Monday, June 3, 2013

การฝึกฝนราชโยคะ


สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการฝึกโยคะ
การฝึกราชโยคะไม่มีความต้องการมนต์ตราใด ๆ หรือเวทย์มนต์ลูกประคำ ท่าทางร่างพิเศษ หรือการควบคุมลมปราณ ฯลฯ เครื่องช่วยเหล่านี้ถูกใช้โดยผู้บูชากราบไหว้ในหนทางแห่งการกราบไหว้ร้องขอ อย่างไรก็ตามการฉลองการบูชาร้องขอทั้งหมด ในจิตใจของผู้กราบไหว้บูชาก็ไม่ได้เชื่อมต่อกับพระเจ้าเลย จิตใจของเขาอาจจะดื่มด่ำอยู่ในพิธีทางศาสนาของการกราบไหว้ร้องขอชั่วคราว แต่นั้นไม่ใช่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเป็นการติดต่อกับพระเจ้า

ผู้กราบไหว้ส่วนมากจะโอดครวญและจิตใจของเขาเร่ร่อนไม่อยู่กับที่ แต่โดยปราศจากความรู้ที่แท้จริงเกี่ยวกับพระเจ้าซึ่งเป็นพื้นฐานของราชโยคะ แม้แต่ความสัมพันธ์ทางโลก เมื่อบุคคลคิดถึงผู้ที่เป็นที่รักหรือผู้ที่ใกล้ชิดใด ๆ ของเขา เขาไม่ต้องนั่งในท่าพิเศษหรือปิดตา หรือคิดถึงรูปลักษณะ ในทางตรงข้ามเพียงแต่ความคิดเดียวก็เพียงพอที่จะนำทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องมายังจิตใจของเขาทันที ในกรณีของคู่รักก็มีความดึงดูดของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดหรือทำอะไร จิตใจก็คิดถึงกันและกันอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง นี่คือรูปแบบของความรักที่ล้ำลึกและความปิติสุขที่ผู้ปรารถนาจะเป็นโยคีต้องการเพื่อพัฒนาให้เกิดความรักต่อพระเจ้า

ราชโยคะเป็นการคิดถึงพระเจ้าอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะต้องมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การนั่งในท่าพิเศษหรือการปิดตา เป็นการฝึกฝนที่ขัดธรรมชาติซึ่งพิสูจน์แล้ว่าเป็นการขัดขวางการฝึกฝนที่ต่อเนื่องที่ให้ผลในทางบวกต่อราชโยคะ เราไม่สามารถนั่งในท่าที่ตายตัวหรือท่าใดเป็นเวลานาน ๆ บุคคลก็เช่นกัน ไม่สามารถที่จะกลายเป็นคาร์มาโยคีได้ด้วยการทำเช่นนั้น

นอกจากนี้การปิดตายังทำให้ง่วงนอน เกียจคร้านและความคิดเร่ร่อนสับสน ดังนั้นแทนที่จะปิดตา เราควรที่จะปิดจิตใจต่อความคิดทั้งหมดและคิดถึงพระเจ้าชีว่าด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเพียงหนึ่งเดียวแทน มันเป็นประสบการณ์ธรรมดาเมื่อเราจมอยู่ในความคิดถึงที่ล้ำลึก เราจะไม่ได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ถึงแม้ว่าดวงตาของเรากำลังเปิดอยู่

การเปิดตาระหว่างการทำสมาธิไม่ได้หมายความว่า เป็นการบังคับไม่ให้กระพริบตาหรือจะต้องมองไปในทิศทางเดียว เราจะต้องสรุปคุณสมบัติของพระเจ้าและความสัมพันธ์กับท่าน ซึ่งขึ้นอยู่กับขอบเขตของความรู้ที่ได้รับและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นด้วยการฝึกฝนการทำสมาธิ ทุก ๆ รายละเอียดเกี่ยวกับพระเจ้าจะเกิดขึ้นภายในจิตใจอย่างทันทีทันใดและเป็นอัตโนมัติ



หลักการและวิธีปฏิบัติของราชโยคะ
การฝึกราชโยคะในตอนเช้าตรู่ระหว่าง ตี 4 ถึง ตี 5 เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะจิตใจนั้นสดชื่นในตอนเช้าและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบ จัดให้มีสถานที่เงียบและสะอาดในบ้านของเรา เพื่อจุดหมายนี้ ติดไฟสีแดงส้ม ซึ่งเป็นเครื่องหมายของแสงสีแดงทอง ซึ่งแพร่กระจายอยู่ในพารามธรรม จุดธูป ถ้าสภาวะของจิตใจซัดส่ายให้เปิดเพลงหรือเพลงบรรเลงเบา ๆ นี่จะช่วยปรับจิตใจเพื่อการเชื่อมต่อกับพระเจ้า เครื่องช่วยภายนอกเหล่านี้ไม่จำเป็น แต่สามารถช่วยผู้ที่อยากฝึกปฏิบัติให้นั่งในท่าที่สบายและทำตนเองให้ผ่อนคลาย

เริ่มต้นด้วยการไตร่ตรองว่า "ฉันเป็นดวงวิญญาณ แยกออกจากร่างกายที่เป็นวัตถุธาตุนี้ ฉันเป็นสิ่งมีชีวิต เป็นอมตะ ฉันเป็นดวงดาวที่เล็กมากเหมือนกับจุดแห่งแสงที่ส่งประกาย และเต็มไปด้วยอำนาจ อาศัยอยู่ที่กึ่งกลางหน้าผากของร่ายกายฉัน ความบริสุทธิ์และความสงบเป็นธรรมชาติดั้งเดิมของฉัน"


