Showing posts with label สวรรค์. Show all posts
Showing posts with label สวรรค์. Show all posts

Thursday, July 11, 2013

ยุคทอง(9)

ประชากรและยุคสมัยของยุคทอง
ในยุคทอง จำนวนประชากรนั้นน้อยมาก ในตอนสุดท้ายของยุคเหล็กนั้นมีประชากร 5 ถึง 6 พันล้าน และ ตอนเริ่มต้นของยุคทองมีเพียง 900,000 หลังจากนั้นประชากรก็เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ




พวงประคำของ 16,108 นั้นได้รับการสรรเสริญ เป็นพวงประคำที่ใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่าในตอนสุดท้ายของยุคเงิน จะมีเจ้าชายและเจ้าหญิง 16,108 ไม่ใช่ว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นจะมาในตอนเริ่มต้น ในตอนต้นนั้นจะมีเพียงเล็กน้อย และแล้วจำนวนก็จะเพิ่มขึ้นในภายหลัง




ได้มีการร้องเพลงว่ามีเหล่าเทพ 330 ล้าน แต่ว่าจำนวนมากมายเช่นนั้นไม่สามารถอยู่ในยุคทองและยุคเงินได้ แน่นอนทีเดียว นั่นหมายถึงจำนวนประชากรของราชวงศ์ทั้งหมดของเหล่าเทพในภารัตทั้งหมด




เมื่อศรีลักษมีและนารายัญได้ปกครองที่นี่ในภารัต ก็จะต้องมีระบบของการลงวันที่ วันที่ของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงวันเดือนปีของสวรรค์ วันที่ของลักษมีและนารายัญนั้นได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ลูกสามารถลบออก 40 หรือ 50 ปี วันที่ของรามและสีดาเริ่มขึ้นเมื่อ 3,750 ปีมาแล้ว หลังจากราชวงศ์ของพวกเขาได้ผ่านไป วันที่ของวิกรัม(Vikram) ก็เริ่มต้นขึ้น (500 ปีก่อนคริสต์กาล) วันที่ที่ถูกกำหนดไว้ให้แก่พระราชาวิกรัมนั้นก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน มีหลายปีที่ผิดพลาดไป จากนั้น พวกเขาได้เริ่มวันที่ของเขาจาก 2,000 ปีมาแล้ว แต่มันควรจะเป็น 2,500 ปี

ยุคทองและยุคเงินได้ถูกบรรยายไว้ในฐานะที่เป็นเสาที่เป็นอิสระจากความทุกข์ เพราะว่าไม่มีความทุกข์ ณ ที่นั่น ณ ที่นี่ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอิสระจากความทุกข์ได้

Wednesday, July 10, 2013

ยุคทอง(8)

การบริหารอาณาจักร
ในยุคทอง จะเป็นราชวงศ์ของศรีลักษมีและศรีนารายัญ เช่นที่โลกของคริสต์ศาสนานั้นมีเอ็ดเวิดที่หนึ่ง เอ็ดเวิดที่สองและที่สาม ในทำนองเดียวกัน ในยุคทองจะมีลักษมีและนารายัญที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ไปจนถึงราชวงศ์ที่แปด



ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของพระราชาองค์เดียวในยุคทอง ผู้ปกครองมีอำนาจอย่างเต็มที่และดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีคณะรัฐมนตรี แต่ละคนมีอาณาจักรเป็นของพวกเขาเองและจะมีอาณาจักรย่อยเล็ก ๆ ด้วยเช่นกัน จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีรัฐมนตรีหรือเลขาส่วนตัวใด ๆ เพราะว่าเหล่าเทพนั้นไม่มีความจำเป็นต้องขอคำแนะนำจากใคร จนกระทั่งพวกเขากลับมาไม่บริสุทธิ์ในยุคทองแดง พวกเขาจึงต้องการที่ปรึกษา

ณ ที่นั่น ท้องพระโรงจะใหญ่มาก พระราชาทั้งหมดมาพบปะกัน แต่จะไม่ถูกเรียกว่าการชุมนุมของสุภาพบุรุษ เพราะว่าเป็นท้องพระโรงของอาณาจักรของลักษมีและนารายัญ ประชาชนผู้มั่งคั่งจะได้รับการเชื้อเชิญเป็นบางครั้งบางคราว



ในยุคทอง จะมีการบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่องในพระราชวังของลูก ไม่มีความทุกข์ใด ๆ ณ ที่นั่น ภายนอกพระราชวังของพระราชา จะมีการบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่อง พระราชามีความยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

ราชวงศ์นั้นไม่มีความจำเป็นต้องหารายได้แต่อย่างใด ประชาชนจะทำการหารายได้ แต่จะไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะในระหว่างพวกเขา ประชาชนบางคนจะร่ำรวย บางคนจะธรรมดา แต่จะไม่มีใครยากจน

จะมีผู้ทำธุรกิจอยู่ในร้าน แต่ไม่มีสมุดบัญชี บนพื้นฐานของการให้และรับระหว่างครอบครัว พวกเขาจะให้บางสิ่งและรับบางสิ่ง ภายในครอบครัว จะมีระเบียบวินัยว่า ถ้าบางคนมีของมาก เขาจะแจกจ่ายของนั้นให้กับผู้อื่น ไม่ใช่อยู่บนพื้นฐานของบัญชีการจ่ายและรับ เพื่อที่จะทำให้ทุกสิ่งดำเนินไปได้เป็นอย่างดี บางคนจะมีหน้าที่อย่างหนึ่ง และบางคนก็จะมีหน้าที่อื่น เช่น ณ ที่นี่ ในมธุบัน บางคนมีความรับผิดชอบในเรื่องเสื้อผ้า บางคนรับผิดชอบในเรื่องธัญพืช ไม่มีใครให้เงินใด ๆ แต่มีบางคนเป็นผู้ดูแล จะเป็นเช่นเดียวกัน ณ ที่นั่น จะมีทุก ๆ สิ่งอย่างมากมาย ดังนั้น ทุกสิ่งจะหาได้โดยง่าย อะไรก็ตามที่ลูกต้องการ ลูกสามารถใช้มันได้มากเท่าที่ลูกต้องการ 



ระบบนี้เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ทำให้ทุกคนไม่อยู่ว่าง ๆ แต่จะเป็นเหมือนการเล่นเกม ไม่มีใครดูบัญชีของผู้ใด ยุคทองหมายถึงการรับประทาน ดื่ม และ สนุกสนานรื่นเริง ลูกจะไม่รู้จักคำว่า "ปรารถนา" อะไรก็ตามที่มีความปรารถนา มันหมายถึงมีบัญชีที่จะต้องเก็บรักษา มีการขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะความปรารถนา ไม่มีความปรารถนาและไม่มีสิ่งใดขาด มีการบรรลุผลทั้งหมด ณ ที่นั่น ทุก ๆ คนนั้นสมบูรณ์พร้อม ลูกยังจะต้องการอะไรอีกหรือ? ไม่ควรจะเป็นว่าเพราะลูกชอบบางสิ่งลูกจึงใช้สิ่งนั้นมาก ทุกคนนั้นเต็ม หัวใจทั้งหมดนั้นเต็ม วัตถุธาตุรับใช้ทุกคน ทุก ๆ สิ่งนั้นมีอย่างมากมายซึ่งมันไม่สามารถที่จะถูกใช้ให้หมดไปได้ ลูกเพียงแต่มองดูมัน

จะมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนเงินตรา แต่จะไม่เหมือนของทุกวันนี้ รูปร่างและแบบจะถูกเปลี่ยนไป การออกแบบนั้นจะดีมาก มันจะถูกใช้เพื่อการจ่ายและรับแต่เพียงในนามเท่านั้น ทั้งหมดนั้น จะเป็นระบบครอบครัว จะไม่มีสำนึกของการเป็นนักธุรกิจและลูกค้า จะไม่มีทัศนคติของการเป็นเจ้าของ แต่จะเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน บางสิ่งจะมีการให้และบางสิ่งจะมีการรับ ไม่มีใครที่จะขาดสิ่งใด แม้แต่ประชาชนก็จะไม่ขาดสิ่งใด ประชาชนนั้นจะมีมากเกินกว่าความต้องการในการดำรงชีพของพวกเขาเองหลายล้านเท่า และดังนั้นความคิดของการเป็นเจ้าของและลูกค้าจะไม่เกิดขึ้น จะเป็นการให้และรับด้วยความรัก จะไม่มีการจดทะเบียนใด ๆ



