Tuesday, October 31, 2023

คุณธรรม - ความจริง (Truthfulness)


 เมื่อมีความจริง ดวงวิญญาณก็ร่ายรำอย่างต่อเนื่อง ดวงวิญญาณที่มีแต่ความจริงจะร่ายรำอยู่อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ความสุขของพวกเขาจะไม่มากในบางครั้งและน้อยในบางครั้ง วันแลัววันเล่า    ทุก ๆ ขณะ ความสุขของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (อเวียก 11/12/91)

ถ้าแทนที่จะมีพ่อผู้เดียว ถ้าลูกรับแม้แต่ในความคิดว่าดวงวิญญาณใด ๆ หรือเครื่องมือใด ๆ ของธรรมชาติเป็นของลูก ถ้าลูกยอมรับการช่วยเหลือนั้น แล้วการทำงานของเครื่องจักรของพระเจ้าก็จะทำงานอย่างอัตโนมัติ ด้วยความเร็วเช่นนี้ นั่นคือวินาทีที่ลูกทำให้ใครก็ตามเป็นเครื่องค้ำจุน ณ วินาทีนั้น ความคิดและสติปัญญาก็ก้าวห่างไปจากพ่อ และเพราะว่าสติปัญญาก้าวห่างไปจากพ่อผู้เป็นความจริง มันก็เริ่มยอมรับอะไรที่ไม่จริงว่าเป็นจริง มันเริ่มรับสิ่งผิดว่าถูก มันเริ่มที่จะให้การตัดสินที่ผิด ไม่ว่าคนอื่น ๆ จะอธิบายให้เขาฟังเท่าใด ว่าสิ่งนั้นมันไม่ถูกต้อง พวกเขาก็จะพิสูจน์ว่าสิ่งซึ่งถูกต้องและเป็นจริงว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นจริงด้วยอำนาจของความหลอกลวง และพิสูจน์ว่าผู้ที่พยายามอธิบายให้เขาฟังนั้นผิดด้วย ชัยชนะของความหลอกลวงนั้นมีอายุที่สั้น  ทำไมหรือ อาณาจักรของความหลอกลวงเป็นไปเพียงชั่วคราว ความพ่ายแพ้ของความจริงนั้นสั้น และชัยชนะของมันนั้นเป็นไปตลอดเวลา (อเวียก 24/09/92)

รากฐานของความจริงคือความบริสุทธิ์ และการพิสูจน์ในทางปฏิบัติของความจริงคือความสูงส่งบนใบหน้าของลูก และในการกระทำของลูก ดวงวิญญาณมากมายในโลกเรียกตนเองว่าเป็นความจริง  หรือคิดว่าตนเองนั้นเป็นความจริง แต่พื้นฐานของความจริงที่แท้จริงคือความบริสุทธิ์ ถ้าไม่มีความบริสุทธิ์ ก็จะไม่สามารถมีความจริงอย่างสม่ำเสมอ เป็นรูปธรรมของความจริงบนพื้นฐานของความบริสุทธิ์นั้นคงที่และง่ายดาย ความจริงนั้นไม่ใช่เป็นเพียงการพูดความจริงและทำสิ่งที่เป็นความจริง แต่ความจริงสิ่งแรกนั้นคือ โดยผ่านอำนาจของความบริสุทธิ์หรือำนาจของความจริง ซึ่งลูกได้รับมา 

ดังนั้นประเด็นแรกคือการรู้จักรูปที่แท้จริงของลูก : ฉันคือดวงวิญญาณ ลูกไม่เคยรู้จักรูปที่แท้จริงเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นความจริงแรกคือ การรู้จักรูปที่แท้จริงของตัวลูก ลูกมีรูปที่เป็นจริงบนพื้นฐานของ "ฉันเป็นนั่นเป็นนี่" หรือ "ฉันเป็นเช่นนั้นเช่นนี้" หรือไม่ การรู้จักรูปที่แท้จริงก็คือ สิ่งแรกที่ลูกจะต้องรู้จักรูปของลูก และแล้วก็รู้จักพ่อ ลูกรู้จักรูปที่แท้จริงของลูกดีไหม และลูกมีคำสอนที่แท้จริงของพ่อหรือไม่ สิ่งที่สาม ลูกรู้จักวงจรโลกด้วย ในรูปที่แท้จริงของมัน วงจรนี้เป็นอะไรและบทบาทในอดีตของลูกในวงจรเป็นอะไร

ลูกมีอำนาจของความจริงอย่างสม่ำเสมอ  เพียงเมื่อลูกมีสำนึกของรูปของความจริงของตนเองและของพ่อ แล้วดังนั้น ทุก ๆ ความคิดของลูกจะเป็นความจริงอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง ไม่มีความจำเป็นจะต้องพิสูจน์มัน ถ้าลูกพิสูจน์ความจริงของตัวลูกเองด้วยความดื้อดึง ความสูงส่งนั้นก็จะไม่สามารถส่งประกายให้เห็น มันจะกลายเป็นบางสิ่งที่ธรรมดา เพราะว่าทุกคนในโลกก็ทำเช่นนี้ บัพดาดาให้คำจำกัดความของสัญลักษณ์ของความจริงในสุภาษิตหนึ่ง ซึ่งลูกได้ยินมาจากซาคาร์บาบาว่า ความจริงจะเห็นได้อย่างไร ที่ใดมีความจริง ที่นั่นดวงวิญญาณร่ายรำ ดวงวิญญาณจะร่ายรำในความสุขอย่างสม่ำเสมอ

ความหมายของความจริงคือ ความมั่นคงอยู่ในรูปของลูก และแล้วก็สร้างความคิด พูดคำพูด และแสดงการกระทำ

เพื่อที่จะดูดซึมพลังอำนาจของความจริง ลูกก็ต้องมีอำนาของความอดทนด้วย ด้วยอำนาจของความจริง ก็จะดูดซับความสูงส่ง ไม่สำคัญว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกต้องอดทน อย่าได้กลัว ความจริงจะปรากฏโดยอัตโนมัติตามเวลาของมัน ลูกพูดว่า "เรือแห่งความจริงอาจจะโคลง แต่มันจะไม่จม" ในกรณีนั้นมันจะพาลูกไปสู่ฝั่ง ดังนั้น อย่าได้กลัว ถ้าลูกต้องเผชิญกับสิ่งใดก็ตาม จงนำชีวิต     ของบราห์มาบาบาไว้เบื้องหน้าลูก มีสถานการณ์ของโลกมากมายมาอยู่ต่อหน้าบราห์มาบาบา และมีเหตุต่าง ๆ มากมายเกี่ยวข้องกับลูก ๆ อย่างไรก็ตาม ขณะที่คงอยู่ในการชุมนุม และมีความรับผิดชอบ ด้วยอำนาจของความจริง ท่านได้รับชัยชนะ (อเวียก 27/02/96)

ความนิยมตามสมัยมีอย่างมากมาย อย่าได้ถามเลย คนรวยทำลายความจริงในตนเอง คนจนนั้นดีมาก (ซาคาร์ 19/06/96)

วันนี้พ่อที่แท้จริง ครูและสัตกูรูที่แท้จริง ดูลูก ๆ ของท่านในทุกทิศทุกทาง ผู้ซึ่งเป็นรูปธรรมของอำนาจของความจริง

ทุกวันนี้ลูกใช้ภาษาที่พิเศษเป็นอย่างยิ่ง ลูกพูดว่าอะไร เราไม่สามารถทนดูความหลอกลวงใด ๆ เราไม่สามารถทนฟังความหลอกลวงใด ๆ และนี่เองที่ทำไมเมื่อเราเห็นบางสิ่งไม่จริงก็จะมีแรงต้านอย่างมากมายภายใน เมื่อเราได้ยินบางอย่างไม่จริง ก็จะมีแรงต้านภายในอย่างมาก คำพูดเช่นนี้ถูกต้องไหม จะทำสิ่งนี้เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็น ฉันจะแสดงให้พวกเขาเห็นและทำให้สิ่งหลอกลวงหมดไป การท้าทายด้วยวิธีนี้ถูกต้องใช่ไหม หรือมันไม่ถูกต้อง ลูกทำดีในบางสิ่งเมื่อลูกทำมันเสร็จใช่ไหม ดังนั้นจงจำไว้เสมอว่า อะไรเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งหลอกลวง ผู้ที่ทำตามความจริงและต้องการจะหยุดยั้งสิ่งหลอกลวง  มีความปรารถนาดีที่เขาต้องการจะทำให้สิ่งหลอกลวงหมดไป อย่างก็ไรตาม เพื่อที่จะให้ความหลอกลวงหายไป ลูกก็ต้องการอำนาจของความจริงด้วยเช่นกัน 

ดังนั้นการใช้กำลังและความโกรธเป็นสัญลักษณ์ของความจริงหรือ มันจะมีการใช้กำลังด้วยหรือเมื่อมีความจริง ถ้าฉันรูสึกโกรธก็เพราะได้เห็นบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ฉันโกรธเมื่อได้เห็นบางสิ่งผิด ถูกต้องไหม มันไม่ถูกต้อง ลูกจะไม่รู้สึกร้อนหรือเมื่อบางคนจุดไฟขึ้น หรือลูกอยู่ได้อย่างไม่ถูกกระทบจากความร้อน ถ้าลูกมีความรู้ว่าสิ่งนั้นคือไฟของความหลอกลวง และลูกก็สามารถที่จะรู้สึกถึงความร้อนนั้น และลูกจะทำอะไรสำหรับตัวเอง ลูกจะดูแลตนเองให้ปลอดภัย ใช่ไหมลูก  หรือลูกจะพูดว่าลูกไม่สามารถหลบหนีจากความร้อนที่มาจากไฟ ลูกจะดูแลตนเองให้ปลอดภัย ใช่ไหม หรือว่าไม่เป็นไร ถ้าจะถูกไฟลวงสักเล็กน้อย 

ดังนั้นจงจำไว้เสมอว่า สัญลักณ์ของความจริงคือ มารยาท  ถ้าลูกเป็นคนจริงและลูกมีอำนาจของความจริง แล้วลูกก็จะไม่ยอมละทิ้งมารยาทของลูก จงพิสูจน์ความจริง แต่ด้วยมารยาทอย่างแท้จริง ถ้าลูกละทิ้งมารยาทของลูก และต้องการที่จะพิสูจน์ความจริงโดยปราศจากมารยาท ลูกก็จะไม่สามารถพิสูจน์ความจริง ในความจริงอะไรเกิดขึ้น นั่นคือ ลูกปรารถนาจะพิสูจน์ความจริง แต่ถ้าลูกละทิ้งมารยาทของลูกและพิสูจน์ความจริง และแล้วการพิสูจน์นั้นก็จะเป็นความดื้อดึง ไม่ใช่การพิสูจน์ สัญลักษณ์ของการขาดมารยาท คือ ความดื้อดึง และสัญลักษณ์ของมารยาทคือ ความถ่อมตน ผู้ซึ่งพิสูจน์บางสิ่งที่ผิดว่าเป็นความผิดจะคงอยู่อย่างถ่อมตนเสมอ และจะมีการโต้ตอบด้วยมารยาท ดังนั้น ลูกเคยได้ยินเกี่ยวกับความฉลาดชนิดที่สองหรือไม่ ดังนั้นจงฉลาดในหนทางเช่นนี้ นี่คือการบ้าน จงเลิกความฉลาดเช่นนี้เสียและกลายเป็นผู้ถ่อมตน ถ่อมตนอย่างสมบูรณ์แบบ การพูดว่า "ฉันถูก คนนี้ผิด" ไม่ใช่ความถ่อมตน

ผู้คนทางโลกก็พูดเช่นนี้เช่นกัน ถ้าใครบางคนต้องการจะพิสูจน์ความจริง แล้วมีบางสิ่งหรือบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง นี่ก็ได้กลายเป็นคำพูดของลูก ๆ บางคน "ฉันกำลังพูดความจริงทั้งหมด ฉันพูดความจริง 1000 เปอร์เซ็น" แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ความจริง ความจริงนั้นเหมือนดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่สามารถหลบซ่อนอยู่ได้ ไม่ว่าจะมีกำแพงสักกี่ชั้น แสงแห่งความจริงก็ไม่สามารถถูกบดบังได้ บุคคลที่เป็นคนจริงจะไม่เคยพูดว่า "ฉันกำลังบอกความจริง" ถึงแม้ว่าบางคนอาจพูดว่าลูกกำลังพูดความจริง (อเวียก 15/04/92)

ในฐานะที่มีการพูดกันว่า ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะพูดความจริงเสมอ บางคนมีศรัทธาในสติปัญญาในการรู้ บางคนมีศรัทธาในสติปัญญาในการเชื่อ และบางคนมีศรัทธาในสติปัญญาที่จะกลายเป็นสิ่งที่เขาศรัทธา ทุกคนเชื่อว่าพวกเราได้พบพระเจ้าแล้ว พวกเราเป็นของพระเจ้า การเชื่อและการรับรู้เป็นสิ่งเดียวกัน แต่ในการที่จะกลายเป็นสิ่งนั้นลูก ๆ ก็ต่างลำดับกัน ดังนั้นลูกรู้และลูกก็เชื่อด้วย แต่สภาวะที่สามหลังจากรู้และเชื่อคือ การกลายเป็นสิ่งนั้น ในทุก ๆ ย่างก้าว สัญลักษณ์ของการกลายเป็นผู้พิชิตควรจะเห็นได้ในรูปของการปฏิบัติ เพราะว่ามีความแตกต่างในสิ่งนี้ มีอันดับต่าง ๆ ลูกเข้าใจไหมว่าอันดับนัันถูกสร้างขึ้นอย่างไร นี่คืออะไรที่หมายถึงการเป็นอิสระจากการผูกพันยืดติด

สติปัญญาที่มีศรัทธา คือบันไดที่จะกลายเป็นผู้ที่มีอิสระจากการผูกพันยึดติด (อเวียก 25/11/85)

ผู้ซึ่งพิสูจน์ความจริง จะมีมารยาทเสมอ (อเวียก 11/12/91)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ


Sunday, October 29, 2023

คุณธรรม - ความอดทน (Tolerance)

 

ลูกคิดว่าตัวลูกเองเป็นรูปธรรมของความสำเร็จหรือไม่ เพื่อที่จะเป็นรูปธรรมของความสำเร็จ คุณธรรมหลักอะไรที่มีความสำคัญที่จะต้องซึมซับ?  เพื่อที่จะได้เป็นรูปธรรมแห่งความสำเร็จ ลูกต้องการคุณธรรมหลักของความอดทน  ความอดทนและความง่ายดาย จะทำให้ทุก ๆ ภาระกิจประสบความสำเร็จ เหมือนเช่นเมื่อคนที่มีความอดทนทำกิจการใด ๆ หลังจากไตร่ตรองอย่างดีแล้ว และดังนั้นจึงได้รับความสำเร็จ เช่นเดียวกัน ผู้ซึ่งมีความอดทนสามารถที่จะทำให้คนซึ่งมีสันสการ์ที่ไม่ดีเย็นลงได้ หรือทำให้งานที่ยากนั้นง่าย ด้วยพลังแห่งความอดทนของพวกเขา เขาผู้ซึ่งมีพลังของความอดทนจะมีความสุขุมและเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน ผู้ซึ่งมีความรับผิดชอบสูงจะสุขุม และเขาผู้ซึ่งมีความสุขุมลึกซึ้งจะไม่กลัวกับงานใด ๆ ที่จะต้องทำ พวกเขาจะได้รับความสำเร็จด้วยการเจาะลึก ผู้ซึ่งมีพลังของความอดทนจะไม่ยอมให้กระแสของการสนใจภายนอก หรือความคิดที่เกิดขึ้นมาทำให้เขาสับสน หรือทำให้พวกเขาเกรงกลัว ด้วยพลังของความอดทนของพวกเขาทำให้พวกเขามีพลังที่จะเผชิญกับสิ่งนั้นด้วย

อะไรคือสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ซึ่งมีคุณธรรมของความอดทน ใบหน้าของพวกเขาจะปรากฏความพึงพอใจอย่างสม่ำเสมอ สายตาและท่าทางของพวกเขาจะไม่เคยแสดงออกซึ่งความไม่พอใจเลย ดังนั้นผู้ซึ่งทำตนเองให้คงอยู่เป็นรูปธรรมของความพอใจก็จะทำให้ผู้อื่นพอใจด้วย ขณะที่เดินหรือเคลื่อนไหว พวกเขาจะมีประสบการณ์ของสภาวะการเป็นร่างแสง คุณธรรมของความอดทนเป็นคุณธรรมที่สำคัญมาก ยิ่งเห็นความอดทนในตนเองมากขึ้นเท่าใด ลูกก็จะรู้สึกพอใจในตนเองมากตามนั้น และผู้อื่นก็จะพอใจในลูก การมีความพอใจหมายถึงการได้รับความสำเร็จ มีคนที่เขาสามารถอดทนต่อทุกสิ่ง 

การอดทนต่อทุกสิ่งหมายถึงการเข้าถึงแก่นของมัน เหมือนเช่นเมื่อลูกดำดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทร ลูกก็จะทำให้เพชรพลอยปรากฏขึ้น เช่นเดียวกัน ผู้ซึ่งมีความอดทนลงไปสู่แก่น และโดยการเข้าถึงแก่นนี่เองที่ทำให้เขาได้รับอำนาจหลายชนิด มีเพียงผู้ซึ่งมีความอดทนเท่านั้น ที่จะได้รับอำนาจของการไตร่ตรอง  ผู้ซึ่งมีความอดทนจะคงอยู่อย่างไม่ว่างเว้นจากการไตร่ตรองอยู่ภายใน และผู้ซึ่งผูกพันอยู่กับการไตร่ตรอง ก็จะมีสภาวะของการที่พวกเขาหลุดหายเข้าไปในความรัก พลังของความอดทนสำคัญเป็นอย่างมาก ใบหน้าของพวกเขาจะเป็นรูปธรรมของคุณธรรม ลูกจะต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่งที่จะซึมซับพลังของความอดทน มีเพียงผู้ที่มีความอดทนเท่านั้นที่สามารถที่จะถือโล่แห่งละครได้ ถ้าลูกไม่อดทนก็เป็นการยากที่จะถือโล่แห่งละคร ผู้ซึ่งมีความอดทนเท่านั้น สามารถจะเป็นผู้เฝ้าดูที่ละวาง (อเวียก 08/06/71)