หลังจากที่กำหนดตัวเองให้อยู่ในสำนึกที่มีสภาวะของสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ให้ส่งความคิดของเราไปยังโลกวิญญาณ นั่นคือพารามธรรมและไตร่ตรองว่า "ฉันได้ลงมาในสัตยุค บนเวทีละครโลกนี้จากพารามธรรม และหลังจากที่ได้เล่นบทบาทของฉันถึง 84 ชีวิต บัดนี้ฉันต้องกลับไปยังอาณาเขตสูงสุดซึ่งอยู่ไกลโพ้นพ้นไปจากดวงอาทิตย์ และ ดวงดาว"

ด้วยดวงตาของความคิด มองเห็นว่าในพารามธรรม หรือบราห์มโลก ที่นั่น ดวงวิญญาณสูงสุดซึ่งเรียกว่าพระเจ้่าชีว่าอาศัยอยู่ ชีพบาบาซึ่งเป็นจุดแห่งแสงซึ่งมีชีวิตและสว่างไสว แผ่กระจายแสงที่สูงส่ง อำนาจ ความสงบ ปิติ และความรัก ให้เพ่งรวมความคิดและคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ และมีชีพบาบาผู้เป็นที่รักที่สูงสุด เป็นทั้งพ่อทั้งครู และผู้ปลดปล่อย ให้รู้สึกถึงแสงของท่าน อำนาจ ความสงบและความปิติ ได้แผ่ลงมายังดวงวิญญาณของเรา และเราก็อาบอยู่ในแสงและอำนาจของท่าน ให้เพ่งความคิดของเราไว้ที่นั่น และเริ่มคิดคำนึงว่า ชีพบาบาผู้เป็นที่รักที่สุดของฉัน ท่านเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ความสงบ ความรักและความปิติ ท่านเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด เป็นผู้ให้คุณประโยชน์และเป็นผู้ทำให้ชีวิตของฉันพ้นภัย "บาบาที่สุดแสนหวานของฉัน ฉันช่างมีโชคที่ได้รู้จักท่านและมีการเชื่อมต่อทางความคิดกับท่าน บาปในอดีตได้ถูกชำระโดยแสงและอำนาจของท่าน ฉันได้เข้าใจแล้วว่า  ท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้นเป็นผู้นำทางที่แท้จริงของฉันและจะปลดปล่อยฉันจากบ่วงพันธะทั้งหมด"

ให้ทำสมาธิในรูปแบบนี้ และดื่มด่ำอยู่ในความสนุกสนานของความปิติที่ได้พบกับท่าน เรารู้สึกถึงพลังที่เข้ามาเหมือนกับกระแสไฟฟ้า เราจะมีประสบการณ์เหมือนกับมีแสงที่สูงส่ง ความปิติ ความสงบและความรักที่สูงส่ง กำลังไหลเอ่อท่วมท้นอยู่ในตัวเรา

จงดื่มด่ำอย่างล้ำลึกในความปิติสุขนี้ให้นานเท่านานที่เราสามารถเพ่งรวมได้ ถ้าการเพ่งรวมนั้นขาดตอน ให้เริ่มต้นไตร่ตรองเช่นนี้ "ฉันเป็นดวงวิญญาณ เป็นดางดาวที่ส่องแสง มีความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยความปิติสุขในธรรมชาติดั้งเดิมของฉัน ฉันเป็นลูกที่เป็นอมตะของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ชีพบาบา ฉันปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับคุณลักษณะอันสูงส่ง ในความคิด คำพูด และการกระทำเช่นท่าน ฉันจะไม่ทำร้ายตัวเอง หรือผู้ใดด้วยการกระะทำที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้า ฉันจะได้รับสถานภาพเทพ ด้วยการกลับกลายมาเป็นผู้ปราศจากกิเลส ฯลฯ"

ให้จมดิ่งอยู่ในประสบการณ์ของแสง และอำนาจที่ปรากฏขึ้นจากบาบาและหลวมรวมไว้ในตัวเองอย่างสมบูรณ์ ให้อยู่ในสภาวะนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แ้ล้วเราก็จะกลายเป็นผู้ได้รับการชำระเรียบร้อยแล้ว ที่สูงส่งแล้ว และเป็นดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยอำนาจของแสงที่ทรงพลัง ด้วยความรักและความสงบ นี่คือการสรุปหนทางของการฝึกฝนราชโยคะ การฝึกฝนนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ยกขึ้นมา เราควรจะปรับและเปลี่ยนแปลงในตามความต้องการของแต่ละคน เพื่อว่าการไตร่ตรองเกี่ยวกับประเด็นของความรู้ของพระเจ้าในรูปแบบต่าง ๆ และคุณธรรมที่สูงส่งก็จะกลายป็นสิ่งที่ง่ายดาย

การฝึกฝนนี้ควรจะทำสองครั้งในตอนเช้าและก่อนเข้านอน ระหว่างวันก็เช่นกัน ควรจะมีการฝึกฝนเป็นระยะสั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง เราจะรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่นและได้รับการเติมพลัง ควรจะสังเกตว่าภาระกิจปกติทั้งหมดสามารถดำเนินไปได้ ในขณะที่มีการฝึกฝนโยคะ.



จาก หนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK. เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ



No comments:

Post a Comment