Monday, May 20, 2013

หนึ่งชาติในยุคแห่งการบรรจบพบกัน


ยุคแห่งการบรรจบพบกันเป็นยุคที่เชื่อมต่อระหว่างสวรรค์และนรก มันเหมือนกับช่วงเวลารุ่งสางที่เชื่อมกลางวันและกลางคืน สวรรค์ที่กำลังจะมาถึงถูกวางรากฐานในยุคนี้ ซึ่งจะตามมาหลังจากการทำลายล้างโลกที่ชั่วร้าย และผลคือการเปลี่ยนแปลงยุค ยุคแห่งการบรรจบพบกันเป็นยุคที่สำคัญที่สุดและเป็นช่วงเวลาที่เป็นสิริมงคลที่สุดในกัลป เนื่องจากมันเป็นเวลาของการอวตารที่สูงส่งของพระเจ้าพ่อชีว่าผู้ปราศจากร่าง ดวงวิญญาณมนุษย์ที่เกิดอีกครั้งหนึ่งในยุคนี้มีค่าเหมือนเพชร

ดังนั้นยุคแห่งการบรรจบพบกันก็มีชื่อว่ายุคเพชรด้วย ช่วงสั้น ๆ นี้เป็นช่วงที่มนุษย์ผู้เต็มไปด้วยกิเลสเป็นมนุษย์ที่ไร้ค่าของกลียุคได้เปลี่ยนไปเป็นมนุษย์ที่ปราศจากกิเลส เป็นเทพผู้ที่มีค่าเยี่ยงเพชรของยุคทอง



ยุคแห่งการบรรจบพบกันอยู่ในช่วงท้ายของกลียุค สำหรับผู้ที่ได้รับความรู้ของพระเจ้ามันเป็นยุคบรรจบพบกันของเขา แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับความรู้ของพระเจ้ามันคือกลียุค ในภาพตัวอย่างของบันไดแสดงให้เห็นว่าตอนจบของกลียุคมี บราห์มินนั่งฝึกปฏิบัติราชโยคะอยู่


บราห์มินคือการเกิดทางดวงวิญญาณ
ในยุคนี้ดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วย กิเลส คือ ศูทร (Sudra) เมื่อได้ศึกษาความรู้ของพระเจ้า และทำตามกฎระเบียบอันสูงส่งเพือจะได้รับความบริสุทธิ์ได้กลายเป็นบราห์มิน คือผู้ซึ่งเข้าใจว่าพระเจ้าได้อวตารลงมาในร่างของ บราห์มา บราห์มินของยุคแห่งการบรรจบพบกันเป็นที่รู้จักกันในนามของ บราห์มากุมาร และบราห์มากุมารี การเกิดทางดวงวิญญาณของศูทร (Sudra) หรือ บราห์มินนี้ก็ถูกเรียกว่า การตายจากโลกเก่าทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ หมายความว่ามนุษย์ได้หันหลังให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยกิเลสแห่งกลียุค ละทิ้งสภาวะของศูทร (Sudra) และกลายเป็นบราห์มิน แล้วเริ่มที่จะทำการปฏิบัติฝึกฝนทางดวงวิญญาณ ฝึกฝนและปฏิบัติราชโยคะเพื่อให้ได้รับสถานภาพเทพที่หลุดพ้นจากบ่วงพันธะในขณะที่มีชีวิต

ดวงวิญญาณเช่นนี้ได้กลับมาบริสุทธิ์ด้วยการชำระล้างบาปในอดีตของพวกเขา นั่นคือพระเจ้าชีว่าได้ช่วยยกระดับให้พวกเขาบนพื้นฐานของราชโยคะ และนำพวกเขากลับไปสู่พารามธรรม จากนั้นก็ส่งพวกเขาลงมาในโลกยุคทองในเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความเพียรทางดวงวิญญาณของแต่ละบุคคลในการพัฒนาตนเองในยุคแห่งการบรรจบพบกัน
สถานภาพของดวงวิญญาณบราห์มินนั้นสูงสุดเนื่องจากสร้างสัมพันธภาพกับพระเจ้า เป็นสถานภาพที่มนุษย์ได้ค้นหามาชาติแล้วชาติเล่า การบูชากราบไหว้คือการเสาะหาพระเจ้า และผลที่ได้รับคือความเข้าใจท่าน ณ ยุคแห่งการบรรจบพบกัน โอกาสทองนี้เป็นเพียงครั้งเดียวในทั้งกัลปและเป็นเพียงในช่วงสั้น ๆ ขอให้พวกเราสละตนเองช่วยเหลือในงานรับใช้ของท่าน และอุทิศตนต่อท่านอย่างสมบูรณ์


การกลับมาเกิดคงดำเนินต่อไปจนถึงตอนจบ
ดวงวิญญาณทั้งหมดนับแต่ชาติเกิดแรกที่ลงมายังโลกที่มีตัวตน ก็เริ่มสูญเสียคุณลักษณะดั้งเดิมของพวกเขาอย่างช้า ๆ ตามกฎของความเสื่อม ด้วยเหตุนี้ เทพแห่งยุคทองกลายเป็นกษัตริย์ในยุคเงิน เป็นพ่อค้าในยุคทองแดงและศูทร (Sudra) ในกลียุค มันมีแต่เพียง ณ ยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่ดวงวิญญาณได้กลายเป็นบราห์มินจากศูทร (Sudra) และกลับกลายมามีชีวิตชีวาและถูกยกระดับ ดวงวิญญาณทั้งหมดที่เกิดในยุคทองหลังจากนั้นก็กลับมาเกิดใหม่อย่างต่อเนื่องจนถึงตอนจบของกลียุค ไม่มีดวงวิญญาณใดกลับไปยังพารามธรรมจนกว่าวงจรของละครจะจบลงอย่างสมบูรณ์




จำนวนชาติเกิดที่ดวงวิญญาณสามารถจะเกิดได้ในโลกนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่ลงมาเกิดในชาติแรกของดวงวิญญาณนั้นบนโลกนี้ ดวงวิญญาณผู้ที่ลงมาจากพารามธรรมในตอนเริ่มต้นของยุคทองจะได้รับชาติเกิด 84 ชาติเต็ม คนอื่นก็จะได้รับชาติเกิดน้อยกว่าตามเวลาที่พวกเขาลงมา และจำนวนชาิติเกิดของดวงวิญญาณบนโลกนี้แต่ละดวงวิญญาณก็จะผ่านสภาวะ บริสุทธิ์ (Satoguni) สภาพปานกลาง (Rajoguni) และ สภาพที่ไม่บริสุทธิ์ (Tamoguni) ทุกดวงวิญญาณเต็มไปด้วยความสนุกสนานและมีความสุขในครึ่งแรกของบทบาทในละครโลกและเริ่มมีความทุกข์ในครึ่งหลัง



จากหนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK.เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ

No comments:

Post a Comment