Tuesday, February 11, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 2 # 11



ดาด้าในแคชเมียร์
การชุมนุมได้โตขึ้นเรื่อย ๆ และจำนวนก็เพิ่มขึ้น โครงสร้างที่เป็นทางการก็เป็นสิ่งที่ต้องการ ชั้นเรียนในหลายรูปแบบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบุคคลที่มาจากระดับที่แตกต่างกันของการพัฒนาทางดวงวิญญาณ ความรู้ต้องมีการปรับเปลี่ยนและจัดการในรูปของหนังสือ ดังนั้นมันจึงจะเป็นที่แพร่หลายต่อสาธารณะ ทั้งหมดนี้ต้องการคณะบุคคลในการบริหาร และต้องการทุน  ดังนั้นมันเป็นความปรารถนาของกูรูผู้สูงสุด ชิพบาบา ที่ทำให้บราห์มาได้แต่งตั้งบางคนให้เป็นผู้รับผิดชอบ และบราห์มานั่นเองที่จะต้องสละเงินของท่านเพื่อใช้ในการส่งเสริมวิทยาลัยทางดวงวิญญาณของพระเจ้า

ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1937 โอมราเด้และผู้หญิงอีก 8 คน ได้จัดตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบสำหรับสถาบันใหม่นี้ขึ้น  มันถูกเรียกชื่อว่า "ประชาปิตา บราห์มา กุมารี อิชชะวาริยาวิชา วิทยาลัย" มหาวิทยาลัยทางจิตแห่งโลกของพระเจ้า โอมราเด้รับผิดชอบในการบริหารสถาบัน และเธอได้กลายเป็นครูผู้ทำตามที่ชิพบาบาปรารถนา  หลังจากนั้นบราห์มาบาบาก็ได้มอบทรัพย์สมบัติทางโลกและเงินทองทั้งหมดของท่านกับคณะผู้บริหาร  บาบามอบความรับผิดชอบกิจกรรมทั้งหมดของมหาวิทยาลัยให้อยู่ในมือของกลุ่มสตรี  ภาระกิจของท่านเพียงหนึ่งเดียว ณ บัดนี้คือศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยมที่จะให้ความต้องการของพระเจ้าสมหวัง  ที่ต้องการให้ท่านเล่นบทบาทของสื่อกลาง และรับผิดชอบสำหรับการที่จะเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการเป็นผู้อุทิศตนต่อความปรารถนาของผู้สูงสุด

โอมราเด้  ที่ถือบังเหียนของสถาบันอย่างมั่นคงและราบรื่น  บริหารมหาวิทยาลัยบนพื้นฐานของวันต่อวัน  นำหลักการของพระเจ้ามาใช้ในเรื่องของความประหยัดและความเรียบง่าย และก็ยังแน่ใจว่าผู้ที่มาเยี่ยมเยือนทุกคนจะรู้สึกว่าเหมือนกับอยู่ที่บ้านของตนอย่างแท้จริง  เธอดำรงอยู่ในการละวาง แม้จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหาร  ใช้พลังของการตัดสินและแยกแยะของเธอที่พัฒนาขึ้นมากับงานเหล่านั้น บวกกับความอ่อนละมุนและความร่วมมือที่มีมาแต่ดั้งเดิม ทำให้ทุกคนที่ทำงานร่วมกันอยู่ในสถาบันนั้นปฏิบัติงานด้วยความกลมกลืนและมีความสุข ตัวเธอเองนั้นจะระลึกเสมอว่านั่นเป็นงานของพระเจ้า  งานที่เธอกำลังทำอยู่ไม่ใช่งานของเธอ  ความรู้ที่เธอถ่ายทอดให้กับคนอื่น ๆ และบนพื้นฐานที่เธอได้รับความใฝ่ฝันของเธอเอง  ได้ถูกหยิบยื่นให้โดยตรงจากดวงวิญญาณสูงสุด  เธอเป็นเพียงเครื่องมือของท่านเท่านั้น  ภาระกิจของเธอก็คือเชื่อฟังพระเจ้าตลอดไปต่อความปรารถนาของพระเจ้า  และเพราะว่าเธอประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดอย่างสมบูรณ์พร้อมในการรักษาสำนึกนี้  เธอได้กลายเป็นที่รักของทุกคน  ทุกคนก็เรียกเธอว่า "มาม่า"  แม้แต่แม่แท้ ๆ ของเธอเองก็เริ่มเรียกเธอเช่นนั้น  ชิพบาบาเรียกเธอว่า "จั๊กกัด-อัมบา แม่ของโลก" และท่านได้บอกกับเธอว่า วัดที่สร้างขึ้นทั้งหมดให้กับอัมบาจิ  ภาพทั้งหมดที่ใช้บูชาเป็นอนุสรณ์ของเธอ  มาม่าทำงานอย่างไม่หยุดเพื่อสนองต่อการทำนายที่มีอยู่ในคำพูดเหล่านั้น

