีประสบการณ์นี้ แม้ในระหว่างยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ลูกจะมีประสบการณ์ของรูปร่างในยุคทองของลูก ลูกแต่ละคนจะได้รับการเปิดเผยต่อตัวลูกเองในฐานะที่เป็นทั้งผู้ทำความเพียรพยายามและในรูปของผลรางวัลของลูก
เหล่าเทพแห่งยุคทองจะไม่มีความปรารถนาใด ๆ เป็นเวลาในยุคแห่งการบรรจบพบกันซึ่งโดยผ่านพ่อ ความปรารถนาทั้งหมดของลูกนั้นถูกทำให้เป็นจริง ด้วยเหตุนี้สวรรค์จึงถูกเรียกว่า สถานที่มหัศจรรย์ของการบรรลุผลแห่งพระเจ้า
ในยุคทอง ไม่มีศาล ไม่มีคุกตะราง ไม่มีผู้พิพากษาและนักกฏหมาย ฯลฯ เพราะว่าไม่มีผู้ใดที่กระทำสิ่งเป็นอาชญากรรม ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ที่มีอารยธรรม ที่นั่น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรงพยาบาลและไม่มีหมอ
ทุก ๆ สิ่งนั้นสะอาดอย่างสมบูรณ์ มีผู้ที่ทำความสะอาดถนน แต่ไม่มีใครถูกเรียกว่าคนกวาดถนน มีสัปเหร่อที่นั่น แต่ไม่ได้ถูกจัดประเภทเป็นเช่นนั้น ที่นั่น ร่างกายนั้นไม่มีค่าใด ๆ เพียงแต่วางไว้ในเครื่องไฟฟ้าและมันก็หายไปในทันที พวกเขาจะไม่นำเชิงตะกอนใด ๆ ไปทิ้งในแม่น้ำ และไม่มีใครที่จะต้องเก็บร่างกายและนำไป ณ ที่ใด กิจกรรมที่ยุ่งยากเช่นนั้นจะไม่ปรากฏที่นั่น
ในยุคทอง เมื่อใครใช้ร่างใหม่ ก็จะมีสายเลือดใหม่จากการให้กำเนิดใหม่ ที่นี่ร่างกายนั้นเก่าและสายเลือดก็เก่าด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในโลกเก่านี้ไม่มีสายเลือดใหม่
กฤษณะจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นนั้น ณ ที่นั่น แต่รูปร่างหน้าตาเดียวกันนั้นจะไม่เกิดชึ้นอีก ณ เวลาใดในวงจร และแล้วเมื่อยุคทองมาถึงอีกครั้งหนึ่ง เขาจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันในแต่ละชีวิต แต่ละคนจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันเฉพาะบุคคล รูปร่างหน้าตาในยุคทองนั้นงดงามตามธรรมชาติ ที่นี่ ลูกสามารถเห็นเด็ก ๆ บางคนนั้นเกิดมาพิการและแคระแกร็นอย่างไร ทุกสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นเช่นนั้นจะเกิดขึ้นในยุคทอง
เหล่าเทพที่เป็นชายนั้นจะไม่มีหนวดเครา ลูกสามารถบอกได้จากการแสดงออกทางสายตาและบนใบหน้าว่าใครเป็นชายหรือหญิง
ยุคทองถูกเรียกว่ากระท่อมซึ่งปราศจากความทุกข์ ไม่มีความทุกข์หรือความตายที่ไม่รู้ตัวล่วงหน้า ตรงกันข้าม แต่ละคนจะจากร่างกายของพวกเขาตามความปรารถนาของพวกเขาเอง เช่นเดียวกันที่ลูกทิ้งเสื้อผ้าเก่า ๆ ของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง ไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะทิ้งเสื้อผ้าของร่างกายของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง เมื่อเสื้อผ้านั้นหมดอายุและเก่า มันก็จะถูกเปลี่ยนใหม่ ในทำนองเดียวกัน ตามเวลาและเมื่อถึงอายุที่แน่นอนพวกเขาก็จะเปลี่ยนร่าง
