Sunday, July 7, 2013

ยุคทอง(5)

ในยุคทอง ธาตุทั้งห้าของธรรมชาตินั้นเป็นเครื่องมือแห่งความสุขสำหรับเหล่าเทพ
การปรุงอาหารทั้งหมดนั้นทำด้วยพลังแสงอาทิตย์
สายลมนั้นจะเป็นพัดลมตามธรรมชาติสำหรับลูก และจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิงของลูก ลมจะพัด ต้นไม้ต่าง ๆ ก็จะแกว่างไกว และกิ่งก้านก็จะเคลื่อนไหว ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ก็จะมีการบรรเลงเพลงตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติ ณ ที่นั่น ไม่มีการใช้พัดลมเพื่อระบายความร้อน แต่ธรรมชาติจะพัดลูกด้วยตัวของมันเอง สิ่งสร้าง ในฐานะที่เป็นลูกของลูก ก็จะบรรเลงเพลงต่าง ๆ แด่พ่อแม่แห่งโลกของพวกมันนด้วยการเคลื่อนไหวใบของมัน เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันจากการแกว่างไกวของต้นไม้ต่าง ๆ นั้น จะทำให้เกิดเสียงเพลงต่าง ๆ ตามธรรมชาติ




อากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวในสวรรค์ อากาศจะเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอดเวลา ธาตุต่าง ๆ นั้นจะอยู่ในระเบียบ

ท้องฟ้านั้นจะเป็นอิสระเสรีสำหรับความพอใจของทุกคน ท้องฟ้าจะเป็นอาณาเขตสำหรับการขับเครื่องบินของลูก เส้นทางบินนั้นจะปราศจากอุบัติเหตุ แม้แต่เครื่องบินของเด็กอายุแปดขวบก็จะไม่ตก

น้ำนั้นจะำทำหน้าที่ในการสร้างกลิ่นหอม เนื่องจากสมุนไพรต่าง ๆ น้ำในแม่น้ำคงคานั้นก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำใด ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรต่าง ๆ ที่น้ำนำมากับมันนั้นจะให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ที่นี่่ น้ำนมนั้นให้พลังงาน ในทำนองเดียวกัน น้ำนั้นเต็มไปด้วยพลังงานและสะอาด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกล่าวว่ามีแม่น้ำของน้ำนมในสวรรค์ เช่นเดียวกับน้ำในแม่่น้ำคงคาในวันนี้ ซึ่งเป็นน้ำสำหรับอาบนั้นถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากแร่ธาตุและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นไหลมาจากภูเขาต่าง ๆ พร้อมกับน้ำนั้น ไม่มีแบคทีเรียในน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงถูกพิจารณาว่าบริสุทธิ์ ในทำนองเดียวกัน บนภูเขาต่าง ๆ นั้นมีสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมซึ่งเมื่อน้ำไหลมาจากที่นั่นก็จะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่มีความต้องการต่อสิ่งที่เป็นของเทียม 

ในยุคทอง แม่น้ำทั้งหมดนั้นจะสะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งแม่น้ำคงคาจะไม่ถูกเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ในความเป็นจริง ในแม่น้ำอื่น ๆ ก็จะไม่มีมลภาวะ ในยุคทอง ไม่มีกฏที่จะทำให้สิ่งใดไม่บริสุทธิ์ ณ ที่นั่นทุกสิ่งคงอยู่อย่างบริสุทธิ์

พื้นดินจะให้ผลไม้ที่มีคุณภาพสูงมาก รสชาดใดก็ตามที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่มีรสชาดนั้นก็จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูก จะไม่มีเกลือหรือน้ำตาล เช่นที่อาหารนั้นสามารถทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยการเติมมะเขือเทศลงไปซึ่งจะมีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน รสชาดใดที่ลูกปรารถนา ผลไม้ที่ต้องการจะอยู่ ณ ที่นั่น เพียงแต่เติมน้ำผลไม้นั้น ก็จะได้รสชาดตามต้องการ พื้นดินจะรับใช้ลูกด้วยการให้ผลไม้และธัญพืชชนิดเลิศ เช่นที่ลูกได้ทำให้มีรสชาดหลากหลายด้วยการใช้เกลือ น้ำตาลและเครื่องเทศต่าง ๆ ในทำนองเดียวกัน ลูกจะมีผลไม้ตามธรรมชาติอย่างหลากหลายที่จะให้รสชาดต่าง ๆ เหล่านั้น ผลไม้ตามธรรมชาติเหล่านี้จะให้รสชาดที่หลากหลายแก่ลูก จะไม่มีโรงงานน้ำตาล แต่จะมีผลไม้ที่เป็นน้ำตาล รสชาดใดที่ลูกต้องการ ลูกสามารถทำขึ้นมาด้วยผลไม้ตามธรรมชาติ ลูกจะไม่ทำแกงจากผักสีเขียว แต่ทำจากผลไม้และดอกไม้ต่าง ๆ  จะมีผลไม้ซึ่งมีน้ำผลไม้ตามธรรมชาติ แยกกันสำหรับการรับประทานและการดื่ม ลูกจะไม่ต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะต้องคั้นน้ำผลไม้ ผลไม้แต่ละชนิดและทุก ๆ ชนิดจะบริบูรณ์อย่างมาก ซึ่งจะเป็นราวกับว่าลูกกำลังดื่มน้ำมะพร้าว ลูกจะเก็บผลไม้มา บีบมันเบา ๆ และน้ำผลไม้ก็จะปรากฏออกมา

อะไรก็ตามที่ลูกเรียกว่าทิวทัศน์ธรรมชาติก็จะเห็นได้ตามธรรมชาติ ภูเขานั้นจะไม่สูงชัน ภูเขาจะมีรูปลักษณ์หลากหลายที่งดงามตามธรรมชาติ บ้างก็จะเป็นรูปเป็นนก บ้างก็จะเป็นรูปดอกไม้ จะมีโครงสร้างตามธรรมชาติประเภทนี้ ในหนทางนี้ ธาตุทั้งห้าของธรรมชาติจะรับใช้ลูก




เช่นที่ทุกวันนี้พวกเขาทำเสียงเพลงขึ้นเอง ในสวรรค์นั้นเสียงของนกจะกลายเป็นเพลงบรรเลงที่หลากหลาย เหมือนกับเป็นของเล่นที่มีชีวิต พวกเขาจะแสดงการแสดงต่าง ๆ ให้ลูกดู ทุกวันนี้ ผู้คนได้เรียนรู้ที่จะผลิตของเล่นที่พูดได้ในหลาย ๆ รูปแบบ ณ ที่นั่นก็เช่นกัน เมื่อลูกใ้ห้สัญญาณนกต่าง ๆ ก็จะให้ความบันเทิงแก่ลูกด้วยเสียงที่ไพเราะและการแสดงที่สวยงามหลากหลาย

สวรรค์นั้นจะให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่นที่ในปัจจุบันนี้ที่ ไมซอร์ (Mysore) ผู้คนมากมายมาเพื่อที่จะชมความงาม จะมีความงดงามในสวรรค์ จะมีสายลมที่แสนสบายและมีน้ำตกที่สวยงาม ในสวรรค์ จะไม่มีการเปิดเพลงเพื่อที่จะปลุกลูกในอมฤตเวลา แต่จะมีเสียงเพลงที่แสนหวานของนกต่าง ๆ ที่ปลุกให้ลูกตื่น เวลาที่ลูกตื่นขึ้นมานั้นจะเป็นเวลาที่เช้ามาก แต่ลูกจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า เวลาของการตื่นนอนของเหล่าเทพที่มีชีวิตนั้นคือเวลาที่ผู้บูชากราบไหว้ได้ปลุกรูปปั้นของเหล่าเทพเพื่อที่จะทำการบูชากราบไหว้พวกเขาในเวลาเช้าตรู่ ในหนทางของการบูชากราบไหว้ ได้ให้ความสำคัญต่อชั่วโมงแห่งน้ำทิพย์ ลูกจะตื่นแต่เช้าตรู่ แต่ว่าตลอดเวลาลูกจะรู้สึกราวกับว่าลูกได้ตื่นเรียบร้อยแล้ว ลูกจะไม่ต้องทำงานหนักใด ๆ จะไม่มีทั้งงานที่หนัก และงานที่ต้องใช้สมอง และลูกจะไม่มีภาระใด ๆ เพราะสิ่งนี้ การตื่นหรือการนอนหลับจะเป็นสิ่งเดียวกัน




ในยุคทอง จะไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนอมฤตเวลาเพื่อที่จะนั่งสมาธิ เพราะว่าพวกเขาได้รับพลังของโยคะเรียบร้อยแล้ว จะเป็นราวกับว่าเมื่อลูกศึกษาเล่าเรียนตามระยะเวลาของหลักสูตรของการศึกษาของลูกเท่านั้น และจนกระทั่งลูกได้ผ่านการสอบทั้งหมดแล้ว

No comments:

Post a Comment