Thursday, June 20, 2013

การวิเคราะห์การกระทำของเรา

เรามาพิจารณาดูว่าเกิดผลอะไรขึ้นกับการกระทำบ้างในชีวิตประจำวันของแต่ละคน และพยายามทำความเข้าใจว่ามีบาปเกิดขึ้นมากเท่าใด และมีบุญเกิดขึ้นบ้างไหม





ก. การกระทำเพื่อความอยู่รอด
สิ่งแรกในประเภทของการกระทำทั้งหมดจากชีวิตประจำวันของแต่ละคน ตารางเวลาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความอยู่รอดของแต่ละคน ซึ่งรวมถึงการกิน การนอน การทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ดูแลสุขภาพร่างกายและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละวันเราใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกระทำสิ่งเหล่านี้เพื่อตนเอง

ข. ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น
ประเภทที่สองมีการกระทำซึ่งทำเนื่องจากความรับผิดชอบต่อผู้อื่น ทันทีที่เราออกไปทำงาน มันไม่เพียงแต่เพื่อการยังชีพของเราเท่านั้น มันเป็นการเลี้ยงดูครอบครัวของเราด้วยเช่นกัน เมื่อแม่บ้านทำงานบ้าน เธอก็ไม่ได้ทำเพื่อตนเองเท่านั้น แต่มันเป็นการรับผิดชอบต่อผู้อื่น ๆ ในครอบครัวด้วย

ค. การพักผ่อน
ประเภทที่สามของการกระทำเป็นการกระทำซึ่งเพิ่มมากขึ้น ๆ อย่างมากในสังคมปัจจุบัน และมันก็เป็นการทำตามจิตใจที่เบี่ยงเบนเท่านั้น การกระทำที่เรียกว่าการพักผ่อนอยู่ในประเภทนี้ทั้งหมด

ง. งานรับใช้
ประเภทที่สี่เป็นประเภทซึ่งมีการกระทำน้อยมาก บางครั้งการกระทำที่ทำเพื่อรับใช้ผู้อื่นไม่ได้รับความใส่ใจดูแลเลย

การวิเคราะห์การกระทำของเรา
ตอนนี้ลองมาดูตารางเวลาของเรา ดูซิว่า อันไหนในสี่ประเภทนี้ที่มีการสร้างบาปและอันไหนที่มีการสร้างบุญ มันเป็นไปได้ในทั้งสี่ประเภทที่จะเป็นบาปหรือบุญก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของการทำเพื่อความอยู่รอดของเรา การกระทำที่เราทำก็อาจจะอยู่บนพื้นฐานของความหลงทะนงตน ความโลภ หรือ เป็นไปด้วยความทะยานอยาก หรือ ความโกรธ ในกรณีของการกระทำเหล่านั้น มันจะไม่เป็นเพียงการกระทำที่เป็นกลาง แต่เป็นการกระทำที่เกิดผลลบ

แม้แต่เรื่องพื้น ๆ ที่เป็นเรื่องของการดูแลร่างกาย มันก็เป็นไปได้ที่ว่ามีความหลงทะนงตน หรือความสูญเปล่าที่เราได้ดูแลร่างกายแห่งวัตถุธาตุนี้ ก็มาอยู่ในประเภทของการสร้างบาปด้วย หรืออาจจะเป็นเพียงการกระทำที่เป็นกลางได้เช่นกัน

เรารู้แล้วว่าร่างกายนี้จะต้องมีการบำรุงรักษา และเราก็จะทำมันด้วยสำนึกแห่งการละวาง และด้วยสำนึกนั้นก็จะไม่มีการกระทำที่เป็นบาปหรือเป็นบุญ แต่มันจะเป็นเพียงขบวนการง่าย ๆ ขจองการกิน การอยู่ การนอน และการดำรงชีพ เพราะว่าเราเป็นเพียงดวงวิญญาณในร่างกายมนุษย์ อาศัยอยู่ในโลกวัตถุนี้ในสนามของการกระทำนี้ การกระทำบางอย่างเป็นสิ่งจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น เราต้องดูแลร่างกายของเรา แม้กระนั้นมันอาจจะเป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการดูแลร่างกาย แต่จะให้เป็นการกระทำที่บริสุทธิ์จะทำอย่างไร

