Monday, October 9, 2023

คุณธรรม - การเชื่อฟัง (Obedience)

 


ลูก ๆ บางครั้งก็เชื่อฟัง เพราะว่าพวกเขาจำได้ และบางครั้งก็จำคำสอนได้ หลังจากที่ได้กระทำบางสิ่งลงไปแล้ว ทำไมเป็นเช่นนี้  เพราะว่าดวงวิญญาณไม่ได้เป็นรูปธรรมของการจดจำคำสอนเหล่านั้น  นั่นเพราะไม่มีประสบการณ์ของผลที่เห็นได้จากความคิดที่สูงส่ง หรือการกระทำที่สูงส่ง หลังจากที่ได้แสดงการกระทำไปแล้ว ดวงวิญญาณก็นึกได้ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น สภาวะอันดับหนึ่งคือ เมื่อมีความง่ายและมีสำนึกของการเชื่อฟังโดยอัตโนมัติ  และอับดับสองคือ อะไรที่ลูกได้ยินมา นั้นคือผู้ซึ่งบางครั้งเชื่อฟังคำสอนแล้วจึงแสดงการกระทำ  แต่บางครั้งก็จำคำสอนได้เมื่อได้กระทำลงไปแล้ว  

ผู้ที่เชื่อฟังอันดับหนึ่งไม่ต้องใช้ความพยายามในทุุก ๆ การกระทำ  เพราะว่าในการกระทำตลอดทั้งวัน  จากอมฤตเวลาถึงเวลากลางคืน พวกเขาแสดงการกระทำใด ๆ ตามคำสั่งจากคำสอน  ดังนั้น พวกเขาจึงมีประสบการณ์ของพรอันพิเศษจากบาบาในรูปของผลที่ได้รับ  เพราะว่าพรจากหัวใจของบาบามีอยู่ในทุกย่างก้าวของลูก ๆ ที่เชื่อฟัง  เพราะพรที่ได้จากหัวใจทุก ๆ การกระทำ คือผลที่สมบูรณ์ การกระทำคือเมล็ด และเพราะว่าการกระทำเป็นเมล็ด ผลสำเร็จที่ได้รับคือผลของเมล็ด ดังนั้นเพราะว่าเมล็ดนั่นคือ ทุกการกระทำของดวงวิญญาณที่เชื่อฟังอันดับหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ดวงวิญญาณนั้นบรรลุผลสำเร็จของผลแห่งการกระทำนั้น ทุก ๆ การกระทำ นั่นคือเขาได้รับความพอใจและความสำเร็จมีความพอใจกับตนเองและกับผลของการกระทำด้วย  เช่นเดียวกันกับการติดต่อและการมีความสัมพันธ์กับดวงวิญญาณอื่น  ดวงวิญญาณที่เชื่อฟังอันดับหนึ่ง จะมีประสบการณ์ของความพอใจทั้งสามชนิดนี้อยู่เสมอ ๆ และเป็นอัตโนมัติ (อเวียก 14/01/88)

ลูกพูดว่าลูกเป็น บราห์มากุมารี : เราลูก ๆ ของบัพดาดาเป็นผู้ที่เชื่อฟังท่าน และเป็นผู้ช่วยของท่าน ลูกจะต้องทำในทางปฏิบัติในทุก ๆ สิ่งที่ลูกพูด การพูดอะไรบางสิ่งหมายถึง การทำสิ่งนั้น  ไม่ควรจะมีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ลูกพูดกับสิ่งที่ลูกทำ ลูกพูดว่าลูกเป็นลูกของนาย ผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด และลูกทำอะไรหรือ ลูกพูดเกี่ยวกับความอ่อนแอ ดังนั้นจากวันนี้ ทำให้มั่นคงว่าลูกจะทำทุกสิ่งที่ลูกได้พูดออกไป เมื่อใครก็ตามได้เห็นคนเช่นนี้ พวกเขาก็จะทำด้วยตัวเองให้เหมือนกัน พวกเขาจะทำตามโดยอัตโนมัติ ลูกก็จะไม่ต้องลำบาก (อเวียก 28/09/69)