ในตอนเริ่มต้นของยุคทอง จะมีดวงวิญญาณที่ทรงคุณธรรม 900,000 ดวงวิญญาณ วันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปีที่หนึ่งก็จะเริ่มขึ้น คุณภาพของธรรมชาติ ผู้คน และสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ในครอบครองทั้งหมดนั้นจะดีที่สุด ประชากรชั้นหนึ่งจำนวน 900,000 ผู้ที่มาในตอนเริ่มต้นของยุคทองนั้น อย่างน้อยที่สุด ในเวลานี้ ควรจะมีประสบการณ์ของความรักของพ่อ
พวกเขาเรียกกฤษณะว่าเป็นเจ้าชาย ดังนั้นเขาจะต้องถือกำเนิดจากพระราชาอย่างแน่นอน ถ้าเขาเคยถือกำเนิดจากผู้ที่มั่งคั่ง เขาจะไม่สามารถถูกเรียกว่าเจ้าชายได้ มีความแตกต่างเหมือนกลางวันกับกลางคืน ระหว่างสถานภาพของพระราชากับผู้ที่มั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม ชื่อของพ่อของกฤษณะไม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เป็นชื่อของกฤษณะที่เป็นที่เลื่องลือ ดังนั้น เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าพ่อของเขานั้นมีสถานภาพที่สูง เขามีสถานภาพชั้นสองซึ่งทำให้เขาเพียงแต่กลายเป็นเครื่องมือที่ให้กำเนิดแก่กฤษณะ ไม่ใช่เรื่องที่เขาได้ศึกษาเล่าเรียนมากกว่าดวงวิญญาณของกฤษณะ ไม่ใช่
กฤษณะคือผู้ซึ่งกลายมาเป็นนารายัญ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ชื่อของพ่อของเขานั้นหายไป การศึกษาเล่าเรียนของดวงวิญญาณของกฤษณะนั้นอยู่ระดับที่สูงกว่าพ่อของเขามาก ด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงยิ่งใหญ่ ในทำนองเดียวกัน มีพ่อแม่ของราเด้ แต่ชื่อของราเด้นั้นยิ่งใหญ่กว่าเพราะว่าพ่อแม่ของเธอนั้นศึกษาเล่าเรียนในระดับที่ต่ำกว่า
ในตอนสุดท้าย โลกทั้งหมดจะเป็นดินแดนภารัต ในเวลานี้ มีแผ่นดินที่แตกแยกออกไปมากมาย ทุกคนได้ยืดเอาดินแดนส่วนหนึ่งจากดินแดนอันยิ่งใหญ่ของภารัตมาเป็นของตน อะไรก็ตามที่ถูกนำไปจะต้องถูกนำกลับคืนมา เพราะว่าภารัตคือผู้บริจาคที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนได้รับที่ดินผืนหนึ่ง ลูกไม่ต้องขอเพื่อที่จะได้ที่ดินผืนหนึ่ง ลูกจะได้รับโดยอัตโนมัติ
ที่นี่ พวกเขากล่าวว่าสิ่งของพิเศษนั้นมาจากออสเตรเลียหรือจากญี่ปุ่น ทวีปเหล่านั้นจะไม่ปรากฏอยู่ ตามละครแล้ว สิ่งที่ผลิตที่นั่นจะถูกส่งมายังอินเดีย ข้าวสาสี ฯลฯ นั้นนำเข้ามาจากอเมริกา ในสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดขาดแคลน ทุก ๆ สิ่งนั้นบริสุทธิ์และใหม่อย่างสมบูรณ์ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอสิ่งใดจากใคร
อเมริกาและอังกฤษจะเป็นสถานที่สำหรับปิคนิค จะมีสถานที่เช่นนั้นน้อยมาก จะไม่ีมีแผ่นดินมากมายที่ไม่เป็นระเบียบเช่นทุกวันนี้ เมื่อลูกบินด้วยเครื่องบินของลูก ลูกจะถึงจุดหมายปลายทางด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเสียง เครื่องบินของลูกจะบินด้วยความเร็วที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ มันจะไปถึงจุดหมายปลายทางของลูกเร็วกว่าความเร็วของโทรศัพท์ นี่คือเหตุผลที่ลูกไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์ จะมีเครื่องบินขนาดครอบครัวพร้อมกับเครื่องบินส่วนตัว จะมีเครื่องบินจอดเรียงแถวอยู่ในพระราชวังของลูก เครื่องบินเหล่านี้จะขับได้ง่ายมาก เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ทั้งหมดจะใช้พลังงานอะตอม
สันสการ์ของยุคทองจะไม่ได้รับการพัฒนาเพียงแค่การคิดเกี่ยวกับสันสการ์เหล่านั้น หรือการนำมันเข้าไปอยู่ในสำนึกของลูก แต่ด้วยการนำสันสการ์เหล่านั้นไปใช้ในทางปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าลูกอาศัยอยู่ในโลกนี้ ในสายตาของลูกจะเห็นฉากของยุคทอง รูปร่างในอนาคตที่ลูกจะไปใช้จะปรากฏอย่างชัดเจนซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสายตาของลูกจริง ๆ ลูกจะเพียงแต่ทิ้งเสื้อผ้านี้ในขณะหนึ่งและไปใช้เสื้อผ้าที่ได้รับการประดับประดาไว้อย่างงดงาม ลูกจะมีประสบการณ์นี้ แม้ในระหว่างยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ลูกจะมีประสบการณ์ของรูปร่างในยุคทองของลูก ลูกแต่ละคนจะได้รับการเปิดเผยต่อตัวลูกเองในฐานะที่เป็นทั้งผู้ทำความเพียรพยายามและในรูปของผลรางวัลของลูก
เหล่าเทพแห่งยุคทองจะไม่มีความปรารถนาใด ๆ เป็นเวลาในยุคแห่งการบรรจบพบกันซึ่งโดยผ่านพ่อ ความปรารถนาทั้งหมดของลูกนั้นถูกทำให้เป็นจริง ด้วยเหตุนี้สวรรค์จึงถูกเรียกว่า สถานที่มหัศจรรย์ของการบรรลุผลแห่งพระเจ้า
Wednesday, July 3, 2013
ยุคทอง(1)
ความหมายของยุคทอง นั้นคือรูปทั้งหมดของความสุขทางวัตถุ ความสุขของดวงวิญญาณ สติปัญญา ความคิด ความสัมพันธ์ และรูปอื่น ๆ ของความสุขทั้งหมดนั้นปรากฏอยู่ ณ ที่นั่น สิ่งที่ดีที่สุดอย่างแท้จริงทั้งหมดซึ่งปรากฏอยู่ในโลกนี้จะมีอยู่ ณ ที่นั่น ในรูปที่บริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมที่สุด รูปซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะให้ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ร่างกายของลูก จิตใจ ความมั่งคั่ง อากาศ และสิ่งที่ได้มาทั้งหมดจะอยู่ในรูปที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า "ยุคทอง"
จะมีครอบครัวที่มีความสุขและสมบูรณ์พร้อมเดียว พระราชาและประชาชนนั้นทัดเทียมกัน แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในสถานภาพ ทั้งหมดก็อยู่อย่างเป็นเช่นครอบครัว ไม่มีใครจะพูดว่าคนนี้เป็นคนรับใช้ จะมีตำแหน่งต่าง ๆ และจะมีการทำงาน แต่จะไม่มีความรู้สึกว่าบางคนนั้นเป็นคนรับใช้ เช่นเดียวกับครอบครัว ในทุก ๆ ความสัมพันธ์จะมีความพอใจในความสุข เป็นครอบครัวที่มีความสุข ครอบครัวที่เต็มไปด้วยพลัง สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปของความสูงส่งทั้งหมด
ในยุคทอง เนื่องจากการปกครองด้วยกษัตริย์และสิทธิในอาณาจักร ประชาชนนั้นเต็มไปด้วยรูปแบบทั้งหมดของความมั่งคั่ง ท่วมท้นไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและสิ่งที่เป็นประโยชน์ทุก ๆ สิ่งอยู่เสมอ และอยู่ในพระราชอำนาจในการปกครองของกษัตริย์ในทุก ๆ ชาติเกิด แต่ละคนได้รับการบรรลุผลในชีวิตทั้งหมด การบรรลุผลนั้นได้รับการบริการจากทุก ๆ ด้าน ไม่มีใครมีความปรารถนาใด ๆ สำหรับการบรรลุผล แต่การบรรลุผลจะปรารถนาที่จะให้นายของพวกเขาได้รับการบริการ ในทุก ๆ ด้าน เหมืองแร่จะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมด ทรัพย์สมบัติทุกอย่างพร้อมที่จะให้ความสุขในรูปแบบของมันเอง แตรของความสุขอย่างสม่ำเสมอจะถูกเป่าโดยอัตโนมัติ
จะมีเครื่องดนตรีที่ประดับด้วยเพชรพลอย พวกเขาจะมีเครื่องดนตรีธรรมชาติซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการเล่น ลูกเพียงแต่สัมผัสด้วยนิ้วมือของลูกและมันก็จะบรรเลง ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม เสื้อผ้าของลูกจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมและที่อยู่ของลูก ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างมากมายและมีเครื่องประดับเพชรพลอยหลายชนิด จะมีมงกุฏและเครื่องประดับเพชรพลอยมากมายหลายชนิด แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่หนัก มันจะเบายิ่งกว่าปุยฝ้าย จะมีทองคำแท้และฝังด้วยเพชรซึ่งจะทำให้เกิดรัศมีของแสงทั้งหมดเมื่อกระทบกับแสงไฟ จากเพชรเม็ดเดียวสีสันต่าง ๆ มากมายก็จะปรากฏออกมา เช่นที่ลูกใช้แสงไฟสีต่าง ๆ พวกเขาใช้เพชรเพื่อที่จะทำให้เกิดแสงสีต่าง ๆ
ที่นั่น ลักษมีและนารายัญคือจักรพรรดิและจักรพรรดินีของยุคทอง ในวัยเด็กของพวกเขา พวกเขาคือราเด้และกฤษณะ ผลรางวัลที่สูงส่งเช่นนั้นพวกเขาจะต้องได้รับจากผู้สร้างสวรรค์อย่างแน่นอน ในสวรรค์ จะมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ ต้นไม้ของครอบครัวของเหล่าเทพในตอนเริ่มแรกจะเล็กแล้วก็เติบโตขึ้น ประชากรของอาณาจักรของเหล่าเทพจะมีน้อยมาก เรียกได้ว่าเป็นโลกแห่งความเป็นอมตะ
ลักษมีและนารายัญนั้นแต่ละคนมีสองแขน และพวกเขาถูกเรียกว่าการจุติของวิษณุ ราชวงศ์ของวิษณุดำเนินต่อไป พวกเขาถูกเรียกว่ามหาลักษมีและนารายัญ ในยุคทอง ผู้คนมีชีวิตครอบครัวที่บริสุทธิ์ และด้วยเหตุนี้ ในวัดของนารายัญพวกเขาแสดงภาพที่มีสี่แขน
ดินแดนของลักษมีและนารายัญนั้นถูกเรียกว่า "ดินแดนของวิษณุ" เหล่าเทพนั้นเคยเป็น "ไวชนาฟ" (Vaishnavs) ไวชนาฟนั้นหมายถึง "ความบริสุทธิ์"
ลักษมีและนารายัญนั้นสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ การยิ้มไม่เหมือนกับการส่งเสียงหัวเราะอันดัง ด้วยการอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ ก็มีความสุขอยู่ภายใน การหัวเราะเสียงดังนั้นไม่งดงาม เป็นการดีที่สุดที่เพียงแต่ยิ้ม
ในยุคทองไม่มีความทุกข์ใด ๆ แต่จะมีความแตกต่างระหว่างผู้ที่มั่งคั่งและผู้ที่มั่งคั่งน้อยกว่า ในโลกทุกวันนี้ ทั้งผู้คนที่ยากจนและมั่งคั่งต่างก็ตกอยู่ในความทุกข์ ในขณะที่ที่นั่น ผู้คนในทุกระดับของความมั่งคั่งนั้นจะมีความสุข จะมีความแตกต่าง แต่ไม่มีผู้ใดมีความทุกข์
