Wednesday, November 13, 2013
คุณธรรม - ความมุ่งมั่น(Determination)
ภายในความมั่นคงมีความมุ่งมั่น และที่ใดมีความมุ่งมั่น ความสำเร็จจะเป็นพวงมาลัยรอบคอ (Avyakt 09/12/93)
การมีความคิดมุ่งมั่นหมายถึง การมีความคิดที่เข้มข้น ดังนั้นจงอย่าได้เป็นเพียงผู้เพียรพยายาม แต่เป็นผู้เพียรพยายามที่เข้มข้น (Avyakt 18/01/94 กลุ่ม6)
จงมีความคิดมุ่งมั่นว่าลูกต้องจบสิ้นความอ่อนแอด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งอย่างแน่นอน อย่าได้แม้แต่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ ลูกจะต้องขุดมันทิ้งเดี๋ยวนี้ เพราะว่าลูกไม่สามารถไว้วางใจทั้งตัวลูกเองและเวลา อย่าได้คิดว่าลูกจะทำสิ่งนี้ในอนาคต หรือนั่นมันจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ สุภาษิตของลูกคือ : ถ้าไม่เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นจงทำอะไรก็ตามที่ลูกต้องทำเดี๋ยวนี้ (Avyakt 09/03/94)
ความพิเศษของบราห์มาบาบาก็คือ ท่านทำอะไรเมื่อท่านคิดทันที ท่านทำสิ่งที่ท่านพูดเพราะว่านี่คือความรู้ใหม่ เพราะท่านได้รับการต่อต้านเป็นอย่างมาก แต่ด้วยการมีสำนึกของความเคารพในตนเองของท่าน และด้วยสำนึกของการมีพ่อเป็นเพื่อน ด้วยอาวุธของความมุ่งมั่น และศรัทธา และด้วยอำนาจ ท่านก็ดำรงอยู่อย่างไม่สั่นคลอนอย่างสม่ำเสมอ และมั่นคงอยู่บนที่นั่งอันเป็นตำแหน่งของท่าน ดังนั้นเมื่อลูกอยู่ในตำแหน่ง ฝ่ายตรงข้ามจะทำอะไรได้ การต่อต้านทำให้ลูกมั่นคงในตำแหน่ง มันไม่ได้มาทำให้ลูกไม่มั่นคง มันทำให้ลูกมั่นคง ข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติในการเป็นผู้รับชัยชนะคือ การพิสูจน์ของตัวลูกเองและงานรับใช้ในทั้งสี่ทิศ นั่นคือ เขาเหล่านั้นซึ่งเมื่อก่อนเคยพูดว่า "เหล่านี้คือผู้ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงอันวุ่นวาย" บัดนี้เขาจะพูดว่า "พวกเขาจะแสดงความอัศจรรย์" ดังนั้นสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยการจบสิ้นการต่อต้านด้วยการใช้ตำแหน่งอันสูงส่ง (Avyakt 31/12/92)
บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูก ๆ สำหรับความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอของพวกเขาโดยความคิดที่มุ่งมั่น เพราะว่าที่ใดมีความมุ่งมั่นความสำเร็จเป็นสิ่งแน่นอน นี่เป็นที่รู้กันว่าคือสัญลักษณ์ของการเป็นผู้ที่มีโชคอันสูงส่ง การไม่มีความอ่อนแอในความมุ่งมั่นอย่างสม่ำเสมอ ในการมีความคิดที่สูงส่งอย่างสม่ำเสมอ เป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้ที่สูงส่ง (Avyakt 28/02/88)
