Wednesday, November 1, 2023

คุณธรรม - ความไม่หวั่นไหว (Unshakable)

 ขอให้ลูกเป็นผู้ที่ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ด้วยการมีสภาวะของการกลายเป็นผู้เฝ้าดูที่ละวาง โดยผ่านประสบการณ์ความรู้ของละคร ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้วยความรู้เรื่องละคร คงอยู่อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ ในสภาวะของผู้เฝ้าดูที่ละวาง และก็มีประสบการณ์ของสภาวะที่ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีประสบการณ์ของประเด็นของละคร จะไม่เห็นอะไรไม่ดีในสิ่งใด ๆ ที่ไม่ดี แต่จะเก็บเฉพาะสิ่งดี ๆ เท่านั้นจากสิ่งนั้น นั่นคือ ดวงวิญญาณเช่นนี้จะสามารถเห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเอง และบัญชีของความสูญเสียก็จะจบสิ้น พวกเขาเป็นลูก ๆ ของพ่อผู้ให้ และนี่คือยุคแห่งคุณประโยชน์ ด้วยประสบการณ์ของความรู้นี้ก็กลายเป็นผู้ไม่หวั่นไหวและสั่นคลอน (อเวียก 27/09/75)

ผู้ซึ่งสร้างสภาวะของพวกเขาตามสภาวะแวดล้อมไม่สามารถเป็นผู้ที่ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ลูกสามารถเห็นดวงวิญญาณที่มีชีวิตอยู่กับความไม่รู้ จะอยู่อย่างขณะหนึ่งมีความสุข แต่อีกขณะหนึ่งพวกเขาก็หงายท้องล้มลง และดังนั้นชีวิตทางดวงวิญญาณไม่ควรเป็นชีวิตที่ขึ้น ๆ ลง ๆ มันไม่ควรจะขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม (อเวียก 27/12/87)

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าอะไรจะเข้ามา ถ้าแม้ว่าความยากลำบากเท่าภูเขาที่ใหญ่ที่สุดมา ถ้าเมฆหมอกของการกระทบกันของสันสการ์มา ถ้าธรรมชาติมาทดสอบลูก จะเป็นเหมือนองคต จงอย่าให้ฐานของสติปัญญาและจิตใจของลูกหวั่นไหว คงอยู่อย่างไม่หวั่นไหว ถึงแม้ในอดีตลูกเคยหวั่นไหว อย่าได้นำสำนึกนั้นกลับมาในความคิดของลูกอีก จงใส่จุด "ฟูลสต๊อบ" จงทำให้ชีวิต ณ เวลานี้สูงส่งเหมือนกับชีวิตของบาบา ทำง่าย ๆ และมองดูอนาคตด้วยสิทธิของการมีความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ การบรรลุถึงความสำเร็จด้วยวิธีนี้ อย่าได้เริ่มในวันพรุ่งนี้ แต่จงเริ่มเดี๋ยวนี้เลย (อเวียก 31/12/91)

ลูกได้รับอาณาจักรที่ไม่หวั่นไหวสั่นคลอนได้อย่างไร โดยผ่านสภาวะของเวลาปัจจุบัน ถ้ามีเพียงพ่อแต่ผู้เดียว ไม่มีผู้อื่นจากบัดนี้ แล้วผลตอบแทนก็คือความไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ลูกก็จะได้รับอาณาจักร ถ้าลูกไม่มีสภาพนี้ ณ เวลานี้ ลูกก็จะไม่สามารถประกาศสิทธิในสิทธิต่ออาณาจักรเช่นกัน ลูกมีสภาวะอะไร ลูกอยู่อย่างไม่หวั่นไหวหรือขึ้น ๆ ลง ๆ ลูกชอบสภาวะที่ไม่หวั่นไหว หรือว่าลูกชอบ เมื่อมีความขึ้น ๆ ลง ๆ ลูกไม่ชอบเช่นนั้นใช่ไหม เมื่อลูกมีเป้าหมายของการปกครองอาณาจักรที่ไม่หวั่นไหว แล้วเพียงแต่ถ้าลูกมีคุณสมบัติเช่นนี้เท่านั้น ที่เป้าหมายของลูกจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น ณ เวลาปัจจุบัน เพียงเมื่อลูกซึมซับคุณสมบัติเท่านั้นที่ลูกจะสามารถบรรลุเป้าหมายของลูกได้ (อเวียก 17/03/91)