ในยุคทอง พวกเขาแสดงการเต้นรำของกฤษณะ อย่างแน่นอน เหล่าเจ้าชายและเจ้าหญิงจะเต้นรำด้วยกัน แต่ปวงประชาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกของราชตระกูลได้ ในยุคทอง ทุกคนจะมีช้อนทองในปากของพวกเขา
ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความแท้จริง ไม่มีรูปของความหลอกลวง ในสวรรค์ มีทั้งความสงบและความบริสุทธิ์ ความสุขนั้นขึ้นอยู่กับความมั่งคั่ง และในสวรรค์นั้นมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก เพราะความมั่งคั่งจึงมีเครื่องบิน ราชวังที่ใหญ่โตและมีความหรูหราในทุกรูปแบบ มีความมั่งคั่ง ความสงบ และสุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ เหล่าเทพนั้นสนุกสนานเพลิดเพลินกับการบรรลุผลทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่า "โลกแห่งความสุข ความบริสุทธิ์ ความสงบ" ความสุขมีทุก ๆ สิ่ง ณ ที่นั่น มีเพียงศาสนาเดียว โลกนั้นบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ จึงถูกเรียกว่า "ชีวาลายา" (Shivalaya) เช่นที่พระราชาและพระราชินีนั้นบริสุทธิ์ ปวงประชาทั้งหมดนั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน
ทุกสิ่งในยุคทองนั้นจะใหม่ แสงสว่างจะดูราวกับว่าเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสิ่งประดิษฐ์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกนี้จะถูกนำไปใช้ทีนั่น พระราชวังทุกแห่งจะมีเฮลีคอปเตอร์เป็นของตนเองซึ่งสามารถบินได้เพียงด้วยการกดปุ่ม เครื่องยนต์ทั้งหมดจะไม่เคยขัดข้อง ไม่มีกลไกใดที่จะผิดพลาด ลูกจะไปถึงโรงเรียนหรือสถานที่ที่ลูกพอใจภายในหนึ่งวินาที
ในยุคทอง มีศาสนาเดียวและภาษาเดียว ความมากมายหลายหลากของศาสนาและภาษาจะไม่ปรากฏ ณ ที่นั่น จะมีเพียงศาสนาเทพโบราณดั้งเดิมเท่านั้น ดินแดนแห่งภารัตนี้จะมีความสุขจากการปกครองที่ไม่มีการแบ่งแยกจากคู่ครองที่สูงส่ง ลักษมีและนารายัญ ประชาชนชาวภารัตเท่านั้นที่จะคงอยู่ จะมีการปกครองเดียว ศาสนาเดียว และภาษาเดียว ซึ่งกำลังถูกก่อตั้งขึ้นในปัจจุบันในเวลาของยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ดังนั้น ในสถานที่นั้นจะมีคำสั่งเดียว อาณาจักรของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ยุคทองนั้นถูกปกครองโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินี ในขณะที่ผู้ปกครองในยุคเงินนั้นถูกเรียกว่าพระราชาและพระราชินี จากยุคทองแดงเป็นต้นมา หนทางของบาปก็เริ่มต้นขึ้น
ผู้คนทั้งหมดในยุคทองนั้นเป็นดวงวิญญาณที่มีคุณธรรม เหล่าดวงวิญญาณที่ได้รับการพัฒนาทางจิตอย่างแทัจริงต่างก็บริสุทธิ์ ในยุคทอง จะเป็นอาณาจักรของศรีลักษมีและศรีนารายัญ และในยุคเงินจะเป็นอาณาจักรของรามและสีดา ยุคของกฤษณะนั้นไม่ได้แยกออกไป ในความเป็นจริงเขาก็คือ "เจ้าแห่งสวรรค์" (Lord Of Vaikunth)