ด้วยการอยู่ในสำนึกว่าตัวเองเป็นดวงวิญญาณ และในสำนึกของพ่อสูงสุดของเรา เรารู้ว่าพาหนะที่เป็นร่างกายนี้เป็นเครื่องมือให้เราสามารถทำงานนรับใช้ต่อพ่อผู้สูงสุดของเราได้ ดวงตาทั้งคู่ของเราเราสามารถส่งกระแสของความบริสุทธิ์ ปากของเราเราสามารถให้ข่าวสารที่พ่อให้มา ประสาทรับสัมผัสแต่ละส่วนให้ถือว่าเป็นสิ่งซึ่งต้องรับผิดชอบ

ในความเป็นจริงเราเป็นเพียงผู้ดูแลร่างกายนี้ และให้รู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำและดูแลร่างกายด้วยความเอาใจใส่ ด้วยความละวาง และก็อยู่ในสภาวะของสำนึกที่สูงสุดด้วย และการกระทำทุก ๆ การกระทำที่จะกลายเป็นการกระทำที่บริสุทธิ์

การกระทำประเภทที่สองภายใต้ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น เราอาจถูกกระตุ้นด้วยความโลภ ความโกรธ และความผูกพันยึดติด โดยทั้วไป นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วันในทุก ๆ สถานการณ์ แต่ถ้าผู้นั้นเป็นราชโยคี สถานที่ซึ่งเขาทำงานจะเป็นที่ซึ่งเขาแบ่งปันกระแสที่ได้รับมาจากดวงวิญญาณสูงสุด

การกระทำของเขาจะไม่อยู่บนพื้นของแรงกระตุ้นที่ต้องการเงินมากขึ้นอีกต่อไป จะมีแต่ความสบายมากขึ้น เขาจะทำงานและเห็นว่ามันเป็นรายได้ที่เขาควรจะได้รับอย่างถูกต้อง สำหรับความพยายามของเขา ดังนั้นจึงไม่มีบ่วงพันธะเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป แต่สถานที่ทำงานของเขาก็จะเป็นสถานที่ทำงานรับใช้ ซึ่งตัวอย่างและกระแสของเขาจะดลใจผู้อื่นให้อยู่อย่างสงบ บริสุทธิ์และมองโลกในแง่ดี เขาจะเป็นตัวอย่างที่จะนำให้ดวงวิญญาณอื่นเข้ามาใกล้ชิดกับดวงวิญญาณสูงสุดมากขึ้น

ในฐานะที่เป็นแม่ขณะที่กำลังปรุงอาหาร เขาจะไม่เพียงปรุงอาหารตามความต้องการและความชอบในรสชาติของลูก ๆ ของเขา แต่เขาจะปรุงอาหารอะไรก็ตามที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้นอะไรก็ตามที่ปรุงขึ้นมาจะต้องถวายให้กับพ่อสูงสุดก่อน แล้วเธอก็จะปรุงอาหารด้วยความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดเต็มไปด้วยความรักที่สูงสุด ด้วยสำนึกว่าเราจะต้องอุทิศให้กับพ่อสูงสุดก่อน

ด้วยการปรุงและอุทิศเรียบร้อยแล้ว เมื่อนำมาแบ่งปันกันในครอบครัว มันไม่เพียงแต่จะบำรุงร่างกายของธาตุทั้งห้าเท่านั้น แต่ มันจะบำรุงเลี้ยงดวงวิญญาณด้วย เพราะว่ามันได้ถูกเติมไว้ด้วยความรักและความบริสุทธิ์ในอาหารนั้น ดังนั้นด้วยการมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่เราก็สามารถทำกรรมที่บริสุทธิ์

ประเภทที่สามทุกวันนี้การพักผ่อนหย่อนใจที่มีอยู่โดยทั่วไป ก็เป็นการดึงรั้งของประสาทสัมผัสทางร่างกาย ทุกวันนี้ดวงวิญญาณถูกครอบงำโดยแรงดึงดูดของประสาทสัมผัสและโหยหาความตื่นเต้นที่จอมปลอม โดยไม่ได้รู้ว่าความสุขนั้นอยู่ภายในตนเอง ดังนั้นการกระทำของเขาดึงเขาเข้าไปสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้นและหยาบยิ่งขึ้นของสำนึกแห่งความเป็นร่าง และบางครั้งการพักผ่อนหย่อนใจของบางคนก็สร้างความทุกข์และความโศกเศร้าให้กับผู้อื่น แม้กระนั้นเขาก็ย้งมองไม่เห็นเพราะว่าเขาหมกมุ่นอยู่แต่เพียงความสนุกสนานของตนเอง ซึ่งเขาไขว่คว้าหามันในรูปของวัตถุที่สัมผัสได้

ทันทีที่เรากลายเป็นโยคี เราก็กระทำสิ่งที่นำมาซึ่งความพอใจสูงสด และสร้างความพึงพอใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับดวงวิญญาณสูงสุด การกระทำนั้นก็พาให้ดวงวิญญาณเข้าใกล้ดวงวิญญาณสูงสุดมากขึ้น และทำให้ดวงวิญญาณนั้นเป็นเครื่องมือสำหรับที่จะทำให้ผู้อื่นเข้ามาใกล้ท่านมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น การพักผ่อนหย่อนใจทั้งหมดของเขา 
บัดนี้ได้กลายเป็นการกระทำที่บริสุทธิ์ นำดวงวิญญาณให้พบกับความพอใจเหนือประสาทสัมผัส ความสนุกสนานซึ่งอยู่เหนือประสาทสัมผัสรับรู้ทั้งหลาย ดังนั้นการกระทำประเภทที่สามและประเภทที่สี่จึงไม่มีการแยกจากกันอีกต่อไป มันได้กลายเป็นสิ่งเดียวกัน

งานรับใช้ต่อผู้อื่น เป็นการกระทำบนพื้นฐานของระดับที่ไม่มีขีดจำกัด ด้วยการรู้ว่าเป็นงานรับใช้ที่แท้จริงเราสามารถทำเพื่อดวงวิญญาณใด ๆ ก็ได้ นั้นคือสอนดวงวิญญาณนั้นให้รู้จักวิธีการเข้ามาใกล้ชิดกับดวงวิญญาณสูงสุด ดวงวิญญาณจะค้นหาวิธีจะใช้เวลาและพลังในการนำดวงวิญญาณอื่นเข้ามาใกล้กับดวงวิญญาณสูงสุดมากขึ้น ด้วยความคิด ดวงวิญญาณสามารถมีความปรารถนาดีต่อดวงวิญญาณอื่น ๆ ได้ โดยผ่านคำพูดก็สามารถแพร่กระจายความรู้ทางดวงวิญญาณที่พ่อสูงสุดได้ถ่ายทอดไว้ และดังนั้นโดยการกระทำที่บริสุทธิ์และสูงส่งด้วยตนเอง เราก็จะทำแต่การกระทำที่บริสุทธิ์ทุกขณะ

ถ้าเราทำเช่นนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลสันสการ์ของเราเกิดขึ้น เราจะสามารถจะใช้เวลากลางคืน (ระหว่างที่เรานอนเราก็ให้ร่างกายพักผ่อน) รับใช้ผู้อื่น  เนื่องจากดวงวิญญาณสามารถรับใช้ด้วยการดลใจแม้แต่ขณะที่พักผ่อน หรือโดยผ่านความฝันได้ ดังนั้น ขณะพักผ่อนก็สามารถทำงานรับใช้ได้

นั่นหมายความว่าการกระทำที่บริสุทธิ์สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เรารู้ว่ายุคแห่งการบรรจบพบกันซึ่งเชื่อมต่อโลกเก่าและโลกใหม่เป็นยุคเดียวกันที่เราได้โอกาสกระทำการกระทำที่สูงส่งที่สุดของการกระทำทั้งหมด


จากหนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK.เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ


No comments:

Post a Comment