Thursday, February 6, 2014
อดิเทพ ตอนที่ 2 # 6
เสียงสะท้อนกลับของครอบครัว
ดาด้าทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้ญาติ ๆ ของท่านสนใจที่จะมารับมรดกจากชิพบาบา ด้วยการเชื่อเช่นนั้นว่า การทำกุศลที่ดีใด ๆ นั้นต้องเริ่มต้นที่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ คนทั้งประเทศได้มาเพื่อจับตามองปรากฏการณ์อันสูงส่งของการลงมาของพระเจ้า และรับเอาพรที่ไม่สามารถบรรยายได้ในช่วงของการสัมผัสแค่ 1 วินาที เป็นความจริงหรือ แล้วทำไมล่ะ ควรหรือที่ญาติทางร่างของดาด้า จะไม่ควรได้รับความเจริญบ้างจากเหตุการณ์นี้ ท่านไม่ควรจะปล่อยใหพวกเขาผ่านไปโดยไม่ได้รับอะไรในโอกาสทองครั้งนี้ โดยปราศจากการทำความเพียร
ภรรยาและลูกสะใภ้ของดาด้าเป็นคนที่มีจิตใจฝักใฝ่ในทางศาสนา และมีความเคารพดาด้าอย่างสูงส่งเสมอ ผู้ซึ่งตลอดชีวิตของท่านไม่เคยหันเหไปจากความมั่นคงและความซื่อตรง พวกเขารู้โดยปราศจากร่องรอยของความสงสัยว่ามีใครมาใช้ร่างของดาด้าอย่างสม่ำเสมอ และใช้ปากของดาด้าพูด และเป็นพลังบุคลิกอื่นใช้อำนาจที่เข้มข้นและปิติสุขมาชี้นำนั้นทั้งสูงและสูงส่ง ภาษาที่ร้อยกรอง ความคิดที่มีอิสระ และเป็นที่กระจ่างชัดสำหรับพวกเขาว่า บุคคลผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ชีว่า ดวงวิญญาณสูงสุด
ดังนั้นพวกเขาจึงเพียรพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำตามหนทาง พวกเขาเพียรพยายามสร้างสำนึกของความเป็นดวงวิญญาณของพวกเขา พวกเขาเพียรพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อความสมบูรณ์ในจิตใจในจุดต่าง ๆ ของความรู้ พวกเขาทำให้คุณธรรมและการละวางของพวกเขาพัฒนาขึ้น หาหนทางให้ตนเองอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง ความสนใจของดาด้ามุ่งไปที่บุตรสาวคนโต
ก่อนหน้าที่ชิพบาบาจะลงมา ดาด้าได้จัดตกแต่งลูกคนนี้ไปกับครอบครัวที่ร่ำรวยในชุมชนซินดิ บัดนี้หลังจากได้เรียนรู้ความรู้ของพระเจ้า ท่านรู้สึกว่าท่านผิดพลาดที่ทำให้เธอตกต่ำ ที่ส่งเธอไปมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ ถึงแม้ว่าท่านเป็นเหตุให้เธอตกต่ำ ดังนั้นหน้าที่ของท่านจะต้องแสดงให้เธอเห็นหนทางของความบริสุทธิ์ ท่านประสบความสำเร็จในสิ่งนี้ด้วยการช่่วยเหลือจาก พระเจ้า
นี่่คือลูกสาวของท่าน Dadi Nirmal Shanta (ตอนที่ท่านเป็นหัวหน้าในเขตเบงกอลและอินเดียตะวันออก รับใช้จากสาขาจาการ์ตาของมหาวิทยาลัย) ที่จะพูดเกี่ยวกับประสบการณ์
ก่อนจะเข้ามาเป็นเครื่องมือของพระเจ้า ชีวิตของพ่อเต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอย่างเจ้าชายอยู่แล้ว พร้อมกับความเลื่อมใสบูชา ดังนั้นบาบาจัดการให้ฉันแต่งงานกับคนที่ร่ำรวยและมีสติปัญญาสูง เป็นมุคคี (Mukhi - เป็นผู้ที่มีฐานะอำนาจทางการเมือง) ของเมือง ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ณ ที่บ้านพ่อของสามี ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับทางโลก ก่อนที่ฉัีนจะแต่งงาน เมื่อยังอยู่กับบาบาฉันมีความสุขมากและมีอิสระอย่างเต็มที่ บาบาไม่เคยปล่อยให้เรารู้สึกว่าเราขาดแคลนอะไร ท่านเลี้ยงดูให้เราเติบโตมาด้วยความรักและเอาใจใส่อย่างมาก ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร ตราบจนกระทั่งภายหลัง