ผู้ซึ่งคงอยู่ในการคิดถึงทุกลมหายใจจะต้องมีคุณธรรมความอดทนอย่างแน่นอน และเพราะว่าการมีความอดทน ความร่าเริงและอำนาจจะปรากฏให้เห็น จะไม่มีร่องรอยของความอ่อนแอบนใบหน้าของพวกเขาเลย (อเวียก 25/01/69)

ยิ่งมีอำนาจของความอดทนมากเท่าใด ความสำเร็จในงานรับใช้ก็จะมากตามนั้น พลังของความอดทนก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกันเมื่ออยู่ในการชุมนุม พลังของความอดทนเป็นที่ต้องการในขณะที่กระดาษสอบสุดท้ายของการทำลายล้างมาถึง ลูก ๆ ส่วนใหญ่ ผลของพลังของความอดทนนั้นเปอร์เซ็นต่ำมาก 

ดังนั้นลูกต้องเพิ่มพลังนั้น ลูกจะพัฒนาพลังของความอดทนในตัวลูกอย่างไร? มากเท่าที่ลูกมีความรัก ลูกรักใครบางคนมากเท่าใด พลังก็จะมากขึ้นตามความรักนั้น ลูกเคยมีประสบการณ์ว่าลูกจะสามารถเพิ่มพลังของความอดทนโดยผ่านความรักอย่างไรหรือไม่ ดังตัวอย่างของแม่กับลูก เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับลูก เพราะแม่มีความรักต่อลูก เพราะความรักนั้น แม่จะอดทนได้ทุก ๆ สิ่ง แม่จะเตรียมที่จะทนทุกอย่างเพื่อลูกของแม่ ณ เวลานั้น แม่จะไม่กังวลเกี่ยวกับตนเองว่าจะเป็นเช่นไรทั้งสิ้น ดังนั้นถ้าลูกมีความรักที่คงที่ด้วย และมันก็จะไม่เป็นการยากใด ๆ ที่ลูกจะทนต่อทุกสิ่ง เพื่อคนที่ลูกรัก เพราะความรักขาดหายไป พลังของความอดทนก็หายไปด้วย (อเวียก 26/05/69)

ลูกพูดว่า "บาบา ลูกเป็นของพ่อ ลูกจะไม่ไปที่ไหนแล้ว ลูกชอบความรู้และชีวิตโยคีมาก" แต่แล้ว อะไรที่เหลืออยู่? บางครั้งในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง จะต้องมีความอดทนเล็กน้อย ณ เวลานั้น ความคิดและสติปัญญาเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย "สิ่งนี้จะเกิดขึ้นนานเท่าใด? " "สิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างไร? มีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สลับกันไป บางเวลามันเป็นกับตัวเอง บางเวลากับงานรับใช้ บางเวลากับเพื่อนที่ทำงานรับใชด้วยกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดความแตกต่างในความสม่ำเสมอ เปอร์เซ็นของพลังของความอดทนบางครั้งลดลงเล็กน้อย ลูกเข้มแข็ง แต่ว่าแม้แต่ผู้ที่เข้มแข็งบางเวลาก็ถูกกระทบด้วยสิ่งนี้ (อเวียก 13/02/91)

ณ เวลานี้บางคนก็ประฌามลูก เพราะงานของลูกแฝงตัว เมื่อนัยของมันปรากฏ แล้วเขาเหล่านั้นก็จะมาโค้งคารวะต่อหน้าลูก เขาประฌามลูกมากเท่าใด ดอกไม้ที่เขานำมาบูชาลูกก็จะมากตามนั้น

บาบาต้องอดทนต่อการประฌามมากมาย และตามนั้นท่านก็ได้รับการบูชาเป็นอย่างมากเช่นกัน ลูกจะกลายเป็นผู้มีค่าควรแก่การบูชา ตามระดับของการประฌามที่ลูกต้องทนทาน และดังนั้นอย่าได้กลัว พวงมาลัยกำลังถูกจัดเตรียม (อเวียก 14/11/79)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Saturday, October 28, 2023

คุณธรรม - การยอมอุทิศ (Surrender)

 


ใครคือผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้ยอมอุทิศตัวอย่างเต็มที่? ผู้ซึ่งอุทิศตัวอย่างเต็มที่คือ ผู้ซึ่งยอมอุทิศทั้งร่างกาย ความคิด ความสัมพันธ์ และเวลาของพวกเขาทั้งหมด ถ้าลูกได้ยอมอุทิศความคิดของลูก ลูกก็จะไม่ใช้มันโดยปราศจากศรีมัท มันเป็นการง่ายที่จะใช้ทรัพย์ของลูกตามศรีมัท และก็ง่ายที่จะใช้ร่างกายเช่นกัน แต่สภาวะที่จิตใจไม่ได้สร้างความคิด แม้แต่ความคิดเดียวโดยปราศจากศรีมัท เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นสภาวะที่สมบูรณ์พร้อม นี่เองที่ทำไม "มานมานาบาพ" จึงเป็นมนตราหลัก ถ้าจิตใจได้ยอมอุทิศอย่างเต็มที่ แล้วลูกก็จะสามารถควบคุมร่างกาย จิตใจ ทรัพย์ ความสัมพันธ์ และเวลาของลูกต่อผู้เดียวนั้น

 ดังนั้น เรื่องหลักคือ การยอมอุทิศจิตใจ นั้นคือยอมอุทิศความคิดไร้สาระและความคิดที่เป็นกิเลส ผู้ซึ่งยอมอุทิศอย่างเต็มที่จะไม่คิดสิ่งใด ๆ นอกจาก คุณธรรมของบัพดาดา งานและความสัมพันธ์ด้วยความคิดของพวกเขา อะไรก็ตามที่ลูกยอมอุทิศไปแล้วจะไม่เป็นของลูกอีกต่อไป มันเป็นของคนที่ลูกอุทิศให้ไปแล้ว และดังนั้นก็จะไม่ควรใช้สิ่งนั้นของท่านสำหรับตัวลูกเอง (อเวียก 03/10/69)

ลูกได้สัญญาไว้ว่า : เมื่อพ่อมา พวกเราจะตัดความสัมพันธ์จากทุกคน และมีความสัมพันธ์กับพ่อผู้เดียว พวกเราจะยอมอุทิศตัวของเราให้พ่อ ภรรยาอุทิศตนเองให้สามี และสามีก็อุทิศตนเองให้ภรรยา ที่นี่ลูกจะต้องยอมอุทิศตัวลูกเองให้พ่อ เมื่อคนแต่งงานกัน เขาต่างอุทิศตนเองให้แก่กันและกัน

บัดนี้ บาบาพูดว่า : ลูกจะต้องไม่อุทิศตนเองให้กับมนุษย์คนใด

ลูกก็ให้สัญญาว่า : ลูกจะยอมอุทิศตนเองให้กับพ่อ ดังนั้นยอมอุทิศตัวเองให้กับพ่อ พ่อจะทำให้ลูกมีความสุขอย่างคงที่ถึง 21 ชาติเกิด มันเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ ลูกจะกลับกลายมาสูงส่ง ด้วยการทำตามศรีมัท อย่าได้ลืมสิ่งนี้ (ซาคาร์ 12/06/96)

ณ วันชิพราตรี มีการสังเวยคำว่า "ฉัน ฉัน" ผู้กราบไหว้ผู้ยากจนสังเวยด้วยการถวายแพะที่ร้องว่า "แม่ะ แม่ะ" (ฉัน ฉัน) แต่มันเป็น "ฉัน ฉัน" นี้ต่างหากที่ถูกสังเวยในการบูชายัญนี้ พวกเขาเฉลิมฉลองอนุสรณ์ของลูก ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ ลูกได้สังเวยสิ่งนี้ หรือการสังเวยสำนึกของสำนึกว่าเป็นของ "ฉัน" ยังคงอยู่เล็กน้อย? ผลคืออะไร? ลูกได้สังเวยมันเรียบร้อยแล้วหรือ? มีการยอมอุทิศถวายทั้งหมดหรือไม่? ถ้าลูกต้องการที่จะทำสัญญา จงทำสัญญาเต็มที่

บาบาพูดด้วยว่า ลูกคือผู้ซึ่งมีความรักที่แท้จริง และลูกก็ได้ผ่านในสิ่งนี้ อะไรคือการสละละทิ้งเมื่อมีความรัก? ทำสัญญาด้วยจิตใจของลูก และจงให้มันเป็นสัญญาที่มุ่งมั่น (อเวียก 18/02/93)

อะไรได้เกิดขึ้นเมื่อบางสิ่งนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ มีการฉลอง ณ เวลาของการเสร็จสิ้น และมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่องราวทางจิต ? มีการสังเวย

การสังเวยสิ่งพิเศษด้วยความคิดและสติปัญญา ไม่ใช่แต่เพียงคำพูด ไม่ใช่เพียงอ่านมันออกมาเท่านั้น แต่จงสังเวยมันด้วยความคิดและสติปัญญา และตามดูว่าความก้าวหน้าได้เกิดขึ้นอย่างไรในตนเอง และในงานรับใช้ด้วยความเร็วสูง ดังนั้น คลื่นวันนี้คือการสังเวยกระแสที่ไร้ประโยชน์ที่มีต่อดวงวิญญาณอื่น ๆ ลูกเข้าใจไหม?

ลูกจะสังเวยสิ่งนี้ได้ไหม? หรือจะเก็บมันไว้นิดหน่อย? อย่าได้คิดว่า "คนนี้ก็เป็นของเขาเช่นนี้ ถ้าเป็นดังนั้นกระแสก็จะคงอยู่" ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะเป็นเช่นไร ถ้าลูกเปลี่ยนความคิดที่มีกระแสลบและมีกระแสที่ให้ประโยชน์ ดวงวิญญาณนั้นจะเปลี่ยนอย่างแน่นอน จากด้านลบมาเป็นความคิดบวก ถ้ามีความคิดที่เป็นขยะเช่นนี้ ในความคิดและสติปัญญาในงานรับใช้ ที่นั่นก็จะไม่มีงานรับใช้ที่รวดเร็ว โดยกระแสทางดวงวิญญาณและทัศนคติของลูก 

ในขณะที่นั่งอยู่ที่หนึ่งที่ใด ลูกสามารถที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เต็มไปด้วยพลังบวกเท่าที่ปรารถนา เพราะว่าทัศนคตินั้นเป็นเหมือนกับจรวด มันเป็นจรวดทางดวงวิญญาณ ลูกสามารถส่งไปได้ไกลเท่าที่ลูกคิดและให้กับดวงวิญญาณได้มากเท่าที่ลูกปรารถนา ด้วยทัศนคติ ด้วยกระแสและบรรยากาศที่ทรงอำนาจของลูก ถ้าแม้ว่าในความเป็นจริงพวกเขาผิด ลูกจะต้องไม่รับเอาความผิดของพวกเขามาเก็บไว้ในความคิด ลูกเพียงแต่เข้าใจว่ามันผิด และทำไมลูกจะต้องดูดซับเอาความผิดนั้นซึ่งมันผิด นั่นมันเป็นศรีมัทหรือมันเป็นสิ่งหนึ่งที่่จะต้องเข้าใจ โดยทุก ๆ วิธี เต็มไปด้วยความรู้ แต่พร้อมกับการเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ จงคงอยู่อย่างทรงอำนาจ และอย่าได้ซึมซับมัน มันเข้าไปในความคิดของลูก แต่จงจบสิ้นมันเสีย มันเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่จะต้องทำความเข้าใจ ไม่ต้องดูดซับไว้และจบสิ้นมันเสีย ดังนั้น ลูกเข้าใจว่า นี่ถูกต้องและนี่ผิด และเข้าใจว่าคนนี้เป็นเช่นนี้ และอย่าซึมซับไว้กับตัวลูก ลูกรู้วิธีที่จะดูดซึมมันไว้ แต่ลูกไม่รู้วิธีที่จะสลัดมันทิ้ง (อเวียก 26/03/93)

พวกครูมีโชคเป็นพิเศษของการเป็นผู้ที่ยอมอุทิศตนเอง แม้แต่ผู้ที่อยู่กับครอบครัวก็ยังยอมอุทิศด้วยความคิดของตน พวกครูมีโชคที่พิเศษ งานของพวกครูคือการคิดถึง และงานให้บริการ มีอะไรอีกล่ะ ไม่ว่าลูกจะเตรียมอาหารหรือซักเสื้อผ้า มันก็เป็นการรับใช้ยักน่า (yagya) เช่นกัน เหล่านั้นก็เป็นการรับใช้ทางดวงวิญญาณด้วย ผู้ซึ่งมีชีวิตครองเรือนจะต้องตอบสนองในความรับผิดชอบทั้งสองด้าน (อเวียก 06/01/90)

จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Thursday, October 26, 2023

คุณธรรม - ความมั่นคง (Stability)

 



พลังของการคิดถึงหมายถึง ความสามารถที่จะทำให้สติปัญญาของลูกมั่นคงอยู่ที่ใดก็ตามที่ลูกปรารถนา ลูกมีพลังเช่นนี้หรือไม่  ลูกสามารถที่จะเพ่งรวมสติปัญญาของลูกกับสิ่งใด ๆ ตามที่ลูกต้องการ และเมื่อใดก็ตามทันที หรือมันยังต้องใช้เวลา ลูกต้องใช้เวลานานเท่าไรจึงจะสามารถควบคุมมันได้ ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นเช่นไร ลูกจะต้องใช้เวลานานเท่าไร ที่จะทำให้จิตใจและสติปัญญาของลูกมั่นคง (หนึ่งวินาที) ถ้าสถานการณ์นั้นมันมีความปั่นป่วน บรรยากาศก็ไม่บริสุทธิ์     (ทาโมกุณี) และมายาก็พยายามที่จะทำให้ลูกเป็นของเธอ ด้วยความกล้าหาญของเธอ และลูกจะสามารถมั่นคงอยู่กับภายในตัวเองในหนึ่งวินาที  หรือต้องใช้เวลา จงฝึกหัดสิ่งนี้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แล้วลูกก็จะสามารถใช้พลังนี้ในเวลาที่ต้องการ นี่คือความรู้ของการทำให้ตัวลูกมั่นคง ตราบเมื่อลูกปรารถนา ไม่สำคัญว่าพายุของมายาของความคิดไร้สาระจะมากเท่าไร ซึ่งอาจจะมี มันก็กลายเป็นของขวัญที่จะผลักเราให้ก้าวหน้าไปใน 1 วินาที (อเวียก 18/01/94)

จงมั่นคงอยู่ในสภาวะของการเคารพตัวเองของลูกและให้ความเคารพต่อผู้อื่น และอะไรคือสัญลักษณ์ของการให้ผู้อื่น ในขณะที่อยู่ในสภาวะของการเคารพตัวเอง ตรวจสอบสองสิ่งอย่างสม่ำเสมอ  หนึ่งคือทัศนคติของความหยิ่งยโส  และอีกหนึ่งคือ ทัศนคติของการประฌาม  ผู้ซึ่งอยู่ในสภาวะของการเคารพตนเอง และเป็นผู้ให้ผู้ซึ่งให้ผู้อื่น จะไม่มีทัศนคติของสองสิ่งนั้น  ไม่ว่าความหยิ่งยโสหรือการประฌาม (อเวียก 06/12/87)

ดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีพลังเดียวและการค้ำจุนเดียว  คงอยู่ในสภาวะที่มั่นคงอย่างสม่ำเสมอ สภาวะที่มั่นคงหมายถึงไม่มีความหวั่นไหวอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยขึ้น ๆ ลง ๆ

เมื่อลูกได้รับพลังทั้งหมดจากพ่อผู้เดียว ควรจะมีพลังเดียวและการค้ำจุนเดียว  มันเป็นเมื่อลูกลืมผู้เดียวนี้ จึงมีความขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อใดก็ตามที่มีสถานการณ์ของความเปลี่ยนแปลง  จงจดจำอนุสรณ์ของลูก บ้านที่มั่นคง (อเวียก 18/01/94 กลุ่ม 2)

จงกลายเป็นผู้ทรงอำนาจนั่นคือจิตใจและสติปัญญาของลูก คงอยู่ภายใต้การควบคุมของลูกอย่างสม่ำเสมอ และด้วยวิธีนี้ ตามคำสั่งของลูก อย่าได้ขึ้น ๆ ลง ๆ แม้ใน 1 วินาที หรือในความฝันของลูก  ความคิดไม่ควรจะนำนายของมันไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้อื่น  สัญลักษณ์ของดวงวิญญาณที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้อื่น นั้นคือ ดวงวิญญาณเช่นนี้จะไม่สามารถรับประสบการณ์ของความสุข ความสบาย หรือปิติ แม้แต่เมื่อเขาต้องการมัน ดวงวิญญาณบราห์มินจะไม่สามารถตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้ใด ไม่ตกอยู่ภายใต้แม้แต่อิทธิพลของสันสการ์หรือนิสัยที่อ่อนแอ  เมื่อใดก็ตามที่ลูกคิดเกี่ยวกับนิสัยของลูก หรือสันสการ์ของลูก  ขณะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความอ่อนแอของลูก อย่างเช่น "ฉันจะทำอะไรได้ นิสัยของฉันเป็นเช่นนี้"  แล้วเป็นดวงวิญญาณชนิดใด ที่พูดเช่นนี้ นี่เป็นคำพูดและความคิดของดวงวิญญาณที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งภายนอก  

ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ลูกคิดว่า นิสัยของลูกเป็นเช่นนี้ จงทำตัวลูกให้มั่นคงในความหมายที่สูงส่ง ตามคำนั้น ถ้าสันสการ์มาปรากฏตรงหน้าลูก จงถามตัวเอง : นี่เป็นสันสการ์ของฉันดวงวิญญาณพิเศษหรือ ฉันได้พูดหรือว่านี่เป็นสันสการ์ของฉัน เพราะว่าลูกเรียกมันว่าสันสการ์ของลูก เพราะว่าการมีสำนึกของสันสการ์ "ของฉัน" ลูกจึงมิได้ละทิ้งแม้แต่สันสการ์ที่อ่อนแอ  มันเป็นกฏว่า ที่ใดมีสำนึกของความเป็น "ฉัน" ที่นั่นมีความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ  และที่ใดมีความรู้สึกของการเป็นเจ้าของมันก็มีสิทธิ  ดังนั้น ลูกทำสันสการ์ที่อ่อนแอนั้นให้เป็นสันสการ์ของลูก และดังนั้นมันจึงไม่ทิ้งสิทธิของมัน ดังนั้น ขณะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลใด ๆ ลูกร้องขอต่อพ่อให้ช่วยปลดปล่อยลูกให้เป็นอิสระ

เมื่อลูกพูดว่าสันสการ์  จงจำไว้ว่าสันสการ์ของลูกเป็นสันสการ์เดิมแท้และเป็นสันสการ์ที่เป็นอมตะ สันสการ์อื่นเป็นสันสการ์ของมายา ไม่ใช่ของลูก ดังนั้น ด้วยพลังของความมั่นคง จงเปลี่ยนสภาวะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลใด ๆ และทำตัวลูกให้มั่นคงอยู่ในที่นั่งของการเป็นผู้อยู่ในสภาวะของการเป็นนาย (อเวียก 09/12/93)

การพิสูจน์ตนเองว่าถูกนั้นก็เป็นสัญลักษณ์ของการตกอยู่ใต้อิทธิพลของสันสการ์เก่าของลูก มันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะแสดงความชัดเจนสำหรับบางสิ่งเพื่อความถูกต้อง แต่แตกต่างจากการที่จะพิสูจน์ด้วยความดื้อดันทุรัง เขาผู้ซึ่งจะพิสูจน์ด้วยความดันทุรัง จะไม่สามารถเป็นรูปธรรมของความสำเร็จได้เลย (อเวียก 25/10/87)

ลูกไม่กระทำการใด ๆ ภายใต้อิทธิพลของบ่วงพันธะ  แต่ลูกทำให้อวัยวะประสาทสัมผัสเป็นผู้รับใช้ ลูกได้กลายเป็นคาร์มาโยคี  และกระทำการใด ๆ ด้วยสิทธิอำนาจ ลูกไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของการกระทำ หรือภายใต้ประสาทสัมผัส ถ้าใครตกอยู่ภายใต้อิทธิพล แล้วดวงวิญญาณซึ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลก็จะกลายเป็นผู้ที่สิ้นหวัง ดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นนายจะไม่เคยท้อแท้สิ้นหวังต่อทุก ๆ สิ่ง 

แรงดึงของบ่วงพันธะจะดึงลูกเข้าไปหามัน บ่วงพันธะจะผูกดวงวิญญาณไว้แน่น ดังนั้น บัพดาดาเฝ้าแต่สอนบทเรียนนี้ จงเป็นอิสระและไม่อยู่ภายใต้อิทธิพล เป็นอิสระและอย่าให้มีอิทธิพล นั่นคือจงละวาง และให้ความรัก (อเวียก 29/12/89)

จงเฝ้าแต่รักษาสมญานามต่าง ๆ ของลูกไว้ในสติปัญญาอย่างสม่ำเสมอ และทำตัวลูกให้มั่นคง ในสภาวะนั้นขณะที่ลูกใช้ชีวิตไป และดูว่าจะมีความพอใจมากเพียงใด ที่ลูกจะได้รับประสบการณ์ (อเวียก 31/12/93)

สภาวะของลูกคือที่นั่งของลูก นั่นคือโดยสภาวะที่มั่นคงของลูกได้กลายเป็นที่นั่งของลูก ดังนั้น ลูกจะคงอยู่อย่างมั่นคงบนที่นั่งของลูก ลูกนั่งอยู่บนที่นั่งของลูก นั่นคือลูกมั่นคงในสภาวะของลูก  การที่ตัวลูกมั่นคงอยู่ในสภาพที่สูงส่ง หมายความถึงการนั่งอยู่บนที่นั่ง ร่างกายนั้นนั่งบนที่นั่งที่เป็นวัตถุ แต่ลูกจะต้องทำความคิดและสติปัญญาของลูกให้นั่งอยู่บนสภาวะที่สูงส่ง การทำตัวลูกให้มั่นคงในสภาวะโดยผ่านความคิดและสติปัญญา หมายถึงว่าลูกนั่งในสภาวะนั้น ลูกได้พบที่นั่งที่ดีใช่หรือไม่ ที่นี่ลูกมีที่นั่ง และในอนาคตลูกจะได้รับบัลลังก์ ในระดับที่ลูกคงอยู่บนที่นั่ง ดังนั้นลูกจะได้รับบัลลังก์ในอนาคต ถ้าบางครั้งขึ้น ๆ ลง ๆ และ บางครั้งมั่นคง แล้วบางครั้งลูกจะได้รับบัลลังก์ และบางครั้งก็ไม่ได้รับ (อเวียก 02/12/93)

ลูกต้องมีสำนึกของผู้ที่ดลใจให้เกิดทุกสิ่งในสองทาง หนึ่งคือบาบาคือผู้ดลใจทุกสิ่ง และอีกสิ่งหนึ่งคือ ฉัน ดวงวิญญาณ เป็นผู้แสดงการกระทำโดยผ่านอวัยวะทางร่างกายเหล่านี้  โดยสิ่งนี้ขณะที่กำลังแสดงการกระทำ ลูกจะไม่ได้รับอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็นทางที่ดีหรือทางที่เลว นี่เป็นที่รู้กันว่าเป็นสภาพคาร์มาทีท (สภาวะที่อยู่เหนือผลกระทบของการกระทำ) (อเวียก 10/03/96)

บางครั้งบางคราวพวกเขามีนิสัยของการทำสิ่งง่ายให้ยาก สันสการ์ของความยากลำบากทำให้พวกเขาสิ้นหวัง แทนที่จะมีประสบการณ์ของความง่าย และเพราะว่าพวกเขาสิ้นหวัง เพราะว่าขาดการซึมซับสิ่งนี้ พวกเขาก็ถูกอิทธิพลครอบงำ (อเวียก 07/11/89)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ  เปี่ยมใจ

Friday, October 20, 2023

Dr.Nirmala Didi

 


In godly remembrance we announce the peaceful transition of our beloved divine BK Dr. Nirmala Didi, the Joint Administrative Head of Brahma Kumaris. She left her mortal coil this morning at 10:56 a.m. IST.

She led a life of surrender to God and served as a double doctor of body and soul. May the divine angel embark on the journey of higher bliss. Blessings and godly love.

Her mortal coil will be visiting to all brahma kuamaris head quarter campuses as per below schdeule (tentative).

20-10-2023 (Afternoon) Tribute in Shantivan
20-10-2023 (Evening & Night) Meditation in Gyan Sarovar

21-10-2023 Tribute in Gyan Sarovar
21-10-2023 (Afternoon) Tribute in Pandav Bhawan
21-10-2023 (4 PM) Last Journey of Mortal Coil


Wednesday, October 18, 2023

คุณธรรม - อำนาจในการปกครองตนเอง (Self-Sovereignty)

 


ผู้ที่มีสิทธิในการปกครองตนเองยิ่งมีอำนาจมากเท่าไร  ผู้ที่ทำงานให้เขาจะให้ความร่วมมือในงานอย่างสม่ำเสมอ ภายใต้คำสั่งของพวกเขามากเท่านั้น เมื่อผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเองออกคำสั่ง "เธอจะต้องไม่ฟัง เธอต้องไม่ทำเช่นนี้" หรือ "เธอต้องไม่พูด" พวกเขาจะต้องทำตามที่สั่งไปภายใน 1 วินาที มันไม่ควรจะเป็นว่าลูกให้คำสั่ง  "อย่ามอง" แต่พวกเขายังมอง และแล้วหลังจากนั้นก็มาขอโทษ พูดว่า "ฉันทำผิด" ลูกจะว่าอะไร ถ้าพวกเขาคิดได้ภายหลังจากที่ได้กระทำไปแล้ว พวกเขาควรจะได้ชื่อว่าเพื่อนผู้มีสติปัญญาหรือไม่ ทันทีทันใดที่ลูกได้มีคำสั่งไปยังจิตใจไม่ให้มีความคิดไร้สาระ และให้ใส่จุดภายใน 1 วินาทีแล้ว มันไม่ควรจะใช้เวลา 2 วินาที (อเวียก 25/02/91)

ผู้ซึ่งมีอำนาจเหนือตนเองในขณะปัจจุบัน จะเป็นผู้ที่ครอบครองอำนาจการปกครองของอาณาจักรในอนาคต อำนาจในการปกครองตนเองยิ่งมากเท่าใด อาณาจักรที่ลูกจะปกครองก็จะยิ่งใหญ่ตามนั้น ตามระดับที่ลูกประกาศสิทธิทั้งหมดที่นี่ ดังนั้นก็จะเป็นระดับของสิทธิที่ลูกจะได้ครอบครอง ณ ที่นั่น

การกลายเป็นผู้ปกครองตนเองหมายถึง  ความสามารถที่จะทำให้ดวงวิญญาณอื่นประกาศสิทธิในอำนาจของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง ลูกได้ประกาศสิทธิในสิทธิทั้งหมดหรือไม่ หรือลูกยังอยู่ในขบวนการขั้นตอน จากความเพียรพยายามของลูก มันก็สามารถที่จะรู้โชคของลูกได้ ถ้ามันได้มีความเพียรพยายามเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ แล้วรางวัลที่จะได้รับก็จะมีระยะเวลาที่นาน บาบาได้ให้มรดกนี้เท่ากันทุก ๆ คน แต่แต่ละคนก็สามารถรักษาสมบัตินั้นตามแต่ขีดจำกัดของอำนาจของพวกเขา

ถ้ามีอำนาจแล้วทุกสิ่งจะเป็นไปตามคำสั่ง และดวงวิญญาณก็จะไม่พูดว่า "ดวงตาทำให้เกิดความเสียหายนี้" แต่พวกเขาจะออกคำสั่งและดวงตาก็จะมองแต่สิ่งนั้นเท่านั้น นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ซึ่งอยู่ในบ่วงพันธะกับผู้ที่มีอำนาจ การมีอำนาจเพียงบางครั้งนั้น หมายความว่า ลูกไม่สามารถโล้อยู่บนชิงช้ากับบาบาอย่างสม่ำเสมอ บนชิงช้าที่ให้ความสุขเหนือประสาทสัมผัส     (อเวียก 10/12/79)

สิทธิยิ่งใหญ่ที่สุดต่ออาณาจักร คือประสบการณ์ ณ บัดนี้ ณ ยุคแห่งการบรรจบพบกัน เช่นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง ลูกกำลังประสบกับความพอใจของการเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง ใช่ไหมลูก? ลูกมีความซาบซึ้งที่เป็นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง ใช่ไหมลูก? หรือลูกมีประสบการณ์ในยุคทองนั้นเมื่อลูกนั่งอยู่บนบัลลังก์?  ความซาบซึ้งของเวลาปัจจุบันยิ่งใหญ่กว่า หรือความซาบซึ้งของยุคทองยิ่งใหญ่กว่า? (เวลาปัจจุบัน) ดังนั้น ลูกได้พูดเสมอ ๆ ด้วยความซาบซึ้งว่า การประกาศสิทธิในสิทธิของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง หมายถึง การประกาศสิทธิของอาณาจักรของโลก อำนาจในการปกครองตนเอง เป็นสิทธิโดยกำเนิดของชีวิตบราห์มิน ลูกจงจำสิ่งนี้ไว้ ลูกจำได้หรือไม่? หรือบางครั้งลูกก็กลายเป็นปวงประชา? การเป็นปวงประชาหมายถึง การเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจ และการเป็นราชาหมายถึงการเป็นผู้ที่มีสิทธิที่ชอบธรรมโดยสมบูรณ์ (อเวียก 18/02/94 กลุ่ม 4)

มรดกของพ่อคืออำนาจในการปกครองตนเองและอาณาจักรโลก ดังนั้น การมีสิทธิต่อมรดกของพ่อหมายถึง การมีสิทธิในการใช้อำนาจในการปกครองตนเองและอาณาจักรของโลก โลกนี้กำลังจะมาอยู่ในมือลูก การเปลี่ยนแปลงจะจบสิ้น และจะมีความคงที่ ลูกจำได้ไหมว่ากี่ครั้งมาแล้วที่ลูกได้เคยปกครองโลก ? ลูกเคยมีประสบการณ์ไหมว่าลูกได้เคยทำสิ่งนี้มาหลายครั้ง (อเวียก 25/01/94 กลุม 2)

ลูกมีอาณาจักรทั้งสอง ไม่เพียงแต่อาณาจักรแห่งอนาคต ก่อนที่จะเป็นราชาในอนาคต ลูกได้ประกาศสิทธิในสิทธิของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง ณ เวลาปัจจุบัน ดังนั้น ลูกเคยตรวจสอบการกระทำของการมีอำนาจในการปกครองตนเองของลูกในอาณาจักรของลูกบ้างไหม?  เหมือนอย่างที่ลูกร้องเพลงสรรเสริญให้กับอาณาจักรแห่งอนาคต นั้นคือมันเป็นอาณาจักรเดียว ศาสนาเดียว อาณาจักรของความสงบ ความสุข และความรุ่งโรจน์ เช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้คงอยู่อย่างสม่ำเสมอในอาณาจักรแห่งอำนาจในการปกครองตนเองของผู้ซึ่งเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานของอาณาจักรหรือไม่?

อาณาจักรเดียวหมายความว่า ฉัน ดวงวิญญาณ ควบคุมอวัยวะของร่างกาย ซึ่งใช้ในการทำงานของอาณาจักร อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้น แทนที่จะเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง ลูกก็จะไม่ประกาศสิทธิในอาณาจักรของบุคคลอื่นใด  ใช่ไหมลูก ? อาณาจักรที่เป็นของคนอื่นเป็นอาณาจักรของมายา สัญลักษณ์ที่เป็นอาณาจักรของคนอื่นคือการขึ้นอยู่กับใครบางคน สัญลักษณ์ของการมีอำนาจในการปกครองตนเองนั้นคือ ลูกมีประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอว่าตัวลูกเองเป็นผู้ที่สูงส่ง ผู้มีสิทธิทั้งหมด

พร้อมกับสิ่งนี้  ก็มีศาสนาเดียว ธรรม หมายถึง คุณธรรม  ดังนั้น อะไรคือศาสนาเดียวนั้น หรือคุณธรรมเดียวของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง? ความบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ในทุกสิ่ง ในความคิดของลูก คำพูดทั้งหมด การกระทำ ความสัมพันธ์ และการติดต่อของลูก นี่คือสิ่งที่เรียกว่าศาสนาเดียว นั่นคือ คุณธรรมเดียว

ไม่ควรจะมีความไม่บริสุทธิ์ใด ๆ นั้นคือศาสนาอื่นในความฝันของลูก หรือแม้แต่ในความคิดของลูก ที่ใดก็ตามที่มีความบริสุทธิ์จะไม่สามารถมีชื่อและร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์ นั่นก็คือคามคิดที่ไร้สาระหรือกิเลสใด ๆ ลูกได้กลายเป็นผู้ที่ทรงอำนาจหรือไม่? หรือลูกเป็นราชาที่อ่อนแอ? ลูกเป็นราชาประเภทใด? หรือว่าเป็นผู้ที่บางครั้งอ่อนแอ บางครั้งเข้มแข็ง?  ถ้าลูกยังไม่สามารถปกครองอาณาจักรนี้ของช่วงเวลาขีวิตสั้น ๆ นี้ แล้วลูกจะประกาศสิทธิต่ออาณาจักรถึง 21 ชาติได้หรือ? ลูกพัฒนาสันสการ์เหล่านั้นตั้งแต่บัดนี้เถิด โลกแห่งอนาคตจะถูกสร้างด้วยสันสการ์ที่สูงส่งของเวลานี้ ดังนั้นสันสการ์ของเวลาปัจจุบัน ของอาณาจักรเดียวและศาสนาเดียว เป็นรากฐานของโลกอนาคต

ดังนั้น ตรวจดูว่า ความสุข ความสงบ และความร่ำรวยของลูกอยู่บนพื้นฐานของการได้รับที่มีขีดจำกัดหรือไม่ หรือลูกมีความสุขเหนือประสาทสัมผัสทางดวงวิญญาณแห่งอาณาจักรสูงสุดของพระเจ้า? ประสบการณ์ของความสุขของลูก อยู่บนพื้นฐานบนวิธีการ ความสะดวกสบาย หรืออาณาจักรของลูกซึ่งเป็นควาสุขเหนือประสาทสัมผัส มีพื้นฐานอยู่บนการบรรลุถึงพระเจ้า? มีสถานการณ์ประเภทใด ๆ ของความไม่สงบมาทำลายความสงบที่สม่ำเสมอหรือไม่? สำหรับผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง พายุของความไม่สงบใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็กที่มีนั้น เพื่อทำให้พวกเขามีประสบการณ์ ดังนั้นก็กลายเป็นของขวัญของการยกระดับ นี่คือสิ่งที่รู้กันในนามของความสงบที่คงที่ ดังนั้นตรวจสอบว่า ลูกมีอำนาจในปกครองตนเองของความสงบที่คงที่หรือไม่?

เช่นกันสำหรับความร่ำรวย ความร่ำรวยของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง คือ ความรู้ คุณธรรม และอำนาจ ลูกเป็นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง ผู้ซึ่งเพียบพร้อมด้วยความร่ำรวยทุกชนิดหรือไม่ สัญลักษณ์ของความเพียบพร้อมนั้นคือ ที่ใดมีความเต็มเปี่ยม ก็จะมีความพอใจอย่างสม่ำเสมอ และไม่มีชื่อและร่องรอยของการไม่ได้รับความสำเร็จใด ๆ ความไร้เดียงสาต่อความปรารถนาที่มีขีดจำกัด เป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวย และการเป็นพระราชาหมายถึง การเป็นผู้ให้ ถ้ามีความปรารถนาที่มีขีดจำกัด หรือมีความปรารถนาต่อรางวัล แล้วแทนที่จะเป็นราชา ดวงวิญญาณเช่นนี้กลายเป็นขอทาน ถ้าลูกปรารถนาที่จะประกาศสิทธิต่อโชคแห่งอาณาจักรเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน มันคือผลของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง ซึ่งคืออาณาจักรที่จะได้ครองอย่างยาวนาน พื้นฐานของการประกาศสิทธิต่ออาณาจักรตลอดระยะเวลาเต็มคือการมีอำนาจในการปกครองตนเองอย่างสม่ำเสมอ ณ เวลาปัจจุบัน (อเวียก 18/11/93)

เมื่อลูกมีอำนาจในการปกครองตนเอง ความคิด สติปัญญา และสันสการ์ของลูกจะอยู่ภายใต้การควบคุมของลูก แล้วมันจะไม่สามารถเกิดความผูกพันยืดติดใด ๆ 

ถ้าลูกมีความผูกพันยืดติด มันเป็นเหมือนกับลูกได้วางเท้าของลูกบนเรือสองลำข้างละลำ ติดอยู่ในโลกเก่าและก็ชอบโลกใหม่ด้วย ดังนั้นจงเป็นของพ่อแต่ผู้เดียว ไม่มีผู้ใดอื่น อะไรเกิดขึ้นกับเขาผู้ซึ่งมีขาทั้งสองอยู่ในเรือที่แยกลำ พวกเขาไม่ได้เป็นทั้งของที่นี่และของที่นั่น (อเวียก 02/12/93)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ


Monday, October 16, 2023

คุณธรรม - ความเรียบง่าย (Simplicity)


 ถ้ามีความสนใจเพียงเล็กน้อยที่จะสวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ หรือรับประทานอาหารดี ๆ ถ้าเราสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม สติปัญญาของเราก็เฝ้าแต่วนเวียนอยู่กับสิ่งนั้น  แล้วเราก็กลายเป็นผู้มีสำนึกแห่งการเป็นร่าง  สิ่งเหล่านี้ สร้างอุปสรรคหลาย ๆ อย่าง ขัดขวางการไปถึงเป้าหมาย นี่เองทำไมบาบาจึงพูดว่า เราจะต้องรักษาความเรียบง่าย เราจะต้องลืมทุกสิ่ง เราไม่ควรแม้แต่จะระลึกถึงร่างกายของเรา เราละทิ้งโลกเก่า มันมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ในความเรียบง่ายของพวกเราและของพวกเขา เราจะต้องดำรงอยู่อย่างเป็นอิสระจากการดึงดูดของสิ่งใด ๆ เราจะต้องทำลายสำนึกแห่งการเป็นร่าง  ถ้าเราสวมใส่เสื้อผ้าที่แพงมาก เราก็จะกลายเป็นผู้ที่มีสำนึกแห่งการเป็นร่างอย่างรวดเร็วมาก  ณ เวลานี้ เรามีชีวิตอยู่ในความเรียบง่าย การอยู่ในความเรียบง่ายและอยู่ในระหว่างสภาวะของการปลดเกษียณเป็นสิ่งเดียวกัน (ซาคาร์ 18/04/96)

มีสิ่งล่อใจใด ๆ หรือไม่ที่จะสวมใส่สิ่งดี ๆ หรือรับประทานอาหารดี ๆ ถ้าเราสวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ ณ ที่นี่ เราจะถูกลดคุณภาพ ณ ที่นั่น ณ ที่นั่นเราจะต้องดำรงอยู่ในความเรียบง่าย บาบาพูดว่า เราจะต้องลืมแม้แต่ร่างกายของเรา มันเป็นร่างกายที่ทาโมประทาน เรากำลังจะกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ เราจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับความรู้แห่งความปรารถนา บาบาพูดว่า เราจะต้องไม่ประดับเพชรนิลจินดาต่าง ๆ ที่นี่ (ซาคาร์ 27/06/96)

ความยิ่งใหญ่ควรรจะปรากฏเห็นได้ในความเรีบบง่ายของเรา เพราะว่ารูปปั้นที่ไม่มีชีวิตของเรา แม้แต่ปัจจุบันนี้ก็ยังให้ประสบการณ์ของความยิ่งใหญ่ของเรา (อเวียก 30/10/92)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Friday, October 13, 2023

คุณธรรม - ความสูงศักดิ์ (Royalty)


 เช่นเดียวกันกับทางร่างกาย ดวงวิญญาณที่สูงศักดิ์ไม่เคยให้สติปัญญาหรือเวลาของพวกเขากับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ  ขณะที่เห็นบางสิ่งพวกเขาก็ไม่เห็นมัน ขณะที่ได้ยินบางสิ่งพวกเขาก็ไม่ได้ยินมัน  ดังนั้น ดวงวิญญาณที่สูงส่งทางดวงวิญญาณเช่นนี้ จะไม่เคยให้สติปัญญาและเวลาของพวกเขากับดวงวิญญาณใด ๆ ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งไม่สูงศักดิ์ การมีทัศนคติที่สูงศักดิ์หมายถึง การมีปฏิสัมพันธ์กับทุกดวงวิญญาณ ด้วยทัศนคติของความรู้สึกที่บริสุทธิ์และปรารถนาดี ดริชตีที่สูงส่งหมายถึงการมีรูปของร่างแสง แล้วก็เห็นผู้อื่นในรูปของร่างแสงของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ (อเวียก 03/11/92)

ความสูงศักดิ์ของความบริสุทธิ์เช่นนี้เป็นของจริง  นี่คือสัญลักษณ์ของความสูงศักดิ์ ถ้าลูกไม่มีสัญลักษณ์นี้แล้วก็เข้าใจได้ว่า ถ้าลูกยังไม่มีความสูงส่งของความบริสุทธิ์ หรือถ้าลูกมีเพียงเปอร์เซ็นใดเปอร์เซ็นหนึ่ง ยังไม่เต็มที่

ความพิเศษอย่างอื่นของความสูงศักดิ์  นั่นคือดวงวิญญาณจะไม่เคยมีสันสการ์ของการขอสิ่งใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางละเอียดอ่อน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ดวงวิญญาณที่สูงศักดิ์สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอ เต็ม ผู้ที่เต็มทั้งภายนอก เต็มไปด้วยสิ่งของวัตถุ เต็มไปด้วยเครื่องมือทางวัตถุ และอย่า่งอื่นคือการเต็มในจิตใจ คนที่เต็มอยู่ในจิตใจจะไม่เคยมีความรู้สึกว่าตัวเขาขาดในสิ่งใด ถึงแม้ว่าถ้าเขาไม่เต็มด้วยสิ่งของที่เป็นวัตถุและเครื่องมือ เพราะว่าจิตใจของเขาเต็ม ถ้าแม้บางสิ่งไม่มีที่นั่น เขาก็จะมีความรู้สึกว่ามันอยู่ที่นั่น ถึงแม้ว่าดวงวิญญาณอาจจะเต็มไปด้วยสิ่งของทางวัตถุและเครื่องมือเท่าใดก็ตาม ถ้าจิตใจเขาไม่เต็มเขาก็จะไม่เคยคิดว่าตัวเขาเป็นผู้ที่เต็ม ถึงแม้ว่าดวงวิญญาณมีทุกสิ่งเขาก็ไม่เคยคิดว่าเขานั้นเต็ม  ดวงวิญญาณเช่นนี้จะร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอว่า "ฉันต้องการ ฉันต้องการ" เป็นเพราะความปรารถนาตลอดเวลาดวงวิญญาณร้องเพลง "สิ่งนี้ควรเกิดขึ้น สิ่งนี้ควรจะทำ สิ่งนี้ควรจะได้รับ สิ่งนี้ควรจะเปลี่ยนแปลง" ดวงวิญญาณร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอและดวงวิญญาณผู้ซึ่งเต็มในจิตใจก็ร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอ "ฉันได้พบ ฉันประสบความสำเร็จ" ที่พูดว่า "นี่ควรจะเกิดขึ้น นี่ควรจะทำ" เป็นสันสการ์ของการขอที่สูงศักดิ์ ผู้ที่คิดเพื่อประโยชน์ของงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด ที่ซึ่งลูกคิดว่า "นี่ควรจะเกิดขึ้น นี่ควรจะทำ" การคิดเกี่ยวกับต้องการบางสิ่ง สำหรับความไม่มีขีดจำกัดเพื่อประโยชน์ของงานรับใช้เป็นเรื่องที่แตกต่าง แต่การมีความคิดของความต้อการสำหรับการได้รับอย่างมีขีดจำกัดสำหรับตัวเอง เป็นการขอที่สูงศักดิ์ ความปรารถนาต่อชื่อเสียง ความปรารถนาต่อความเคารพ ความปรารถนาต่อเกียรติยศ และความปรารถนาต่อความรัก ฉันต้องการที่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ทั้งหมดเหล่านี้เป็นเรื่องของความมีขีดจำกัด ดวงวิญญาณที่สูงศักดิ์ ไม่มีแม้แต่การมีร่องรอยของสันสการ์ของการร้องขอ ลูกเข้าใจสันสการ์ของความสูงศักดิ์ไหม (อเวียก 11/12/91)

พ่อผู้ไม่มีขีดจำกัดมาและให้โชคของอาณาจักรอันไม่มีขีดจำกัดแก่พวกเรา  ท่านทำให้พวกเรามีค่าต่อการปกครองอาณาจักร ท่านทำให้พวกเราบริสุทธิ์ (ซาคาร์ 18/06/96)

ในการเกิดทางดวงวิญญาณครั้งนี้ ลูกกำลังมีประสบการณ์ของความรักสูงสุดและความเมตตา ลูกได้กลายเป็นผู้ที่เป็นที่รัก เป็นลูก ๆ ที่สูงศักดิ์โดยได้รับความเมตตาที่สูงส่งนี้

ลูกที่สูงศักดิ์และเป็นที่รักหมายถึงราชาของเวลาปัจจุบัน และของอนาคตด้วย ลูกมีอาณาจักรทั้งสองแห่ง ไม่ใช่แต่เพียงอาณาจักรของอนาคต ก่อนที่จะเป็นราชาในอนาคต ลูกได้ประกาศสิทธิที่จะเป็นผู้ปกครองตนเอง ณ เวลาปัจจุบัน

อาณาจักรเดียวหมายความว่า ฉันดวงวิญญาณควบคุมอาณาจักรของอวัยวะทางร่างกาย ซึ่งทำงานสำหรับอาณาจักรอย่างสม่ำเสมอ สัญลักษณ์ของการปกครองตนเองนั้นคือ ลูกรู้สึกว่าตัวลูกเองเป็นผู้ที่สูงศักดิ์ด้วยสิทธิทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ซึ่งเป็นผู้ปกครองตนเอง พายุใด ๆ ของความไม่สงบไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก มีเพื่อทำให้เป็นประสบการณ์ และดังนั้นจึงกลายเป็นของขวัญสำหรับสภาวะที่โบยบิน มันกลายเป็นของขวัญสำหรับการยกระดับ นี่เป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นความสงบที่คงที่ ดังนั้น ตรวจสอบว่าลูกมีอำนาจในการปกครองตนเองของความสงบที่คงที่หรือไม่? ทรัพย์สมบัติของการปกครองตนเองคือ ความรู้ คุณธรรม และพลังอำนาจ ลูกเป็นผู้ปกครองตนเอง ผู้ซึ่งสมบูรณ์พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดเหล่านี้หรือไม่? สัญลักษณ์ของการเป็นผู้สมบูรณ์พร้อมนั้นคือ ไม่ว่าที่ไหนที่มีความเต็มจะมีความพอใจอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีชื่อหรือร่องรอยของการขาดแคลนของความสำเร็จใด ๆ การเป็นผู้ที่มีความโง่เขลาต่อความปรารถนาที่มีขีดจำกัดเป็นผู้ที่รู้กันว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวย

ตรวจสอบดูว่า ลูกเป็นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเองของอาณาจักรเดียว ศาสนาเดียว และสมบูรณ์พร้อมไปด้วยความสงบและความสุขหรือไม่? (อเวียก 18/11/93)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ  เปี่ยมใจ


Thursday, October 12, 2023

คุณธรรม - ความเคารพ (Respect)

 ความเคารพตนเองและความเคารพผู้อื่นเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน เขาผู้ซึ่งได้ประกาศสิทธิของการเคารพตนเอง คงอยู่ในสภาวะของการเคารพตนเองของพวกเขา และด้วยวิธีนี้ก็ได้รับความเคารพจากผู้อื่น และดวงวิญญาณเช่นนั้นพูด มองผู้อื่น และมีการติดต่อกับผู้อื่นด้วยความเคารพ ความหมายของคำว่าเคารพตนเอง คือการให้ความเคารพกับทุกคน บาบาเป็นผู้ซึ่งได้รับความเคารพจากดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก ทุกคนให้ความเคารพท่านเป็นอย่างมาก แต่ความเคารพที่บาบาได้รับมากเท่าใด ท่านก็ให้ความเคารพกับลูก ๆ มากเท่านั้น ผู้ซึ่งไม่ได้ให้จะไม่กลายเป็นเทพ ลูกกลายเป็นเทพหลายชาติ ลูกกลายเป็นบราห์มินเพียงหนึ่งชาติ  แต่ลูกก็ปกครองในรูปของเทพหลายชาติ  และกลายเป็นผู้ควรค่าแก่การบูชา เทพคือผู้ให้ ลูกจะกลายเป็นเทพอย่างไรถ้าลูกไม่ได้ให้ความเคารพในระหว่างชาติเกิดนี้ ลูกจะรับความเคารพอย่างไรในหลาย ๆ ชาติ จงทำตามพ่อ (อเวียก 01/12/89)

ยิ่งมีอำนาจมากเท่าใด ลูกก็จะให้ความเคารพผู้อื่นมากเท่านั้น  ลูกไม่เพียงแต่มีอำนาจ การที่จะยกย่องใครบางคนซึ่งมีอำนาจก็คือ ผ่านการให้ความเคารพของเขา (อเวียก 10/1/91)

การพูดว่า "ท่านก่อน" หมายถึงการคงอยู่อย่างมั่นคงในสภาวะของความเคารพตนเอง การให้ความเคารพผู้อื่นหมายถึงการพูดว่า "ท่านก่อน" มันไม่ใครจะเป็นเพียงแต่ว่าลูกเพียงแต่พูดด้วยปากเท่านั้นว่า "ท่านก่อน" ขณะที่การกระทำแตกต่างไป จงมั่นคงอยู่ในสภาวะของความเคารพตนเองและให้ความเคารพ และอะไรเป็นสัญลักษณ์ของการให้ความเคารพต่อผู้อื่น ขณะที่อยู่ในสภาวะของการเคารพตนเอง จงตรวจสอบสองสิ่งอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งคือท่าทีของความหยิ่งทะนง และอีกอันหนึ่งคือท่าทีการประฌาม ผู้ซึ่งมั่นคงอยู่ในสภาวะของการเคารพตนเองและเป็นผู้ซึ่งให้ความเคารพกับผู้อื่น จะไม่มีท่าทีทั้งสองนั้นไม่ว่าเป็นความหยิ่งทะนงหรือการประฌามเยาะเย้ย อะไรคือทัศนคติของ  "คนนี้ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็เกิดขึ้น"  นี่ก็เป็นการประฌามดวงวิญญาณในรูปที่สูงส่ง  การมั่นคงอยู่ในสภาวะของความเคารพตนเองและให้ความเคารพนั้นรู้กันในคำพูดว่า "ท่านก่อน" ตรวจสอบสองสิงนี้ ไม่ควรจะมีท่าทีไม่ว่าของการประฌามหรือของความหยิ่งทะนง เมื่อไม่มีสองสิ่งนี้ ก็จะมีความเคารพตนเอง ไม่ว่าลูกจะเรียกร้องมันหรือไม่ ไม่ว่าลูกคิดเกี่ยวกับมันหรือไม่ ทั้งธรรมชาติและผู้คนก็จะให้ความเคารพต่อลูกอย่างอัตโนมัติและสม่ำเสมอ ลูกจะไม่ได้รับความเคารพ ถ้ามีความปรารถนาแม้เพียงเล็กน้อยต่อความเคารพแม้ในความคิด การถ่อมตนหมายถึง การพูดว่า "ท่านก่อน" สภาวะของการถ่อมตนจะสามารถทำให้ลูกได้รับความเคารพโดยอัตโนมัติ พูดว่า "ท่านก่อน" ในสถานการณ์นั้นจะนำมาซึ่งความเคารพ หมายถึงการกลายเป็นเหมือนพ่อ ในการให้ความเคารพบราห์มาบาบาพูดเสมอว่า "จั๊กกัดอัมบาก่อน      แม่สรัสวาตีก่อน แล้วพ่อบราห์มา"  ถึงแม้บราห์มาบาบาจะเป็นแม่ ในเวลาที่ให้ความเคารพท่านก็จะให้แม่จั๊กกัดอัมบาอยู่ข้างหน้า ท่านให้ลูก ๆ อยู่ข้างหน้าในทุก ๆ งาน และในสภาวะของการทำควมเพียร ท่านจะทำตัวท่านเองให้เป็นคนแรกในรูปของหัวรถจักรเสมอ (อเวียก 6/12/87)

ผู้ที่อยู่อย่างถ่อมตนได้รับความเคารพจากทุกคน  ถ้าลูกเป็นผู้ถ่อมตนแล้วผู้อื่นจะให้ความเคารพ ไม่มีใครให้ความเคารพกับผู้ซึ่งยโสโอหัง พวกเขาจะไปให้ไกลห่างจากผู้นั้น ถึงแม้ว่าลูกจะยิ่งใหญ่และถ่อมตนหรือไม่ สัญลักษณ์ของผู้ที่มีความถ่อมตนคือจะให้ความสุขต่อทุกคน ไม่ว่าทีใดที่พวกเขาไป อะไรก็ตามที่พวกเขาทำ มันจะเป็นสิ่งที่ให้ความสุข (อเวียก 25/11/63 กลุ่ม 2)

ขอให้ลูกเป็นนายและเป็นเด็ก ผู้ให้ความเคารพต่อคำแนะนำของทุก ๆ คน และโดยเหตุนี้ได้รับความเคารพจากทั้งโลก ไม่ว่าเขาจะเยาว์วัยหรือสูงวัย จงให้ความเคารพต่อคำแนะนำของทุกคนอย่างแท้จริง  เพราะว่าการปฏิเสธคำแนะนำของผู้ใดหมายถึงการปฏิเสธตัวลูกเอง  ดังนั้น แม้ว่าลูกต้องการให้ใครบางคนหยูดพูดเรื่องไร้ประโยชน์ สิ่งแรกจงให้ความเคารพและนับถือ ลูกจะได้รับความนับถือจากทั้งโลก สำหรับสิ่งนี้ให้กลายเป็นนายผู้ซึ่งเป็นเด็ก และให้กลายเป็นเด็กผู้ซึ่งเป็นนาย สติปัญญาของลูกควรจะอยู่ในสภาวะที่ไม่มีขีดจำกัด และเต็มไปด้วยความปรารถนาดี และเมตตากรุณา (ซาคาร์ 11/06/96)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ


Wednesday, October 11, 2023

คุณธรรม - ความพร้อม (Readiness)

 


การเป็นผู้พร้อมเสมอหมายถึง ลูกไปทันทีทันใดที่ได้รับคำสั่ง ลูกเป็นอิสระจากสำนึกว่า "ของฉัน" ถึงระดับนี้หรือไม่ ลูกได้รับการบอกก่อนแล้วว่าพร้อมกับสำนึกของการเป็นร่าง สำนึกที่ใหญ่ที่สุดของคำว่า "ของฉัน" นั่นคือมีเส้นด้ายเงินเส้นด้ายทองของความหยิ่งยโสของตนเองหลายเส้น ดังนั้น ตรวจสอบด้วยสติปัญญาที่ละเอียดอ่อน ไม่ใช่ด้วยสติปัญญาที่หยาบ  ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นของลูก แต่ด้วยสติปัญญาที่ละเอียดอ่อนและบริสุทธิ์แล้ว  ตรวจสอบดูว่าไม่มีความซาบซึ้งใดที่เป็นการชั่วคราว เป็นเส้นด้ายที่จะกลายเป็นเครื่องมือที่จะดึงลูกให้ถอยหลัง (อเวียก 09/01/95)

บัดนี้ธรรมชาติกำลังปลุกลูกผู้เป็นนาย เพราะว่าลูก ๆ เป็นผู้ซึ่งไม่ได้ให้คำสั่งกับมัน ดูซิ มันสร้างความวุ่นวายมากเท่าไร เมื่อลูกผู้เป็นนายกลายเป็นผู้พร้อมแล้ว ธรรมชาติก็จะเชื้อเชิญลูก ลูกพร้อมแล้วใช่ไหมในวิธีนี้ ผู้เป็นนายพร้อมแล้วหรือยัง ลูกพร้อมแล้วหรือลูกยังกำลังจะพร้อม จนกระทั่งวันนี้ผู้บูชาลูกก็ยังร้องเพลงสรรเสริญถึงการตระเตรียมที่สมบูรณ์ของลูก ลูกรู้คำสรรเสริญของลูกหรือไม่ มันเป็นคำสรรเสริญที่ยาวมาก ๆ ลูกรู้ไหม ชาวต่างชาติกำลังพูดถึงคำสรรเสริญของลูก บัดนี้ตรวจดูลูกทั้งหมดควรจะมีคุณธรรมทั้งหมด ลูกควรจะปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ลูกควรจะเป็นผู้ที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงอย่างสิ้นเชิง และลูกควรจะมีชีวิตอยู่ในกฏระเบียบอันสูงส่งที่สุด และเป็นผู้สมบูรณ์พร้อม 16 องศาสมบูรณ์พร้อม ลูกทั้งหมดได้กลายเป็นสิ่งนี้หรือไม่ ลูกเต็มในทุกสิ่งหรือไม่ ถ้าลูกเต็มในทุกสิ่งเหล่านี้ เป็นที่เข้าใจว่าผู้เป็นนายพร้อมแล้ว ถ้ายังมีเปอร์เซ็นในสิ่งนี้ (ยังไม่เต็ม) ผู้เป็นนายยังไม่พร้อม ลูกเป็นลูก แต่ลูกยังไม่กลับมาเป็นนาย ดังนั้น วัตถุธาตุจะเชื้อเชิญลูกหรือ ลูกเป็นลูก ๆ ของบาบา นั่นก็ดีมาก ลูกได้ผ่านในสิ่งนี้  อย่างไรก็ตาม การเป็นนายหมายถึงการเป็นผู้สมบูรณ์ในทั้งห้าประเด็นเหล่านี้ทั้งหมด ควรที่วัตถุธาตุจะได้รับคำสั่งหรือ ควรไหม ลูกจะไม่พูดว่าใช่กับสิ่งนี้หรือ (อเวียก 25/02/91)

คำถามของการทำลายล้างโลกได้แยกออกจากคำถามของการทำให้ตัวลูกเองพร้อมเสมอ ดังนั้น อย่าได้รวมทั้งสองสิ่งนี้ ดวงวิญญาณที่แตกต่างมีบทบาทที่แตกต่าง ดังนั้น อย่าได้คิดว่าลูกไม่มีส่วนในกลุ่มแอ๊ดวานซ์ปาร์ตี้ หรือว่าลูกมีบทบาทหลังการทำลายล้าง บางดวงวิญญาณมีบทบาทนั้น แต่ลูกควรจะคงอยู่ในความพร้อมเสมอ มิฉะนั้นร่องรอยของความไม่ระมัดระวังจะปรากฏขึ้น ลูกเฝ้าแต่คิดอะไร จงพร้อมเสมอ แล้วแม้แต่ลูกจะต้องอยู่อีก 20 ปี ก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ แต่อย่าได้มีชีวิตอยู่บนพื้นฐานนั้น (อเวียก 26/01/90)

รูปในทางปฏิบัติของผู้ซึ่งพร้อมเสมอนั่นคือ พวกเขามีความสุขเสมอ ไม่สำคัญว่าข้อสอบอะไรจะมา ไม่ว่าสถานการณ์การทำลายล้างตามธรรมชาติ หรือความทุกข์ทรมานผ่านร่างกาย เพียงแต่ผู้ซึ่งผ่านทั้งหมดในข้อสอบเหล่านี้ทั้งหมด ถูกเรียกว่าเป็นผู้พร้อมเสมอ เหมือนเช่นเวลาไม่ได้คอยผู้ใดเช่นเดียวกัน ไม่มีการกีดขวางใดที่ควรจะหยุดลูก (ซาคาร์ 14/06/96)

ทุกคนมีความพร้อมเสมอและเป็นผู้ที่สามารถในทุกสิ่งหรือไม่ พร้อมเสมอหมายความว่า เมื่อมีคำสั่งมา ลูกก็ไปทันที ลูกได้รับคำสั่งและพูดว่า "ฮา จี - ใช่" ไม่ใช่ว่า "ฉันจะทำอะไร ฉันจะทำอย่างไร อะไรจะเกิดขึ้น จะเกิดขึ้นอย่างไร ฉันจะสามารถหรือฉันจะไม่" ถ้าความคิดเช่นนี้เข้ามา แล้วสมญานามว่าพร้อมเสมอ ก็ไม่สามารถให้ออกไปได้ ความพิเศษของผู้ทำความเพียรพยายามอย่างเข้มข้น คือพร้อมเสมอและมีความสามารถในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะมีโอกาสได้รับใช้ผ่านความคิด คำพูด และการกระทำ ก็เป็นคนแรกในทุก ๆ กรณี (อเวียก 23/01/80)

ณ เวลาปัจจุบัน ลูกก็เปลี่ยนสีของลูกอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วลูกจะถูกทาด้วยสีหนึ่ง ซึ่งติดแน่นซึ่งไม่สามารถจะถูกทาโดยสีอื่น ๆ และมันก็ไม่สามารถถูกลอกออกโดยใคร ๆ และมันก็ไม่จางหายไป หรือมันจะไม่ถูกทาโดยสีอื่นใด ลูกจะต้องเป็นผู้ตื่นตัวในทุก ๆ สิ่ง ลูกจะต้องคงอยู่อย่างพร้อมเสมอตลอดเวลาสำหรับการรับใช้ทุกชนิด เมื่อมีงานเกิดขึ้น ผู้ซึ่งตื่นตัวและรวดเร็วสามารถที่จะเข้าใจงานนั้นและบรรลุผลสำเร็จ ผู้ซึ่งไม่ตื่นตัวเฝ้าแต่คิดเกี่ยวกับงาน และพวกเขาก็จะไม่ได้รับความสำเร็จด้วย การตื่นตัวหมายถึงการมีความพร้อมเสมอ พวกเขาสามารถที่จะจำงานแต่ละงานได้ พวกเขาสามารถที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องในงานเหล่านั้น และก็ประสบความสำเร็จด้วย พวกเขาจะมีทั้งสามสิ่งนี้ เขาผู้ซึ่งหนักหน่วงไม่สามารถที่จะถูกเรียกว่าเป็นผู้ตื่นตัว ผู้ซึ่งมีความหนักหน่วงในความเพียรของพวกเขาหรือในสันสการ์ของพวกเขาไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นผู้ตื่นตัว ผู้ซึ่งตื่นตัวเป็นผู้พร้อมเสมอและง่ายดาย เมื่อตัวลูกเองกลายเป็นผู้ที่ง่ายดาย งานทั้งหมดก็ง่าย แล้วความเพียรทั้งหมดก็ง่ายดาย เมื่อตัวลูกเองไม่ได้กลายเป็นผู้ที่ง่ายดาย ไม่ว่าความเพียรหรืองานรับใช้ก็จะไม่ง่ายดาย แล้วลูกก็จะต้องเผชิญกับความลำบาก งานรับใช้ไม่ได้มีความยาก แต่สันสการ์ของลูกและความอ่อนแอของลูกปรากฏให้เห็นในรูปของความยากลำบาก (อเวียก 17/11/69)

การเป็นผู้พร้อมเสมอหมายถึง เป็นผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างรวดเร็ว อย่าคิดว่าการทำลายล้างจะยังใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และดังนั้น ลูกจะพร้อมในตอนนั้น อย่าได้รอจนขณะสุดท้าย ลูกไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อไรจะเป็นเวลาสุดท้ายของลูก และดังนั้น จงพร้อมเสมอ ลูก ๆ ต่างชาติพร้อมเสมอหรือไม่ ลูกยังต้องทำอะไรอยู่อีกหรือ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตอนนี้จะเป็นสิ่งดี ลูกพร้อมถึงระดับนี้หรือไม่ หรือลูกยังมีความคิดว่าลูกยังต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่ใช่ ขอให้ลูกเป็นผู้ที่เป็นอิสระจากความผูกพันยืดติดอย่างสม่ำเสมอ เป็นอิสระจากความคิดที่เป็นบาป เป็นอิสระจากสิ่งไร้สาระใด ๆ มันไม่ควรจะมีสิ่งไร้สาระแม้เพียงเล็กน้อย นี่เป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้พร้อมเสมอ (อเวียก 02/12/93)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Tuesday, October 10, 2023

คุณธรรม - ความสงบ (Peace)

 


บาบากล่าวว่า ลูกๆ ดวงวิญญาณทั้งหลายคือ รูปธรรมของความสงบ  ถ้าลูกปรารถนาที่จะนั่งอยู่ในความสงบ ลูกจะต้องคิดว่าตัวลูกเป็นดวงวิญญาณ และเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ  ลูกสามารถนั่งอยู่ในความสงบได้ไม่นานนัก  ดังนั้น บาบาอธิบายว่า : ความสงบคือศาสนาดั้งเดิมของลูก เมื่อเรากลายเป็นผู้ละวางจากอวัยวะเหล่านี้ ดวงวิญญาณก็จะเต็มไปด้วยความสงบ ดวงวิญญาณสามารถที่จะคงสภาพตนเองในศาสนาดั้งเดิมของตนได้นานเท่านานที่ดวงวิญญาณต้องการ ไม่ว่าเราจะทำงานผ่านร่างกายนี้หรือไม่  ดังนั้นลูกสามารถนั่งอยู่ในความสงบ นี่คือความสงบที่แท้จริง (ซาคาร์ 16/06/96)

กองทัพแห่งพลังทางดวงวิญญาณนี้เป็นกองทัพที่ไม่เหมือนใคร  มันมีชื่อว่ากองทัพทางดวงวิญญาณ แต่พลังอำนาจพิเศษของกองทัพคือ อำนาจของความเงียบ มันเป็นกองทัพที่นำมาซึ่งความสงบและไร้ความรุนแรง ดังนั้นวันนี้บัพดาดากำลังดูลูก ๆ ทุกคน ท่านกำลังมองดูผู้ซึ่งเป็นผู้ให้ความสงบ ท่านดูว่าแต่ละคนสามารถสะสมอำนาจแห่งความเงียบไปถึงระดับใดแล้ว อำนาจของความเงียบเป็นอาวุธพิเศษของกองทัพทางดวงวิญญาณนี้ อำนาจของความเงียบเปลี่ยนแปลงทั้งโลก จากความไม่สงบไปสู่ความสงบ  มันไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงดวงวิญญาณมนุษย์ แต่มันเปลี่ยนแปลงธรรมชาติด้วย ลูกยังจะต้องเข้าใจและมีประสบการณ์ของอำนาจของความเงียบนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ยิ่งลูกเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจนี้มากขึ้น ลูกก็จะมีประสบการณ์ของความยิ่งใหญ่และความสำคัญของอำนาจของความเงียบนี้

อย่างไรก็ตาม อำนาจของความเงียบก็ยังสูงส่งกว่าอำนาจของคำพูดและงานรับใช้ทางกาย เครื่องมือของอำนาจของความเงียบก็สูงส่งเช่นกัน  เช่นที่เครื่องมือของงานรับใช้โดยคำพูดคือรูปภาพเครื่องฉายภาพ หรือวีดีโอที่ได้เตรียมไว้  เช่นเดียวกัน เครื่องมือของอำนาจของความเงียบ คือความคิดที่บริสุทธิ์ ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ และภาษาของดวงตา เช่นที่ผ่านภาษาของปากลูกให้คำแนะนำของบาบาและสิ่งสร้าง เช่นเดียวกันพื้นฐานของอำนาจของความเงียบ เหมือนภาพที่เห็นด้วยเครื่องฉายภาพ เช่นเดียวกันโดยผ่านอำนาจของความเงียบ ภาพลักษณ์ของลูก เช่นกันกับประกายจากภาพลักษณ์ของพ่อสามารถแสดงอย่างชัดเจนบนหน้าผากของลูก

ถ้าลูกมั่นคงอยู่ในสภาวะของความรู้สึกที่บริสุทธิ์ และความรู้สึกของความรัก ความรู้สึกเหล่านั้นก็จะปรากฏขึ้นในผู้อื่นด้วย ความรู้สึกบริสุทธิ์ของลูกจะสร้างอารมณ์แก่พวกเขา เหมือนอย่างเช่นเปลวไฟหนึ่งสามารถจุดต่อไปยังที่อื่น ๆ ด้วย เช่นกัน ความรู้สึกบริสุทธิ์ที่ทรงพลังของลูก จะทำห้ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ที่สูงส่งของผู้อื่นปรากฏขึ้นอย่างง่ายดาย ขณะที่ใช้คำพูดลูกสามารถทำงานทางกายภาพได้อย่างง่ายดาย เช่นกันด้วยเครื่องมือที่สูงส่งของอำนาจของความเงียบ นั่นคือความคิดบริสุทธิ์ ลูกก็สามารถทำงานทางร่างกายอย่างง่ายดาย และสามารถดลใจให้ผู้อื่นทำงานนั้นด้วย เหมือนเช่นโทรศัพท์และวิทยุเป็นเครื่องมือของพลังของวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกันความคิดบริสุทธิ์เช่นนั้นจะทำให้ลูกมีประสบการณ์ของการทำงานสำเร็จได้เหมือนกับการพูดคุยตัวต่อตัวผ่านโทรศัพท์หรือวิทยุ

ดังนั้น เฮ้! ผู้ประทานความสงบ ดวงวิญญาณที่สูงส่ง จงมีประสบการณ์ของอำนาจของความเงียบ ด้วยการฝึกเช่นนี้ ลูกก็มีคำพูดที่เต็มไปด้วยอำนาจ ขณะที่เวลาผ่านไปลูกจะไม่มีเวลาทำงานรับใช้ผ่านคำพูด หรือเครื่องมือที่เป็นวัตถุ ณ เวลาเช่นนี้ เครื่องมือของอำนาจของความเงียบจะเป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่าถ้าอาวุธนั้นเต็มไปด้วยพลัง จะทำงานได้อย่างมากมายในเวลาที่น้อย สิ่งที่ซึ่งละเอียดอ่อนที่สุดเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก  ดังนั้นความคิดบริสุทธิ์มีพลังมากกว่าคำพูด ดังนั้น อิทธิพลของความละเอียดอ่อนทรงพลังมาก เมื่อคำพูดไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ เครื่องมือของอำนาจของความเงียบ ความคิดบริสุทธิ์ ความรู้สึกบริสุทธิ์ และประสบการณ์ของความเมตตาและความรัก โดยผ่านภาษาของดวงตา ก็สามารถจะทำให้งานสำเร็จได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าบางคนโต้แย้งมาก แล้วด้วยคำพูดพวกเขาก็จะโต้แย้งมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ลูกจะทำกับคนเช่นนี้อย่างไร ลูกจงนำเขานั่งในการคิดถึง และให้พวกเขามีประสบการณ์ของอำนาจของความเงียบได้ไหม และถ้าพวกเขาสัมผัสความเงียบ โดยผ่านการคิดถึงแม้เพียงหนึ่งวินาที พวกเขาก็จะล้มเลิกสติปัญญาที่ขัดแย้งของพวกเขา ต่อหน้าประสบการณ์ของความสงบ ดังนั้น จงเพิ่มอำนาจของความเงียบ 

เฮ้! ผู้ประทานความสงบ ผู้กราบไหว้บูชาของลูกสัมผัสความสงบชั่วคราวจากรูปปั้นที่ไม่มีชีวิตของลูก ส่วนมากพวกเขาร้องขอความสงบ เพราะว่าด้วยความสงบนั้นเองที่จะมีความสุข บัพดาดากำลังดูว่ามีดวงวิญญาณเท่าไรที่มีประสบการณ์ของอำนาจของความเงียบ มีกี่คนเพียงแต่พูด และมีกี่คนที่มีประสบการณ์กับสิ่งนั้น สำหรับประสบการณ์นั้นบุคคลต้องมีการตรวจสอบภายใน และอยู่อย่างสันโดษ

การอยู่ในสันโดษไม่ได้หมายถึง การถอนตัวจากทุกสิ่ง ขณะที่มีชีวิตอยู่ในบ้านของการทำงานรับใช้ มันจะมีเวลาว่างในระหว่างงานมากมาย  ซึ่งลูกจะสามารถใช้เวลานั้นอยู่ในสันโดษ การอยู่ในสันโดษหมายถึงการอยู่ในสภาวะที่ทรงอำนาจสภาวะใดสภาวะหนึ่ง จงมั่นคงอยู่ในสภาวะที่เป็นเมล็ด ทำตัวลูกเองให้มั่นคงเช่นผู้รับใช้ในสภาวะของการเป็นประภาคารแห่งแสงที่ทรงอำนาจ นั่นคือเป็นผู้ที่ให้แสงและอำนาจต่อโลก