ผู้ซึ่งเดินไปทุกก้าวตามศรีมัทของบาบา ผู้ซึ่งพูดว่า "ครับ นายท่าน" กับพ่อ นายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาดผู้เดียว ผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันในฐานะเป็นพระเจ้าและผู้เดียวซึ่ง ณ บัดนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าของลูก ๆ นั่นคือ ผู้ซึ่งทำตามคำสั่งในทางปฏิบัติเป็นเขาทั้งหลาย ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ของทุก ๆ  พลังอำนาจที่จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา นั่นคือ อำนาจพูดว่า "ครับ นายท่าน" ต่อพวกเขา

ถ้าผู้ใดสามารถทำตามศรีมัท หรือคำสั่งอย่างง่าย ๆ และปฏิบัติตาม แต่จะไม่ทำตามที่เขาเห็นว่ายาก  ถ้าเขาทำตามบางคำสั่ง แต่ไม่ทำตามบางอย่าง บางครั้งพูดว่า "ครับ นายท่าน" และบางครั้งพูดว่า "ไม่ครับ นายท่าน"  การพิสูจน์ในทางปฏิบัติ  ตัวอย่างในทางปฏิบัติ นั่นคือ ไม่ใช่ว่าพลังอำนาจทั้งหมดจะมาตามคำสั่งสำหรับดวงวิญญาณเช่นนี้ในเวลาที่ต้องการ(อเวียก 20/12/92)

ในระเบียบของการประกาศสิทธิในสิทธิทั้งหมดของคุณธรรมและพลังอำนาจจงเชื่อฟัง (ซาคาร์ 12/04/96)

ลูก ๆ ผู้ซึ่งทำให้คำสอนที่ยิ่งใหญ่ของพ่อเป็นจริงถูกเรียกว่า ลูกผู้เชื่อฟัง พรของบาบาจะถูกส่งไปยังลูกผู้เชื่อฟัง ลูก ๆ ผู้เชื่อฟังจะมีค่าควรกับพรโดยอัตโนมัติ เข้าใจไหม (อเวียก 10/03/86)

ทำไมพ่อบราห์มา จึงได้กลายเป็นอันดับหนึ่ง ท่านเชื่อฟังคำสั่งของพ่อ ครู สัตกูรู อย่างมั่นคง ท่านพูดว่า "ครับ นายท่าน" กับทุก ๆ คำสั่ง ลูกได้เห็นว่าท่านทำตามคำสั่งของพ่ออย่างไร การที่จะได้รับมรดกเต็มจากมรดกทั้งหมด และการที่จะทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นกันในทางปฏิบัติด้วย ท่านใช้สมบัติของความรู้ทั้งหมด อำนาจ และคุณธรรม ความสำคัญของเวลาที่สูงส่ง และสมบัติของความคิดที่สูงส่งจากวันแรกจนวันสุดท้าย  คำสั่งของพ่อนั้นคือ ลูกจะต้องไม่ทำให้เวลาสูญเปล่า แม้แต่ชั่วอึดใจ หนึ่งความคิดหรือหนึ่งวินาที ดังนั้นลูกทำตามคำสั่งนี้ในทางปฏิบัติตลอดทั้งวันหรือไม่ หรือบางครั้งลูกก็นำไปปฏิบัติและบางครั้งก็ไม่ ถ้าลูกเชื่อฟังบางครั้งแต่บางครั้งไม่ แล้วลูกจะอยู่ในรายชื่อใด

จงพูดอยู่เสมอว่า "ครับ นายท่าน" และนายก็จะมาอยู่เบื้องหน้า พ่อชีว่าเคยไหมที่จะอยู่แยกจากพ่อบราห์มา ท่านอยู่ตลอดเวลาใช่ไหม ลูกพูดว่า "บาบา" และพ่อพูดว่า "ลูกที่น่ารัก" และดังนั้นท่านคงอยู่ตลอดเวลา ท่านพูดเสมอว่า "ครับ นายท่าน" กับงานรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ทันทีที่ท่านได้รับคำสั่งเพื่องานรับใช้ ท่านจะลงมือทันที และในการแสดงการกระทำ ท่านก็จะพูดเสมอว่า "ฮา จี" (อเวียก 26/01/95)

อะไรเป็นก้าวแรกที่พ่อบราห์มาทำตามศรีมัทของพ่อ ก้าวแรกก็คือท่านกลายเป็นผู้เชื่อฟัง ท่านนำคำสอนที่ได้รับมาปฏิบัติ  ดังนั้นตรวจดู : ว่าลูกได้ทำตามพ่อในสิ่งแรกหรือไม่ คือ เชื่อฟังจาก     อมฤตเวลาจนถึงกลางคืน ลูกได้ใช้ชีวิตไปตามคำสอนที่ลูกได้รับมาสำหรับความคิด คำพูด  การกระทำ การติดต่อ และความสัมพันธ์หรือไม่ หรือลูกสามารถทำให้บางคำสอนเป็นจริงและบางอย่างไม่ได้ทำหรือไม่ ความคิดของลูกเป็นไปตามคำสอนที่ได้รับ หรือลูกนำความคิดอื่นไปผสม ถ้ามีการผสม ลูกเป็นผู้เชื่อฟังเต็ม ๆ หรือเชื่อฟังครึ่งเดียว ลูกได้รับคำสอนที่ชัดเจนสำหรับความคิดของลูกในทุกขณะ

ในทุก ๆ ขณะลูกได้เดินตามรอยเท้าของบาบาหรือไม่ หรือรอยเท้าของพ่อก็อย่างหนึ่งรอยเท้าของลูกก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง นั่นจะไม่ถูกเรียกว่าผู้เชื่อฟังใช่ไหม ไม่ว่าในการติดต่อกับพระเจ้าหรือในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น  ตรวจดูเปอร์เซ็นว่าลูกทำตามคำสั่งที่ได้รับมาของทั้งสองสิ่งมากเท่าใด ลูกรู้วิธีตรวจสอบใช่ไหม ก้าวแรกนั้นคือท่านได้กลายเป็นผู้เชื่อฟัง และนี่เองที่ทำไมผู้ที่เชื่อฟังจะได้รับพรจากพ่อโดยอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ลูกก็จะได้พรจากครอบครัวบราห์มิน ดังนั้นตรวจสอบดูความคิดอะไรที่ลูกมีอยู่ ไม่ว่าเพื่อตัวลูกเอง เพื่องานรับใช้ เพื่อการกระทำทางร่างกาย หรือเพื่อดวงวิญญาณมากมาย ตัวลูกคงอยู่ในการเชื่อฟัง สัญลักษณ์ของสิ่งนั้นคือความพอใจในหัวใจ

ถ้าลูกเชื่อฟังอย่างถูกต้อง ถ้าลูกได้รับพรแล้วตัวลูกและคนอื่นก็เช่นกัน จะคงอยู่อย่างร่างแสงและเบาสบาย (อเวียก 19/01/95)

ถ้าลูกโกรธใครบางคน ลูกก็จะสะสมการลงโทษเป็นร้อยเท่า สภาวะของลูกก็จะตกลงมา เพราะว่าลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า เมื่อลูกได้รับคำสั่งจาก "ธรรมราช" ว่าลูกจะต้องบริสุทธิ์ ถ้าหลังจากลูกได้กลายเป็นของพระเจ้าแล้ว ลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งของท่าน ลูกก็จะสะสมการลงโทษเป็น 100 เท่า (ซาคาร์ 09/06/96)

การทำตามคำสั่งในทุกย่างก้าวอย่างสม่ำเสมอ หมายถึง การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อการเป็นเพื่อนร่วมทาง ลูกเป็นผู้ซึ่งทำตามความรับผิดชอบนี้ให้สมบูรณ์ หรือเป็นเพียงผู้ซึ่งมีแต่ความรัก ซึ่งสามารถมีการเชื่อมต่อเพียงเวลาสั้น ๆ แล้วก็หยุดละทิ้งการเชื่อมต่อ ถูกเรียกว่าผู้ซึ่งกำลังพัฒนาความรักต่อพระเจ้า ผู้ซึ่งทำให้ความรับผิดชอบต่อความรักเป็นจริง ก็จะถูกดูดเข้าไปในความรัก พวกเขาก็จะหมดสำนึกของร่างและความสัมพันธ์ทางร่างอย่างหมดสิ้น (อเวียก 19/10/75)


จากหนังสือ "55 คุณธรรมดั้งเดิมของดวงวิญญาณ" (The original virtues of the soul) ถอดความโดย BK.ทรงยศ เปี่ยมใจ

No comments:

Post a Comment