ใช่! ฉันไม่เคยใส่ใจต่อการบูชาหรือกราบไหว้ ฉันมีทุกสิ่ง ดังนั้นฉันจะสวดอ้อนวอนเพื่ออะไร แต่ทันทีที่พ่อสูงสุด ชีว่า เข้ามาในร่างของพ่อฉัน ทุกสิ่งเปลี่ยนไปสำหรับฉัน มันดูเหมือนความรักและความเอาใจใส่จากพ่อได้หายไป แน่นอน เมื่อฉันไปเยี่ยมท่าน ฉันรู้สึกว่า ท่านอ่อนโยนและน่ารักกว่าที่เคยเป็น แต่มันแตกต่างกัน บัดนี้ท่านดื่มด่ำอยู่ในความรักของพระเจ้า โลกทั้งโลกได้กลายเป็นครอบครัวของท่าน ฉันไม่สามารถพูดกับพ่ออย่างเช่นพ่อที่เคยเป็น ตอนที่พวกเขาสอนฉัีนด้วยความรู้ของพระเจ้าในทุก ๆ โอกาส มันทำให้ยุ่งและฉันไม่เข้าใจในตอนแรก ๆ ว่าท่านเอาใจใส่ความสุขของฉัน ท่านต้องการให้ฉันเดินตามหนทางสูงสุดเพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสทอง แต่ในตอนแรก สัจจะทั้งหมดได้ผ่านมาและก็ผ่านไป ฉันเห็นเพียงแต่ว่าพวกเขาเปลี่ยนไปและห่างไกลออกไปทุกที และแล้ววันหนึ่งความจริงว่าอะไรมันเกิดขึ้นก็เกิดผลกับจิตใจของฉัน
งานเทศกาลก็ได้จัดเฉลิมฉลองขึ้น และบาบา ก็เชิญฉันไปงานเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อฉันไปถึงที่นั่น ฉันเห็นกลุ่มเด็กหญิง และบรรดาแม่นั่งฟังความรู้อย่างตั้งใจ แต่อีกกลุ่มหนึ่งกำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน มันไม่ใช่การเต้นรำธรรมดา พวกเขาดูเหมือนอยู่ในการเพ่งพินิจอย่างล้ำลึก ฉันได้เข้าไปสังเกตใกล้ๆ ในตอนแรกฉันไม่ชอบลีลาการเต้นที่พวกเขาเต้น แต่แล้วฉันก็เปลี่ยนมาดูจังหวะที่เท้าของพวกเขา และเริ่มสังเกตที่ใบหน้าของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาฉายไว้ด้วยสีหน้าที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แค่นั้น ฉันจดจำได้ทันที สภาพของความสมบูรณ์พร้อม ความปิติจากอีกมิติหนึ่ง พวกเขาอยู่ในภวังค์ ไม่ได้รับรู้สิ่งใด ๆ ที่มีอยู่ในโลก ณ ขณะนั้นเลย "ภาพอะไรที่พวกเขาเห็นด้วยตาแห่งความรู้" พวกเขาทำอย่างไรที่ทำให้ท่วงท่าลีลาประสานกันอย่างพร้อมเพรียงในขณะที่เคลื่อนไหว
การเต้นของพวกเขาดูยากยิ่งขึ้นที่จะเข้าใจได้ และแล้วฉันก็คิดว่าพวกเขาเหล่านั้นคือนักเต้นที่ช่ำชองและมีพรสวรรค์ แต่ในความเป็นจริง แม้แต่นักเต้นมืออาชีพก็ไม่สามารถจะเต้นได้สวยงามและช่ำชองชำนาญเช่นนั้น พวกเขาไม่เคยเต้นมาก่อนเลยและขณะนี้พวกเขาทำได้อย่างไร เต้นได้สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ฉันรู้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในสภาพหรือสำนึกที่ธรรมดา แต่ฉันไม่รู้เลยว่า ภายในนั้นพวกเขาได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในยุคทองเสียแล้ว ไปสวรรค์ และพวกเขากำลังร่ายรำอยู่กับศรีกฤษณะจริง ๆ ขณะนั้น ขณะที่พวกเขาอยู่ในอนาคต ในภพหน้าของพวกเขาในยุคทอง มันเป็นนิมิตที่พิเศษอย่างยิ่ง ที่มอบให้โดยพระเจ้า ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถและมีพลังจนร่ายรำออกมาเช่นนั้น บนใบหน้าของพวกเขาฉันเห็นความสงบ ความรัก และความเป็นหนึ่งกับพระผู้เป็นเจ้า ฉันสัมผัสได้กับพลัง สัมผัสกับความงดงาม อำนาจของความบริสุทธิ์ ซึ่งแผ่กระจ่ายอยู่ในบรรยากาศรอบ ๆ
อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 2 # 7
Labels:
อดิเทพ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment