Sunday, June 2, 2013
พื้นฐานของราชโยคะ(2)
ราชโยคะเป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบ พ่อ-ลูก ระหว่างดวงวิญญาณและพระเจ้า มันเป็นการถอนความคิดจากความสัมพันธ์ทางร่างกาย จากอาจารย์ จากคัมภีร์ และลูกประคำที่นับถือ เช่นเดียวกับความคิดที่เป็นกิเลสของตัณหา ความโกรธ ความโลภ ความผูกพันยึดติดและหยิ่งทะนงตน
สำนึกของความเป็นดวงวิญญาณ
มนุษย์ค่อย ๆ ลืมความเป็นดวงวิญญาณของตนทั้งหมด และการมองต่อภาพชีวิตทั้งหมดถูกควบคุมโดยสำนึกแห่งความเป็นร่าง แม้แต่คำสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าก็ถูกกระตุ้นโดยความปรารถนาต่อสิ่งของซึ่งจะให้ความพึงพอใจทางร่างกาย ก้าวแรกของการฝึกหัดของราชโยคะ คือการฝึกมีสำนึกแห่่งความเป็นดวงวิญญาณ เหมือนกับฉนวนของสายไฟจะต้องถูกปอกออกก่อนที่จะมีการเชื่อมต่อเข้ากับพลังของกระแสไฟฟ้าที่ส่งมาตามสาย เช่นเดียวกับสำนึกแห่งการเป็นร่างจะต้องถูกละทิ้งก่อนที่ดวงวิญญาณจะสามารถติดต่อกับพระเจ้าชีว่า ที่เป็นแหล่งกำเนิดของแสงสูงสุดและแหล่งกำเนินของอำนาจสูงสุด
ดังนั้นเราควรจะมีความคิดมุ่งมั่นอย่างมั่นคงว่า "ฉันเป็นดวงวิญญาณ สิ่งซึ่งมีชีวิตแตกต่างจากร่างกาย ที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของฉันคือพารามธรรม มันเป็นฉันนี่เองผู้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมร่างกาย" ร่างกายเป็นเหมือนกับเครื่องแต่งกายของนักแสดง ซึ่งแต่งโดยดวงวิญญาณเพื่อการแสดงในบทละครแห่งชีวิตซึ่งเป็นอมตะ เราจะต้องมองดูผู้อื่นเป็นดวงวิญญาณเป็นพี่น้องของเรา ดังนั้นขณะที่อยู่ในร่างกายเราจะต้องคิดว่าตัวเองและคนอื่นๆ เป็นเพียงดวงวิญญาณเท่านั้น และจะต้องฝึกฝนความคิดนี้อย่างต่อเนื่องให้มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณให้มากที่สุด
สำนึกแห่งการรู้จักพระเจ้า (God-Consciousness)
พระเจ้าเป็นแหล่งพลังทั้งหมดที่เป็นอมตะ เป็นแหล่งคุณธรรมที่สูงส่ง เป็นแสงและเป็นอำนาจที่ดวงวิญญาณต้องการเพื่อนำมาชำระตนเอง การได้มาซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จากพระเจ้าสู่ดวงวิญญาณจะเกิดขึ้นเพียงเมื่อมีการเชื่อมต่อทางดวงวิญญาณกับท่านโดยผ่านสำนึกแห่งการรู้จักพระเจ้า ราชโยคะเป็นการรู้จักพระเจ้าว่าเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ในเวลาปัจจุบันที่มีการขยายตัวของความไม่เชื่อในพระเจ้า ความคิดใหม่เกี่ยวกับโยคะที่แยกตัวออกไปได้พัฒนาขึ้น ซึ่งไม่มีเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าในระบบของโยคะเหล่านั้น เป็นเรื่องของการบริหารทางร่ายกายต่าง ๆ การฝึกหัดการควบคุมลมหายใจ และการควบคุมความคิดก็ถูกสอนว่าเป็นโยคะ โดยปราศจากพลังของพระเจ้า ผู้ฝึกปฏิบัติจะต้องใช้ความเพียรพยายามของตนเองทั้งหมด หรือจากการชี้แนะของมนุษย์
ด้วยเหตุนี้ การบรรลุผลของพวกเขาจึงมีขีดจำกัดเป็นอย่างมาก ในทางตรงข้ามราชโยคีสร้างสายสัมพันธ์ของลูกและพ่อกับพระเจ้าด้วยการคิดว่า "ฉันเป็นลูกผู้เป็นอมตะของพ่อผู้เป็นที่รักยิ่ง ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด" ภายใต้คุณลักษณะของพระเจ้าผู้ซึ่งเป็นมหาสมุทรของความรู้ ความสงบ และเป็นผู้ให้การหลุดพ้นและการหลุดพ้นจากบ่วงพันธะในขณะที่มีชีวิต ในเวลานั้นความคิดของเขาจมอยู่ในสภาวะของการทำสมาธิที่ล้ำลึก แล้วจิตใจก็เริ่มมีประสบการณ์แห่งความปิติสุขในมรดกที่แท้จริงของพ่อสูงสุด