ในสวรรค์ ไม่มีผู้ใดที่ไม่บริสุทธิ์ที่จำเป็นจะต้องมีกูรูเพื่อการชำระให้บริสุทธิ์ พ่อแม่ต่างก็ล้างเท้าให้แก่ลูก ๆ ของพวกเขาเองและวางพวกเขาไว้บนบัลลังก์ ที่นี่กูรูนั้นเป็นที่ต้องการเพื่อการหลุดพ้นในชีวิต แต่ที่นั่นผู้คนทั้งหมดต่างก็อยู่ในสภาพของการหลุดพ้นในชีวิต
ยุคทองนั้นเป็นโลกที่เล็กมาก ที่นี่ มี 8.4 ล้านสายพันธุ์ ที่นั่น จะมีไม่มาก จะไม่มีการบูชากราบไหว้ การสละละทิ้งหรือการสิ้นเยื่อใย (Disinterest) ในสวรรค์ ในยุคทองถูกเรียกว่าเป็นบ้านที่แสนหวานของเราด้วยเช่นกัน เพราะว่าเหล่าเทพนั้นอ่อนหวานอย่างยิ่ง ที่นั่น มีความสงบ เช่นเดียวกับความสุขของโชคแห่งอาณาจักร
จะมีครอบครัวที่มีความสุขและสมบูรณ์พร้อมเดียว พระราชาและประชาชนนั้นทัดเทียมกัน แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในสถานภาพ ทั้งหมดก็อยู่อย่างเป็นเช่นครอบครัว ไม่มีใครจะพูดว่าคนนี้เป็นคนรับใช้ จะมีตำแหน่งต่าง ๆ และจะมีการทำงาน แต่จะไม่มีความรู้สึกว่าบางคนนั้นเป็นคนรับใช้ เช่นเดียวกับครอบครัว ในทุก ๆ ความสัมพันธ์จะมีความพอใจในความสุข เป็นครอบครัวที่มีความสุข ครอบครัวที่เต็มไปด้วยพลัง สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปของความสูงส่งทั้งหมด
ในยุคทอง เนื่องจากการปกครองด้วยกษัตริย์และสิทธิในอาณาจักร ประชาชนนั้นเต็มไปด้วยรูปแบบทั้งหมดของความมั่งคั่ง ท่วมท้นไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและสิ่งที่เป็นประโยชน์ทุก ๆ สิ่งอยู่เสมอ และอยู่ในพระราชอำนาจในการปกครองของกษัตริย์ในทุก ๆ ชาติเกิด แต่ละคนได้รับการบรรลุผลในชีวิตทั้งหมด การบรรลุผลนั้นได้รับการบริการจากทุก ๆ ด้าน ไม่มีใครมีความปรารถนาใด ๆ สำหรับการบรรลุผล แต่การบรรลุผลจะปรารถนาที่จะให้นายของพวกเขาได้รับการบริการ ในทุก ๆ ด้าน เหมืองแร่จะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมด ทรัพย์สมบัติทุกอย่างพร้อมที่จะให้ความสุขในรูปแบบของมันเอง แตรของความสุขอย่างสม่ำเสมอจะถูกเป่าโดยอัตโนมัติ
จะมีเครื่องดนตรีที่ประดับด้วยเพชรพลอย พวกเขาจะมีเครื่องดนตรีธรรมชาติซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการเล่น ลูกเพียงแต่สัมผัสด้วยนิ้วมือของลูกและมันก็จะบรรเลง ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม เสื้อผ้าของลูกจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมและที่อยู่ของลูก ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างมากมายและมีเครื่องประดับเพชรพลอยหลายชนิด จะมีมงกุฏและเครื่องประดับเพชรพลอยมากมายหลายชนิด แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่หนัก มันจะเบายิ่งกว่าปุยฝ้าย จะมีทองคำแท้และฝังด้วยเพชรซึ่งจะทำให้เกิดรัศมีของแสงทั้งหมดเมื่อกระทบกับแสงไฟ จากเพชรเม็ดเดียวสีสันต่าง ๆ มากมายก็จะปรากฏออกมา เช่นที่ลูกใช้แสงไฟสีต่าง ๆ พวกเขาใช้เพชรเพื่อที่จะทำให้เกิดแสงสีต่าง ๆ