มหาวิทยาลัยของพระเจ้าเป็นที่รวมของความสงบและความประสานกลมกลืน  แต่โลกภายนอกต้องไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน  โรงเรียนที่เพิ่งจะตั้งตัวได้ก็ผจญกับการต่อต้านจากภายนอกทันที  เป้าใหญ่ของการต่อต้านคือการอยู่ในความบริสุทธิ์ที่พระเจ้าเรียกร้อง  สามีไม่สามารถรับได้กับการที่ภรรยาของเขาจะถือพรหมจรรย์  บิดาก็หัวหมุนที่ลูกสาวต่อต้านการเข้าพิธีแต่งงาน  มีความวุ่นวายอย่างมากมายถูกสร้างขึ้นกับประเด็นสำคัญนี้  มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ผู้ชายจะใช้ชีวิตในการอยู่อย่างสละละทิ้ง  แต่ถ้าผู้หญิงทำเช่นนั้น มันเป็นอะไรบางอย่างที่เหนือธรรมดา และผู้ชายมากมายไม่สามารถรับได้

แน่นอน  บาบาเข้าใจทุกอย่าง  และดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ ๆ บาบาบอกทุกคนที่มาหรือปรารถนาจะเข้าร่วมการศึกษาความรู้ของพระเจ้า  ไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กหญิงหรือสาวที่แต่งงานแล้ว ว่าพวกเขาต้องนำจดหมายอนุญาตในการมาที่นี้จากบิดา สามี หรือผู้ปกครองมาด้วย ทันทีที่จดหมายยินยอมให้เข้าร่วมศึกษามาถึงยังโรงเรียนของพระเจ้าและได้รับอนุญาต พวกญาติ ๆ ก็จะทำอะไรไม่ได้ และยากที่จะปฏิเสธให้เป็นอื่น 

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ง่ายดังคิด บรรดาสามีมากมายปฏิเสธอย่างเด็ดขาดที่จะเซ็นต์จดหมายอนุญาต  พวกเขารู้สึกว่าเขาคือพระเจ้าและเจ้าชีวิตเหนือภรรยาของพวกเขา ภรรยาคือสมบัติของพวกเขา เป็นคนใช้ภายในบ้านและเป็นสิ่งปลดเปลื้องความใคร่ทางเพศ และพวกเขาก็จะไม่ยอมให้สิ่งของที่มีคุณค่าสนองต่อความปรารถนาของเขาได้ ได้หลุดลอยไปง่าย ๆ 

อีกพวกหนึ่งเห็นว่าการชุมนุมนี้เปลี่ยนชีวิตคนอื่นในทางละเอียด  ซึ่งเป็นการคุกคามต่อหนทางชีวิตครอบครัวที่เคยดำเนินมาก่อนทางด้านสิ่งของวัตถุ  มันเป็นการเสียหน้าและอับอายสำหรับครอบครัวที่มีลูกสาวสวมใส่ส่าหรีสีขาวตลอด  และหลบเลี่ยงสถานภาพทางสังคมที่บิดาได้เพียรพยายามสร้างมาด้วยความยากลำบาก  การมีบุคคลที่เคร่งครัดศาสนาอยู่ในบ้านทำให้บรรยากาศของความหรูหราซึ่งหลาย ๆ คนคุ้นเคยลดลง  สำนึกของพวกเขาจะเจ็บปวดที่เห็นพี่น้องปฏิบัติตามกฏที่ต้องประพฤติเพื่อความสูงส่ง  ขณะที่ชีวิตของพวกเขายึดติดอยู่กับชีวิตซึ่งนำไปสู่การล่มสลาย

