Monday, May 13, 2013

ความแตกต่างระหว่างบทบาทของพระเจ้าชีว่าและเหล่าเทพ



ดวงวิญญาณของเหล่าเทพที่เกิดในยุคทองและยุคเงินกลับมาบริสุทธิ์โดยคุณธรรมของการทำความเพียรทางดวงวิญญาณ โดยพวกเขาได้ทำไว้ในชาติสุดท้ายในกัลปที่แล้วของวงจรโลก ภายใต้การชี้นำที่ให้โดยพระเจ้าชีว่าผู้ปราศจากร่าง โดยผ่านสื่อที่มีร่างเป็นตัวตนของท่านประชาปิตาบราห์มา ดวงวิญญาณเทพเหล่านั้นบริสุทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นคือปราศจากกิเลส แต่พวกเขาไม่ได้บริสุทธิ์ตลอดไปเหมือนพระเจ้าชีว่า

ได้เคยอธิบายไว้แล้วในตอนต้นว่าเหล่าเทพได้สูญเสียความบริสุทธิ์ของพวกเขาจากยุคทองแดงเป็นต้นมา และพวกเขาก็ได้รับความทรมานทางจิตใจโดยกิเลสทั้งห้า มีพระเจ้าชีว่าเท่านั้นที่มีความบริสุทธิ์เป็นนิรันดร์และเป็นผู้มีอิสระเป็นนิรันดร์ นั่นคือ อยู่เหนือการเกิด อยู่เหนือการตายเป็นนิรันดร์ ท่านเป็นผู้ชำระดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์และเป็นผู้ปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมด หน้าที่นี้ไม่สามารถทำได้โดยเทพหรือมนุษย์ผู้เป็นผู้นำทางจิตคนใดได้ ซึ่งแม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ต้องขึ้นอยู่กับพระเจ้าที่จะมอบการหลุดพ้นให้กับพวกเขา

เช่นกันในโลกสวรรค์ของเหล่าเทพ กล่าวคือ ยุคทองและยุคเงินจะไม่มีผู้ไม่บริสุทธิ์แม้แต่คนเดียว นั่นคือ ดวงวิญญาณบาปนั้นจะต้องผ่านการชำระให้บริสุทธิ์ ศรีกฤษณะเป็นเทพองค์แรกเป็นเจ้าชายของโลกใหม่คือยุคทอง มีรูปศรีกฤษณะเป็นเด็กถูกวาดให้เห็นว่านอนอยู่บนใบโพธิ์ ถ่ายทอดถึงความคิดที่ว่าเขาเป็นใบไม้ใบแรกของต้นกัลปะใหม่ ซึ่งปรากฏขึ้นหลังจากการทำลายล้างโลกเก่า เขาเป็นที่ชื่นชอบในฐานะที่เป็นเทพที่มีคุณธรรมทั้งหมด 16 องศาสมบูรณ์พร้อมและปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ มีความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์และปราศจากความรุนแรงอย่างสมบูรณ์ ขณะที่พ่อชีว่าผู้ปราศจากร่างถูกจดจำในฐานะที่เป็นเมล็ดของมวลมนุษย์ เป็นมหาสมุทรของความรู้ เป็นมหาสมุทรของความสงบ เป็นมหาสมุทรที่ทรงอำนาจ เป็นมหาสมุทรของความปิติ และอื่น ๆ 
ทุกวันนี้มีคนน้อยมากที่รู้ว่าศรีกฤษณะนั่นเองที่กลายเป็นศรีนารายัญ หลังจากที่เขาได้รับการราชาภิเษกและกลายเป็นจักรพรรดิผู้ปกครององค์แรกของยุคทอง และด้วยเหตุผลนี้นั่นเองที่รูปในวัยเด็กของศรีนารายัญและรูปในวัยผู้ใหญ่ของศรีกฤษณะไม่สามารถหาได้