ลูกต้องมีความคิดมุ่งมั่นเหมือนพ่อบราห์มา นั่นคือ ลูกจะไม่เคยรู้สึกท้อแท้ ถ้าลูกมีความคิดมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นผู้พิชิตมายา มายาจะไม่ทำอะไรเลย (Avyakt 17/03/91)
ด้วยความกล้าหาญที่จะซึมซับความบริสุทธิ์ ลูกมีความคิดมุ่งมั่นว่า เราจะต้องกลับมาบริสุทธิ์ (Avyakt 22/11/87)
ลำแสงนั่นคือกระแสของการชุมนุมจะบรรลุผลอันยิ่งใหญ่ ลูกเพียงแต่ต้องการความมุ่งมั่นสำหรับสิ่งนี้ "ฉันจะต้องทำสิ่งนี้อย่างแน่นอน" อิทธิพลของความมักง่ายของคนอื่นไม่ควรมากระทบลูก อิทธิพลของความมุ่งมั่นของลูกควรจะกระทบพวกเขา แล้วพลังของความมุ่งมั่นสูงส่ง หรือพลังของความมักง่ายสูงส่ง มันเป็นพลังของความมุ่งมั่นใช่ไหม แล้วบัพดาดาก็ได้ให้พรไว้แล้วว่า ไม่ว่าที่ใดที่มีความมุ่งมั่นที่นั่นจะมีความสำเร็จอย่างแน่นอน (Avyakt 01/02/94)
Tuesday, November 12, 2013
คุณธรรม - การละวาง(Detachment)
บัลลังก์ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ของสภาวะที่เหมือนกับของบราห์มาของการเป็นรูปธรรมแห่งความรักสูงสุด และก็ยังละวางอย่างสูงสุด ดังนั้นลูกดวงวิญญาณบราห์มินจงทำตามพ่อ (บราห์มา) ดังนั้นลูกก็เหมือนกับบาบา กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ดอกบัว สัญลักษณ์ของดวงวิญญาณซึ่งละวางอย่างเต็มที่คือดวงวิญญาณที่จะได้รับความรักอย่างสูงสุดจากบาบาและครอบครัวทั้งหมด
ละวางหมายความว่าละวางจากทั้งสี่ด้าน
สิ่งแรก : คือละวางจากสำนึกของความเป็นเจ้าของของร่างกาย
สิ่งที่สอง : ละวางจากสัมพันธ์ทั้งหมดของร่างกาย ผ่านดริชตีของลูก ทัศนคติ และการกระทำของลูกในทุก ๆ ทาง ขณะที่เห็นความสัมพันธ์ทางร่างกาย ควรจะมีสภาวะของสำนึกแห่งการเป็นดวงวิญญาณโดยธรรมชาติ ดังนั้นการละวางหมายความว่าการละวางจากร่างกาย จากสัมพันธ์ทางร่างกายและสิ่งของที่สามารถถูกทำลายได้ของร่างกาย ถ้าสิ่งใดทำให้อวัยวะสัมผัสซุกซน นั่นคือ มันจะสร้างความปรารถนา มันหมายความว่าไม่มีการละวาง มันยังเป็นการง่ายที่จะมีการละวางจากความสัมพันธ์ แต่การละวางจากความต้องการของวัตถุทั้งหมด นั่นคือถูกดึงเข้าไปหาสิ่งเหล่านั้น ให้คงอยู่ในรูปที่สูงศักดิ์ในขณะที่กลับมาเป็นอิสระจากการดึงดูด ลูกเคยได้ยินมาก่อนแล้วว่า รูปที่ชัดเจนของการดึงดูดคือความปรารถนา อย่างไรก็ตามรูปที่ละเอียดอ่อนของความปรารถนาคือ "ฉันชอบสิ่งนี้" มันไม่ได้มีความปรารถนาแต่ "ฉันเพียงแต่ชอบมัน" รูปที่ละเอียดอ่อนนี้ นำมาซึ่งรูปของความปรารถนา (lchcha) แทนที่จะเป็นความดี (Achcha) ดังนั้นควรจะมีการตรวจสอบที่ดีสำหรับสิ่งนี้
