Friday, July 19, 2013

ละครโลกและปรัชญาแห่งกรรม


ละครนี้คือวงจรของเหตุการณ์ที่มีพื้นฐานอยู่บน กรรม-ผล-กรรม กรรม(การกระทำ) คือคุณสมบัติที่เป็นธรรมชาติของดวงวิญญาณที่อยู่ในร่างและไม่มีกรรมใดที่ปราศจากผล ดวงวิญญาณได้รับผลของทุก ๆ กรรมอย่างเป็นอัตโนมัติและเป็นธรรมชาติ ไม่มีดวงวิญญาณที่สามารถรับผลที่ดีหรือไม่ดีโดยปราศจากการทำกรรม และไม่มีใครสามารถรับผลของกรรมที่ได้กระทำโดยผู้อื่น แต่ละคนรับผลของกรรมของตัวเอง

นี่คือกฎแห่งกรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กฎแห่งกรรมนี้ทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติและอย่างเป็นอิสระและดังนี้นคนจึงสามารถเป็นเพื่อนของตัวเขาเองหรือเป็นศัตรูของตัวเขาเอง ถ้าใครเข้าใจละครได้อย่างถูกต้องแม่นยำเขาไม่สามารถที่ไปสู่กรรมที่เป็นบาปใด ๆ ได้ ในสภาวะที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเขาจะมีประสบการณ์กับพลังทางดวงวิญญาณอย่างเป็นอัตโนมัติและแล้วกรรมทั้งหลายก็จะสูงส่งอย่างเป็นธรรมชาิติ

"ลูกไม่สามารถพูดว่า : มันเป็นความประสงค์ของพระเจ้า พระเจ้าก็มีบทบาทในละครด้วยเช่นกัีน แต่ลูกจะพูดว่ามันเป็นโชคชะตาของละคร ผู้ที่กระทำกรรมที่เป็นบาปจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน (ผลกรรม) พ่อจะไม่ให้การลงโทษ นี่คือละครที่ถูกกำหนดไว้แล้วอย่างเป็นอัตโนมัติซึ่งดำเนินไปเรื่อย ๆ พ่ออธิบายถึงความลับและตอนเริ่มต้น ตอนกลางและตอนจบของมัน" SM 19/02/69 revised

แม้กระนั้น เพื่อประโยชน์ของลูกเอง ลูก ๆ พ่อผู้ให้คุณประโยชน์ ในรูปของผู้พิพากษาสูงสุด บอกลูกถึงกฎอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในกฎของละครในยุคบรรจบพบกันคือ สำหรับ 1 กรรม ลูกจะได้รับการบรรลุผลหรือการถูกลงโทษ/ความทุกข์ทรมานเป็น 100,000 เท่า มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของกรรม กฎนี้ทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติ พ่อไม่ได้แทรกแซงในเรื่องนี้ นี่คือเครื่องยนต์อัตโนมัติที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าปรัชญาแห่งกรรมนั้นล้ำลึกเป็นอย่างมาก ABD 03/05/77

"ถ้าลูกทำทุก ๆ สิ่งในขณะที่เป็นตรีกาลดาร์ชิ ลูกจะไม่สามารถทำกรรมที่เป็นบาปใด ๆ ได้ ลูกจะทำกรรมที่เป็นบวก (ให้ผลที่ดี) อยู่เสมอ....ในทำนองเดียวกันการทำกรรมในขณะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและเป็นพยานและลูกก็จะไม่กลายเป็นดวงวิญญาณผู้ซึ่งถูกผูกไว้ในบ่วงพันธะของกรรม"ABD 30/01/70

"เมื่อสิ่งใดเกิดขึ้นมนุษย์ก็จะพูดว่า มันเป็นความประสงค์ของพระเจ้า แต่ลูกพูดว่า มันเป็นโชคชะตาของละคร เพราะลูกรู้ว่าพระเจ้าก็มีบทบาทในละครด้วยเช่นกัน และมีเพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถอธิบายได้ว่าวงจรโลกหมุนไปได้อย่างไร และพ่อคือผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ มนุษย์คิดว่าท่านรู้ใจของทุกคน แต่เราจะต้องรับผลของกรรมที่เป็นบาปใด ๆ ก็ตามที่เราทำ พ่อจะไม่นั่งเพื่อที่จะทำการลงโทษ ละครนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้วและโดยธรรมชาติก็ใช้กฎและหลักการของมันอย่างเป็นอัตโนมัติ" SM 19/02/69 revised

"บางคนก็สะสมหนึ่งสตางค์และมันกลายเป็น 100,000 และบางคนขโมยหนึ่งสตางค์และมันก็กลายเป็น 100,000 พ่ิออธิบายกฎทั้งหมดให้แก่ลูก มือขวาของพระเจ้าคือธรรมราช(ผู้พิพากษาสูงสุด) และท่านรู้บัญชีทั้งหมดอย่างเป็นอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับกรรมที่ได้ทำ ผู้นั้นก็ได้รับความทุกข์หรือความสุข สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร"SM 14/12/69 revised

2 ล้อของรถลากของละครที่หมุนไปพร้อม ๆ กัน คือ:
1. ทุกฉากในละครถูกกำหนดไว้แล้ว
2. กฏแห่งกรรม

ผ่านทุก ๆ กรรม ดวงวิญญาณชำระสะสางบัญชีกับดวงวิญญาณต่าง ๆ และบัญชีใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเ่ช่นกัน ในเวลาปัจจุบัน ในตอนจบของกลียุค บัญชีทั้งหมดของหลาย ๆ ชาติเกิดนั้นได้รับการชำระสะสาง เพราะว่าละครกำลังจะจบแล้ว เวลาสำหรับการสร้างบัญชีใหม่สำหรับวงจรใหม่ที่กำลังจะมานั้นสั้น ดังนั้นดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความรู้จะไม่ประหลาดใจหรือถูกหลอกเมื่อเฝ้าดูบทบาทของใคร เขาจะไม่สร้างความคิดที่ไร้ประโยชน์ใด ๆ ในขณะที่เฝ้าดูเหตุการณ์ของละคร และดังนั้นจะไม่มีความรู้สึกของความเกลียดชัง ความโกรธและความอิจฉาริษยาต่อผู้ใด มันเป็นด้วยความรู้สึกที่บัญชีถูกสร้างขึ้นมา

No comments:

Post a Comment