ใครคือพระเจ้าของกีตะ??
พระเจ้าของกีตะคือ ชีว่าผู้ปราศจากร่าง ท่านถ่ายทอดกีตะโดยผ่านท่านประชาปิตาบราห์มา ซึ่งไม่ใช่ถ่ายทอดโดยศรีกฤษณะ ศรีมัตหมายถึง ความรู้สูงสุดเพื่อการเข้าถึงสถานภาพที่สูงสุด คำว่า "ศรี" นั่นคือเทพองค์หนึ่ง และ "ภควัตกีตะ" หมายถึง เพลงที่สูงส่ง หรือคำสอนของพระเจ้า ซึ่งท่านสอนด้วยตัวท่านเอง ศรีกฤษณะเคยเป็นเทพและไม่ใช่พระเจ้า ในรูปภาพและรูปปั้นศรีกฤษณะถูกแสดงไว้ในฐานะที่เป็นเทพคู่กับศรีราเด้ ในประเภทของเทพที่มีตัวตนเหมือนกับศรีรามคู่กับศรีสีดา และเทพอื่นๆ ขณะที่พระเจ้าชีว่าเป็นผู้ปราศจากร่าง มีสัญลักษณ์เป็น ชีว่า ลิงก้า ศรีกฤษณะรู้จักกันในฐานะ "ลอล์ดกฤษณะ" ซึ่งหมายถึงเทพองค์หนึ่ง และเขาก็ไม่สามารถถูกเรียกว่าพระเจ้ากฤษณะได้ เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ที่ปราศจากร่าง หรืออยู่เหนือการเกิดการตาย จโยติลิงกัม สัญลักษณ์ของพระเจ้าผู้ปราศจากร่างไม่เคยถูกเรียกว่า กฤษณะ ลิงก้า
มีเทพนิยายเชื่อว่าคงคาเกิดจากชีว่า และคงคาก็เป็น บากีราท (Bhagirath -พาหนะผู้โชคดี) ผู้ซึ่งนำพระเจ้ามายังโลก นัยสำคัญทางดวงวิญญาณของนิทานได้สูญหายไป ในความเป็นจริงคงคาคือสัญลักษณ์ของน้ำอมฤตของพระเจ้า หรือคำสอนของพระเจ้าก็ถูกเรียกว่า กีตะ ด้วย ซึ่งเป็นน้ำที่ดวงวิญญาณจะต้องอาบเพื่อชำระบาป ชีว่าอ้างถึงพระเจ้าผู้ปราศจากร่างไม่ใช่ชางก้า อย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งกว่านั้น ศรีกฤษณะและบากีราท นั้นแตกต่างกัน บากีราทหมายถึงร่างที่เป็นสิริมงคลหรือพาหนะที่เป็นสิริมงคลของ บราห์มา ซึ่งชีว่า ดวงวิญญาณสูงสุดผู้ปราศจากร่างอวตารลงมาใช้เพื่อเปิดเผยคำสอนความรู้ของพระเจ้า และราชโยคะ ชีว่าเป็นผู้ที่อยู่เหนือวงจรการเกิดและการตาย
พระเจ้าชีว่าได้มีการอวตารลงมาในร่างของประชาปิตาบราห์มา แต่ศรีกฤษณะนั้นไม่ได้อวตารเช่นนั้น แต่มีการเกิดอย่างชาวโลกจากครรภ์มารดาของเขาตามประเพณี ศรีกฤษณะคือเทพละเอียดวิษณุซึ่งลงมาปฏิสนธิในโลกที่มีตัวตน ถึงแม้ว่าคำว่า อวตาร จะใช้อย่างผิด ๆ กับศรีกฤษณะ แต่พระเจ้าชีว่าผู้เทศนาสั่งสอนกีตะเป็นถึงผู้สร้างของวิษณุ ผู้ซึ่งคิดว่าศรีกฤษณะเป็นพระเจ้าของกีตะก็เชื่อด้วยว่าศรีกฤษณะเกิดในตอนปลายยุคทองแดงต่อกับกลียุค ซึ่งเป็นระยะที่ตกต่ำไปเรื่อย ๆ
เป็นที่แน่ชัดว่าพระเจ้าไม่ได้อวตารมาเพื่อสั่งสอนกีตะในตอนปลายของยุคทองแดง พระเจ้าไม่ได้ลงมาทำทุก ๆ เรื่องที่มีคุณภาพตกต่ำและเสื่อมถอยในยุคที่เรียกว่า กลียุค พระเจ้าชีว่าไม่เคยให้คำแนะนำให้ก่อสงครามที่ใช้ความรุนแรง ท่านชี้นำดวงวิญญาณมนุษย์ให้มีชัยชนะเหนือกิเลสทั้งห้า ด้วยการประกาศสงครามที่ไม่ใช้ความรุนแรงใด ๆ อย่างสมบูรณ์กับมายา ด้วยวิีถีทางแห่งความรู้ของพระเจ้าและราชโยคะ "สวา ดาชัน จักรา" (Swa-darshan-chakra) ของพระเจ้า ของกีตะคือวงจรโลก หรือ "วิชชา จักรา" (Vishwa Chakra) ไม่ใช่อาวุธที่ต้องใช้ความรุนแรง



จากหนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK.เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ



No comments:

Post a Comment