สิ่งที่สาม : ในขณะที่ลูกมีเครื่องมือทั้งหมด ลูกมีเครื่องมือมากกว่าที่ต้องการ ไม่มีสิ่งใดขาดแคลน แต่ขณะที่มีเครื่องมือเหล่านี้และใช้มัน สภาวะโยคะของลูกไม่ควรจะขึ้น ๆ ลง ๆ การเป็นโยคีและใช้มันเรียกว่า การละวาง ถ้าลูกไม่มีสิ่งใดลูกก็ไม่สามารถพูดได้ว่าละวาง ลูกควรจะสามารถใช้มันเพียงแค่เป็นเครื่องมือเท่านั้น ลูกไม่ควรใช้มันด้วยความปรารถนาใด ๆ หรือ เพราะว่าลูกชอบมัน ลูกจะต้องมีการตรวจสอบสิ่งนี้ให้แน่นอน ที่ใดมีความปรารถนา ไม่สำคัญว่าลูกทำความเพียรมากเท่าใด มันจะไม่ปล่อยให้ลูกลายเป็นคนดี
สภาวะของโยคีหมายถึง สภาวะที่ซึ่งละวาง แม้แต่ขณะที่กำลังใช้สิ่งของต่าง ๆ
สิ่งที่สี่ : ก็คือการละวางจากสันสการ์เก่าและนิสัยเก่า มันได้พบว่าสันสการ์และนิสัยของร่างเก่านี้ขมขื่นมาก นี่ก็เป็นรูปของอุปสรรคที่ใหญ่ในการที่จะเป็นผู้พิชิตมายา บางครั้งบัพดาดาก็เห็นว่างูของนิสัยเก่าและสันสการ์เก่าจบสิ้นลง แต่ร่องรอยก็ยังคงอยู่ แล้วเมื่อเวลามาถึงมันก็หลอกลวงดวงวิญญาณครั้งแล้วครั้งเล่า สันสการ์ที่ขมขื่นนี้ทำให้ดวงวิญญาณอยู่ภายใต้อิทธิพลของมายา ซึ่งมันทำให้ไม่คิดว่าบางสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งผิด อำนาจแห่งการเข้าใจจบสิ้น จงละวางจากสิ่งนี้ด้วย นี่ก็ต้องการการตรวจสอบอย่างดี เมื่ออำนาจของการตระหนักรู้ถึงความจริงจบลง ดวงวิญญาณจะต้องพูดโกหกเป็นพันครั้งเพื่อพิสูจน์การโกหกนั้น นั่นคือการที่คนตกอยู่ภายใต้มายาได้อย่างไร ดังนั้นการพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้องเป็นสัญลักษณ์ของการตกอยู่ภายใต้สันสการ์เก่าของลูก มันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องทำบางสิ่งให้ชัดเจนเพื่อความถูกต้อง แต่อีกสิ่งหนึ่งการที่จะต้องพิสูจน์มันด้วยความดื้อดึง ผู้ซึ่งพิสูจน์สิ่งนั้นด้วยความดื้อดึง ไม่สามารถที่จะเป็นรูปธรรมของความสำเร็จได้ ดังนั้นตรวจสอบให้ดีว่ามีสันสการ์เก่าใด ๆ หรือนิสัยเก่าหลงเหลือซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ Samja? (เข้าใจไหม)
การที่จะละวางจากทั้งสี่สิ่งนี้หมายความว่า การละวางจากทั้งสี่ทิศทาง ดวงวิญญาณเช่นนี้เป็นที่รักของบาบาและของครอบครัว ดังนั้นลูกได้กลายเป็นผู้ซึ่งนั่งบนบัลลังก์ดอกบัวเช่นนี้หรือไม่ นี่คืออะไรที่หมายถึงการทำตามพ่อ บราห์มาบาบานั่งอยู่บนบัลลังก์ดอกบัว นี่เองที่ทำไมท่านจึงกลายเป็นลูกผู้ซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง ที่ได้รับความรักจากบาบา และจากบราห์มินในรูปที่มีตัวตน เช่นเดียวกับในรูปที่ละเอียดอ่อน แม้จนกระทั่งบัดนี้อะไรที่ปรากฏขึ้นจากหัวใจของบราห์มินทุก ๆ คน "บราห์มาบาบาของเรา" ลูกไม่มีความรู้สึกว่าลูกไม่เคยเห็นท่านในรูปที่มีตัวตน เพราะหัวใจของลูกได้พบท่าน ลูกได้พบท่านผ่านดวงตาของสติัปัญญา