Wednesday, July 17, 2013

ละครโลกและสภาวะของตนเอง



การที่ดวงวิญญาณจะคงอยู่อย่างมั่นคงในสภาวะของตนเอง มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและรู้เห็นเป็นพยาน มันปลดปล่อยดวงวิญญาณจากความคิดที่ไร้สาระและความคิดสร้างความเสียหายได้ในหนึ่งวินาทีด้วยเช่นกัน ประสบการณ์ของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตกลายเป็นเรื่องง่าย และนี่คือเป้าหมายอันสูงสุดของการทำความเพียรทางดวงวิญญาณของพวกเรา มันทำให้ทัศนคติของเราสะอาดและบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน

สถานการณ์ของความทุกข์นั้นถูกเปลี่ยนไปเป็นความสุขด้วยสิทธิที่ได้รับผ่านพ่อ  มหาสมุทรแห่งความสุข นั่นคือ ผ่านแสงแห่งความรู้ ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดวงวิญญาณรู้สึกว่า: วา ละครที่สายงาม วา, บทบาทของนักแสดงทุก ๆ คน วา, ผู้ที่รู้สึกเช่นนั้นอย่างจริงใจถูกเรียกว่าผู้มีโชคอันดับหนึ่ง SM 01/12/83

พื้นฐานของความสุขของดวงวิญญาณคือการเล่นบทบาทของเขาอย่างประสบความสำเร็จด้วยการคงอยู่อย่างเป็นอิสระจากการตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของร่างกาย และดังนั้นจึงเป็นอิสระจากความคิดที่ไร้สาระและความคิดที่ให้โทษ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงปัญญาของดวงวิญญาณ

ความสัมพันธ์ทางร่างและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดจะอยู่กับเราชั่วคราวเท่านั้น และสิ่งเหล่านั้นก็จะจากเราไปในเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้วในอนาคต ดังนั้น ในความเป็นจริงมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องวิตกกังวลหรือยึดติด ความวิตกกังวลและความผูกพันยึดติดนั้นเป็นสาเหตุของความทุกข์ทั้งหมด ผู้ที่เป็นอิสระจากมันก็จะประสบกับปิติสุขสูงสุด

มีเพลงร้องว่า: ถ้าไม่ใช่วันนี้ ก็ต้องเป็นวันพรุ่งนี้ที่เมฆหมอกจะจางหายไป โอ... นักเดินทางในยามวิกาล ผู้ที่่หลงทาง บัดนี้มันเป็นเวลารุ่งอรุณและท่านจะต้องกลับบ้าน

ทำไม/อย่างไรมันจึงเป็นเช่นนั้น??

นี่คือความคิดที่ไร้ประโยชน์ มันเป็นเหมือนกับการทุบก้อนหินที่ขวางทางลูกอยู่ ถ้าใครจำความรู้เรื่องละครได้ เขาก็จะสามารถกระโดดข้ามหรือบินข้ามก้อนหินไปได้ ในการทุบก้อนหินเขาจะเสียเวลาเป็นอย่างมาก การกระโดดข้ามใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาที ABD 17/03/81

"วันนี้บัพดาดาได้เห็นว่าตามเวลาปัจจุบันนี้ เราจำเป็นต้องมีพลังในการควบคุมเหนือตนเองให้มากขึ้น เพื่อควบคุมอวัยวะทางร่างกาย ถ้าเราพูดว่าหยุดมันควรจะหยุด นี่คือวิธีจะเข้าถึงสภาวะคาร์มาทีท" ABD 15/03/99

อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตามละครนั้นถูกต้องอย่างสมบูรณ์ ละครนั้นถูกต้องแม่นยำ พ่อคือผู้ไร้ความกังวล บราห์มานี้มีความกังวลอย่างแน่นอน เขาจะเป็นอิสระจากความกังวลอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาจะไปถึงสภาวะคาร์มาทีทของเขา จนกว่าจะถึงตอนนั้นเขาจะมีความกังวลไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง SM 27/02/99 revised

บางคนรู้สึกมีความทุกข์หรือเหี่ยวเฉาเมื่อพวกเขาไม่ได้รับแม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่เรียกได้ว่าสำนึกที่เป็นร่าง พ่อกล่าวว่า:  พ่อเห็นมันอย่างผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ลูก ๆ มากมายได้จากไป มันจะพูดได้ว่า:  มันเป็นละคร ฉันปราศจากร่างกาย มันเป็นราวกับว่าโลกนั้นตายไปแล้วสำหรับฉัน ฉันไม่มีงานใดเกี่ยวข้องกับโลกนี้ งานของฉันมีกับบ้านที่แสนหวาน เตรียมสภาวะของลูกด้วยวิธีนี้ SM 01/11/72 revised

"ผู้ซึ่งรู้ถึงความลับของละครและกาลเวลาทั้งสามจะไร้ความกังวลและมีความสุขอยู่เสมอ เขาจะรู้สึกไม่มีความสุขเมื่อเขาไม่เข้าใจความลับนี้ ตรีกาลดาร์ชิ (ผู้ล่วงรู้กาลเวลาทั้งสาม คือ อดีต ปัจจุบันและอนาคต) สภาวะที่เต็มไปด้วยความรู้นั้นเป็นบัลลังก์สูงสุด เมื่อเขาลงมาจากบัลลังก์นั้นเขาก็จะไม่มีความสุข" ABD 29/01/77

ผู้ที่เป็นผู้สังเกตุการณ์ที่ละวางจะไม่เคยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบทบาทของผู้ใด ด้วยการนั่งอยู่บนที่นั่งของผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง พวกเขาจะเฝ้าดูละครและประสบกับความสนุกสนานเป็นอย่างมาก

พ่อกล่าวว่าพ่อมาเพื่อทำให้ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์นั้นบริสุทธิ์ ดังนั้น พ่อกำลังทำให้ลูกบริสุทธิ์ ส่วนที่เหลือ ไม่ว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นในละคร มันจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวและหลังคาพังลงมา มันก็จะกล่าวได้ว่า "ละคร" กัลป์ที่แล้วมันก็ได้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกไม่ควรจะหวั่นไหวแม้เพียงเล็กน้อย แต่จงยืนอย่างมั่นคงบนละคร บุคคลเช่นนั้นจะถูกเรียกว่า "มหาวีระ" อุบัติเหตุมากมายจะเกิดขึ้น ใครล่ะ! ที่จะปกป้องลูก?? ทั้งหมดนั้นมันถูกกำหนดไว้แล้วในละคร บทบาทเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ไม่รู้จักละครจะคิดถึงร่างกายและหลั่งน้ำตามากมาย SM 01/06/2001 revised

ดวงวิญญาณทั้งหลายมีบทบาทของ 5000 ปี ดังนั้น จึงมีบัญชี(กรรม) ของหลายชาติเกิดกับดวงวิญญาณอื่น ๆ บัญชีทั้งหมดจะต้องได้รับการชำระสะสาง และดังนั้นอย่าได้ประหลาดใจหรือมีความทุกข์ด้วยการเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ใด ๆ เฝ้าดูทุก ๆ เหตุการณ์ และทุก ๆ ฉากในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและจะมีประสบการณ์ของปิติสุข.....

No comments:

Post a Comment