โดยผ่านสภาวะของการเป็นนางฟ้า จงให้ผู้อื่นสัมผัสกับสภาวะที่ละเอียดอ่อน ถ้าลูกเพ่งรวมและกลายเป็นสภาวะซึ่งละเอียดอ่อนนี้ แม้เพียงหนึ่งนาทีหรือหนึ่งวินาที สภาวะของหนึ่งนาทีนี้สามารถที่จะนำประโยชน์มาให้ลูกและผู้อื่น การอยู่ในสันโดษหมายถึง ทำจิตใจและสติปัญญาของลูกให้มั่นคงอยู่ในสภาวะที่ทรงอำนาจ ลูกเห็นซาคาร์บาบาแล้ว สัญลักษณ์ของความใกล้สภาวะสมบูรณ์พร้อม นั้นคือ แม้แต่เมื่อกำลังรับฟังข่าวของงานรับใช้ ท่านก็อยู่ในความสันโดษ ดังนั้นลูกเคยมีประสบการณ์ของสัญลักษณ์ของสภาวะที่สมบูรณ์พร้อมของท่านของการกลับเข้าสู่ภายในและสันโดษ ขณะที่เคลื่อนไหว รับฟัง และรับประทานอาหาร 

แม้แต่เมื่อเครื่องมือคนอื่นทั้งหมดที่ทำงานรับใช้อยู่ ณ ที่นั่น ก็จะมีความต้องการงานรับใช้โดยผ่านอำนาจของความเงียบด้วย เพราะว่าอำนาจของความเงียบ เป็นอำนาจที่ให้ประสบการณ์    ลูกก็จะพาพวกเขาไปไกลโพ้นแค่เหลือบมอง โดยผ่านเครื่องช่วยของอำนาจของความเงียบ

ด้วยความคิดที่บริสุทธิ์ของลูก ลูกก็จะจบสิ้นความคิดไร้สาระของดวงวิญญาณอื่น ด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของลูก ลูกก็จะสร้างความรู้สึกของความรักต่อบาบาในใจพวกเขา ด้วยวิธีนี้ลูกก็ทำให้ดวงวิญญาณพอใจด้วยอำนาจของความเงียบ และแล้วพวกเขาก็จะร้องสรรเสริญต่อหน้าดวงวิญญาณของลูก สิ่งมีชีวิตผู้ประทานความสงบ โดยการพูดว่า "ท่านผู้ประทานความสงบ ท่านผู้ประทานความสงบ" (อเวียก 18/11/87)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Monday, October 9, 2023

คุณธรรม - การเชื่อฟัง (Obedience)

 


ลูก ๆ บางครั้งก็เชื่อฟัง เพราะว่าพวกเขาจำได้ และบางครั้งก็จำคำสอนได้ หลังจากที่ได้กระทำบางสิ่งลงไปแล้ว ทำไมเป็นเช่นนี้  เพราะว่าดวงวิญญาณไม่ได้เป็นรูปธรรมของการจดจำคำสอนเหล่านั้น  นั่นเพราะไม่มีประสบการณ์ของผลที่เห็นได้จากความคิดที่สูงส่ง หรือการกระทำที่สูงส่ง หลังจากที่ได้แสดงการกระทำไปแล้ว ดวงวิญญาณก็นึกได้ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น สภาวะอันดับหนึ่งคือ เมื่อมีความง่ายและมีสำนึกของการเชื่อฟังโดยอัตโนมัติ  และอับดับสองคือ อะไรที่ลูกได้ยินมา นั้นคือผู้ซึ่งบางครั้งเชื่อฟังคำสอนแล้วจึงแสดงการกระทำ  แต่บางครั้งก็จำคำสอนได้เมื่อได้กระทำลงไปแล้ว  

ผู้ที่เชื่อฟังอันดับหนึ่งไม่ต้องใช้ความพยายามในทุุก ๆ การกระทำ  เพราะว่าในการกระทำตลอดทั้งวัน  จากอมฤตเวลาถึงเวลากลางคืน พวกเขาแสดงการกระทำใด ๆ ตามคำสั่งจากคำสอน  ดังนั้น พวกเขาจึงมีประสบการณ์ของพรอันพิเศษจากบาบาในรูปของผลที่ได้รับ  เพราะว่าพรจากหัวใจของบาบามีอยู่ในทุกย่างก้าวของลูก ๆ ที่เชื่อฟัง  เพราะพรที่ได้จากหัวใจทุก ๆ การกระทำ คือผลที่สมบูรณ์ การกระทำคือเมล็ด และเพราะว่าการกระทำเป็นเมล็ด ผลสำเร็จที่ได้รับคือผลของเมล็ด ดังนั้นเพราะว่าเมล็ดนั่นคือ ทุกการกระทำของดวงวิญญาณที่เชื่อฟังอันดับหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ดวงวิญญาณนั้นบรรลุผลสำเร็จของผลแห่งการกระทำนั้น ทุก ๆ การกระทำ นั่นคือเขาได้รับความพอใจและความสำเร็จมีความพอใจกับตนเองและกับผลของการกระทำด้วย  เช่นเดียวกันกับการติดต่อและการมีความสัมพันธ์กับดวงวิญญาณอื่น  ดวงวิญญาณที่เชื่อฟังอันดับหนึ่ง จะมีประสบการณ์ของความพอใจทั้งสามชนิดนี้อยู่เสมอ ๆ และเป็นอัตโนมัติ (อเวียก 14/01/88)

ลูกพูดว่าลูกเป็น บราห์มากุมารี : เราลูก ๆ ของบัพดาดาเป็นผู้ที่เชื่อฟังท่าน และเป็นผู้ช่วยของท่าน ลูกจะต้องทำในทางปฏิบัติในทุก ๆ สิ่งที่ลูกพูด การพูดอะไรบางสิ่งหมายถึง การทำสิ่งนั้น  ไม่ควรจะมีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ลูกพูดกับสิ่งที่ลูกทำ ลูกพูดว่าลูกเป็นลูกของนาย ผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด และลูกทำอะไรหรือ ลูกพูดเกี่ยวกับความอ่อนแอ ดังนั้นจากวันนี้ ทำให้มั่นคงว่าลูกจะทำทุกสิ่งที่ลูกได้พูดออกไป เมื่อใครก็ตามได้เห็นคนเช่นนี้ พวกเขาก็จะทำด้วยตัวเองให้เหมือนกัน พวกเขาจะทำตามโดยอัตโนมัติ ลูกก็จะไม่ต้องลำบาก (อเวียก 28/09/69)

ผู้ซึ่งเดินไปทุกก้าวตามศรีมัทของบาบา ผู้ซึ่งพูดว่า "ครับ นายท่าน" กับพ่อ นายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาดผู้เดียว ผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันในฐานะเป็นพระเจ้าและผู้เดียวซึ่ง ณ บัดนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าของลูก ๆ นั่นคือ ผู้ซึ่งทำตามคำสั่งในทางปฏิบัติเป็นเขาทั้งหลาย ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ของทุก ๆ  พลังอำนาจที่จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา นั่นคือ อำนาจพูดว่า "ครับ นายท่าน" ต่อพวกเขา

ถ้าผู้ใดสามารถทำตามศรีมัท หรือคำสั่งอย่างง่าย ๆ และปฏิบัติตาม แต่จะไม่ทำตามที่เขาเห็นว่ายาก  ถ้าเขาทำตามบางคำสั่ง แต่ไม่ทำตามบางอย่าง บางครั้งพูดว่า "ครับ นายท่าน" และบางครั้งพูดว่า "ไม่ครับ นายท่าน"  การพิสูจน์ในทางปฏิบัติ  ตัวอย่างในทางปฏิบัติ นั่นคือ ไม่ใช่ว่าพลังอำนาจทั้งหมดจะมาตามคำสั่งสำหรับดวงวิญญาณเช่นนี้ในเวลาที่ต้องการ(อเวียก 20/12/92)

ในระเบียบของการประกาศสิทธิในสิทธิทั้งหมดของคุณธรรมและพลังอำนาจจงเชื่อฟัง (ซาคาร์ 12/04/96)

ลูก ๆ ผู้ซึ่งทำให้คำสอนที่ยิ่งใหญ่ของพ่อเป็นจริงถูกเรียกว่า ลูกผู้เชื่อฟัง พรของบาบาจะถูกส่งไปยังลูกผู้เชื่อฟัง ลูก ๆ ผู้เชื่อฟังจะมีค่าควรกับพรโดยอัตโนมัติ เข้าใจไหม (อเวียก 10/03/86)

ทำไมพ่อบราห์มา จึงได้กลายเป็นอันดับหนึ่ง ท่านเชื่อฟังคำสั่งของพ่อ ครู สัตกูรู อย่างมั่นคง ท่านพูดว่า "ครับ นายท่าน" กับทุก ๆ คำสั่ง ลูกได้เห็นว่าท่านทำตามคำสั่งของพ่ออย่างไร การที่จะได้รับมรดกเต็มจากมรดกทั้งหมด และการที่จะทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นกันในทางปฏิบัติด้วย ท่านใช้สมบัติของความรู้ทั้งหมด อำนาจ และคุณธรรม ความสำคัญของเวลาที่สูงส่ง และสมบัติของความคิดที่สูงส่งจากวันแรกจนวันสุดท้าย  คำสั่งของพ่อนั้นคือ ลูกจะต้องไม่ทำให้เวลาสูญเปล่า แม้แต่ชั่วอึดใจ หนึ่งความคิดหรือหนึ่งวินาที ดังนั้นลูกทำตามคำสั่งนี้ในทางปฏิบัติตลอดทั้งวันหรือไม่ หรือบางครั้งลูกก็นำไปปฏิบัติและบางครั้งก็ไม่ ถ้าลูกเชื่อฟังบางครั้งแต่บางครั้งไม่ แล้วลูกจะอยู่ในรายชื่อใด

จงพูดอยู่เสมอว่า "ครับ นายท่าน" และนายก็จะมาอยู่เบื้องหน้า พ่อชีว่าเคยไหมที่จะอยู่แยกจากพ่อบราห์มา ท่านอยู่ตลอดเวลาใช่ไหม ลูกพูดว่า "บาบา" และพ่อพูดว่า "ลูกที่น่ารัก" และดังนั้นท่านคงอยู่ตลอดเวลา ท่านพูดเสมอว่า "ครับ นายท่าน" กับงานรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ทันทีที่ท่านได้รับคำสั่งเพื่องานรับใช้ ท่านจะลงมือทันที และในการแสดงการกระทำ ท่านก็จะพูดเสมอว่า "ฮา จี" (อเวียก 26/01/95)

อะไรเป็นก้าวแรกที่พ่อบราห์มาทำตามศรีมัทของพ่อ ก้าวแรกก็คือท่านกลายเป็นผู้เชื่อฟัง ท่านนำคำสอนที่ได้รับมาปฏิบัติ  ดังนั้นตรวจดู : ว่าลูกได้ทำตามพ่อในสิ่งแรกหรือไม่ คือ เชื่อฟังจาก     อมฤตเวลาจนถึงกลางคืน ลูกได้ใช้ชีวิตไปตามคำสอนที่ลูกได้รับมาสำหรับความคิด คำพูด  การกระทำ การติดต่อ และความสัมพันธ์หรือไม่ หรือลูกสามารถทำให้บางคำสอนเป็นจริงและบางอย่างไม่ได้ทำหรือไม่ ความคิดของลูกเป็นไปตามคำสอนที่ได้รับ หรือลูกนำความคิดอื่นไปผสม ถ้ามีการผสม ลูกเป็นผู้เชื่อฟังเต็ม ๆ หรือเชื่อฟังครึ่งเดียว ลูกได้รับคำสอนที่ชัดเจนสำหรับความคิดของลูกในทุกขณะ

ในทุก ๆ ขณะลูกได้เดินตามรอยเท้าของบาบาหรือไม่ หรือรอยเท้าของพ่อก็อย่างหนึ่งรอยเท้าของลูกก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง นั่นจะไม่ถูกเรียกว่าผู้เชื่อฟังใช่ไหม ไม่ว่าในการติดต่อกับพระเจ้าหรือในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น  ตรวจดูเปอร์เซ็นว่าลูกทำตามคำสั่งที่ได้รับมาของทั้งสองสิ่งมากเท่าใด ลูกรู้วิธีตรวจสอบใช่ไหม ก้าวแรกนั้นคือท่านได้กลายเป็นผู้เชื่อฟัง และนี่เองที่ทำไมผู้ที่เชื่อฟังจะได้รับพรจากพ่อโดยอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ลูกก็จะได้พรจากครอบครัวบราห์มิน ดังนั้นตรวจสอบดูความคิดอะไรที่ลูกมีอยู่ ไม่ว่าเพื่อตัวลูกเอง เพื่องานรับใช้ เพื่อการกระทำทางร่างกาย หรือเพื่อดวงวิญญาณมากมาย ตัวลูกคงอยู่ในการเชื่อฟัง สัญลักษณ์ของสิ่งนั้นคือความพอใจในหัวใจ

ถ้าลูกเชื่อฟังอย่างถูกต้อง ถ้าลูกได้รับพรแล้วตัวลูกและคนอื่นก็เช่นกัน จะคงอยู่อย่างร่างแสงและเบาสบาย (อเวียก 19/01/95)

ถ้าลูกโกรธใครบางคน ลูกก็จะสะสมการลงโทษเป็นร้อยเท่า สภาวะของลูกก็จะตกลงมา เพราะว่าลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า เมื่อลูกได้รับคำสั่งจาก "ธรรมราช" ว่าลูกจะต้องบริสุทธิ์ ถ้าหลังจากลูกได้กลายเป็นของพระเจ้าแล้ว ลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งของท่าน ลูกก็จะสะสมการลงโทษเป็น 100 เท่า (ซาคาร์ 09/06/96)

การทำตามคำสั่งในทุกย่างก้าวอย่างสม่ำเสมอ หมายถึง การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อการเป็นเพื่อนร่วมทาง ลูกเป็นผู้ซึ่งทำตามความรับผิดชอบนี้ให้สมบูรณ์ หรือเป็นเพียงผู้ซึ่งมีแต่ความรัก ซึ่งสามารถมีการเชื่อมต่อเพียงเวลาสั้น ๆ แล้วก็หยุดละทิ้งการเชื่อมต่อ ถูกเรียกว่าผู้ซึ่งกำลังพัฒนาความรักต่อพระเจ้า ผู้ซึ่งทำให้ความรับผิดชอบต่อความรักเป็นจริง ก็จะถูกดูดเข้าไปในความรัก พวกเขาก็จะหมดสำนึกของร่างและความสัมพันธ์ทางร่างอย่างหมดสิ้น (อเวียก 19/10/75)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Sunday, October 8, 2023

คุณธรรม - ความเมตตา (Mercy)

 


ณ ขณะนี้งานพิเศษของลูก ลูก ๆ ของพ่อผู้เต็มไปด้วยความเมตตา คือ การเมตตาต่อทุกดวงวิญญาณ ลูกมีความเมตตาที่พิเศษต่อผู้ซึ่งโง่เขลาและผู้ซึ่งไม่มีความรู้  ผู้ซึ่งโง่เขลาทำอะไรกัน เมตตาหมายถึงการให้ความกล้าหาญในทุกรูปแบบ ให้อำนาจกับดวงวิญญาณที่อ่อนแอ นี่คือการเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความเมตตา (อเวียก 10/12/92)

จงมีเมตตากับตนเองและกับคนอื่น  อย่าพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกได้เห็นหรือได้ยินมา  อย่าเก็บมาคิด การไม่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นซึ่งไร้สาระ  หมายถึง การมีความเมตตาต่อตนเอง การไม่ดูมันหมายถึงการมีเมตตาต่อตนเอง  จงมีเมตตาอย่างสม่ำเสมอ จงมีความเห็นใจต่อผู้ซึ่งทำบางสิ่งหรือพูดบางสิ่ง  นี่หมายความว่า การมีความปรารถนาดีและเมตตาต่อดวงวิญญาญที่ลูกได้เห็นหรือได้ยินเรื่องไร้สาระจากพวกเขา  ลูกไม่ได้มีความเมตตาในทางอื่น ลูกไม่ได้ให้พรด้วยมือของลูก  แต่การไม่เก็บสิ่งที่เห็นไว้ในความคิดหมายถึง การมีเมตตาต่อดวงวิญญาณนั้น ถ้าใครพูดเกี่ยวกับส่งไร้สาระที่ได้พบหรือได้ยิน  นั้นหมายถึงว่าเมล็ดของต้นไม้ที่ไร้ประโยชน์กำลังเติบโต  

เมื่อลูกแพร่กระจายสิ่งที่ไร้สาระไปในบรรยากาศ มันก็กลายเป็นต้นไม้  เพราะว่าใครก็ตามที่เห็นหรือได้ยินบางสิ่งที่ไม่ดี ไม่สามารถที่จะเก็บไว้ในจิตใจของเขาได้  เขาจะต้องพูดและบอกผู้อื่นเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อย่างแน่นอน  และอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขามาพบกัน  หลาย ๆ คนที่มาก็จะรับข้อมูลจากผู้นั้น  ดังนั้นเมื่อพวงประคำถูกสร้างขึ้นเป็นสาย  คนที่เริ่มต้นมันก็จะกลายเป็นผู้ที่ดื้อดึงยิ่งกว่าเดิมเพื่อจะพิสูจน์สิ่งไร้สาระ  และยิ่งขยายเรื่องไร้สาระนั้นกว่าเดิม ดังนั้นอะไรที่แผ่กระจายไปในบรรยากาศหรือ  กระแสที่ไร้สาระได้กระจายไป มันเป็นกระแสที่ไม่ดีได้กระจายไป  กระแสที่ไม่ดีนั้นเป็นพรหรือไม่  ดังนั้น จงสลายเรื่องไร้สาระที่ลูกได้เห็นมาด้วยความรัก ขณะที่ฟังเรื่องราวอย่าขยายความออกไป นี่เป็นที่รู้กันว่าความมีเมตตาต่อผู้อื่นด้วยการให้พร (อเวียก 31/12/87)

จงเป็นผู้มีความเมตตาต่อผู้ที่โง่เขลา ดวงวิญญาณที่โศกเศร้าก็อยู่ในครอบครัวเดียวกับลูก ลูกควรจะมีความเมตตาจากหัวใจ เพื่อความรวดเร็วในความเพียรพยายามของครอบครัวบราห์มิน และเพื่อความก้าวหน้าของตนเองด้วย  ก็มีความต้องการความเมตตาด้วย  เมื่อลูกมีความเมตตาก็มีความก้าวหน้าของตนเอง  เพราะว่าดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างเป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ มีทัศนคติความไม่ใส่ใจอันไม่มีขีดจำกัด  มันควรจะมีความเมตตาต่อตนเองว่า ฉันเป็นดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นของพ่อสูงสุด  และมีเป้าหมายของการที่จะมาทัดเทียมพ่อ ควรจะมีความเมตตาจากหัวใจ  ความเมตตาจากหัวใจของลูกสามารถที่จะทำให้ลูกมีความไม่ใส่ใจต่อความอ่อนแอ ลูกเป็นรูปธรรมของจุด (.) แต่อะไรเป็นสิ่งที่ต้องการเป็นกรณีพิเศษ สำหรับการกลายเป็นตัวแห่งจุด ความเมตตาต่อตนเองและความเมตตาต่อผู้อื่น