ดังนั้นความยากลำบากแผ่กระจายดังดอกเห็ดที่บ้าน  ขณะที่ลูกบาบายึดอย่างเด็ดเดี่ยวกับหนทางของความบริสุทธิ์  เด็กชายก็พบกับปัญหากับครอบครัวของพวกเขาด้วยเช่นกัน ผู้ซึ่งคาดหวังในตัวหลานๆ  แต่ก็ไม่ได้รับจากพวกเขา แล้วทำไมพวกเขายืนยันที่จะกินแต่อาหารที่บริสุทธิ์เช่นนั้น  ครอบครัวไม่เข้าใจและไม่สามารถจะเข้าใจ ถึงแม้ว่าลูก ๆ ของบาบาจะพยายามอธิบายความรู้เหล่านี้ ดูเหมือนจะไม่สามารถทะลุเข้าไปในสติปัญญาของเขาเหล่านั้นเลย และในขณะเวลาเดียวกันพวกเขาก็พอใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ที่พวกเขาสังเกตเห็นได้อย่างมากมายหลายประเด็น ผู้ที่ทำตามคำขี้นำของบาบากลายเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ ตื่นตัว ซื่อตรง รู้ประหยัด เต็มไปด้วยความสงบ ความรอบรู้ เข้าใจ  และมีความคิดลึกล้ำ ให้อภัย ละวางและน่ารัก ไม่น่าเชื่อว่าคุณธรรมมากมายที่พวกเขาได้รับราวกับได้จากสายลมที่แผ่วเบา เด็ก ๆ ที่เคยนอนตื่นนอนเที่ยงวัน ลุกขึ้นตอนตี 4 เพื่อทำสมาธิ ผู้ที่เคยเกียจคร้านและไม่ทำงานได้กลับมาทำงานโดยลำพังตัวเองไม่ต้องบังคับ ครอบครัวของพวกเขาเฝ้าดูพวกเขาอย่างสงสัย จะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ตกต่ำสุด ๆ และ ขณะเดียวกันจะพูดถึงการเปิดเผยสิ่งมหัศจรรย์สูงส่ง  การทำลายล้างของโลก การพบปะกับพระเจ้า พูดง่าย ๆ ใช้ภาษาที่แปลกประหลาดและเป็นคนเพ้อฝัน  ทั้งสองแบบนี้ไม่ควรที่จะอยู่ด้วยกันได้แต่มันก็เป็นเช่นนั้น  ประสมกลมกลืนกันอย่างดียิ่ง  มีบางสิ่งประหลาดกำลังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

แต่มันก็เป็นความประหลาดของคนทั้งหมด ผู้คนซึ่งมาแม้จะได้ใกล้ชิดเพียงผิวเผิน ก็ยอมรับว่ามันเป็นไปได้ และถ้าคนในครอบครัวเหล่านั้นเปิดใจและได้พูดคุยกับบาบาโดยตรง แล้วการต่อต้านก็ค่อย ๆ ได้รับการกำจัดไป  ประสบการณ์ของ ซิสเตอร์ ไฮเด พูธปา เป็นตัวอย่างของสิ่งซึ่งเกิดขึ้น  วันหนึ่งบาบาบอกให้ฉันนำใบอนุญาตไปให้พ่อแม่ของฉันเซ็นต์อนุญาต 
ข้อความเขียนว่า "เราอนุญาตบุตรสาวของเราด้วยความเต็มใจ ที่เธอต้องการจะมายังโอมมันดาลี เพื่อจะได้ดื่มน้ำทิพย์ของความรู้จากโอมราเด้ และเพื่อที่เธอจะไ้ดเผื่อแผ่น้ำทิพย์นี้กับคนอื่น ๆ ด้วย"

ฉันขอให้พ่อของฉันเซ็นต์อนุญาตในแ่ผ่นกระดาษ ท่านถามว่าที่ชุมนุมนั้นตอบอะไรกันและฉันบอกท่าน พ่อของฉันเป็นคนกินเนื้อสัตว์และชอบดื่มไวน์วันละมาก ๆ ไม่มีความเลื่อมใสทางศาสนาในตัวท่านเลย  ท่านโมโหอย่างรุนแรง  ทันทีที่ท่านเข้าใจสิ่งที่ฉันบอก "ฉันจะไม่เซ็นต์อนุญาตกับเรื่องบ้า ๆ เช่นนี้" ท่านตะโกน

ฉันรู้สึกสับสน ฉันเข้าไปคิดอยู่ในห้อง  แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?  บาบาจะไม่อนุญาตให้ฉันมายังชุมชุมถ้าไม่มีใบยินยอมจากทางบ้านซึ่งพ่อแม่ไม่ยอมเซ็นต์ ฉันรู้สึกว่าฉันคงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่ได้พบกับบาบา และดื่มความรู้ของท่าน  ฉันจะเป็นเช่นปลาที่ขาดน้ำ  ฉันวิงวอนต่อพระเจ้าให้ช่วยฉันด้วย