ลูกได้สัมผัสท่านผ่านทางดวงตาที่สูงส่ง นี่เองที่ทำไมบราห์มินทุก ๆ คนพูดจากหัวใจ "บราห์มาบาบาของฉัน" ดังนั้นนี่คือเครื่องหมายของความรัก การละวางจากทิศทางทั้งสี่ ทำให้ท่านเป็นที่รักของทั้งโลก ลูกมีประสบการณ์นี้ใช่หรือไม่ ดังนั้นด้วยวิธีนี้ จงกลายเป็นผู้ละวางจากทิศทางทั้งสี่ทั้งหมด และดังนั้นก็จะได้รับความรักจากทุกคน (Avyakt 25/10/87)
ไม่ว่าธรรมชาติจะผันแปรหรือแสดงเกมที่สวยงามให้ลูกดู ดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นนายของธรรมชาติก็เฝ้าดูเกมทั้งสองนี้อย่างผู้เฝ้าดูที่ละวาง ลูกจะไม่สับสนด้วยเกมนั้น ลูกจะรู้สึกเป็นสุข ลูกจะไม่รู้สึกสับสน (Avyakt 16/03/92)
การที่จะกลายเป็นผู้ละวางจากร่างกายหมายถึง การตายทั้งที่มีชีวิตอยู่ เมื่อลูกตาย ทั้งโลกก็ตายไปแล้วสำหรับลูก นั่นหมายความว่าลูกได้ละทิ้งเพื่อนทั้งหมดและญาติทั้งหมดแล้ว (Sakar 10/04/96)
การมีความสิ้นเยื่อใยไร้ความปรารถนาหมายถึง การไม่มีความผูกพันและยึดติด ผู้ซึ่งมีความสิ้นเยื่อใยไร้ความปรารถนาอันไม่มีขีดจำกัดจะได้รับความรักจากบาบาอย่างสม่ำเสมอ และความรักนั้นจะทำให้ดวงวิญญาณละวาง การได้รับความรักจากบาบา การละวาง และแล้วก็ทำงาน เป็นที่รู้กันว่ามีความสิ้นเยื่อใยไร้ความปรารถนาอันไม่มีขีดจำกัด ถ้าลูกไม่ได้รับความรักจากบาบา ลูกก็ไม่สามารถกลายเป็นผู้ละวาง แต่จะถูกดึงไปสู่การผูกพันยึดติด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความรักจากบาบา แล้วก็ยังไปรักบุคคลหรือสิ่งของ การที่จะอยู่เหนือความดึงดูดหมายถึงการเป็นผู้ละวาง นี่หมายถึงเป็นสภาวะที่อยู่เหนืออิทธิพล ไม่ใช่สภาวะของการถูกอิทธิพลโดยการดึงดูดที่มีขีดจำกัด มันหมายความว่าดวงวิญญาณอยู่เหนืออิทธิพล ใช้สิ่งสร้างและเครื่องมือ แต่ใช้มันโดยปราศจากอิทธิพลครอบงำ (Avyakt 27/11/87)
ความหมายของการเป็นคาร์มาโยคีคือ "ดวงวิญญาณซึ่งปราศจากร่าง เป็นผู้ละวางจากบ่วงพันธะของร่างกาย ฉันมาใช้ร่าง เพียงเพื่อมาแสดงการกระทำ ฉันทำงานเสร็จสมบูรณ์และกลายเป็นผู้ละวางจากความสัมพันธ์ของกรรมนั้น" ลูกอยู่ในสัมพันธ์แต่ลูกไม่ได้อยู่ในบ่วงพันธะ ดังนั้นนี่คืออะไร ลูกมาเพื่อแสดงการกระทำ และแล้วลูกก็กลายเป็นผู้ละวางและจากไป ลูกไม่ได้มากระทำภายใต้อิทธิพลของบ่วงพันธะ แต่ลูกทำให้อวัยวะเป็นผู้รับใช้ ลูกกลายเป็นคาร์มาโยคี และกระทำด้วยสิทธิ ลูกไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของการกระทำหรือประสาทสัมผัส ถ้าใครบางคนอยู่ใต้อิทธิพล แล้วดวงวิญญาณผู้ซึ่งอยู่ใต้อิทธิพลก็กลายเป็นผู้ท้อแท้ ดวงวิญญาณผู้เป็นนายไม่เคยกลายเป็นผู้ท้อแท้ต่อสิ่งใด