บนหนทางของความรู้ก็เช่นกัน ผู้ซึ่งมีเมตตาอย่างถูกต้องจะไม่กลัวสามสิ่ง  แต่พวกเขาจะมีอำนาจที่จะก้าวพ้นต่อสิ่งนี้  สิ่งเหล่านี้คือ ความไม่ระมัดระวัง ความอิจฉา และความเกลียดชัง  90% ของเหตุผลของความอ่อนแอหรือข้อเสียใด ๆ คือสามประเด็นเหล่านี้ ความเมตตาจากหัวใจ จบสิ้นความไม่ระมัดระวัง และเมื่อมีความรู้สึกของความเมตตาต่อตนเอง ดังนั้น ในฐานะที่เป็นทัศนคติและสำนึกที่เป็นในทางเดียวกัน พวกเขาก็มีความเมตตาสำหรับบราห์มินทั้งหมดในโลกโดยอัตโนมัติ และความเมตตาอย่างถูกต้องนี้อยู่บนพื้นฐานความรู้  จะไม่ยอมให้ความรู้สึกอิจฉาหรือเกลียดชังปรากฏจากหัวใจ  พร้อมกับความเมตตาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ ก็มีความซาบซึ้งทางดวงวิญญาณของตนด้วย แต่พร้อมกับความเมตตาก็จะมีความซาบซึ้งด้วย จะมีความสมดุลระหว่างสองสิ่ง ถ้าเป็นความเมตตาธรรมดาก็มีความเป็นไปได้ ที่จะถูกอิทธิพลของดวงวิญญาณนั้น ไม่ว่าในรูปของความผูกพันหรือในความอ่อนแอใด ๆ (อเวียก 31/03/90)

มีเพียงผู้ที่มีความเมตตาเหล่านั้นที่สามารถนำมาซึ่งประโยชน์ต่อผู้อื่น (อเวียก 09/12/93)

ลูกสามารถที่จะได้ยินการเรียกจากเวลาที่ละเอียดและของดวงวิญญาณทั้งหมดตามเวลาหรือไม่? หรือลูกคงอยู่อย่างวุ่นวายอยู่เสมอกับตัวลูกเอง ดวงวิญญาณที่กราบไหว้ลูกของกัลปที่แล้ว กำลังปลุกเรียกลูกซึ่งเป็นเทพที่วิเศษของพวกเขา พวกเขาสวดวิงวอน "โปรดมา โปรดมา"

ขณะที่พวกเขาลุ่มหลงอยู่ในเสียงเพลงที่ใช้ปลุกเรียก นั่นคือ ขณะที่บรรเลงเพลงอย่างมากมาย พวกเขาตะโกนด้วยเสียงอันดัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ มากมาย ที่จะทำให้ลูกทุก ๆ คนมีความสุข ขณะที่ฟังพวกเขา ในรูปที่มีชีวิต ในวิธีที่แฝงตัว ลูกไม่มีความเมตตาต่อพวกเขาหรือ หรือลูกยังวุ่นวายอยู่กับความเมตตาสำหรับตัวลูกเอง ด้วยการทำตนให้มั่นคงอยู่ในรูปของผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกเท่านั้น  ผู้สละที่ยิ่งใหญ่และผู้ให้แห่งพร ลูกจึงสามารถมีความเมตตา ลูกจะมีความเมตตาเมื่อลูกมีประสบการณ์ของตนเองในรูปของแม่ชาวโลกหรือพ่อของชาวโลก เพราะฉะนั้นลูกจะไม่มีความอดทนต่อความทุกข์  หรือไม่เข้าใจดวงวิญญาณใด อย่างไรก็ตาม ลูกก็คงอยู่ในรูปนี้อย่างมั่นคงชั่วเวลาที่สั้นมาก  ตามกำหนดของเวลา รูปของการทำงานรับใช้ จะต้องกว้างและไม่มีขีดจำกัด อะไรเป็นรูปของงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกจะเรียกสิ่งที่ลูกทำอยู่ว่าเป็นงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด  ลูกจะเรียกว่าอะไรที่ลูกทำ ณ เวลาปัจจุบัน ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่ ว่าลูกมีการพบปะที่ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่ ถ้าเปรียบกับเวลาช่วงแรก ลูกอาจจะเรียกมันว่าไม่มีขีดจำกัด แต่อะไรเป็นรูปอันไม่มีขีดจำกัดสุดท้าย (อเวียก 03/10/75)

ผู้คนจากทุกศาสนาร้องขอความเมตตา พวกเขาร้องขอสิ่งนี้อย่างแน่นอน มันไม่สำคัญว่าใครเป็นของศาสนาใด  แต่พวกเขาอาจจะไม่ร้องขอความสุข แต่พวกเขาต้องการความเมตตา ดังนั้น ใครจะเป็นผู้ให้สิ่งนี้กับพวกเขา ลูกคือผู้ให้ใช่ไหม หรือลูกเป็นผู้รับ ลูกเป็นกลุ่มผู้ซึ่งรับมาแล้วก็แจกจ่ายให้แก่ผู้อื่น ลูกเป็นลูก ๆ ของผู้ให้ ดังนั้น จงมีความเมตตาต่อพี่น้องชายหญิงของลูก และเมื่อลูกทำงานรับใช้ ขณะที่เป็นผู้ที่มีความเมตตา ก็จะมีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือโดยอัตโนมัติ ไม่สำคัญว่าเขาจะเลวเท่าใด ถ้าลูกมีความเมตตาสำหรับดวงวิญญาณนั้น ลูกจะไม่มีความรู้สึกที่ไม่ชอบอิจฉาหรือโกรธต่อดวงวิญญาณนั้น ความรู้สึกเมตตานำมาซึ่งความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ มันไม่ควรจะมีความรู้สึกเมตตาที่อยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัว แต่จงมีความเมตตาที่แท้จริง ภายในลูกอาจจะมีความผูกพันกับดวงวิญญาณบางดวง แต่ลูกคิดว่าลูกมีเมตตาต่อดวงวิญญาณนั้น ดังนั้นนั่นคือความเมตตาที่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่เมตตาที่แท้จริง จะไม่มีความผูกพันใด ๆ ในความเมตตาที่แท้จริง จะไม่มีสำนึกของความเป็นร่างใด ๆ หรือชื่อ หรือร่องรอยของการดึงดูดทางร่างกาย

บัดนี้ตรวจดูว่า ลูกมีความเมตตาที่ไม่เห็นแก่ตัวหรือไม่? ลูกมีแมตตาซึ่งเป็นอิสระจากการผูกพันยึดติดหรือไม่? (อเวียก 10/03/96)

จงตรวจสอบเสมอว่า "เมื่อได้กลายมาเป็นลูกของพ่อผู้เต็มไปด้วยความเมตตา ฉันได้ให้ความเมตตากับดวงวิญญาณไปมากเท่าใด"  ไม่เพียงแต่ด้วยคำพูด แต่ผ่านความคิดของลูก ทัศนคติและบรรยากาศ ลูกควรจะสามารถที่จะให้พลังอำนาจที่ได้รับจากพ่อกับดวงวิญญาณทั้งหมด  (อเวียก 17/03/91)

ความปรารถนาดีหมายถึงการเป็นผู้มีความเมตตา ในฐานะที่มีเพียงบาบาที่ให้การช่วยเหลือกับผู้ซึ่งได้รับอันตราย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงวิญญาณชนิดใดที่มาอยู่ที่เบื้องหน้าลูกตอนนี้ ด้วยสภาวะจิตที่มีเมตตา ความปรารถนาดีของลูกก็เปลี่ยนแปลงพวกเขา (อเวียก 21/01/80)

ลูกจะมีอำนาจของความอดทนใช่ไหม? ลูกจะมีอำนาจของการหลอมเป็นหนึ่งเดียวใช่ไหม? ลูกจะมีอำนาจของความอดทนใช่ไหม? มันเป็นที่เข้าใจกันแล้ว เมล็ดนี้หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเมล็ดของการให้และการรับของพร ต้นไม้ก็หลอมรวมอยู่ในนี้โดยอัตโนมัติ และวิธีของสิ่งนี้คือการจดจำสองคำ คำแรกคือ การแก้ไขให้ถูกต้อง  หรือการสอน และอีกคำหนึ่งคือ ให้อภัยหรือเมตตา ลูกได้เพียรพยายามอย่างมากที่จะทำการแก้ไข แต่ลูกไม่รู้ว่าจะให้อภัยอย่างไร ลูกจะต้องให้อภัย การให้อภัยก็จะเป็นเหมือนกับให้การแก้ไข เมื่อลูกให้การแก้ไข ลูกก็ลืมที่จะให้อภัย แต่ถ้าลูกให้อภัย แล้วการแก้ไขก็จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ มันเป็นการง่ายมากที่จะเป็นครู ลูกจะกลายเป็นครูทันทีที่ลูกจบหลักสูตร 7 บท ลูกจะต้องมีการให้อภัย ลูกจะต้องมีเมตตา ลูกจะต้องไม่เป็นเพียงแต่ครูเท่านั้น ถ้าลูกให้อภัย และเพียงแต่ลูกซึมซับสันสการ์นี้จากบัดนี้ ลูกจึงจะสามารถให้พรได้ ถ้าลูกทำสันสการ์ของการให้พรให้เข้มแข็งจากบัดนี้ไป แล้วผู้คนก็จะมารับพรจากลูกรูปปั้นที่ไร้ชีวิตของลูกอย่างต่อเนื่อง (อเวียก 30/11/92)

ความเมตตานี้ ปกติแล้วมีสำหรับผู้ซึ่งเป็นผู้ที่กำลังประสบกับความทุกข์ (อเวียก 13/01/86)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความ โดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ


Saturday, October 7, 2023

คุณธรรม - ความเป็นผู้ใหญ่ (Maturity)

 


การเคารพตัวเอง จบสิ้นความยโสโอหัง ดังนั้น ทำตัวลูกให้มั่นคงอยู่ในความเคารพตนเองของลูก  รักษาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไว้ในสำนึกของลูก ลูกไม่ควรที่จะให้ความบันเทิงมากเกินไปหรือจริงจัง และเคร่งเครียดเกินไป จงมีความสมดุล จงให้ความบันเทิงในเวลาที่ถูกต้อง และจริงจังเคร่งเครียดในเวลาที่ถูกต้อง ก่อนอื่นรักษาความสมดุล (อเวียก 30/03/85)

ผู้ซึ่งมีพลังอำนาจของความอดทน เขาจะเป็นผู้ที่ล้ำลึกและเป็นผู้ใหญ่ด้วยอย่างแน่นอน ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ดำดิ่งไปสู่ความลึก  ผู้ที่ดำดิ่งไปสู่ความลึกจะไม่เคยกลัวต่องานใด ๆ พวกเขาจะได้รับความสำเร็จด้วยการเจาะลึกเข้าไปสู่ส่วนลึก (อเวียก 08/06/71)

คุณธรรมของความเป็นผู้ใหญ่สามารถทำให้ลูกก้าวหน้าไปอย่างใหญ่หลวง ถ้าลูกปล่อยบางสิ่งออกไป ลูกอาจคิดว่าลูกได้ทำดีแล้วด้วยการทำเช่นนั้น  แต่ในความเป็นจริงลูกได้เพียงครึ่งเดียวของประโยชน์  ลูกได้ผลเพียงครึ่งหนึ่งและได้สะสมประโยชน์ไว้เพียงครึ่งเดียว  ผู้ซึ่งเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ จะสะสมทั้งหมด มีการพูดว่าแม่จั๊กกัดอัมบา คงอยู่อย่างเป็นผู้ใหญ่มาก  ถึงแม้ว่าเธอได้ทำงานรับใช้ทางร่างกายน้อยกว่าลูกทั้งหมด ลูกทั้งหมดกำลังทำงานรับใช้อย่างมากมาย  แต่คุณธรรมของความเป็นผู้ใหญ่ทำให้จั๊กกัดอัมบา สามารถเก็บรวบรวมรายได้ของเธออย่างเต็มที่ เธอไม่ได้สูญเสียสิ่งใดเลยจากรายได้นั้น

ผู้คนมากมายทำงานอย่างมาก แต่พวกเขาได้เสียหายไปครึ่งหนึ่งหรือสามส่วนสี่ของประโยชน์จากงานรับใช้ แต่เมื่อบางสิ่งเกิดขึ้น ลูกสูญเสียทั้งหมดของประโยชน์ หรือไม่ก็ถ้าบางสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้น ลูกก็เสียไปสามส่วนสี่ของประโยชน์จากงานรับใช้  เช่นเดียวกัน ถ้าลูกพูดบางสิ่งเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง ลูกก็เสียประโยชน์ไปแล้วครึ่งหนึ่ง แล้วอะไรจะเหลืออยู่  เพราะว่าความพิเศษของจั๊กกัดอัมบาคือ การเก็บรวบรวมในรายได้ด้วยการเป็นเทวี ของความเป็นผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับลูกทั้งหมด ควรจะมีความเป็นผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าลูกจะอยู่ในมธุบัน หรืออยู่ที่ศูนย์ของลูก  บัพดาดากำลังมองดูทุกคน ให้สะสมคะแนนผ่านความเป็นผู้ใหญ่ เพราะว่าด้วยการพูดเกี่ยวกับสิ่งใด ๆ ลูกก็ทำลายประโยชน์ทั้งหมด ไม่สำคัญว่า ไม่ว่าลูกจะพูดถึงสิ่งดีหรือไม่ดี  ถ้าลูกพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ดี นั่นคือความหยิ่งทะนง  ถ้าหากลูกพูดเกี่ยวกับสิ่งร้าย และใครล่ะ ที่ลูกกำลัง ประฌามแต่ละคน ควรจะปรากฏเป็นเทพและเทวีของความเป็นผู้ใหญ่ มีความต้องการเป็นอย่างมากสำหรับความเป็นผู้ใหญ่ ณ เวลาปัจจุบัน แล้วอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อลูกให้การบรรยาย และดังนั้น ลูกก็พัฒนานิสัยของการพูดมาก  ดังนั้นลูกจะพูดอะไรก็ตามที่เข้ามาในความคิดของลูก อย่างไรก็ตาม อิทธิพลที่ลูกสร้างขึ้นโดยความเป็นผู้ใหญ่ไม่สามารถสร้างผ่านคำพูด (อเวียก 07/11/95)

จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ"(The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

Friday, October 6, 2023

คุณธรรม - มารยาท (Manners)

 


ทั้งใบหน้าและการกระทำของดวงวิญญาณที่สูงส่ง จะให้ประสบการณ์ของมารยาทแห่งสัจธรรม  ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ดวงวิญญาณที่สูงส่งเป็นที่รู้จักกันว่า เทวีแห่งมารยาท การพูดของพวกเขา การเดินของพวกเขา การรับประทานและการดื่มของพวกเขา การนั่งและการยืน ทุก ๆ การกระทำของพวกเขา จะเปิดเผยมารยาทและสัจธรรมอย่างอัตโนมัติ  มันไม่ควรจะเป็นเช่นว่า ลูกทำเพื่อพิสูจน์ความจริง แต่ว่าลูกไม่มีมารยาทใด ๆ ลูก ๆ หลายคนพูดว่า   "โดยปกติฉันไม่มีความโกรธ แต่เมื่อใครพูดโกหก ฉันก็จะโกรธ"  บางคนพูดโกหก แต่ลูกพูดด้วยความโกรธ  ทั้งสองคนนี้ใครถูกต้อง ผู้ซึ่งพิสูจน์ความจริง  จะมีมารยาทเสมอ บางคนฉลาดและพูดว่า "ฉันไม่ได้โมโห แต่เสียงของฉันดัง  และเสียงของฉันดุ" ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เราสามารถลดหรือเพิ่มเสียง  ดังนั้น ลูกทำไม่ได้หรือ  ด้วยพลังอำนาจของความเงียบ ลดหรือเพิ่มเสียงของลูก (อเวียก 11/12/91)

ความฉลาดอื่นใดที่บาบาเห็น ทุกวันนี้ลูกใช้ภาษาที่พิเศษมาก ๆ ลูกพูดว่า เราทนไม่ได้ที่จะเห็นความหลอกลวง  เราไม่สามารถที่จะทนที่จะได้ยินเกี่ยวกับความหลอกลวงใด ๆ และนี่เองที่ทำไม เมื่อเราเห็นบางสิ่ง มันมีอำนาจเป็นอย่างมาก เข้ามารบกวนภายในเรา เมื่อเราได้ยินบางสิ่งไม่ถูกต้อง มีพลังอำนาจเป็นอย่างมาก (ความหงุดหงิด กระวนกระวาย) ภายในเรา ดังนั้นมันถูกต้องหรือ  ภาษานี้ถูกต้องหรือ  ควรจะมีพลังอำนาจเมื่อมีบางสิ่งไม่จริง  ควรมีหรือ ถ้ามีความไม่ถูกต้อง และลูกกลายเป็นผู้ทรงอำนาจ เห็นว่านั่นไม่ถูกต้อง พลังอำนาจของลูกจริงหรือเท็จ มันเป็นอะไร  ดังนั้น พลังอำนาจนั้นไม่ถูกต้อง ใช่หรือไม่  "ฉันจะทำสิ่งนี้เพื่อแสดงให้พวกเขาดู"  "ฉันจะจบสิ้นความไม่ถูกต้องและทำให้พวกเขาดู"  การท้าทายในรูปแบบนี้ถูกต้องหรือไม่  หรือว่ามันไม่ถูกต้อง ลูกกำลังทำบางสิ่งที่ดี เมื่อลูกทำให้มันจบสิ้น มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่ 

ดังนั้น จำไว้เสมอว่าอะไรคือสัญลักษณ์ของความไม่ถูกต้อง คนที่ทำตามความถูกต้องและต้องการที่จะจบสิ้นความไม่ถูกต้อง มีจุดประสงค์ที่ดีว่าเขาต้องการที่จะหยุดความไม่ถูกต้อง  อย่างไรก็ตามเพื่อให้ความไม่ถูกต้องจบลง ลูกต้องการอำนาจที่ถูกต้องด้วย แล้วการบีบบังคับและความโกรธ เป็นสัญลักษณ์ของความถูกต้องหรือ?  มันจะมีพลัง เมื่อมันมีความถูกต้องหรือ  ควรจะมีแม้แต่เพียงเล็กน้อยหรือไม่ ไม่ควรจะมีเลย  ถ้าฉันรู้สึกโมโหจากการเห็นว่าสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง  ถ้าฉันโกรธที่เห็นว่าบางสิ่งนั้นมันผิด  มันถูกต้องหรือ มันไม่ถูกต้อง  ลูกจะไม่รู้สึกร้อนหรือถ้ามีใครบางคนจุดไฟ  หรือลูกสามารถอยู่อย่างถูกกระทบโดยความร้อน ถ้าลูกมีความรู้ว่า นี่คือไฟของความไม่ถูกต้อง แล้วลูกสามารถรู้สึกของความร้อนนั้น แล้วลูกจะทำอะไรเพื่อตัวลูกเอง ลูกจะรักษาตัวลูกเองให้ปลอดภัยใช่หรือไม่  หรือลูกจะพูดว่าลูกไม่สามารถจะหนีจากความร้อนของไฟนั้น ลูกจะรักษาตัวลูกให้ปลอดภัยใช่หรือไม่  หรือมันจะไม่เป็นไรที่ถูกไฟลวกเล็กน้อยด้วยความร้อนของไฟนั้น

ดังนั้น ให้คิดไว้เสมอว่า สัญลักษณ์ของความถูกต้องคือมารยาท ถ้าลูกเป็นคนจริงและลูกมีอำนาจที่ถูกต้อง ลูกก็จะไม่เคยทำให้ตัวลูกเองไม่มีมารยาท พิสูจน์ความจริงแต่เต็มไปด้วยมารยาท  ถ้าลูกเสียมารยาทของลูก และปรารถนาที่จะพิสูจน์ความจริงโดยไม่มีมารยาท ลูกจะไม่สามารถพิสูจน์ความจริง ในความเป็นจริง อะไรที่เกิดขึ้นคือ ลูกปรารถนาจะพิสูจน์ความจริง  แต่ถ้าลูกไม่มีมารยาทและพิสูจน์ความจริง แล้วการพิสูจน์ความจริงก็จะกลายเป็นความดื้อรั้น  ไม่ใช่การพิสูจน์ สัญลักษณ์ของการขาดมารยาทคือความดื้อรั้น  สัญลักษณ์ของมารยาทคือความถ่อมตน  ผู้ที่พิสูจน์ว่าบางสิ่งผิดและยอมรับผิด  จงคงอยู่ในความถ่อมตนอย่างสม่ำเสมอ และจะโต้ตอบด้วยมารยาท 

ดังนั้น ลูกเคยได้ยินเกี่ยวกับความฉลาดชนิดที่สองหรือไม่ ดังนั้น อย่าได้ฉลาดในวิธีนี้ นี่ก็เป็นการบ้าน  จงทิ้งความฉลาดเช่นนี้และกลับมาถ่อมตนอย่างสมบูรณ์  การพูดว่าฉันถูก คนนี้ผิด มันไม่ใช่ความถ่อมตน ผู้คนชาวโลกพูดเหมือนกันว่า  ถ้าใครบางคนต้องการพิสูจน์ความจริง มันต้องมีบางสิ่งที่ไม่ค่อยถูกต้อง  นี่ได้กลายเป็นภาษาของคนบางคน  "ฉันกำลังบอกท่านถึงความจริงที่สมบูรณ์ ฉันกำลังบอกความจริง 100% แต่ไม่มีความต้องการที่จะต้องพิสูจน์ความจริง  ความจริงเหมือนดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่สามารถคงอยู่อย่างซ่อนเร้น  ไม่ว่าจะมีผนังสักกี่ชั้นมากั้นอยู่ตรงหน้า มันก็ไม่สามารถปกปิดแสงของความจริง บุคคลซึ่งเต็มไปด้วยความจริงจะไม่เคยพูดว่า  ฉันกำลังพูดความจริง ถึงแม้ว่าคนอื่นอาจพูดว่า ลูกกำลังพูดความจริง (อเวียก 15/04/92)

เป็นจักรพรรดิผู้เบาสบายจากสิ่งไร้สาระ  บางคนนำไปใช้ผิด ๆ เมื่อมันมาในรูปของกฏระเบียบ พวกเขาพูดว่า บัพดาดาได้เคยพูดไว้ให้กลายเป็นจักรพรรดิผู้ไร้กังวล  อย่างไรก็ตาม อย่าได้กลายเป็นความไร้กังวลในกฏระเบียบ (อเวียก 09/01/95)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul)  ถอดความโดย BK. ทรงยศ เปี่ยมใจ



Thursday, October 5, 2023

คุณธรรม - ความเบาสบาย (Lightness)

 


เมื่อพ่ออยู่กับลูก อย่าได้แบกภาระด้วยตัวลูกเอง จงมอบภาระให้กับพ่อและจงเบาสบาย เมื่อลูกเก็บภาระไว้ด้วยตนเอง ลูกก็จะเศร้าโศก  จงรักษาความเบาสบายและลูกก็จะเฝ้าแต่โบยบิน ให้ทุก ๆ สิ่งกับพ่อ เมื่อลูกไม่มีสิ่งใดแล้วภาระจะมาจากที่ใด  มันเป็นเพราะว่าลูกได้เก็บบางสิ่งไว้นั่นเองที่ลูกมีภาระและกลายเป็นผู้โศกเศร้า (อเวียก 31/12/93 กลุ่ม 2)

จงทำตนเองให้มั่นคงอยู่ในสภาวะไร้ร่าง เมื่อใดก็ตามที่ลูกเลือก และกลายเป็นคาร์มาโยคี เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการ การฝึกฝนนี้ควรจะลึกอย่างยิ่ง มันไม่ควรจะเป็นว่าลูกปรารถนาจะเป็นผู้ไร้ร่าง แต่ถ้าพันธะทางร่างกาย พันธะของกรรม  พันธะของสิ่งที่มีการครอบครอง หรือบ่วงพันธะของลักษณะนิสัย  หรือสันสการ์ดึงดูดลูกไปยังพวกมัน  และไม่ปล่อยให้ลููกอยู่อย่างไร้ร่าง มันเป็นเช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่คับ เมื่อใครก็ตามสวมเสื้อผ้าที่คับ และเมื่อมีความต้องการหรือมีความปรารถนาที่จะถอดออกในหนึ่งวินาที พวกเขาก็จะทำไม่ได้และต้องพยายามมาก ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะว่า มันเกี่ยวกับติดกับร่างกาย เช่นกัน การดึงของบ่วงพันธะใด ๆ จะดึงลูกเข้าหามัน บ่วงพันธะทำให้ดวงวิญญาณอึดอัด ดังนั้น บัพดาดาจะสอนสิ่งนี้บ่อย ๆ จงเป็นอิสระและไร้ซึ่งอิทธิพลครอบงำ เป็นอิสระและจงอย่าให้มีอิทธิพลครอบงำ นั่นคือละวางและมีความรัก  จะต้องมีการฝึกฝนที่ยาวนาน รับฟังความจริง ให้ความจริงกับผู้อื่น และการทำงานรับใช้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง แต่การฝึกฝนนี้สำคัญที่สุด เพื่อที่จะผ่านอย่างมีเกียรติ มันสำคัญที่จะต้องผ่านการฝึกฝนนี้ ดังนั้น จงขีดเส้นเน้นสองเส้นใต้และใส่ใจต่อการฝึกฝนนี้ แล้วเพียงเท่านี้ลูกก็จะสามารถกลายเป็นผู้ที่เบาสบายและเป็นร่างแสง บรรลุถึงสภาวะคาร์มาทีท (kamateet) และประกาศสิทธิในมงกุฏทั้งสอง (อเวียก 29/12/89)

ลูก ๆ ทั้งหมดเป็นโยคีที่ง่ายดายใช่หรือไม่ การมีความสัมพันธ์ทั้งหมดหมายถึง การกลายเป็นโยคีอย่างเป็นธรรมชาติและโยคีที่ง่ายดาย  ถ้ามีความสัมพันธ์มันก็ง่าย การคิดว่า ฉันเป็นดวงวิญญาณโยคีที่ง่ายดาย หมายถึง ปัญหาทั้งหมดจบสิ้นลง เพราะความเป็นโยคีอย่างเป็นธรรมชาติ โยคีที่ง่ายดาย หมายถึงการมีบาบาอยู่ร่วมทางด้วยอย่างสม่ำเสมอ ทีใดมีพ่อเป็นผู้ร่วมทาง พ่อผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด ก็จะมีประสบการณ์ของอำนาจทั้งหมดด้วย และดังนั้น ปัญหาก็เปลี่ยนรูปไปเป็นการแก้ไขปัญหา แล้วบาบาก็เข้าใจปัญหาและเป็นผู้รับผิดชอบกับปัญหานั้น ด้วยอำนาจของความสัมพันธ์ปัญหาก็จบสิ้นลง ดังนั้น จะไม่มีปัญหาที่ว่า "ฉันจะทำอะไรได้" บาบารู้ว่าควรจะทำอะไร  บาบารู้เกี่ยวกับปัญหา ฉันเป็นผู้ที่ละวางและเป็นที่รักของ บาบา และดังนั้นปัญหาทั้งหมดจึงเป็นของท่าน แล้วลูกก็จะเบาสบาย

เมื่อลูกรู้สึกเบาสบายแล้ว สิ่งอื่น ๆก็จะเบาสบาย ถ้ามีความกังวลแม้แต่เล็กน้อยก็จะมีความหนักหน่วง  แล้วทุก ๆ สิ่งก็จะดูหนักหน่วง  และดังนั้นจงทำให้ดวงวิญญาณเบาสบาย ละวาง แล้วก็จะมีความเบาในทุกสิ่ง นี่คือวิธีการ และด้วยวิธีการนี้ก็จะประสบความสำเร็จ และก็เช่นกัน แม้แต่บัญชีกรรมในอดีตก็จะถูกสะสางไปด้วย จะไม่มีประสบการณ์ของภาระที่ต้องรับผิดชอบ ลูกจะเป็นผู้เฝ้าดูที่ละวาง ดูว่าบัญชีกรรมในอดีตกำลังจบสิ้นลง

วิธีการทำให้บัญชีกรรมในอดีตเบาลง คือการทำให้ปัจจุบันเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ และโดยการรักษาการบรรลุผลแห่งปัจจุบันไว้เสมอ ณ เบื้องหน้าลูก ทุกสิ่งก็จะง่ายดายมาก อดีตก็จะเปลี่ยนจากความทุกข์ทรมานไปเป็นหนามเล็ก ๆ แล้วก็จะไม่มีคำถามอื่นอีกต่อไป "มันคืออะไร ทำไมมันเป็นเช่นนี้" มันเป็นอดีต และดังนั้นอะไรคือเป้าหมายของการดูเรื่องในอดีตล่ะ ถ้ามีความรัก และอุปสรรคก็ดูไม่หนักหน่วง มันดูเหมือนเป็นเกมส์ ด้วยพรและยาแห่งความสุขของปัจจุบัน บัญชีทั้งหมดสามารถที่จะถูกสะสาง (อเวียก 10/04/84)

ในระดับที่ลูกคงอยู่อย่างละวาง ตามระดับนั้นนั่นเองที่ลูกจะได้รับความรักจากพ่อ ไม่สำคัญว่า สภาวะแวดล้อมจะเป็นเช่นไร หรือมีปัญหาอะไร ลูกไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่ใต้อำนาจของปัญหา แต่ขณะที่เป็นผู้มีสิทธิอันสมบูรณ์  ลูกก็เอาชนะปัญหาทั้งหมด ในฐานะที่ว่าลูกเพียงแต่กำลังเล่นเกมส์มีความสุขอย่างสม่ำเสมอขณะที่เล่นเกมส์  ไม่สำคัญว่าเกมส์นั้นจะเป็นเกมส์อะไร และเพราะมันเป็นเพียงเกมส์  ไม่สำคัญว่ามันเป็นบทอะไรที่ลูกต้องเล่น  ลูกจะมีประสบการณ์ของความสุขภายใน  ใช่ไหม?  แม้แต่ถ้าภายนอก มันเป็นบทที่ลูกจะต้องร้องไห้  ก็จงคงสำนึกภายในไว้ว่า  นี่เป็นเพียงเกมส์ทั้งหมด  ดังนั้นด้วยวิธีนี้  อะไรก็ตามที่มาอยู่เบื้องหน้าลูกคือเกมส์ที่ไม่มีขีดจำกัด  ซึ่งลูกเรียกมันว่าละคร และลูกทั้งหมดก็คือผู้แสดงที่เป็นวีรบุรุษของละคร

บางครั้งลูกลืมว่า นี่คือเกมส์และมีประสบการณ์กับปัญหาว่ามันคือปัญหา ใช่ไหม ไม่ว่าจะยากอย่างไร สภาวะการณ์ที่มาอยู่ตรงหน้าของลูก  โดยการพิจารณาว่าทุกสิ่งคือเกมส์ แม้แต่สถานการณ์จะยาก  ก็กลายเป็นเบาสบาย  ดังนั้นเพราะความเบาสบาย ผู้ซึ่งมีความรักและละวาง จะคงอยู่อย่างเบาสบาย และมีสภาพเป็นแสงอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ของภาระที่ต้องแบกใด ๆ เพราะการกลายเป็นของพ่อหมายถึงการให้ภาระที่ต้องแบกไว้ทุกสิ่งกับพ่อ  เมื่ออันธพาลรู้ว่าบางคนมีทรัพย์และพวกเขาสามารถจะเอาบางสิ่งจากคนเหล่านั้น  พวกเขาก็เข้ามาขโมยเอา  ถ้าพวกเขารู้ว่า พวกเขาไม่สามารถเอาอะไรได้  พวกเขาจะมาขโมยอะไร ถ้าลูกเก็บแม้แต่ของเล็กน้อยไว้  แล้วอันธพาลนั่นคือมายาก็จะต้องมาอย่างแน่นอน  เธอก็จะมาและเอาของที่เป็นของเธอพร้อมกันก็จะเอาพลังอำนาจที่ลูกได้รับจากพ่อไปด้วย  นี่เองที่ลูกจะต้องไม่เก็บสิ่งใด ๆ ไว้ ลูกได้ให้ทุกสิ่งแล้ว การเป็น "ดับเบิ้ลไลท์" (เป็นแสงและเบาสบาย) หมายถึง การให้ทุกสิ่งกับพ่อ (อเวียก 23/12/93)

ลูกคือดับเบิ้ลไลท์ใช่ไหม? หรือบางครั้งลูกมีประสบการณ์ของภาระหนี้กรรม บัพดาดาบอกลูก ๆ ทั้งหมด "ลูกทั้งหมดคือจักรพรรดิผู้ไร้กังวล"  เมื่อลูกกลายเป็นจักรพรรดิผู้ไร้กังวล มันจะไม่มีภาระหนี้กรรมใด

การเป็นลูกหมายถึง การเป็นอิสระจากความกังวล ดังนั้นลูกคือลูก ๆ ใช่ไหม หรือลูกได้โตขึ้นแล้ว ความกังวลอะไรที่ลูก ๆ มีอยู่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จงมอบให้บาบา ผู้ซึ่งรู้วิธีให้กับบาบาดำรงอยู่อย่างดับเบิ้ลไลท์อย่างสม่ำเสมอ (อเวียก 26/10/91)

สัญลักษณ์ของสภาพที่โบยบินคือ การเป็นดับเบิ้ลไลท์อย่างสม่ำเสมอ ถ้าลูกไม่เป็นดับเบิ้ลไลท์ ลูกก็จะไม่มีสภาพที่โบยบิน แล้วแม้ว่าภาระหนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะดึงลูกให้ต่ำลง มันเป็นเพียงในสภาพเมื่อลูกนั่งเครื่องบิน  ถ้ามีความสกปรกแม้น้อยนิดในเครื่องยนต์หรือน้ำมัน แล้วอะไรจะเกิดขึ้น จากสภาพที่กำลังบิน มันก็จะไปสู่สภาพที่ตกลงต่ำ  ดังนั้นที่นี่ด้วยเช่นกัน ถ้ามีภาระที่หนักชนิดใด ไม่ว่าจากสันสการ์ของลูกเอง บรรยากาศ หรือเมื่อมาติดต่อหรือมีสัมพันธ์กับดวงวิญญาณอื่น ถ้ามีภาระหนี้ที่หนักหน่วง และแล้วจากสภาพที่โบยบิน ลูกก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

พวกเขาจะพูดว่า "แน่นอน ฉันสบายดี แต่เพราะเหตุผลที่มีบ่วงพันธะของสันสการ์นี้ของคน ๆ นี้  หรือของบรรยากาศ"  แต่ไม่สำคัญหรอกว่าเป็นเหตุผลอะไร ไม่สำคัญว่ามันคืออะไร ผู้ที่มีความเพียรพยายามอย่างรวดเร็ว จะข้ามพ้นทุกสิ่งที่เข้ามา เหมื่อนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะไม่คิดว่ามันเป็นการเพียรพยายาม แต่เป็นเครื่องบันเทิงใจ

จรวดสามารถบินได้รวดเร็วมาก เมื่อมันอยู่พ้นแรงดึงดูดของโลก แม้กระนั้นมันไม่สามารถจะบินสูง มันจะต้องตกลงมาแม้ว่ามันจะต้องการบินสูง ความดึงดูดชนิดใด ๆ ก็ตามจะไม่สามารถทำให้ลูกบินสูงได้ มันจะไม่ยอมให้ลูกเข้าสู่สภาพสมบูรณ์ ดังนั้นตรวจสอบดูว่า ไม่มีการดึงดูดใด ๆ แม้แต่ในความคิดของลูก นอกจากพ่อแล้วไม่ควรจะมีการดึงดูดใด ๆ (อเวียก 09/12/93 กลุ่ม 1)

สัญลักษณ์ของการเป็นรูปธรรมแห่งคุณธรรม นั่นคือ ลูกเป็นดับเบิ้ลไลท์อย่างสม่ำเสมอ ไม่สำคัญว่าความรับผิดชอบที่ลูกมีจะใหญ่เท่าใด ลูกเป็นรูปธรรมแห่งคุณธรรมอย่างสม่ำเสมอ และลูกก็คงอยู่อย่างดับเบิ้ลไลท์อย่างสม่ำเสมอ การเป็นดับเบิ้ลไลท์ แม้แต่ถ้ามีงานฉลองหรือการแสดง และสัญลักษณ์ของดวงวิญญาณที่สามารถทำงานรับใช้ คือ เป็นเครื่องมือที่ถ่อมตนอย่างสม่ำเสมอ (อเวียก 04/12/95)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