วันรุ่งขึ้น เมื่อฉันไปหาบาบาและเล่าปัญหาให้ท่านฟัง  บาบายิ้มราวกับว่าท่านได้รู้เรื่องการสวดวิงวอนของฉันและตอบรับมัน  บาบาบอกฉันให้เชิญพ่อมาพบบาบา  ฉันตื่นเต้นและยิ้มออกมาได้ในครั้งแรกของวัน  และวิ่งกลับไปบ้านไปบอกพ่อ

บาบาคิดถึงพ่อ ท่านอยากพบพ่อ ได้ยินเช่นนี้พ่อค้าค่อนข้างจะอ่อนลง  สำหรับดาด้าเลกราช มีชื่อเสียงที่สูงส่งในสังคม ไม่มีใครจะปฏิเสธที่จะพบปะและพูดคุยอย่างง่าย  ๆ  กับคนที่ร่ำรวยและบุคคลิกเป็นที่ยอมรับ พ่อก็เป็นคนที่มีคนนับถืออยู่มากเช่นกันในไฮดราบัด และท่านก็ไม่สามารถเสียมารยาทที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญในครั้งนี้  ฉันและพ่อมาพบบาบาด้วยกัน
    
ท่านทั้งสองคุยกันฉันท์มิตร บาบาถามพ่อว่า  ท่านรู้ไหมว่าทำไมลูกสาวของท่านจึงมาที่นี่ ?  
ความสงบที่ท่านเห็นได้ในชีวิตของเธอ ณ วันนี้ เธอได้มันมาอย่างไร ?  บาบาให้ความรู้กับพ่อนิดหน่อย แล้วเรียกโอมราเด้มาอธิบายความรู้ที่เหลือ ท่านเป็นดวงวิญญาณที่มีจิตสำนึก  เธอบอกพ่อว่า ร่างนี้เป็นโบสถ์ แล้วคนทั่วไปจะเอาเนื้อสัตว์ไปถวายในโบสถ์หรือไม่ ?  แล้วเราจะให้ของขวัญซึ่งเป็นไวน์กับเทพหรือไม่ ?

พ่อฟัง และพ่อก็ไม่สามารถจะเป็นอย่างอื่นได้นอกจากยอมรับ พ่อเริ่มสำนึกผิดกับบาบาที่ท่านได้กินเนื้อวัว ดื่มไวน์  แม้แต่กับความโกรธที่ท่านมีนั่นก็เป็นบาปด้วยเช่นกัน  โอมราเด้พยายามชี้แนะพ่อให้เปลี่ยนใจและความคิดก็เกิดขึ้นกับท่าน  ว่าท่านคือดวงวิญญาณ  เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ อาศัยอยู่ในวิหารซึ่งเป็นร่างกายเพียงชั่วคราวเท่านั้น  กระแสของบาบาทำให้พ่อสงบลงอย่างแท้จริง  ยกท่านให้ไปสู่สำนึกใหม่อีกระดับหนึ่ง  พ่อกลับบ้านพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง  เมื่อไปถึงบ้าน พ่อเริ่มเอาขวดไวน์โยนทิ้งไปทที่ถนน ทั้งหมดเป็นไวน์จากฝรั่งเศส  ที่ของพ่อเห็นว่าพ่อกำลังทำอะไร จึงวิ่งมาหาพ่อ  น้องทำไมโยนมันทิ้งมันเป็นไวน์ดี ๆ ทั้งนั้น  ให้เราเถอะถ้าน้องไม่ต้องการ แต่พ่อตอบว่าบาปเหล่านี้ที่ฉันโยนมันทิ้งไปแล้ว สมควรหรือที่ฉันควรจะส่งไปให้เธอต่อฉันทำอย่างนั้นไม่ได้

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพ่อกลายเป็นมังสะวิรัติและไม่เคยแตะต้องเหล้าแม้แต่หยดเดียว  ไม่เพียงแต่พ่อจะเซ็นต์ใบอนุญาต แต่พ่อเขียนจดหมายถึงสมาชิกทุก ๆ คนของครอบครัว  อนุญาตให้ทุกคนร่วมชุมนุม และพ่อก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งสำหรับตัวท่านเอง ฉันได้เลิกไวน์แล้ว แล้วพ่อก็หัวเราะ แต่ฉันคิดว่าฉันได้รับรสชาติของน้ำอมฤตนี้แล้วทำไมฉันจะไม่ลุ่มหลงในน้ำอมฤตนี้ พ่อมีความสุขมาก แล้วความหนักหน่วงก็ดูเหมือนถูกยกออกไปจากครอบครัวของเราทั้งหมด  นี่เป็นความมหัศจรรย์ของบาบา

อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 2 # 12

No comments:

Post a Comment