ในรูปของความสงบสุขสูงสุด ความปิติและความสุข เขาจะรู้สึกซาบซึ้งอย่างยาวนานกับความสุขอันไม่มีขอบเขต แม้แต่ขณะที่เขากำลังทำงานทางโลกอยู่ ประสบการณ์ความสุขเหนือประสาทสัมผัสของราชโยคีก็เพิ่มความเข้มข้นขึ้น เป็นสัดส่วนกับการฝึกฝนสำนึกแห่งการรู้จักพระเจ้าที่เข้มข้นขึ้น มันเป็นการยากที่จะอธิบายด้วยคำพูด มันเป็นสิ่งที่จะต้องมีประสบการณ์ด้วยตนเอง
การละวางและการถอนตัวเอง
การฝึกราชโยคะไมใช่เป็นงานอดิเรกชั่วคราว มันเป็นวิถีของชีวิต มันถูกเีรียกว่าเป็นศิลปะหรือศาสตร์ของการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการดำเนินชีวิตเช่นราชโยคี ในทางปฏิบัติเราจะต้องเปลี่ยนแปลงการมองชีวิตอย่างสมบูรณ์และซึมซับความรู้สึกต่อคุณธรรมใหม่ ราชโยคีนั้น ขณะที่ทำงานซึ่งเป็นภาระสำคัญของชีวิต จะคิดว่าการยกระดับจิตใจซึ่งจะให้ความสุขอย่างเป็นอมตะ เป็นเป้าหมายหลักและเป็นจุดประสงค์ของชีวิต และเขาก็รู้ว่านี่เป็นชาติเกิดสุดท้ายของกัลปและการทำลายล้างของยุคเหล็กโลกเก่าซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส โดยอาวุธนิวเคลียร์และความหายนะอันเนื่องจากธรรมชาติมีให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
ดังนั้น ราชโยคีจึงหยุดไขว่คว้าทุกสิ่งซึ่งมีมากเกินความต้องการ และหลีกเลี่ยงการกระทำทางโลก เขาจะต้องใส่ใจต่อการสะสมสมบัติที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ นั่นคือคุณธรรมสูงส่งในดวงวิญญาณให้มากขึ้น ๆ การหยุดไขว่คว้านี้ไม่ได้หมายถึงการสละละทิ้งการงาน ราชโยคีเป็นคาร์มาโยคี แต่จะเว้นจากการกระทำที่เป็นกิเลสและจะทำแต่กรรมที่สูงสุดหรือสุกรรม เพื่อที่จะสร้างสันสการ์ที่สูงส่ง เขาใช้เวลาและทรัพยากรที่จะให้ความสุขส่วนตัวกับตนเองน้อยมาก และสละพลังอย่างสูงสุดสำหรับงานรับใช้ที่สูงส่งที่สุดที่จะนำมาซึ่งการปลุกดวงวิญญาณเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายให้ตื่นขึ้น เขาละวางจากทัศนคติต่อโลกกิเลสนี้ และเป็นเช่นเต่าที่ใช้อวัยวะของร่างกายเมื่อต้องการ และหดอวัยวะกลับเข้าไปในสภาวะของสำนึกของการเป็นดวงวิญญาณ ราชโยคีไม่ต้องมีการทำความเพียรเป็นพิเศษใด ๆ เพื่อการละวางหรือถอนตัวเองจากความสัมพันธ์ทางร่างกายที่มี
เราจะนำตัวอย่างมาอธิบายสิ่งนี้ เมื่อสายไฟถูกเชื่อมต่อเข้ากับโรงงานไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ "เปิดสวิทซ์" (switch) กระแสไฟฟ้าก็จะเริ่มไหล จิตใจของมนุษย์ เหมือนกับสวิทซสองทาง ดวงวิญญาณสามารถได้รับแสงและอำนาจ ซึ่งแผ่กระจายมาจากพระเจ้าชีว่าอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเพียงแต่เปิดสวิทซความคิดพุ่งตรงไปยังท่าน ทันทีที่การเชื่อมต่อได้ถูกสร้างขึ้น มันก็จะเปิดสวิทซจากทางโลกโดยอัตโนมัติ การปล่อยวางเช่นนี้ ก็จะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติจากการที่เขาเพิ่มการเปิด สวิทซเพื่อเชื่อมต่อกับพระเจ้าชีว่า.
จากหนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK.เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ
Labels:
ราชาโยคะ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment