Tuesday, July 16, 2013

ละครโลกและการทำความเพียร


ละครโลกนี้เป็นวงจรของเหตุการณ์ ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนการทำความเพียร-ผลรางวัล-การทำความเพียร, กรรม-ผลกรรม, การกระทำ-ปฏิกิริยาโต้ตอบ  ละครโลกนี้เต็มไปด้วยการกระทำและไม่มีดวงวิญญาณใดที่สามารถอยู่ ณ ที่นี่ได้โดยปราศจากการกระทำได้ และไม่มีแม้แต่การกระทำเดียวที่ปราศจากผล การทำความเพียรนั้นเป็นการกระทำที่เป็นธรรมชาติของดวงวิญญาณในละครนี้ ไม่มีดวงวิญญาณใดสามารถอยู่โดยปราศจากการทำความเพียรได้ การทำความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของละครโลกนี้ก็เป็นการทำความเพียรด้วยเช่นกัน แต่เราจะต้องรู้ว่าความเพียรประเภทใดที่เราควรจะทำ ดวงวิญญาณสูงสุดมาและให้ความรู้นี้แก่เรา

ดวงวิญญาณที่คงอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความลับของละครนี้ได้ ดวงวิญญาณเช่นนั้นเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะใช้คำว่า "ละคร" สำหรับละครนี้ ถึงแม้ว่าใครอาจจะมีความรู้เรื่องละคร จนกว่าเขาจะเข้าถึงสภาวะของสำนึกเป็นดวงวิญญาณเช่นนั้นเท่านั้น ผู้นั้นจึงจะทำความเพียรได้อย่างแท้จริง เพราะว่าการมีความรู้นั้นแตกต่างจากการซึมซับมันไว้

อะไรคือการทำความเพียร??
ในสนามของการกระทำ ทุก ๆ ดวงวิญญาณนั้นทำความเพียรไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งอย่างต่อเนื่อง แต่โดยทั่วไปคำว่า "การทำความเพียร" นั้นใช้ในเรื่องทางดวงวิญญาณเท่านั้น การทำความเพียรทางดวงวิญญาณที่ถูกต้องคือการเปลี่ยนสำนึกที่เป็นร่างไปเป็นสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ

ถ้าละครซ้ำเหมือนเดิมทุกประการ ทำไมเราต้องทำความเพียรเล่า ???

มันไม่ใช่ความจริงหรือที่มันจะผลักดันเราให้หยุดการทำความเพียรใด ๆ ???

ไม่ใช่! การเข้าใจละครอย่างถูกต้องนั้นเป็นการทำความเพียรพิเศษด้วยเช่นกัน การทำความเพียรอย่างถูกต้องนั้นคือการคงอยู่ิอย่างผู้สังเกตการณ์ที่ละวางในขณะที่เล่นบทบาทในละคร
เป็นเพียงเมื่อเราคงอยู่อย่างผู้สังเกตการณ์ที่ละวางเท่านั้นที่เราจะสามารถคงอยู่อย่างมั่นคงในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณได้
ทุก ๆ ดวงวิญญาณต้องการความสุขและความสนุกสนาน สิ่งเหล่านี้เป็นอุปนิสัยที่เป็นธรรมชาติของทุก ๆ ดวงวิญญาณ ผู้ที่เข้าใจละครนี้อย่างถูกต้องและกลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางจะคงอยู่อย่างมีความสุขและรู้สึกว่าละครนั้นสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่เข้าใจละครอย่างแท้จริงจะไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของร่างกายและโลกทางร่างกาย เพียงเท่านั้นที่เขาจะสามารถประสบกับความสุขอันแท้จริงจากละครได้ การคงอยู่อย่างเป็นอิสระและละวางจากร่างกายและโลกทางร่างกายและเฝ้าดูละครในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวางนั้นเป็นการทำความเพียรที่ล้ำลึกมาก ผู้ที่ต้องการมีชีิวิตที่สูงส่งเช่นนั้นจะไม่เคยมีความปรารถนาที่จะหลุดพ้นไปจากการที่ต้องการความเพียร

แต่ผู้ที่หยุดการทำความเพียรก็จะพูดว่าถึงอย่างไรมันก็ต้องเกิดขึ้นเหมือนอย่างที่เป็นในกัลป์ก่อน (เพราะว่าการซ้ำรอยเหมือนเดิมทุกประการของละคร) มันแสดงให้เห็นว่ายังไม่เข้าใจในความล้ำลึกของละคร การหยุดการทำความเพียรก็เป็นบทบาทของคน ๆ นั้นในละครด้วยเช่นกัน ด้วยความเข้าใจในละคร มันจะเป็นการง่ายที่จะคงอยู่อย่างผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและไม่ตำหนิผู้ใด เราควรเข้าใจว่าทุก ๆ ดวงวิญญาณจะำทำความเพียรทางดวงวิญญาณตามเวลาของพวกเขาเอง แต่ตัวเราเองไม่ควรจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งนั้นและหยุดการทำความเพียรของเราเองและพูดว่า "เราจะดูสิว่ามีอะไรอยู่ในละคร"

การทำความเพียรและโชคชะตาของมันนั้นอยู่ในความสมดุลอย่างสวยงาม การทำความเพียรนั้นเป็นไปตามละครและขึ้นอยู่กับการทำความเพียรเท่านั้นที่ดวงวิญญาณจะได้รับผล โชคชะตาของละครนั้นถูกต้องแม่นยำและไม่หยุดนิ่ง ปราศจากการทำความเพียรก็ไม่มีใครสามารถทำการกระทำและถ้าไม่มีการกระทำ จะมีผลใด ๆ ได้อย่างไร ? ถ้าไม่มีกรรม (การกระทำ) บทบาทในละครก็ไม่สามารถดำเนินต่อไป และเมื่อไม่มีบทบาทในละคร จะมีละคร/การแสดงได้อย่างไร?

"มีเพียงลูก ๆ บราห์มินเท่านั้นที่รู้ถึงความลับนี้ ต่างลำดับกันไป ใครได้ทำความเพียรในกัลป์ก่อนมากเท่าใด คนนั้นก็จะทำความเพียรมากเช่นนั้นในขณะนี้ ใครไม่ควรจะคิดวว่า:  อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในละคร มันก็จะเกิดขึ้น การทำความเพียรต้องมาก่อน ละครจะต้องนำผลมาให้และลูก ๆ ต้องทำความเพียร และใครทำความเพียรเช่นใด สถานภาพก็เป็นเช่นนั้น" SM 11/01/73

"ขึ้นอยู่กับการทำความเพียร โชคก็ถูกสร้างขึ้นมา การทำความเพียรเป็นไปตามละคร แต่อย่าได้เอาแต่นั่งและพูดว่าละคร (บราห์มาบาบาไอ)  ถ้าไม่กินยาผู้นี้ก็จะไม่หาย"  SM 19/07/68

"ผู้คนถามว่า:  การทำความเพียรทรงพลังมากกว่าหรือว่าโชคชะตาทรงพลังมากกว่า?
ปราศจากการทำความเพียรลูกก็ไม่สามารถได้รับโชค ดังนั้น ตามละครแล้ว การทำความเพียรเท่านั้นที่นำมาซึ่งโชคชะตาและด้วยเหตุนั้นบทบาทจึงถูกกำหนดไว้แล้วในดวงวิญญาณตั้งแต่ตอนเริ่มต้นไปจนถึงตอบจบ"  SM 16/12/99

ผู้ที่เข้าใจละครจะไม่เคยหยุดการทำความเพียร แม้ชีพบาบา ผู้ที่รู้เกี่ยวกับละครทั้งหมดและบริสุทธิ์ตลอดกาล ก็มาและทำความเพียรอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วยเช่นกัน ท่านกำลังทำให้พวกเราดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ ดังนั้นคนอื่นจะสามารถเป็นอิสระจากการทำความเพียรได้อย่างไร  ถ้าเราซึมซับหลักเกณฑ์ของการซ้ำรอยเหมือนเดิมทุกประการของละครไว้ มันจะช่วยเราให้ทำความเพียรเข้มข้นขึ้น เพราะว่ามันทำให้เราเป็นอิสระจากความคิดที่ไร้สาระเกี่ยวกับอดีตและอนาคต และดังนั้นเราก็จะประหยัดเวลาและพลังงานของเราเพื่อเป้าหมายที่สูงกว่า ผู้ทำความเพียรที่แท้จริงนั้นคือผู้ที่ำทำความเพียรที่สูงส่งในเวลาปัจจุบันนี้เท่านั้น โดยปราศจากการคิดถึงเหตุการณ์และความผิดในอดีตหรือความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต เขารู้ว่าเมล็ดของการกระทำที่สูงส่งที่หว่านไว้ในเวลาปัจจุบันจะออกผลในอนาคต

No comments:

Post a Comment