ไม่มีความขึ้นลงของความไร้สาระหรือสถานการณ์อื่น หรือของวัตถุธาตุ หรือว่ามี ผู้ซึ่งทำให้โลกไม่หวั่นไหวและมั่นคงจะกลับมาขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วยตัวเขาเองได้อย่างไร ไม่ว่าสถานการณ์จะใหญ่โตขนาดไหน เมื่ออยู่ตรงหน้าสภาวะดั้งเดิมของลูก อะไรคือสถานการณ์ภายนอก มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครสามารถทำให้มหาระตีหวั่นไหว ดังนั้นจงเป็นผู้ไม่หวั่นไหวและทำให้ผู้อื่นไม่หวั่นไหวเช่นกัน (อเวียก 01/02/94)

ในเวลาสุดท้าย เมื่อกองหญ้าแห้งถูกจุดขึ้น ลูกก็จะมมีสภาพไม่หวั่นไหว (ซาคาร์ 02/04/96)

ถ้าสภาวะของลูกขึ้น ๆ ลง ๆ เสมอ เหตุผลก็คือลูกนำสติปัญญาของลูกไปจากการชุมนุม นั่นคือไปจากการพบปะ นั่นคือลูกได้ทิ้งการชุมนุม และไม่ได้คิดว่ามันเป็นเกมส์ ดังนั้น จงจดจำสองคำไว้เสมอ คือ การชุมนุมและเกมส์ มันหมายถึงการกลมกลืนของสันสการ์ การพบปะของพ่อกับลูก ๆ และความสัมพันธ์ของการพบปะของการได้รับทุกสิ่ง โดยมีความสัมพันธ์ทั้งหมดกับพ่อ ทุกสิ่งรวมอยู่ในนี้ สิ่งหลักก็คือโลกนี้เป็นการละเล่น อย่างไรก็ตามการทดสอบต่าง ๆ และสภาวะของมายาที่มาก็เป็นการละเล่นของลูกด้วย ถ้าลูกเพียงแต่คิดว่ามันเป็นการละเล่น ลูกก็จะไม่โศกเศร้าด้วยการละเล่นนั้น ลูกจะหัวเราะอย่างสม่ำเสมอ และดังนั้น แม้แต่การทดสอบก็เป็นการละเล่น สิ่งที่สาม เมื่อลูกคิดว่ามันเป็นการละเล่น บทบาท มันเป็นการเล่นของผู้เล่นที่ลูกดู ด้วยสันสการ์ต่าง ๆ ของพวกเขาและก็ถูกกำหนดตายตัวในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ เมื่อลูกมีสำนึกนี้ สภาวะของลูกก็จะไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ (อเวียก 08/07/73)

มันเป็นสัญลักษณ์ของโชคดี ถ้ามีความยากลำบากที่เข้ามา เพราะว่ามันมาเพิ่มพลังให้กับรากฐานของลูก ลูกคงอยู่อย่างไม่หวั่นไหวอย่างสม่ำเสมอใช่ไหม กัลป์ที่แล้วก็เช่นกันที่กองทัพของราวันพยายามที่จะเขย่าลูก และด้้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกไม่หวั่นไหว ความยากลำบากจะมาและผ่านไป แต่ลูกจะต้องเพิ่มสภาวะตัวของลูกอย่างสม่ำเสมอ ถ้าลูกหวั่นไหวในการเผชิญกับความยากลำบาก มันจึงทำให้สภาวะของตนเสียไป ดังนั้น ไม่ว่าอะไรที่เข้ามาจะยากสักเท่าใด จงกระโดดข้ามและก้าวเดินต่อไป ความยากลำบากจะมาเพื่อทดสอบศรัทธาของลูกว่าจะเขย่าได้ไหม แต่เมื่อลูกทำให้สภาวะของลูกแข็งแรง มันก็จะคารวะลูกแล้วก็จากไป การเริ่มต้น พวกมันจะมาในรูปที่ดุร้าย แต่หลังจากนั้น พวกมันก็จะกลายมาเป็นผู้รับใช้ของลูก และดังนั้นประเด็นสำคัญคือการท้าทาย "ฉัน คือ มหาวีระ"  เหมือนอย่างกับการไม่มีร่องรอยเหลืออยู่บนน้ำ ดังนั้นเช่นกันไม่ควรจะมีร่องรอยของความยากลำบากกับลูกผู้ซึ่งเป็นนายของมหาสมุทรแห่งความรู้ (อเวียก 26/11/79)

สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ สมบัติของเวลาของยุคแห่งการบรรจบพบกัน มีสมบัติมากมาย (เพชรพลอยแห่งความรู้ พลังต่าง ๆ โดยการฝึกโยคะ คุณธรรมที่สูงส่งโดยผ่านการซึมซับ ความสุขที่ได้จากงานรับใช้ พรโดยผ่านครอบครัวบราห์มินและอื่น ๆ) แต่เมื่อลูกเพียงแต่ซึมซับไว้ภายในตัวลูก พลังของการรวบรวมสมบัติที่ลูกเพิ่งจะได้รับการบอกเล่า และเพราะว่าลูกเป็นผู้เต็มอยู่อย่างเสมอ ก็จะไม่มีการขึ้น ๆ ลง ๆ แม้แต่เพียงน้อยนิด มีการขึ้นลงเมื่อมีสิ่งหนึ่งว่างเปล่า อะไรก็ตามที่เต็มจะไม่ขึ้นลง ลูกยิ่งใช้สมบัติสำหรับตัวลูกเองหรือเพื่อรับใช้ผู้อื่น สมบัติยิ่งถูกใช้มาก มันก็จะเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน (อเวียก 30/11/92)

ดังนั้น จดจำตนเองและเวลาอย่างสม่ำเสมอ ตนคือผู้ให้ เวลาก็เป็นประโยชน์ด้วย ด้วยสำนึกเช่นนี้ ลูกก็จะคงอยู่อย่างเป็นผู้พิชิตมายาและธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรจะมีการขึ้นลงแม้แต่เพียงเล็กน้อย ลูกควรจะไม่หวั่นไหวและโยกคลอน และมั่นคง ไม่มีใครทำให้ลูกผันแปรไปจากศรัทธานี้ (อเวียก 02/12/93 กลุ่ม 6)

ลูกมีประสบการณ์ว่าตัวลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีทรัพย์สมบัติอย่างท่วมท้น นั่นคือเป็นดวงวิญญาณผู้ซึ่งเต็ม สัญลักษณ์ของความเต็ม นั่นคือ พวกเขาจะไม่หวั่นไหว พวกเขาจะไม่ขึ้น ๆ    ลง สิ่งใดที่ยิ่งว่างเปล่า ก็จะยิ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ดังนั้น ถ้ามีความผันผวนใด ๆ ไม่ว่าจะโดยความคิดคำพูด ความสัมพันธ์ และการติดต่อ แล้วนั่นแหละคือเครื่องพิสูจน์ว่าลูกไม่เต็มด้วยสมบัติทั้งหมด ลูกควรจะไม่หวั่นไหวในความคิดของลูก และในความฝัน ลูกยิ่งมีสำนึกของการเป็นนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาดในรูปที่เห็นได้ การผันผวนก็จะยิ่งจมหายไปมากขึ้น สำนึกของการเป็นนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาดควรจะปรากฏขึ้นในรูปของการนำไปใช้จริงในชีวิต ในฐานะที่การครอบครองของกายธาตุคงอยู่ในรูปที่ปรากฏ มันมิได้หลบซ่อน ทำนองเดียวกันการงานของบราห์มินควรจะคงอยู่ในรูปที่ปรากฏให้เห็น ตรวจดูว่าไม่ว่ามันคงอยู่ในรูปที่ปรากฏ ตรวจดูไม่ว่ามันจะคงอยู่ในรูปที่ปรากฏหรือในรูปที่หลบซ่อน ถ้าคงอยู่ในรูปที่ปรากฏสัญลักษณ์ของสิ่งนี้คือ จะมีความซาบซึ้งในทุกกระการทำ และผู้อื่นก็จะมีประสบการณ์ว่าลูกเป็นดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยพลัง มีการกล่าวว่า ผู้นี้อยู่เหนือความผันผวนใด ๆ เขาไม่หวั่นไหว บ้านแห่งความมั่นคงเป็นอนุสรณ์ของลูก จงจดจำหน้าที่ของลูกอย่างสม่ำเสมอ ลูกคือนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด พวกเขาเฝ้าแต่เล่าเรื่องความอ่อนแอ ใช่หรือไม่ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรที่พวกเขาปรารถนา นี่เป็นเพราะว่าพวกเขาอ่อนแอ 

