Sunday, October 8, 2023

คุณธรรม - ความเมตตา (Mercy)

 


ณ ขณะนี้งานพิเศษของลูก ลูก ๆ ของพ่อผู้เต็มไปด้วยความเมตตา คือ การเมตตาต่อทุกดวงวิญญาณ ลูกมีความเมตตาที่พิเศษต่อผู้ซึ่งโง่เขลาและผู้ซึ่งไม่มีความรู้  ผู้ซึ่งโง่เขลาทำอะไรกัน เมตตาหมายถึงการให้ความกล้าหาญในทุกรูปแบบ ให้อำนาจกับดวงวิญญาณที่อ่อนแอ นี่คือการเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความเมตตา (อเวียก 10/12/92)

จงมีเมตตากับตนเองและกับคนอื่น  อย่าพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกได้เห็นหรือได้ยินมา  อย่าเก็บมาคิด การไม่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นซึ่งไร้สาระ  หมายถึง การมีความเมตตาต่อตนเอง การไม่ดูมันหมายถึงการมีเมตตาต่อตนเอง  จงมีเมตตาอย่างสม่ำเสมอ จงมีความเห็นใจต่อผู้ซึ่งทำบางสิ่งหรือพูดบางสิ่ง  นี่หมายความว่า การมีความปรารถนาดีและเมตตาต่อดวงวิญญาญที่ลูกได้เห็นหรือได้ยินเรื่องไร้สาระจากพวกเขา  ลูกไม่ได้มีความเมตตาในทางอื่น ลูกไม่ได้ให้พรด้วยมือของลูก  แต่การไม่เก็บสิ่งที่เห็นไว้ในความคิดหมายถึง การมีเมตตาต่อดวงวิญญาณนั้น ถ้าใครพูดเกี่ยวกับส่งไร้สาระที่ได้พบหรือได้ยิน  นั้นหมายถึงว่าเมล็ดของต้นไม้ที่ไร้ประโยชน์กำลังเติบโต  

เมื่อลูกแพร่กระจายสิ่งที่ไร้สาระไปในบรรยากาศ มันก็กลายเป็นต้นไม้  เพราะว่าใครก็ตามที่เห็นหรือได้ยินบางสิ่งที่ไม่ดี ไม่สามารถที่จะเก็บไว้ในจิตใจของเขาได้  เขาจะต้องพูดและบอกผู้อื่นเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อย่างแน่นอน  และอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขามาพบกัน  หลาย ๆ คนที่มาก็จะรับข้อมูลจากผู้นั้น  ดังนั้นเมื่อพวงประคำถูกสร้างขึ้นเป็นสาย  คนที่เริ่มต้นมันก็จะกลายเป็นผู้ที่ดื้อดึงยิ่งกว่าเดิมเพื่อจะพิสูจน์สิ่งไร้สาระ  และยิ่งขยายเรื่องไร้สาระนั้นกว่าเดิม ดังนั้นอะไรที่แผ่กระจายไปในบรรยากาศหรือ  กระแสที่ไร้สาระได้กระจายไป มันเป็นกระแสที่ไม่ดีได้กระจายไป  กระแสที่ไม่ดีนั้นเป็นพรหรือไม่  ดังนั้น จงสลายเรื่องไร้สาระที่ลูกได้เห็นมาด้วยความรัก ขณะที่ฟังเรื่องราวอย่าขยายความออกไป นี่เป็นที่รู้กันว่าความมีเมตตาต่อผู้อื่นด้วยการให้พร (อเวียก 31/12/87)

จงเป็นผู้มีความเมตตาต่อผู้ที่โง่เขลา ดวงวิญญาณที่โศกเศร้าก็อยู่ในครอบครัวเดียวกับลูก ลูกควรจะมีความเมตตาจากหัวใจ เพื่อความรวดเร็วในความเพียรพยายามของครอบครัวบราห์มิน และเพื่อความก้าวหน้าของตนเองด้วย  ก็มีความต้องการความเมตตาด้วย  เมื่อลูกมีความเมตตาก็มีความก้าวหน้าของตนเอง  เพราะว่าดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างเป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ มีทัศนคติความไม่ใส่ใจอันไม่มีขีดจำกัด  มันควรจะมีความเมตตาต่อตนเองว่า ฉันเป็นดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นของพ่อสูงสุด  และมีเป้าหมายของการที่จะมาทัดเทียมพ่อ ควรจะมีความเมตตาจากหัวใจ  ความเมตตาจากหัวใจของลูกสามารถที่จะทำให้ลูกมีความไม่ใส่ใจต่อความอ่อนแอ ลูกเป็นรูปธรรมของจุด (.) แต่อะไรเป็นสิ่งที่ต้องการเป็นกรณีพิเศษ สำหรับการกลายเป็นตัวแห่งจุด ความเมตตาต่อตนเองและความเมตตาต่อผู้อื่น

บนหนทางของความรู้ก็เช่นกัน ผู้ซึ่งมีเมตตาอย่างถูกต้องจะไม่กลัวสามสิ่ง  แต่พวกเขาจะมีอำนาจที่จะก้าวพ้นต่อสิ่งนี้  สิ่งเหล่านี้คือ ความไม่ระมัดระวัง ความอิจฉา และความเกลียดชัง  90% ของเหตุผลของความอ่อนแอหรือข้อเสียใด ๆ คือสามประเด็นเหล่านี้ ความเมตตาจากหัวใจ จบสิ้นความไม่ระมัดระวัง และเมื่อมีความรู้สึกของความเมตตาต่อตนเอง ดังนั้น ในฐานะที่เป็นทัศนคติและสำนึกที่เป็นในทางเดียวกัน พวกเขาก็มีความเมตตาสำหรับบราห์มินทั้งหมดในโลกโดยอัตโนมัติ และความเมตตาอย่างถูกต้องนี้อยู่บนพื้นฐานความรู้  จะไม่ยอมให้ความรู้สึกอิจฉาหรือเกลียดชังปรากฏจากหัวใจ  พร้อมกับความเมตตาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ ก็มีความซาบซึ้งทางดวงวิญญาณของตนด้วย แต่พร้อมกับความเมตตาก็จะมีความซาบซึ้งด้วย จะมีความสมดุลระหว่างสองสิ่ง ถ้าเป็นความเมตตาธรรมดาก็มีความเป็นไปได้ ที่จะถูกอิทธิพลของดวงวิญญาณนั้น ไม่ว่าในรูปของความผูกพันหรือในความอ่อนแอใด ๆ (อเวียก 31/03/90)

มีเพียงผู้ที่มีความเมตตาเหล่านั้นที่สามารถนำมาซึ่งประโยชน์ต่อผู้อื่น (อเวียก 09/12/93)

ลูกสามารถที่จะได้ยินการเรียกจากเวลาที่ละเอียดและของดวงวิญญาณทั้งหมดตามเวลาหรือไม่? หรือลูกคงอยู่อย่างวุ่นวายอยู่เสมอกับตัวลูกเอง ดวงวิญญาณที่กราบไหว้ลูกของกัลปที่แล้ว กำลังปลุกเรียกลูกซึ่งเป็นเทพที่วิเศษของพวกเขา พวกเขาสวดวิงวอน "โปรดมา โปรดมา"

ขณะที่พวกเขาลุ่มหลงอยู่ในเสียงเพลงที่ใช้ปลุกเรียก นั่นคือ ขณะที่บรรเลงเพลงอย่างมากมาย พวกเขาตะโกนด้วยเสียงอันดัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ มากมาย ที่จะทำให้ลูกทุก ๆ คนมีความสุข ขณะที่ฟังพวกเขา ในรูปที่มีชีวิต ในวิธีที่แฝงตัว ลูกไม่มีความเมตตาต่อพวกเขาหรือ หรือลูกยังวุ่นวายอยู่กับความเมตตาสำหรับตัวลูกเอง ด้วยการทำตนให้มั่นคงอยู่ในรูปของผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกเท่านั้น  ผู้สละที่ยิ่งใหญ่และผู้ให้แห่งพร ลูกจึงสามารถมีความเมตตา ลูกจะมีความเมตตาเมื่อลูกมีประสบการณ์ของตนเองในรูปของแม่ชาวโลกหรือพ่อของชาวโลก เพราะฉะนั้นลูกจะไม่มีความอดทนต่อความทุกข์  หรือไม่เข้าใจดวงวิญญาณใด อย่างไรก็ตาม ลูกก็คงอยู่ในรูปนี้อย่างมั่นคงชั่วเวลาที่สั้นมาก  ตามกำหนดของเวลา รูปของการทำงานรับใช้ จะต้องกว้างและไม่มีขีดจำกัด อะไรเป็นรูปของงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกจะเรียกสิ่งที่ลูกทำอยู่ว่าเป็นงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด  ลูกจะเรียกว่าอะไรที่ลูกทำ ณ เวลาปัจจุบัน ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่ ว่าลูกมีการพบปะที่ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่ ถ้าเปรียบกับเวลาช่วงแรก ลูกอาจจะเรียกมันว่าไม่มีขีดจำกัด แต่อะไรเป็นรูปอันไม่มีขีดจำกัดสุดท้าย (อเวียก 03/10/75)

ผู้คนจากทุกศาสนาร้องขอความเมตตา พวกเขาร้องขอสิ่งนี้อย่างแน่นอน มันไม่สำคัญว่าใครเป็นของศาสนาใด  แต่พวกเขาอาจจะไม่ร้องขอความสุข แต่พวกเขาต้องการความเมตตา ดังนั้น ใครจะเป็นผู้ให้สิ่งนี้กับพวกเขา ลูกคือผู้ให้ใช่ไหม หรือลูกเป็นผู้รับ ลูกเป็นกลุ่มผู้ซึ่งรับมาแล้วก็แจกจ่ายให้แก่ผู้อื่น ลูกเป็นลูก ๆ ของผู้ให้ ดังนั้น จงมีความเมตตาต่อพี่น้องชายหญิงของลูก และเมื่อลูกทำงานรับใช้ ขณะที่เป็นผู้ที่มีความเมตตา ก็จะมีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือโดยอัตโนมัติ ไม่สำคัญว่าเขาจะเลวเท่าใด ถ้าลูกมีความเมตตาสำหรับดวงวิญญาณนั้น ลูกจะไม่มีความรู้สึกที่ไม่ชอบอิจฉาหรือโกรธต่อดวงวิญญาณนั้น ความรู้สึกเมตตานำมาซึ่งความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ มันไม่ควรจะมีความรู้สึกเมตตาที่อยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัว แต่จงมีความเมตตาที่แท้จริง ภายในลูกอาจจะมีความผูกพันกับดวงวิญญาณบางดวง แต่ลูกคิดว่าลูกมีเมตตาต่อดวงวิญญาณนั้น ดังนั้นนั่นคือความเมตตาที่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่เมตตาที่แท้จริง จะไม่มีความผูกพันใด ๆ ในความเมตตาที่แท้จริง จะไม่มีสำนึกของความเป็นร่างใด ๆ หรือชื่อ หรือร่องรอยของการดึงดูดทางร่างกาย

บัดนี้ตรวจดูว่า ลูกมีความเมตตาที่ไม่เห็นแก่ตัวหรือไม่? ลูกมีแมตตาซึ่งเป็นอิสระจากการผูกพันยึดติดหรือไม่? (อเวียก 10/03/96)

จงตรวจสอบเสมอว่า "เมื่อได้กลายมาเป็นลูกของพ่อผู้เต็มไปด้วยความเมตตา ฉันได้ให้ความเมตตากับดวงวิญญาณไปมากเท่าใด"  ไม่เพียงแต่ด้วยคำพูด แต่ผ่านความคิดของลูก ทัศนคติและบรรยากาศ ลูกควรจะสามารถที่จะให้พลังอำนาจที่ได้รับจากพ่อกับดวงวิญญาณทั้งหมด  (อเวียก 17/03/91)

ความปรารถนาดีหมายถึงการเป็นผู้มีความเมตตา ในฐานะที่มีเพียงบาบาที่ให้การช่วยเหลือกับผู้ซึ่งได้รับอันตราย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงวิญญาณชนิดใดที่มาอยู่ที่เบื้องหน้าลูกตอนนี้ ด้วยสภาวะจิตที่มีเมตตา ความปรารถนาดีของลูกก็เปลี่ยนแปลงพวกเขา (อเวียก 21/01/80)

ลูกจะมีอำนาจของความอดทนใช่ไหม? ลูกจะมีอำนาจของการหลอมเป็นหนึ่งเดียวใช่ไหม? ลูกจะมีอำนาจของความอดทนใช่ไหม? มันเป็นที่เข้าใจกันแล้ว เมล็ดนี้หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเมล็ดของการให้และการรับของพร ต้นไม้ก็หลอมรวมอยู่ในนี้โดยอัตโนมัติ และวิธีของสิ่งนี้คือการจดจำสองคำ คำแรกคือ การแก้ไขให้ถูกต้อง  หรือการสอน และอีกคำหนึ่งคือ ให้อภัยหรือเมตตา ลูกได้เพียรพยายามอย่างมากที่จะทำการแก้ไข แต่ลูกไม่รู้ว่าจะให้อภัยอย่างไร ลูกจะต้องให้อภัย การให้อภัยก็จะเป็นเหมือนกับให้การแก้ไข เมื่อลูกให้การแก้ไข ลูกก็ลืมที่จะให้อภัย แต่ถ้าลูกให้อภัย แล้วการแก้ไขก็จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ มันเป็นการง่ายมากที่จะเป็นครู ลูกจะกลายเป็นครูทันทีที่ลูกจบหลักสูตร 7 บท ลูกจะต้องมีการให้อภัย ลูกจะต้องมีเมตตา ลูกจะต้องไม่เป็นเพียงแต่ครูเท่านั้น ถ้าลูกให้อภัย และเพียงแต่ลูกซึมซับสันสการ์นี้จากบัดนี้ ลูกจึงจะสามารถให้พรได้ ถ้าลูกทำสันสการ์ของการให้พรให้เข้มแข็งจากบัดนี้ไป แล้วผู้คนก็จะมารับพรจากลูกรูปปั้นที่ไร้ชีวิตของลูกอย่างต่อเนื่อง (อเวียก 30/11/92)

ความเมตตานี้ ปกติแล้วมีสำหรับผู้ซึ่งเป็นผู้ที่กำลังประสบกับความทุกข์ (อเวียก 13/01/86)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความ โดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ


No comments:

Post a Comment