ดวงวิญญาณนั้นเข้มแข็งด้วยการเคารพตัวเอง อะไรคือนัยสำคัญของการศึกษา นั่นคือความรู้ใช่ไหม ลูกจะต้องกลายเป็นคาร์มาทีทและกลับบ้าน แล้วลูกก็ต้องไปในอาณาจักรและเล่นบทบาทของผู้ปกครองของลูก นี่คือสาระของความรู้ ญาณและโยคะคือการมาและการไป ลูกก็มั่นคงอยู่ในการฝึกฝนนี้ทั้งวันทั้งคืน ในสติปัญญามีความสุขของการกลับบ้าน และแล้วก็ไปอยู่ในอาณาจักรใช่ไหม ทำให้ตัวลูกมั่นคงอยู่ในสภาวะไร้ร่างเมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการ และกลายเป็นคาร์มาโยคีเมื่อไรก็ตามที่ลูกต้องการ การฝึกฝนนี้ควรจะลึกมาก มันไม่ควรจะเป็นว่าลูกปรารถนาที่จะมีสภาวะไร้ร่าง แต่ด้วยบ่วงพันธะทางร่างกาย บ่วงพันธะของกรรม และบ่วงพันธะส่วนบุคคล บ่วงพันธะของสิ่งที่ครอบครอง บ่วงพันธะของธรรมชาติและสันสการ์ ดึงดูดลูกไปสู่พวกมัน ทำให้ลูกไม่สามารถเป็นผู้ที่อยู่ในสภาวะไร้ร่าง
เช่นเดียวกัน การดึงของบ่วงพันธะใด ๆ จะดูดลูกไปสู่ตัวมัน บ่วงพันธะทำให้ดวงวิญญาณถูกผูกไว้ ดังนั้นบัพดาดาจะสอนบทเรียนนี้เสมอว่า : จงมีอิสระไม่ถูกอิทธิพล เป็นอิสระและไม่มีอิทธิพลนั่นคือเป็นผู้ละวางและมีความรัก จะต้องมีการฝึกฝนสิ่งนี้เป็นระยะเวลานาน เพื่อที่จะนำลูกเข้าใกล้สภาพคาร์มาทีท บราห์มาบาบาได้ให้ประสบการณ์กับลูกของผลที่เกิดขึ้นทันทีของการฝึกฝนของท่านที่จะเป็นผู้ละวางและมีความรักในชีวิตทางร่าง ก่อนที่จะกลายเป็นคาร์มาทีท ลูกทั้งหมดได้แบ่งปันประสบการณ์สิ่งนี้ของพวกเขา ท่านอยู่อย่างละวางขณะที่กำลังฟัง ท่านละวางขณะที่ทำสิ่งต่าง ๆ และละวางขณะที่กำลังพูด ท่านไม่เคยหยุดทำงานรับใช้ ท่านไม่เคยหยุการกระทำใด ๆ และท่านรับใช้ลูก ๆ อย่างสมบูรณ์ด้วยความละวางจนวันสุดท้าย การละวางนำมาซึ่งประสบการณ์ของความสำเร็จที่ง่ายดายในทุก ๆ การกระทำ ลองปฏิบัติดูและเฝ้าดู เรียกใครก็ได้ พูดกับเขาสัก 1 ชั่วโมง และใช้ความเพียรพยายามที่จะทำให้เขาเข้าใจ ในทางตรงข้าม ขณะที่ฟัง พูดกับดวงวิญญาณอื่นแค่ 15 นาที มั่งคงตัวลูกอยู่ในสภาวะของการละวาง และส่งกระแสของการละวางไปให้ดวงวิญญาณอื่น และเฝ้าดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความสำเร็จที่ลูกได้รับใน 15 นาทีนี้ จะไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ใน 1 ชั่วโมง บราห์มาบาบาฝึกฝนเช่นนี้และแสดงให้ลูกดู ดังนั้นลูกได้ยินไหมว่าลูกต้องทำอะไร กิน ดื่ม เล่น และทำงานรับใช้ แต่อย่าลืมการละวาง ลูกจะต้องทำงานรับใช้มากเท่าใด บัดนี้ให้แผ่กระแสทางดวงวิญญาณ กระแสของสภาวะของการมีสภาวะที่ไร้ร่าง กระแสที่ทรงอำนาจของการละวางและมีความรักไปในบรรยากาศ นี่คือวิธีการของการทำงานรับใช้ด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะรับใช้ผู้อื่น