ขณะที่ลูกสามารถนำความคิดของลูกไปใช้ในทางปฏิบัติ สัญลักษณ์ของลูกที่เป็นนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด นั่นคือความคิด การกระทำ ทั้งสองนั้นเหมือนกัน มันไม่ควรเป็นว่าความคิดของลูกนั้นสูงส่ง แต่เมื่อถึงเวลาการนำมันออกใช้ ลูกก็ไม่สามารถที่จะใช้ความคิดสูงส่งเหล่านั้นในทางปฏิบัติ นี่เองที่ไม่ถูกเรียกว่านายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด ดังนั้นตรวจดูว่าลูกสามารถที่จะนำความคิดที่สูงส่งไปใช้ในทางปฏิบัติหรือไม่ สัญลักษณ์ของนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด ณ เวลานั้น เมื่อลูกต้องการพลังใดโดยเฉพาะ ลูกควรจะสามารถใช้พลังนั้นได้ในเวลาที่ต้องการ ลูกควรจะสามารถใช้พลังนั้น ณ เวลานั้น 

ลูกควรจะสามารถใช้พลังอะไรก็ตามที่ลูกต้องการ ณ เวลาที่ลูกต้องการมัน ลูกมีพลังควบคุมเช่นนั้นหรือไม่ ลูกไม่คิดว่าลูกไม่ปรารถนาจะให้มันเกิดขึ้น แต่มันได้เกิดขึ้น ใช่ไหม ขณะที่ตรวจสอบพลังแห่งการควบคุมของลูกอยู่เสมอ จงกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังอย่างต่อเนื่อง

เมื่ออุปสรรคใด ๆ มา ลูกใช้เวลานานเท่าใดที่จะทำให้ลูกเป็นผู้พิชิตชัยชนะ มันต้องใช้เวลาหรือลูกเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ และดังนั้นลูกก็มีความรู้ของอุปสรรคด้วย ด้วยพลังแห่งความรู้ของลูก อุปสรรคก็จะไม่มาโจมตีลูก แต่พวกมันจะพ่ายแพ้แทน นี่คือสิ่งที่รู้กันว่าความเป็นนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด ดังนั้นขอจงให้มีอยู่และคงอยู่ในรูปที่ปรากฏเห็นจาก              อมฤทเวลา และแล้วตรวจสอบตลอดทั้งวันอย่างต่อเนื่อง (อเวียก 02/12/93 กลุ่ม 2)

เมื่อลูกมีสภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหตุผลคือ การฟัง การคิด การพูด หรือการทำบางสิ่งในทางลบ อย่าคิด พูด ฟัง หรือทำบางสิ่งที่ให้โทษ พลังของความสงบจะไม่สามารถเปลี่ยนบางสิ่งจากลบให้เป็นบวกได้เชียวหรือ ความคิด สติปัญญาของลูกควรจะเป็นเช่นที่ว่าพวกมันไม่แตะต้องสิ่งที่เป็นโทษใด ๆ ควรมีการเปลี่ยนแปลงในหนึ่งวินาที ลูกสามารถที่จะมีประสบการณ์ที่รวดเร็วเช่นนี้ไหม ความคิดและสติปัญญาควรจะกลายเป็นอาวุธที่รวดเร็วเช่นนั้น (อเวียก 26/02/95)


 จาก "หนังสือ 55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

No comments:

Post a Comment