สาวใช้และคนรับใช้ของพระราชาจะได้รับความสุขเป็นอย่างมาก พวกเขาจะอาศัยอยู่กับพระราชา และจะัรับประทานอาหารเช่นเดียวกับพระราชาและพระราชินี แต่พวกเขาจะถูกเรียกว่าสาวใช้และคนรับใช้ บรรดาสาวใช้นั้นก็ต่างลำดับกันไปด้วยเช่นกัน บางคนนั้นจะเป็นผู้แต่งตัวให้ผู้ปกครอง บางคนนั้นจะดูแลเด็ก ๆ บางคนจะกวาดพื้น มีคนรับใช้ของพระราชามากมาย ณ ที่นี่

ดังนั้น ลูกสามารถเข้าใจได้ว่าในสวรรค์นั้นจะมีคนรับใช้ก็จะมีผู้อาวุโสและผู้อ่อนอาวุโส (Seniors and Juniors) และพวกเขาจะอาศัยอยู่ในที่พักที่แยกกัน ซึ่งจะไม่ได้รับการประดับประดามากเท่ากับพระราชวังของพระราชาและพระราชินี

จันทรวงศ์นั้นไม่ได้รับอาณาจักรของพวกเขาด้วยการมีชัยชนะเหนือเหล่าเทพแห่งสุริยวงศ์ในยุคทอง เมื่อพระราชาแห่งจันทรวงศ์เข้ามานั้น เป็นเพราะว่าพระราชาและพระราชินีแห่งสุริยวงศ์ได้นำพวกเขานั่งบนบัลลังก์และมอบตีลัคแห่งโชคต่ออาณาจักรแก่พวกเขา พวกเขาได้รับตำแหน่งพระราชารามและพระราชินีสีดา ใครได้มอบตำแหน่งนั้นแก่พวกเขา?  จะมีการกล่าวว่าสุริยวงศ์ได้โอนตำแหน่งนั้น ด้วยการพูดว่า "บัดนี้ถึงคราวที่ท่านจะต้องปกครอง" หลังจากสุริยวงศ์ อาณาจักรก็ถูกมอบให้แก่รามแห่งจันทรวงศ์ เมื่อพระราชาก้าวลงจากตำแหน่งราชวงศ์ทั้งหมดก็ก้าวตามลงมา สิ่งนี้รวมทั้งพระราชา พระราชินี และประชากรทั้งหมด สุริยวงศ์นั้นคงอยู่เป็นระยะเวลา 1,250 ปี หลังจากนั้นจันทรวงศ์ก็เข้ามา ในสมัยของอาณาจักรของจันทรวงศ์ อาณาจักรของสุริยวงศ์ก็ได้ผ่านไป ได้มีการโอนและการได้รับโดยจันทรวงศ์ ซึ่งต่อมา หลังจากนั้นก็จะได้รับโดยราชวงศ์พ่อค้า


Tuesday, July 9, 2013

ยุคทอง(7)

วิทยาศาสตร์และพระราชวัง
เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดได้มีการประดิษฐ์ขึ้นมาในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง เทคโนโลยีทั้งหมดเหล่านี้เฝ้าแต่จะมีการทำให้ประณีตมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะนำไปใช้ในยุคทอง เพียงแต่จินตนาการดูว่าจะใช้เวลามากเท่าใดที่จะสร้างพระราชวังที่นั่น พระราชวังทองคำนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาในชั่วพริบตา




วิทยาศาสตร์จะให้ประโยชน์อย่างสูงสุดในยุคทอง ในปัจจุบันนี้ สติปัญญาของลูกกำลังจะกลับมาสูงส่ง ดังนั้น จะไม่ใช้เวลานานมากที่จะสร้างทุกสิ่ง ณ ที่นั่น เช่นที่พวกเขามีอิฐที่ทำด้วยดินเหนียวที่นี่ อิฐ ณ ที่นั่นจะทำด้วยทองคำ มันถูกเรียกว่ายุคทอง ณ ที่นี่เหรียญทองนั้นมีค่ามาก ณ ที่นั่น มันไม่มีค่าใด ๆ 

วิทยาศาสตร์นั้นคือสิ่งมหัศจรรย์ของสติปัญญาซึ่งทำให้พวกเขาสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ได้ พวกเขาสร้างเครื่องบิน ฯลฯ เพื่อให้ความสุข ศิลปะของการให้ความสุขเหล่านี้คงอยู่ในดินแดนของภารัต แต่ศิลปะของการให้ความทุกข์ ศิลปะของการฆ่าและการทำลาย ฯลฯ จะสูญหายไป




อุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างในยุคทองนั้นจะเป็นเช่นที่ว่าไม่มีใครสามารถมองเห็นแหล่งที่มาของแสงนั้น จากขณะนี้ กำลังมีการเตรียมการเหล่านี้ทั้งหมด ด้วยวิธีการประดิษฐ์ใหม่ ๆ พวกเขาเฝ้าแต่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา

ณ ที่นั่น เฮลีคอปเตอร์นั้นจะไม่มีการขัดข้องเสียหาย เด็ก ๆ จะบริสุทธิ์มาก และด้วยสติปัญญาที่ฉลาดเฉลียวซึ่งพวกเขาจะสามารถขับเฮลีคอปเตอร์ได้อย่างง่ายดาย และบินไปที่ใดก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ จะไม่มีความจำเป็นสำหรับการฝึกหัดในสวรรค์ สิ่งเหล่านี้ได้มีการคิดขึ้นมาเมื่อมีจำนวนประชากรมากเท่านั้น

ขณะนี้ลูกจะต้องมาและไปโดยรถไฟ ในพระราชวังของลูก ลูกจะมีเครื่องบินชนิดต่าง ๆ มากมาย ลูกไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรอคนขับ แม้ว่าลูกจะมีอายุน้อยมากลูกก็จะสามารถขับเครื่องบินได้ เด็กเล็ก ๆ ก็เช่นกัน จะเพียงแต่กดปุ่มแล้วก็บินไป จะไม่เคยมีอุบัติเหตุใด ๆ สถาปนิกของโลกจะออกคำสั่ง และแล้วเครื่องบินและพระราชวังต่าง ๆ ก็จะเสร็จเรียบร้อยในทันทีทันใด และสวรรค์ก็จะพร้อม ขณะนี้ลูกก็จะต้องพร้อม




ในสวรรค์นั้นพระราชวังของทุก ๆ คนนั้นจะถูกประดับประดาด้วยแสงสีต่าง ๆ มากมาย เช่น ณ ที่นี่พวกเขาใช้กระจกมากมายเพื่อที่จะทำให้ของสิ่งหนึ่งสามารถมองเห็นได้เป็นหลาย ๆ เท่า ในทำนองเดียวกัน ณ ที่นั่น อัญมณีต่าง ๆ จะเป็นเช่นที่ว่าภาพที่อยู่เบื้องบน แทนที่จะเห็นครั้งเดียว ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นหลาย ๆ เ่ท่า จะมีแสงของทองคำและแสงของเพชร การเปล่งประกายของสีทั้งสองจะหลอมรวมกัน และพระราชวังก็จะปรากฏแสงที่สว่างไสว แสงของพระอาทิตย์จะสัมผัีสกับเพชรและทองคำ ซึ่งจะเปล่งประกายที่ปรากฏราวกับว่ากำลังจุดไฟเป็นพัน ๆ ดวง จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สายไฟฟ้า ในพระราชวังทุกวันนี้ ลูกจะเห็นความแวววาวของไฟฟ้า และไฟที่ออกแบบลวดลายต่าง ๆ มากมาย ณ ที่นั่น เนื่องจากพวกเขาใช้เพชรแท้ ๆ โคมหนึ่งดวงจะให้แสงราวกับเทียนมากมาย ลูกจะไม่ต้องทำความเพียรพยายามมากมาย ทุก ๆ สิ่งจะเป็นธรรมชาติ

เพชรแต่ละเม็ดจะให้แสงมากมาย จะเป็นแสงที่น่าอัศจรรย์ ในพระราชวังชองลูก จะมีเพชรที่มีเก้าสีอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เกิดแสงของการผสมผสานของสีที่พิเศษ พระราชวังแต่ละแห่งจะถูกประดับประดาด้วยทองคำ เงิน เพชรและพลอยต่าง ๆ หลังคาจะถูกพอกด้วยเพชร ซึ่งจะเป็นเช่นเีดียวกับกำแพง ภารัตจะถูกเรียกว่าโลกที่เป็นเช่นเพชร

จะไม่ใช้เวลานานในการสร้างโลกใหม่ ที่นี่ ถ้ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น บริเวณนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ภายในสองหรือสามเดือน เนื่องจากการมีเครื่องมือที่เพียงพอที่จะนำไปใช้ได้ บ้านและสิ่งต่าง ๆ นั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว ลูกสามารถสร้างอาคารได้ภายในหนึ่งเดือน ถ้ามีผู้ก่อสร้างมากมายและวัสดุนั้นหาได้ง่าย ก็ไม่ต้องใช้เวลามากในการสร้างขึ้นมาใหม่ ในต่างประเทศ พวกเขาสร้างบ้านที่สร้างชิ้นส่วนไว้ก่อนแล้วและนำมาประกอบโดยเครื่องจักร ในสวรรค์ พวกเขาก่อสร้างอย่างรวดเร็วมาก ณ ที่นั่น จะมีทองคำและเงิน ฯลฯ อย่างล้นเหลือ พวกเขาจะเอาทองคำ เงิน และเพชรมาจากเหมือง ตามกฏแล้ว ธาตุทั้งห้าจะรอเพื่อที่จะรับใช้ลูก จะไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น

ณ ที่นี่ พระราชวังนั้นสร้างขึ้นมาโดยมีหลายชั้น ในยุคทองนั้นจะไม่มีแม้แต่ชั้นที่สอง พวกเขาสร้างที่นี่เพราะว่ามีที่ดินไม่เพียงพอและราคาของที่ดินก็แพงมาก ในยุคทอง ประชาชนแต่ละคนจะมีที่ดินมากเท่ากับหมู่บ้านหนึ่งของ "อาบู" (Abu) พระราชวังของเหล่าเทพนั้นจะใหญ่มาก ณ ที่นั่น จะไม่มีความกลัวใด ๆ ยุคทองนั้นถูกเรียกว่า "ชีวาลายา" (Shivalaya) ทางวัตถุ (temple of Shiva - วัดของชีว่า) เพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยชีว่า

ทุก ๆ สิ่งนั้นจะใหม่ จะมีทองคำอย่างไม่จำกัด ซึ่งสามารถเอาออกมาจากเหมืองได้อย่างง่ายดายเพื่อก่อสร้างอาคารเหล่านี้ทั้งหมด ณ ที่นั่น ทุกสิ่งสร้างด้วยทองคำ พระราชวังต่าง ๆ จะถูกสร้างด้วยอิฐทองคำ จะไม่มีของปลอม ทุกสิ่งจะเป็นของแท้ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของปลอมทั้งหมดจะถูกกลืนโดยแผ่นดินระหว่างการทำลายล้าง

ใครจะเป็นผู้ที่เจียระไนเพชรทั้งหมดซึ่งจะถูกนำมาประดับประดาพระราชวังทั้งหมดเหล่านี้? นักเจียระไนเพชรที่นี่ในภารัตนั้นมีความชำนาญมาก และพวกเขาจะได้รับการพัฒนามากขึ้น ๆ พวกเขาจะนำความชำนาญนี้ไปกับพวกเขาด้วยและกลายเป็นคนงาน ณ ที่นั่น พวกเขาจะฝังเพชรแท้อย่างดีมากและสละสลวยอย่างแท้จริงลงบนมงกุฎ ฯลฯ

ทุกวันนี้ ณ ที่นี่ ลูกจะไม่พบเห็นบ้านที่สร้างจากทองคำ แต่ทุกสิ่งจะใหม่ ในโลกใหม่ ทุกสิ่งจะเป็นของชั้นหนึ่ง 

Monday, July 8, 2013

ยุคทอง(6)

ณ ที่นั่น แม่น้ำจะมีน้ำเต็มเปี่ยม และจะมีธัญพืชมากมาย ณ ที่นี่ พวกเขาได้สร้างเขื่อนที่ใหญ่และขุดคลองมากมายเพราะจำนวนประชากรเฝ้าแต่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่นั่น จากตอนเริ่มต้นจะมีประชากร 900,000 คน และจะไม่มีแผ่นดินอื่น ลูกไม่จำเป็นที่จะต้องไป ณ ที่ใด อากาศนั้นจะเป็นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา และธาตุต่าง ๆ จะไม่เคยสร้างปัญหาให้กับลูก แต่จะอยู่ในระเบียบอยู่เสมอ จะเป็นสวรรค์และดังนั้นลูกจะเป็นนายเหนือวัตถุ




จะมีต้นไม้ต่าง ๆ ที่สวยงามมากในสวรรค์ จะเป็นสวน และป่านั้นก็จะเต็มไปด้วยวัตถุท่เป็นประโยชน์ เพราะว่าลูกจะต้องใช้ไม้ แต่ทุกสิ่งจะอุดมสมบูรณ์ สัตว์และนกต่าง ๆ จะอาศัยอยู่ในป่าเพื่อที่จะเพิ่มความงามให้แก่ป่า พวกมันจะไม่สร้างสิ่งสกปรกใด ๆ แผ่นดินนั้นจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และดังนั้นทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นก็จะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน

ในยุคทองทุกสิ่งจะให้ความสุข จะไม่มีพายุไต้ฝุ่นหรือลมร้อน ในปัจจุบัน ธาตุทั้งหมดได้กลายมาเป็นศัตรูของลูก และด้วยเหตุนี้จึงมีแผ่นดินไหวและพายุเฮริเคน แต่เมื่อโลกเก่าได้ถูกทำลายด้วยความหายนะทางธรรมชาติ โลกใหม่ก็จะเกิดขึ้น

จะมีประชากรน้อยมาก ทั้งหมดนั้นจะงดงามตามธรรมชาติ จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอมใด ๆ แต่ละคนก็จะมีสวนดอกไม้ชั้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ชั้นหนึ่งและต้นไม้ชั้นหนึ่งเป็นของตนเอง จะไม่มีสิ่งใดที่จะก่อให้เกิดปัญหา

จะมีทรัพย์สมบัติมากมายในสวรรค์ เหมืองของเพชรและอัญมณีทั้งหมดนั้นจะเต็ม ณ ที่นี่ เพราะว่าแผ่นดินนั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่ มันจึงไม่มีพลังใด ๆ อีกต่อไป มีความแตกต่างราวกับกลางวันและกลางคืน ระหว่างดอกไม้และผลไม้ในสวรรค์และดอกไม้และผลไม้ ณ ที่นี่ ไม่สำคัญว่าจะนำเมล็ดพืช ฯลฯ เข้ามาจากอเมริกา ต้นไม้นั้นก็ไม่มีรสชาด ณ ที่นั่น  แผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์มากซึ่งไม่มีใครจะต้องทำความเพียรพยายามใด วัตถุธาตุจะบริสุทธิ์ และดังนั้นทุกสิ่งก็จะบริสุทธิ์

ในสวรรค์นั้น ทุกสิ่งจะอุดมสมบูรณ์ แปดสิบหรือเก้าสิบปีมาแล้ว ข้าวนั้นมีราคาระหว่าง 10-12 แอนนาต่อหนึ่งกระสอบ เพียงแต่จินตนาการดูว่ามันเคยมีราคาถูกอย่างไรก่อนหน้านั้น ข้าวนั้นจะถูกและดีมากในยุคทอง

ขณะนี้แผ่นดินได้กลับมาแห้งแล้ง ดังนั้นธัญพืชนั้นจึงไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ณ ที่นั่น แผ่นดินทั้งหมดนั้นอุดมสมบูรณ์ ดาวเคราะห์ทั้งหมดและมหาสมุทรทั้งหมดนั้นเป็นของลูก ไม่มีการแบ่งแยก ลูกรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง ประชาชนนั้นถูกเรียกว่า ไวชนาฟ (Vaishnavs) ผู้สืบสกุลของวิษณุ พวกเขานั้นบริสุทธิ์ ยุคทองจะถูกเรียกว่าโลกที่บริสุทธิ์ ความโ่อ่อ่าหรูหราของสวรรค์นั้นไม่สามารถหาได้ ณ ที่นี่

เหล่าเทพนั้นรับประทานน้อยมาก พวกเขาไม่มีความละโมบใด ๆ เลย อาหาร 36 ชนิดได้ถูกเตรียมไว้ แต่พวกเขารับประทานน้อยมาก ในยุคทอง จะไม่มีป่าที่กว้างใหญ่ และจะไม่มีภูเขามากมาย เป็นเพียงราวกับว่าพวกเขาทำหุ่นจำลองของสวรรค์ เช่นเดียวกันในความเป็นจริง สวรรค์นั้นจะเล็ก การขยายตัวอย่างมากมายของโลกทั้งหมดที่ลูกเห็นในวันนี้จะไปอยู่ใต้มหาสมุทร มหาสมุทรจะกลืนมันเข้าไป ธาตุต่าง ๆ จะหลอมรวมเข้าไปในธาตุของพวกมันเอง แผ่นดินจะหลอมรวมเข้าไปสู่แผ่นดิน โลกนั้นจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ วัตถุธาตุจะบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และดังนั้นจะมีความงดงามตามธรรมชาติ




ในยุคทอง นกต่าง ๆ ฯลฯ นั้นจะมีความสวยงามชั้นหนึ่ง มนุษย์เป็นเช่นใด สิ่งที่อยู่แวดล้อมพวกเขาก็จะเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ทุกสิ่งจะสวยงามมาก ผลไม้จะมีรสชาดอร่อย ผลใหญ่และหวาน ยุคทองนั้นชั้นหนึ่ง และทุก ๆ สิ่งที่ลูกได้รับก็จะชั้นหนึ่ง ภารัตนั้นกลายเป็นนกระจอกทองคำ

ที่นั่นจะไม่มีขยะ วัวนั้นจะชั้นหนึ่ง แต่กฤษณะจะไม่ได้ดูแลพวกมัน นมนั้นจะส่งให้เขาโดยเฮรีคอปเตอร์ จะไม่มีสัตว์ชนิดใดที่ถูกเก็บไว้ในบ้าน




กฏกล่าวไว้ว่าในยุคทองนั้นไม่สามารถมีสัตว์ชนิดใดที่อาจจะให้ความทุกข์ สัตว์ก็ให้ความสุขแก่กันและกันเช่นเีดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีการกล่าวว่าสิงห์โตและแกะดื่มน้ำด้วยกัน ณ ที่นั่น ไม่มีความทุกข์อย่างแท้จริง

ทุก ๆ สิ่งผลิดอกบาน ณ ที่นั่น ไม่มีหนามใด ๆ สถานที่ทั้งหมดคือสวน พวกเขาจะไม่สุมไฟกลางแจ้ง เพราะว่าไม้จะทำให้เกิดควันซึ่งจะทำให้เกิดความทุกข์

Sunday, July 7, 2013

ยุคทอง(5)

ในยุคทอง ธาตุทั้งห้าของธรรมชาตินั้นเป็นเครื่องมือแห่งความสุขสำหรับเหล่าเทพ
การปรุงอาหารทั้งหมดนั้นทำด้วยพลังแสงอาทิตย์
สายลมนั้นจะเป็นพัดลมตามธรรมชาติสำหรับลูก และจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงของลูก ลมจะพัด ต้นไม้ต่าง ๆ ก็จะแกว่างไกว และกิ่งก้านก็จะเคลื่อนไหว ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ก็จะมีการบรรเลงเพลงตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติ ณ ที่นั่น ไม่มีการใช้พัดลมเพื่อระบายความร้อน แต่ธรรมชาติจะพัดลูกด้วยตัวของมันเอง สิ่งสร้าง ในฐานะที่เป็นลูกของลูก ก็จะบรรเลงเพลงต่าง ๆ แด่พ่อแม่แห่งโลกของพวกมันนด้วยการเคลื่อนไหวใบของมัน เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันจากการแกว่างไกวของต้นไม้ต่าง ๆ นั้น จะทำให้เกิดเสียงเพลงต่าง ๆ ตามธรรมชาติ




อากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวในสวรรค์ อากาศจะเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา ธาตุต่าง ๆ นั้นจะอยู่ในระเบียบ

ท้องฟ้านั้นจะเป็นอิสระเสรีสำหรับความพอใจของทุกคน ท้องฟ้าจะเป็นอาณาเขตสำหรับการขับเครื่องบินของลูก เส้นทางบินนั้นจะปราศจากอุบัติเหตุ แม้แต่เครื่องบินของเด็กอายุแปดขวบก็จะไม่ตก

น้ำนั้นจะำทำหน้าที่ในการสร้างกลิ่นหอม เนื่องจากสมุนไพรต่าง ๆ น้ำในแม่น้ำคงคานั้นก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำใด ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรต่าง ๆ ที่น้ำนำมากับมันนั้นจะให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ที่นี่่ น้ำนมนั้นให้พลังงาน ในทำนองเดียวกัน น้ำนั้นเต็มไปด้วยพลังงานและสะอาด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกล่าวว่ามีแม่น้ำของน้ำนมในสวรรค์ เช่นเดียวกับน้ำในแม่่น้ำคงคาในวันนี้ ซึ่งเป็นน้ำสำหรับอาบนั้นถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากแร่ธาตุและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นไหลมาจากภูเขาต่าง ๆ พร้อมกับน้ำนั้น ไม่มีแบคทีเรียในน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงถูกพิจารณาว่าบริสุทธิ์ ในทำนองเดียวกัน บนภูเขาต่าง ๆ นั้นมีสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมซึ่งเมื่อน้ำไหลมาจากที่นั่นก็จะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่มีความต้องการต่อสิ่งที่เป็นของเทียม 

ในยุคทอง แม่น้ำทั้งหมดนั้นจะสะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งแม่น้ำคงคาจะไม่ถูกเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ในความเป็นจริง ในแม่น้ำอื่น ๆ ก็จะไม่มีมลภาวะ ในยุคทอง ไม่มีกฏที่จะทำให้สิ่งใดไม่บริสุทธิ์ ณ ที่นั่นทุกสิ่งคงอยู่อย่างบริสุทธิ์

พื้นดินจะให้ผลไม้ที่มีคุณภาพสูงมาก รสชาดใดก็ตามที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่มีรสชาดนั้นก็จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูก จะไม่มีเกลือหรือน้ำตาล เช่นที่อาหารนั้นสามารถทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยการเติมมะเขือเทศลงไปซึ่งจะมีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน รสชาดใดที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่ต้องการจะอยู่ ณ ที่นั่น เพียงแต่เติมน้ำผลไม้นั้น ก็จะได้รสชาดตามต้องการ พื้นดินจะรับใช้ลูกด้วยการให้ผลไม้และธัญพืชชนิดเลิศ เช่นที่ลูกได้ทำให้มีรสชาดหลากหลายด้วยการใช้เกลือ น้ำตาลและเครื่องเทศต่าง ๆ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะมีผลไม้ตามธรรมชาติอย่างหลากหลายที่จะให้รสชาดต่าง ๆ เหล่านั้น ผลไม้ตามธรรมชาติเหล่านี้จะให้รสชาดที่หลากหลายแก่ลูก จะไม่มีโรงงานน้ำตาล แต่จะมีผลไม้ที่เป็นน้ำตาล รสชาดใดที่ลูกต้องการ ลูกสามารถทำขึ้นมาด้วยผลไม้ตามธรรมชาติ ลูกจะไม่ทำแกงจากผักสีเขียว แต่ทำจากผลไม้และดอกไม้ต่าง ๆ  จะมีผลไม้ซึ่งมีน้ำผลไม้ตามธรรมชาติ แยกกันสำหรับการรับประทานและการดื่ม ลูกจะไม่ต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะต้องคั้นน้ำผลไม้ ผลไม้แต่ละชนิดและทุก ๆ ชนิดจะบริบูรณ์อย่างมาก ซึ่งจะเป็นราวกับว่าลูกกำลังดื่มน้ำมะพร้าว ลูกจะเก็บผลไม้มา บีบมันเบา ๆ และน้ำผลไม้ก็จะปรากฏออกมา

อะไรก็ตามที่ลูกเรียกว่าทิวทัศน์ธรรมชาติก็จะเห็นได้ตามธรรมชาติ ภูเขานั้นจะไม่สูงชัน ภูเขาจะมีรูปลักษณ์หลากหลายที่งดงามตามธรรมชาติ บ้างก็จะเป็นรูปเป็นนก บ้างก็จะเป็นรูปดอกไม้ จะมีโครงสร้างตามธรรมชาติประเภทนี้ ในหนทางนี้ ธาตุทั้งห้าของธรรมชาติจะรับใช้ลูก




เช่นที่ทุกวันนี้พวกเขาทำเสียงเพลงขึ้นเอง ในสวรรค์นั้นเสียงของนกจะกลายเป็นเพลงบรรเลงที่หลากหลาย เหมือนกับเป็นของเล่นที่มีชีวิต พวกเขาจะแสดงการแสดงต่าง ๆ ให้ลูกดู ทุกวันนี้ ผู้คนได้เรียนรู้ที่จะผลิตของเล่นที่พูดได้ในหลาย ๆ รูปแบบ ณ ที่นั่นก็เช่นกัน เมื่อลูกใ้ห้สัญญาณนกต่าง ๆ ก็จะให้ความบันเทิงแก่ลูกด้วยเสียงที่ไพเราะและการแสดงที่สวยงามหลากหลาย

สวรรค์นั้นจะให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่นที่ในปัจจุบันนี้ที่ ไมซอร์ (Mysore) ผู้คนมากมายมาเพื่อที่จะชมความงาม จะมีความงดงามในสวรรค์ จะมีสายลมที่แสนสบายและมีน้ำตกที่สวยงาม ในสวรรค์ จะไม่มีการเปิดเพลงเพื่อที่จะปลุกลูกในอมฤตเวลา แต่จะมีเสียงเพลงที่แสนหวานของนกต่าง ๆ ที่ปลุกให้ลูกตื่น เวลาที่ลูกตื่นขึ้นมานั้นจะเป็นเวลาที่เช้ามาก แต่ลูกจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า เวลาของการตื่นนอนของเหล่าเทพที่มีชีวิตนั้นคือเวลาที่ผู้บูชากราบไหว้ได้ปลุกรูปปั้นของเหล่าเทพเพื่อที่จะทำการบูชากราบไหว้พวกเขาในเวลาเช้าตรู่ ในหนทางของการบูชากราบไหว้ ได้ให้ความสำคัญต่อชั่วโมงแห่งน้ำทิพย์ ลูกจะตื่นแต่เช้าตรู่ แต่ว่าตลอดเวลาลูกจะรู้สึกราวกับว่าลูกได้ตื่นเรียบร้อยแล้ว ลูกจะไม่ต้องทำงานหนักใด ๆ จะไม่มีทั้งงานที่หนัก และงานที่ต้องใช้สมอง และลูกจะไม่มีภาระใด ๆ เพราะสิ่งนี้ การตื่นหรือการนอนหลับจะเป็นสิ่งเดียวกัน




ในยุคทอง จะไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนอมฤตเวลาเพื่อที่จะนั่งสมาธิ เพราะว่าพวกเขาได้รับพลังของโยคะเรียบร้อยแล้ว จะเป็นราวกับว่าเมื่อลูกศึกษาเล่าเรียนตามระยะเวลาของหลักสูตรของการศึกษาของลูกเท่านั้น และจนกระทั่งลูกได้ผ่านการสอบทั้งหมดแล้ว

Saturday, July 6, 2013

ยุคทอง(4)

การศึกษาเล่าเรียน
ณ ที่นั่นจะเป็นเหมือนกับการเล่นเกม พวกเขาจะมีการละเล่นในขณะที่ศึกษาเล่าเรียน พวกเขาจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองและการบริหาร พวกเขาจะศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการบริหาร แต่การศึกษาหลักจะเป็นการวาดภาพ ทุก ๆ คน ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มจะเป็นศิลปิน จะมีดนตรี ศิลป และ เกมส์ การศึกษาเล่าเรียนของลูกประกอบด้วยการละเล่นและดนตรี ศิลปะในการขับร้อง ณ ที่นั่น ประวัติศาสตร์นั้นอยู่ในรูปของเพลงและบทกวี จะไม่มีความเบื่อหน่าย ลูกจะเต้นรำและแสดงละคร แต่จะไม่มีภาพยนต์ ละครนั้นจะเป็นละครที่สนุกสนานและให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก และจะมีโรงละครมากมาย




ผู้ที่จะเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงในยุคทองจะมีวิทยาลัยที่โอ่โถงมาก ในวิทยาลัย ลูกจะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาซึ่งจะเป็นภาษาฮินดีที่บริสุทธิ์มาก

การสมรส
การสมรสของเหล่าเทพนั้นมีความโอฬารตระการตาเป็นอย่างมาก แต่การที่จะไปฮันนีมูนเพื่อที่จะหมกมุ่นในกิเลสนั้นจะไม่มีอยู่ในความคิดของพวกเขา ณ ที่นั่น ทุกคนจะเป็นเช่นดอกไม้ ผู้ที่กลายมาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์เหมือนดอกไม้ ณ ที่นี่ คือผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี ณ ที่นั่น สันสการ์ของการปราศจากกิเลสนั้นจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายชาติ จะไม่มีชื่อหรือร่องรอยของมายาปรากฏอยู่ในสวรรค์




ศรีราเด้และศรีกฤษณะนั้นคือมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงต่างอาณาจักรกัน พวกเขาไม่ใช่พี่ชายและน้องสาว พวกเขามีอาณาจักรของพวกเขาเองที่แยกจากกัน ราเด้มีอาณาจักรของเธอเอง และกฤษณะนั้นคือมกุฏราชกุมารแห่งอาณาจักรของเขาเอง หลังจากการสมรสพวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ

ไม่มีเรื่องราวในวัยเด็กของลักษมีและนารายัญได้มีการบันทึกไว้ แต่พวกเขาแสดงเรื่องราวในวัยเด็กของราเด้และกฤษณะ พวกเขาเคยเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง ดังนั้นพวกเขาไม่เคยเป็นผู้ปกครอง หลังจากการสมรส พวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายัญ แล้วอาณาจักรของพวกเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น




กฤษณะได้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มที่ สัญลักษณ์ของเขาคือพระจันทร์เต็มดวง เขาคือเจ้าชายองค์แรกแห่งยุคทอง สายของเขานั้นดำเนินต่อไปถึงแปดชั่วอายุ เมื่อเป็นเด็กเขาถูกเรียกว่า โมฮัน ซึ่งหมายถึงศรีกฤษณะ เช่นเดียวกับเจ้าชายแห่งเวลส์ บัลลังก์อันดับที่หนึ่งนั้นเป็นของเจ้าชายแห่ง Indraprasth หลังจากการเป็นเจ้าชาย เขาก็กลายเป็นกษัตริย์ แล้วชื่อของเขาก็ไม่ได้รับการสรรเสริญในฐานะที่เป็นกฤษณะอีกต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ

Friday, July 5, 2013

ยุคทอง(3)

การกำเนิดของเหล่าเทพ
ในยุคทอง เหล่าเทพนั้นกำเนิดด้วยพลังของโยคะ เหล่าเทพนั้นได้รับการสรรเสริญว่า สมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมทั้งหมด สมบูรณ์พร้อมด้วยสิบหกองศาแห่งสวรรค์ ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ทั้งโลกนั้นปราศจากกิเลส ลูก ๆ นั้นจะเกิดอย่างแน่นอน แต่จะไม่เกิดด้วยกิเลส ดังนั้น จะต้องมีวิธีการบางอย่าง ที่นี่ผู้คนนั้นมีกิเลสอย่างเต็มที่และที่นั่นพวกเขาปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง พระราชาและพระราชินีเป็นเช่นไร ปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น




อย่างแน่นอนที่จะมีกฏเกี่ยวกับอายุของผู้ที่จะให้กำเนิดแก่เด็ก ๆ ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นตามกฏเกณฑ์และระเบียบแบบแผน ไม่ใช่ว่าบางคนจะมีลูกเมื่ออายุ 15-20 ปี เช่นที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่ ไม่เลย ที่นั่น จะมีอายุขัยถึง 150 ปี แน่นอน พวกเขาจะมีลูก ๆ ในวัยที่เป็นหนุ่มสาวเต็มที่ของพวกเขา ก่อนครึ่งหนึ่งของอายุขัยของพวกเขาเล็กน้อย ในเวลานั้นพวกเขาจะมีบุตรชาย ที่นั่นจะมีอายุที่ยืนยาว จะมีการให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน และหลังจากนั้นก็จะเป็นบุตรสาว นี่ก็จะเป็นกฏ บุตรชายจะเกิดก่อนเสมอ ผู้ชายมาก่อน จากนั้นก็เป็นผู้หญิง บุตรชายและบุตรสาวจะมีอายุที่แตกต่างกันประมาณเก้าถึงสิบปี

เมื่อมีชัยชนะ การกำเนิดของเจ้าชายศรีกฤษณะก็จะเกิดขึ้น ในเวลาของการกำเนิดนั้น แม่ของเขาจะได้รับนิมิตของวิษณุซึ่งมีสี่แขน จะมีแสงสว่างรุ่งโรจน์ปรากฏโดยรอบ ในมือของเขาจะมีขลุ่ยที่ประดับด้วยเพชรพลอยเพราะว่า เขาเป็นเจ้าชาย แต่จะไม่มีความรู้ ณ ที่นั่น ชื่อของกฤษณะนั้นได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่่ แต่ชื่ของพ่อของเขานั้นไม่ไ้ด้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่ แต่ชื่อของพ่อของเขานั้นไ่ม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เขาจะต้องเป็นพระราชาอย่างแน่นอนเพราะกฤษณะนั้นจะต้องกำเนิดจากพระราชา แต่การกำเนิดของพระราชานั้นไม่บริสุทธิ์และด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงไม่โด่งดัง ในเวลาของการกำเนิดของศรีกฤษณะนั้น จะมีผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์มีชีวิตเหลืออยู่น้อยมาก เป็นเพียงเมื่อผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์ทั้งหมดได้ตายไปแล้ว ศรีกฤษณะจึงจะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ เขาจะครอบครองอาณาจักรของเขา และแล้วยุคสมัยของเขาก็จะเริ่มต้นขึ้น




สวรรค์นั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นมาจากมหาสมุทร พวกเขาแสดงไว้ในตำนานว่า หลังจากอุทกภัยอันใหญ่หลวง ศรีกฤษณะก็ได้ลอยมาบนใบโพธิ์ในมหาสมุทร กำลังดูดนิ้วเท้าของเขา ถ้านั่นคือความจริง ศรีกฤษณะจะมาเพียงลำพังและเพิ่มประชากรโลกได้อย่างไร? อย่างน้อยสองคนนั้นเป็นที่ต้องการ; ผู้หญิงนั้นก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตามตำนานกล่าวไว้ว่า กฤษณะนั้นได้กำเนิดในป่าเป็นเช่นเด็กแปดขวบ แต่นั่นก๋ไม่ถูกต้องเช่นกัน ดินแดนของคานส์ (Kans - ปีศาจ) ไม่ได้ปรากฏในเวลานั้น

ในยุคทอง การตายของสามีหรือบุตรชายของใครบางคนนั้นจะไม่เกิดขึ้น ไม่มีการตายโดยไ่ม่รู้ตัวล่วงหน้าเช่นนั้น ด้วยความสุขอย่างใหญ่หลวง ดวงวิญญาณจะออกจากร่างหนึ่งและเข้าไปสู่ครรภ์ การเกิดนั้นไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด ในพระราชวังแห่งครรภ์นั้น มีความสุขเหนือความสุข ในขณะที่ ณ ที่นี่ครรภ์นั้นคือคุก ใครก็ตามที่ขโมยหรือก่ออาชญากรรมใด ๆ นั้นถูกขังคุกโดยรัฐบาลในปัจจุบันนี้ ณ ที่นั่น ไม่มีคุกเช่นนั้นปรากฏอยู่ ไม่มีใครก่ออาชญากรรมใด ๆ ในสวรรค์ ไม่มีใครสร้างความยุ่งยากให้แก่ใคร ลูก ๆก็ไม่สร้างความยุ่งยากเช่นกัน พวกเขานั้นอ่อนหวานมาก

อายุขัย
เพราะว่าผู้คนนั้นกำเนิดด้วยพลังโยคะ อายุชัยในยุคทองนั้นจึงยาวมาก นี่คือเหตุผลที่ทำไมเหล่าเทพจึงถูกเรียกว่าเป็นอมตะ ในเวลาที่ถูกต้อง ดวงวิญญาณจะทิ้งเครื่องแต่งกาย (ร่างกาย) หนึ่งและไปใช้ชุดใหม่ เมื่อถึงเวลาอันควร คนนั้นจะมีนิมิต ... "บัดนี้ฉันจะต้องถอดเครื่องแต่งกายเก่านี้และไปสวมชุดใหม่ ; ฉันต้องไปสู่ครรภ์ ดวงวิญญาณก็จะทิ้งร่างหนึ่งและแล้วก็เข้าไปในลูกอ่อนในครรภ์โดยอัตโนมัติ ที่นั่น ครรภ์นั้นไม่ใช่คุก แต่ถูกเรียกว่า พระราชวัง ไม่มีบาปใดที่ใครจะต้องได้รับการทรมานจากการถูกลงโทษ พวกเขานอนอย่างสะดวกสบายอยู่ในพระราชวังแห่งครรภ์ 
ไม่มีเรื่องของความทุข์ใด ๆ และไม่มีการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดซึ่งจะเป็นเหตุที่ทำให้เด็กนั้นเจ็บป่วย ผู้คนทั้งหมดนั้นเป็นของสุริยวงศ์และจันทรวงศ์ ทั้งหมดนั้นบริสุทธิ์แะละเหตุนี้เองที่ทำให้พวกเขามีอายุที่ยืนยาว โลกนั้นใหม่ ทุก ๆ สิ่งนั้นใหม่



ณ ที่นี่ อายุเฉลี่ยของผู้คนนั้นคือ 35-40 ปี มีบางคนที่มีอายุถึง 100 ปี  ณ ที่นั่น อายุเฉลี่ย คือ 125-150 ปี ในเวลานี้ อายุขัยของลูกนั้นกลายเป็นเช่นเดียวกับต้นกัลป; ลูกใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถมีการตายโดยไม่รู้ต้วล่วงหน้าได้ 

Thursday, July 4, 2013

ยุคทอง(2)

เหล่าเทพนั้นมีสุขภาพดีและมีความมั่งคั่งอยู่เสมอ มีผู้ปกครองซึ่งอำนาจของพวกเขานั้นแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก เพราะว่าดวงวิญญาณนั้นบริสุทธิ์จึงได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์ ผู้คนนั้นถูกเรียกว่าเหล่าเทพ พวกเขาบริสุทธิ์ ดังนั้น พวกเขาจึงมีทั้งสุขภาพดีและมีความมั่งคั่ง




ในยุคทอง ไม่มีศาล ไม่มีคุกตะราง ไม่มีผู้พิพากษาและนักกฏหมาย ฯลฯ เพราะว่าไม่มีผู้ใดที่กระทำสิ่งเป็นอาชญากรรม ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ที่มีอารยธรรม ที่นั่น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรงพยาบาลและไม่มีหมอ

ทุก ๆ สิ่งนั้นสะอาดอย่างสมบูรณ์ มีผู้ที่ทำความสะอาดถนน แต่ไม่มีใครถูกเรียกว่าคนกวาดถนน มีสัปเหร่อที่นั่น แต่ไม่ได้ถูกจัดประเภทเป็นเช่นนั้น ที่นั่น ร่างกายนั้นไม่มีค่าใด ๆ เพียงแต่วางไว้ในเครื่องไฟฟ้าและมันก็หายไปในทันที พวกเขาจะไม่นำเชิงตะกอนใด ๆ ไปทิ้งในแม่น้ำ และไม่มีใครที่จะต้องเก็บร่างกายและนำไป ณ ที่ใด กิจกรรมที่ยุ่งยากเช่นนั้นจะไม่ปรากฏที่นั่น




ในยุคทอง เมื่อใครใช้ร่างใหม่ ก็จะมีสายเลือดใหม่จากการให้กำเนิดใหม่ ที่นี่ร่างกายนั้นเก่าและสายเลือดก็เก่าด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในโลกเก่านี้ไม่มีสายเลือดใหม่

กฤษณะจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นนั้น ณ ที่นั่น แต่รูปร่างหน้าตาเดียวกันนั้นจะไม่เกิดชึ้นอีก ณ เวลาใดในวงจร และแล้วเมื่อยุคทองมาถึงอีกครั้งหนึ่ง เขาจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันในแต่ละชีวิต แต่ละคนจะได้รับรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันเฉพาะบุคคล รูปร่างหน้าตาในยุคทองนั้นงดงามตามธรรมชาติ ที่นี่ ลูกสามารถเห็นเด็ก ๆ บางคนนั้นเกิดมาพิการและแคระแกร็นอย่างไร ทุกสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นเช่นนั้นจะเกิดขึ้นในยุคทอง

เหล่าเทพที่เป็นชายนั้นจะไม่มีหนวดเครา ลูกสามารถบอกได้จากการแสดงออกทางสายตาและบนใบหน้าว่าใครเป็นชายหรือหญิง

ยุคทองถูกเรียกว่ากระท่อมซึ่งปราศจากความทุกข์ ไม่มีความทุกข์หรือความตายที่ไม่รู้ตัวล่วงหน้า ตรงกันข้าม แต่ละคนจะจากร่างกายของพวกเขาตามความปรารถนาของพวกเขาเอง เช่นเดียวกันที่ลูกทิ้งเสื้อผ้าเก่า ๆ ของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง ไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะทิ้งเสื้อผ้าของร่างกายของลูกตามความปรารถนาของลูกเอง เมื่อเสื้อผ้านั้นหมดอายุและเก่า มันก็จะถูกเปลี่ยนใหม่ ในทำนองเดียวกัน ตามเวลาและเมื่อถึงอายุที่แน่นอนพวกเขาก็จะเปลี่ยนร่าง




ในตอนเริ่มต้นของยุคทอง จะมีดวงวิญญาณที่ทรงคุณธรรม 900,000 ดวงวิญญาณ วันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปีที่หนึ่งก็จะเริ่มขึ้น คุณภาพของธรรมชาติ ผู้คน และสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ในครอบครองทั้งหมดนั้นจะดีที่สุด ประชากรชั้นหนึ่งจำนวน 900,000 ผู้ที่มาในตอนเริ่มต้นของยุคทองนั้น อย่างน้อยที่สุด ในเวลานี้ ควรจะมีประสบการณ์ของความรักของพ่อ

พวกเขาเรียกกฤษณะว่าเป็นเจ้าชาย ดังนั้นเขาจะต้องถือกำเนิดจากพระราชาอย่างแน่นอน ถ้าเขาเคยถือกำเนิดจากผู้ที่มั่งคั่ง เขาจะไม่สามารถถูกเรียกว่าเจ้าชายได้ มีความแตกต่างเหมือนกลางวันกับกลางคืน ระหว่างสถานภาพของพระราชากับผู้ที่มั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม ชื่อของพ่อของกฤษณะไม่ได้รับการสรรเสริญมากนัก เป็นชื่อของกฤษณะที่เป็นที่เลื่องลือ ดังนั้น เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าพ่อของเขานั้นมีสถานภาพที่สูง เขามีสถานภาพชั้นสองซึ่งทำให้เขาเพียงแต่กลายเป็นเครื่องมือที่ให้กำเนิดแก่กฤษณะ ไม่ใช่เรื่องที่เขาได้ศึกษาเล่าเรียนมากกว่าดวงวิญญาณของกฤษณะ ไม่ใช่ 
กฤษณะคือผู้ซึ่งกลายมาเป็นนารายัญ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ชื่อของพ่อของเขานั้นหายไป การศึกษาเล่าเรียนของดวงวิญญาณของกฤษณะนั้นอยู่ระดับที่สูงกว่าพ่อของเขามาก ด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงยิ่งใหญ่ ในทำนองเดียวกัน มีพ่อแม่ของราเด้ แต่ชื่อของราเด้นั้นยิ่งใหญ่กว่าเพราะว่าพ่อแม่ของเธอนั้นศึกษาเล่าเรียนในระดับที่ต่ำกว่า

ในตอนสุดท้าย โลกทั้งหมดจะเป็นดินแดนภารัต ในเวลานี้ มีแผ่นดินที่แตกแยกออกไปมากมาย ทุกคนได้ยืดเอาดินแดนส่วนหนึ่งจากดินแดนอันยิ่งใหญ่ของภารัตมาเป็นของตน อะไรก็ตามที่ถูกนำไปจะต้องถูกนำกลับคืนมา เพราะว่าภารัตคือผู้บริจาคที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนได้รับที่ดินผืนหนึ่ง ลูกไม่ต้องขอเพื่อที่จะได้ที่ดินผืนหนึ่ง ลูกจะได้รับโดยอัตโนมัติ

ที่นี่ พวกเขากล่าวว่าสิ่งของพิเศษนั้นมาจากออสเตรเลียหรือจากญี่ปุ่น ทวีปเหล่านั้นจะไม่ปรากฏอยู่ ตามละครแล้ว สิ่งที่ผลิตที่นั่นจะถูกส่งมายังอินเดีย ข้าวสาสี ฯลฯ นั้นนำเข้ามาจากอเมริกา ในสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดขาดแคลน ทุก ๆ สิ่งนั้นบริสุทธิ์และใหม่อย่างสมบูรณ์ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอสิ่งใดจากใคร

อเมริกาและอังกฤษจะเป็นสถานที่สำหรับปิคนิค จะมีสถานที่เช่นนั้นน้อยมาก จะไม่ีมีแผ่นดินมากมายที่ไม่เป็นระเบียบเช่นทุกวันนี้ เมื่อลูกบินด้วยเครื่องบินของลูก ลูกจะถึงจุดหมายปลายทางด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเสียง เครื่องบินของลูกจะบินด้วยความเร็วที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ มันจะไปถึงจุดหมายปลายทางของลูกเร็วกว่าความเร็วของโทรศัพท์ นี่คือเหตุผลที่ลูกไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์ จะมีเครื่องบินขนาดครอบครัวพร้อมกับเครื่องบินส่วนตัว จะมีเครื่องบินจอดเรียงแถวอยู่ในพระราชวังของลูก เครื่องบินเหล่านี้จะขับได้ง่ายมาก เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ทั้งหมดจะใช้พลังงานอะตอม

สันสการ์ของยุคทองจะไม่ได้รับการพัฒนาเพียงแค่การคิดเกี่ยวกับสันสการ์เหล่านั้น หรือการนำมันเข้าไปอยู่ในสำนึกของลูก แต่ด้วยการนำสันสการ์เหล่านั้นไปใช้ในทางปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าลูกอาศัยอยู่ในโลกนี้ ในสายตาของลูกจะเห็นฉากของยุคทอง รูปร่างในอนาคตที่ลูกจะไปใช้จะปรากฏอย่างชัดเจนซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสายตาของลูกจริง ๆ ลูกจะเพียงแต่ทิ้งเสื้อผ้านี้ในขณะหนึ่งและไปใช้เสื้อผ้าที่ได้รับการประดับประดาไว้อย่างงดงาม ลูกจะมีประสบการณ์นี้ แม้ในระหว่างยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ลูกจะมีประสบการณ์ของรูปร่างในยุคทองของลูก ลูกแต่ละคนจะได้รับการเปิดเผยต่อตัวลูกเองในฐานะที่เป็นทั้งผู้ทำความเพียรพยายามและในรูปของผลรางวัลของลูก




เหล่าเทพแห่งยุคทองจะไม่มีความปรารถนาใด ๆ เป็นเวลาในยุคแห่งการบรรจบพบกันซึ่งโดยผ่านพ่อ ความปรารถนาทั้งหมดของลูกนั้นถูกทำให้เป็นจริง ด้วยเหตุนี้สวรรค์จึงถูกเรียกว่า สถานที่มหัศจรรย์ของการบรรลุผลแห่งพระเจ้า

Wednesday, July 3, 2013

ยุคทอง(1)

ความหมายของยุคทอง นั้นคือรูปทั้งหมดของความสุขทางวัตถุ ความสุขของดวงวิญญาณ สติปัญญา ความคิด ความสัมพันธ์ และรูปอื่น ของความสุขทั้งหมดนั้นปรากฏอยู่ ณ ที่นั่น สิ่งที่ดีที่สุดอย่างแท้จริงทั้งหมดซึ่งปรากฏอยู่ในโลกนี้จะมีอยู่ ณ ที่นั่น ในรูปที่บริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมที่สุด รูปซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะให้ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ร่างกายของลูก จิตใจ ความมั่งคั่ง อากาศ และสิ่งที่ได้มาทั้งหมดจะอยู่ในรูปที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า "ยุคทอง"




จะมีครอบครัวที่มีความสุขและสมบูรณ์พร้อมเดียว พระราชาและประชาชนนั้นทัดเทียมกัน แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในสถานภาพ ทั้งหมดก็อยู่อย่างเป็นเช่นครอบครัว ไม่มีใครจะพูดว่าคนนี้เป็นคนรับใช้ จะมีตำแหน่งต่าง ๆ และจะมีการทำงาน แต่จะไม่มีความรู้สึกว่าบางคนนั้นเป็นคนรับใช้ เช่นเดียวกับครอบครัว ในทุก ๆ ความสัมพันธ์จะมีความพอใจในความสุข เป็นครอบครัวที่มีความสุข ครอบครัวที่เต็มไปด้วยพลัง สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปของความสูงส่งทั้งหมด

ในยุคทอง เนื่องจากการปกครองด้วยกษัตริย์และสิทธิในอาณาจักร ประชาชนนั้นเต็มไปด้วยรูปแบบทั้งหมดของความมั่งคั่ง ท่วมท้นไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและสิ่งที่เป็นประโยชน์ทุก ๆ สิ่งอยู่เสมอ และอยู่ในพระราชอำนาจในการปกครองของกษัตริย์ในทุก ๆ ชาติเกิด แต่ละคนได้รับการบรรลุผลในชีวิตทั้งหมด การบรรลุผลนั้นได้รับการบริการจากทุก ๆ ด้าน ไม่มีใครมีความปรารถนาใด ๆ สำหรับการบรรลุผล แต่การบรรลุผลจะปรารถนาที่จะให้นายของพวกเขาได้รับการบริการ ในทุก ๆ ด้าน เหมืองแร่จะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมด ทรัพย์สมบัติทุกอย่างพร้อมที่จะให้ความสุขในรูปแบบของมันเอง แตรของความสุขอย่างสม่ำเสมอจะถูกเป่าโดยอัตโนมัติ




จะมีเครื่องดนตรีที่ประดับด้วยเพชรพลอย พวกเขาจะมีเครื่องดนตรีธรรมชาติซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการเล่น ลูกเพียงแต่สัมผัสด้วยนิ้วมือของลูกและมันก็จะบรรเลง ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม เสื้อผ้าของลูกจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมและที่อยู่ของลูก ลูกจะสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างมากมายและมีเครื่องประดับเพชรพลอยหลายชนิด จะมีมงกุฏและเครื่องประดับเพชรพลอยมากมายหลายชนิด แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่หนัก มันจะเบายิ่งกว่าปุยฝ้าย จะมีทองคำแท้และฝังด้วยเพชรซึ่งจะทำให้เกิดรัศมีของแสงทั้งหมดเมื่อกระทบกับแสงไฟ จากเพชรเม็ดเดียวสีสันต่าง ๆ มากมายก็จะปรากฏออกมา เช่นที่ลูกใช้แสงไฟสีต่าง ๆ พวกเขาใช้เพชรเพื่อที่จะทำให้เกิดแสงสีต่าง ๆ




ที่นั่น ลักษมีและนารายัญคือจักรพรรดิและจักรพรรดินีของยุคทอง ในวัยเด็กของพวกเขา พวกเขาคือราเด้และกฤษณะ ผลรางวัลที่สูงส่งเช่นนั้นพวกเขาจะต้องได้รับจากผู้สร้างสวรรค์อย่างแน่นอน ในสวรรค์ จะมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ ต้นไม้ของครอบครัวของเหล่าเทพในตอนเริ่มแรกจะเล็กแล้วก็เติบโตขึ้น ประชากรของอาณาจักรของเหล่าเทพจะมีน้อยมาก เรียกได้ว่าเป็นโลกแห่งความเป็นอมตะ




ลักษมีและนารายัญนั้นแต่ละคนมีสองแขน และพวกเขาถูกเรียกว่าการจุติของวิษณุ ราชวงศ์ของวิษณุดำเนินต่อไป พวกเขาถูกเรียกว่ามหาลักษมีและนารายัญ ในยุคทอง ผู้คนมีชีวิตครอบครัวที่บริสุทธิ์ และด้วยเหตุนี้ ในวัดของนารายัญพวกเขาแสดงภาพที่มีสี่แขน

ดินแดนของลักษมีและนารายัญนั้นถูกเรียกว่า "ดินแดนของวิษณุ" เหล่าเทพนั้นเคยเป็น "ไวชนาฟ" (Vaishnavs) ไวชนาฟนั้นหมายถึง "ความบริสุทธิ์"

ลักษมีและนารายัญนั้นสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ การยิ้มไม่เหมือนกับการส่งเสียงหัวเราะอันดัง ด้วยการอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสและยิ้มแย้มอยู่เสมอ ก็มีความสุขอยู่ภายใน การหัวเราะเสียงดังนั้นไม่งดงาม เป็นการดีที่สุดที่เพียงแต่ยิ้ม

ในยุคทองไม่มีความทุกข์ใด ๆ แต่จะมีความแตกต่างระหว่างผู้ที่มั่งคั่งและผู้ที่มั่งคั่งน้อยกว่า ในโลกทุกวันนี้ ทั้งผู้คนที่ยากจนและมั่งคั่งต่างก็ตกอยู่ในความทุกข์ ในขณะที่ที่นั่น ผู้คนในทุกระดับของความมั่งคั่งนั้นจะมีความสุข จะมีความแตกต่าง แต่ไม่มีผู้ใดมีความทุกข์

ในยุคทอง พวกเขาแสดงการเต้นรำของกฤษณะ อย่างแน่นอน เหล่าเจ้าชายและเจ้าหญิงจะเต้นรำด้วยกัน แต่ปวงประชาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกของราชตระกูลได้ ในยุคทอง ทุกคนจะมีช้อนทองในปากของพวกเขา



ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความแท้จริง ไม่มีรูปของความหลอกลวง ในสวรรค์ มีทั้งความสงบและความบริสุทธิ์ ความสุขนั้นขึ้นอยู่กับความมั่งคั่ง และในสวรรค์นั้นมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก เพราะความมั่งคั่งจึงมีเครื่องบิน ราชวังที่ใหญ่โตและมีความหรูหราในทุกรูปแบบ มีความมั่งคั่ง ความสงบ และสุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ เหล่าเทพนั้นสนุกสนานเพลิดเพลินกับการบรรลุผลทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่า "โลกแห่งความสุข ความบริสุทธิ์ ความสงบ" ความสุขมีทุก ๆ สิ่ง ณ ที่นั่น มีเพียงศาสนาเดียว โลกนั้นบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ จึงถูกเรียกว่า "ชีวาลายา" (Shivalaya) เช่นที่พระราชาและพระราชินีนั้นบริสุทธิ์ ปวงประชาทั้งหมดนั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน

ทุกสิ่งในยุคทองนั้นจะใหม่ แสงสว่างจะดูราวกับว่าเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสิ่งประดิษฐ์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกนี้จะถูกนำไปใช้ทีนั่น พระราชวังทุกแห่งจะมีเฮลีคอปเตอร์เป็นของตนเองซึ่งสามารถบินได้เพียงด้วยการกดปุ่ม เครื่องยนต์ทั้งหมดจะไม่เคยขัดข้อง ไม่มีกลไกใดที่จะผิดพลาด ลูกจะไปถึงโรงเรียนหรือสถานที่ที่ลูกพอใจภายในหนึ่งวินาที




ในยุคทอง มีศาสนาเดียวและภาษาเดียว ความมากมายหลายหลากของศาสนาและภาษาจะไม่ปรากฏ ณ ที่นั่น จะมีเพียงศาสนาเทพโบราณดั้งเดิมเท่านั้น ดินแดนแห่งภารัตนี้จะมีความสุขจากการปกครองที่ไม่มีการแบ่งแยกจากคู่ครองที่สูงส่ง ลักษมีและนารายัญ ประชาชนชาวภารัตเท่านั้นที่จะคงอยู่ จะมีการปกครองเดียว ศาสนาเดียว และภาษาเดียว ซึ่งกำลังถูกก่อตั้งขึ้นในปัจจุบันในเวลาของยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ดังนั้น ในสถานที่นั้นจะมีคำสั่งเดียว อาณาจักรของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ยุคทองนั้นถูกปกครองโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินี ในขณะที่ผู้ปกครองในยุคเงินนั้นถูกเรียกว่าพระราชาและพระราชินี จากยุคทองแดงเป็นต้นมา หนทางของบาปก็เริ่มต้นขึ้น

ผู้คนทั้งหมดในยุคทองนั้นเป็นดวงวิญญาณที่มีคุณธรรม เหล่าดวงวิญญาณที่ได้รับการพัฒนาทางจิตอย่างแทัจริงต่างก็บริสุทธิ์ ในยุคทอง จะเป็นอาณาจักรของศรีลักษมีและศรีนารายัญ และในยุคเงินจะเป็นอาณาจักรของรามและสีดา ยุคของกฤษณะนั้นไม่ได้แยกออกไป ในความเป็นจริงเขาก็คือ "เจ้าแห่งสวรรค์" (Lord Of Vaikunth)

ในสวรรค์ ไม่มีผู้ใดที่ไม่บริสุทธิ์ที่จำเป็นจะต้องมีกูรูเพื่อการชำระให้บริสุทธิ์ พ่อแม่ต่างก็ล้างเท้าให้แก่ลูก ๆ ของพวกเขาเองและวางพวกเขาไว้บนบัลลังก์ ที่นี่กูรูนั้นเป็นที่ต้องการเพื่อการหลุดพ้นในชีวิต แต่ที่นั่นผู้คนทั้งหมดต่างก็อยู่ในสภาพของการหลุดพ้นในชีวิต

ยุคทองนั้นเป็นโลกที่เล็กมาก ที่นี่ มี 8.4 ล้านสายพันธุ์ ที่นั่น จะมีไม่มาก จะไม่มีการบูชากราบไหว้ การสละละทิ้งหรือการสิ้นเยื่อใย (Disinterest) ในสวรรค์ ในยุคทองถูกเรียกว่าเป็นบ้านที่แสนหวานของเราด้วยเช่นกัน เพราะว่าเหล่าเทพนั้นอ่อนหวานอย่างยิ่ง ที่นั่น มีความสงบ เช่นเดียวกับความสุขของโชคแห่งอาณาจักร