ที่นั่น ลักษมีและนารายัญคือจักรพรรดิและจักรพรรดินีของยุคทอง ในวัยเด็กของพวกเขา พวกเขาคือราเด้และกฤษณะ ผลรางวัลที่สูงส่งเช่นนั้นพวกเขาจะต้องได้รับจากผู้สร้างสวรรค์อย่างแน่นอน ในสวรรค์ จะมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ ต้นไม้ของครอบครัวของเหล่าเทพในตอนเริ่มแรกจะเล็กแล้วก็เติบโตขึ้น ประชากรของอาณาจักรของเหล่าเทพจะมีน้อยมาก เรียกได้ว่าเป็นโลกแห่งความเป็นอมตะ
ลักษมีและนารายัญนั้นแต่ละคนมีสองแขน และพวกเขาถูกเรียกว่าการจุติของวิษณุ ราชวงศ์ของวิษณุดำเนินต่อไป พวกเขาถูกเรียกว่ามหาลักษมีและนารายัญ ในยุคทอง ผู้คนมีชีวิตครอบครัวที่บริสุทธิ์ และด้วยเหตุนี้ ในวัดของนารายัญพวกเขาแสดงภาพที่มีสี่แขน
ดินแดนของลักษมีและนารายัญนั้นถูกเรียกว่า "ดินแดนของวิษณุ" เหล่าเทพนั้นเคยเป็น "ไวชนาฟ" (Vaishnavs) ไวชนาฟนั้นหมายถึง "ความบริสุทธิ์"
ลักษมีและนารายัญนั้นสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ การยิ้มไม่เหมือนกับการส่งเสียงหัวเราะอันดัง ด้วยการอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ ก็มีความสุขอยู่ภายใน การหัวเราะเสียงดังนั้นไม่งดงาม เป็นการดีที่สุดที่เพียงแต่ยิ้ม
ในยุคทองไม่มีความทุกข์ใด ๆ แต่จะมีความแตกต่างระหว่างผู้ที่มั่งคั่งและผู้ที่มั่งคั่งน้อยกว่า ในโลกทุกวันนี้ ทั้งผู้คนที่ยากจนและมั่งคั่งต่างก็ตกอยู่ในความทุกข์ ในขณะที่ที่นั่น ผู้คนในทุกระดับของความมั่งคั่งนั้นจะมีความสุข จะมีความแตกต่าง แต่ไม่มีผู้ใดมีความทุกข์
ในยุคทอง พวกเขาแสดงการเต้นรำของกฤษณะ อย่างแน่นอน เหล่าเจ้าชายและเจ้าหญิงจะเต้นรำด้วยกัน แต่ปวงประชาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกของราชตระกูลได้ ในยุคทอง ทุกคนจะมีช้อนทองในปากของพวกเขา
ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความแท้จริง ไม่มีรูปของความหลอกลวง ในสวรรค์ มีทั้งความสงบและความบริสุทธิ์ ความสุขนั้นขึ้นอยู่กับความมั่งคั่ง และในสวรรค์นั้นมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก เพราะความมั่งคั่งจึงมีเครื่องบิน ราชวังที่ใหญ่โตและมีความหรูหราในทุกรูปแบบ มีความมั่งคั่ง ความสงบ และสุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ เหล่าเทพนั้นสนุกสนานเพลิดเพลินกับการบรรลุผลทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่า "โลกแห่งความสุข ความบริสุทธิ์ ความสงบ" ความสุขมีทุก ๆ สิ่ง ณ ที่นั่น มีเพียงศาสนาเดียว โลกนั้นบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ จึงถูกเรียกว่า "ชีวาลายา" (Shivalaya) เช่นที่พระราชาและพระราชินีนั้นบริสุทธิ์ ปวงประชาทั้งหมดนั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน
ทุกสิ่งในยุคทองนั้นจะใหม่ แสงสว่างจะดูราวกับว่าเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสิ่งประดิษฐ์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกนี้จะถูกนำไปใช้ทีนั่น พระราชวังทุกแห่งจะมีเฮลีคอปเตอร์เป็นของตนเองซึ่งสามารถบินได้เพียงด้วยการกดปุ่ม เครื่องยนต์ทั้งหมดจะไม่เคยขัดข้อง ไม่มีกลไกใดที่จะผิดพลาด ลูกจะไปถึงโรงเรียนหรือสถานที่ที่ลูกพอใจภายในหนึ่งวินาที
ในยุคทอง มีศาสนาเดียวและภาษาเดียว ความมากมายหลายหลากของศาสนาและภาษาจะไม่ปรากฏ ณ ที่นั่น จะมีเพียงศาสนาเทพโบราณดั้งเดิมเท่านั้น ดินแดนแห่งภารัตนี้จะมีความสุขจากการปกครองที่ไม่มีการแบ่งแยกจากคู่ครองที่สูงส่ง ลักษมีและนารายัญ ประชาชนชาวภารัตเท่านั้นที่จะคงอยู่ จะมีการปกครองเดียว ศาสนาเดียว และภาษาเดียว ซึ่งกำลังถูกก่อตั้งขึ้นในปัจจุบันในเวลาของยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ดังนั้น ในสถานที่นั้นจะมีคำสั่งเดียว อาณาจักรของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ยุคทองนั้นถูกปกครองโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินี ในขณะที่ผู้ปกครองในยุคเงินนั้นถูกเรียกว่าพระราชาและพระราชินี จากยุคทองแดงเป็นต้นมา หนทางของบาปก็เริ่มต้นขึ้น
ผู้คนทั้งหมดในยุคทองนั้นเป็นดวงวิญญาณที่มีคุณธรรม เหล่าดวงวิญญาณที่ได้รับการพัฒนาทางจิตอย่างแทัจริงต่างก็บริสุทธิ์ ในยุคทอง จะเป็นอาณาจักรของศรีลักษมีและศรีนารายัญ และในยุคเงินจะเป็นอาณาจักรของรามและสีดา ยุคของกฤษณะนั้นไม่ได้แยกออกไป ในความเป็นจริงเขาก็คือ "เจ้าแห่งสวรรค์" (Lord Of Vaikunth)
ในสวรรค์ ไม่มีผู้ใดที่ไม่บริสุทธิ์ที่จำเป็นจะต้องมีกูรูเพื่อการชำระให้บริสุทธิ์ พ่อแม่ต่างก็ล้างเท้าให้แก่ลูก ๆ ของพวกเขาเองและวางพวกเขาไว้บนบัลลังก์ ที่นี่กูรูนั้นเป็นที่ต้องการเพื่อการหลุดพ้นในชีวิต แต่ที่นั่นผู้คนทั้งหมดต่างก็อยู่ในสภาพของการหลุดพ้นในชีวิต
ยุคทองนั้นเป็นโลกที่เล็กมาก ที่นี่ มี 8.4 ล้านสายพันธุ์ ที่นั่น จะมีไม่มาก จะไม่มีการบูชากราบไหว้ การสละละทิ้งหรือการสิ้นเยื่อใย (Disinterest) ในสวรรค์ ในยุคทองถูกเรียกว่าเป็นบ้านที่แสนหวานของเราด้วยเช่นกัน เพราะว่าเหล่าเทพนั้นอ่อนหวานอย่างยิ่ง ที่นั่น มีความสงบ เช่นเดียวกับความสุขของโชคแห่งอาณาจักร
Monday, July 1, 2013
55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ
คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ คือสภาพที่สูงส่งของดวงวิญญาณ ความสมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมทั้งหมด 16 องศาสมบูรณ์
1. ความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy)
11. ความเยือกเย็น (Coolness)
12. ความร่วมมือ (Co-Operation)
13. ความกล้าหาญ (Courage)
14. ความคิดสร้างสรร (Creativity)
15. การละวาง (Detachment)
16. ความมุ่งมั่น (Determination)
17. เกียรติอันสูงส่ง (Dignity)
22. ศรัทธา (Faith)
35. ความรัก (Love)
36. มารยาท (Manners)
40. ความสงบ (Peace)
41. ความบริสุทธิ์ (Purity)
Subscribe to:
Posts (Atom)