ถ้าลูกแม่นยำในวิธีการนี้ด้วยตัวลูกเอง ลูกจะบรรลุผลสำเร็จในงานรับใช้ การฝึกฝนแรกเริ่มของลูกก็คือ ทำให้ดวงวิญญาณกลายเป็นผู้ละวาง มันคือการละวาง มันคือการละวางแล้วมันจะเป็นการละวางจากร่างกาย มันเป็นเพียงความผูกพันยึดติดที่ไม่ยอมให้มีการละวาง ธรรมชาติเดิมแท้ของดวงวิญญาณคือการคงอยู่อย่างละวาง มันแยกกัน ร่างกายไม่ใช่ดวงวิญญาณและดวงวิญญาณก็ไม่ใช่ร่างกาย ทั้งสองสิ่งแยกจากกัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้รวมกันใช่หรือไม่ มันเป็นเพียงเพราะนิสัยของการผูกพันยึดติดได้ถูกปลูกฝังมา 63 ชาติ อะไรก็ตามที่มันเป็นของดั้งเดิมก็ยังคงสภาพดั้งเดิมของมันเสมอ (Avyakt 29/12/89)
สัญลักษณ์ของการคงอยู่อย่างละวางคือ การมีประสบการณ์ของความรักของพระเจ้าและลูกมีประสบการณ์ของความรักมากเท่าใด ลูกก็จะไม่สามารถแยกไปได้ ลูกจะเฝ้าแต่มีท่านเป็นเพื่อนอย่างสม่ำเสมอ ความรักคือเมื่อลูกอยู่ด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการที่จะมีประสบการณ์ของความรักของพระเจ้า คือประสบการณ์ของการมีพระเจ้าเป็นเพื่อนอย่างสม่ำเสมอ ลูกจะไม่เคยคิดว่าตัวลูกนั้นโดดเดี่ยวใช่ไหม พ่ออยู่กับลูก (Avyakt 31/12/93)
ถ้าลูกอาศัยอยู่ในบ้าน ลูกอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานรับใช้ อย่าได้คิดว่าลูกมีบ่วงพันธะแห่งกรรม ลูกมีกรรมที่จะต้องชำระสะสาง แต่ว่าลูกอยู่ที่นี่เพื่อทำงานรับใช้ เมื่อลูกถูกผูกอยู่ในงานรับใช้ บ่วงพันธะของกรรมก็จะจบสิ้น ถ้าลูกยังไม่มีความรู้สึกของงานรับใช้ บ่วงพันธะแห่งกรรมก็จะเฝ้าแต่ดึงลูก สัญลักษณ์ของบ่วงพันธะแห่งกรรม หรือสัญลักษณ์ของงานรับใช้คือ ถ้ามันเป็นบ่วงพันธะแห่งกรรมมันจะมีกระแสของความทุกข์ แต่ถ้าเป็นพันธะของงานรับใช้ มันจะไม่มีกระแสของความทุกข์แต่เป็นกระแสของความสุข ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีกระแสของความทุกข์ใด ๆ มา จงเข้าใจว่านั่นคือบ่วงพันธะแห่งกรรม และนั่นคือลูกยังไม่ได้เปลี่ยนบ่วงพันธะแห่งกรรมให้เป็นพันธะของงานรับใช้ ลูกเป็นผู้รับใช้โลก และดังนั้นไม่ว่าที่ใดก้ตามที่ลูกอยู่ในโลก ลูกอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานรับใช้ ลูกจำสิ่งนี้อย่างมั่นคงหรือบางครั้งลูกก็ติดกับอยู่ในบ่วงพันธะแห่งกรรม ผู้รับใช้จะไม่เคยติดกับ เขาจะคงอยู่ในความรักและละวาง ลูกเข้าใจว่าลูกจะต้องอยู่ในการละวาง ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ใด ๆ มาอยู่ตรงหน้าของลูก ลูกจะต้องละวาง ณ เวลานั้น ลูกสามารถที่จะคงอยู่อย่างละวางจาก "ทางโลก" เมื่อไม่มีสถานการณ์ อย่างไรก็ตามในชีวิตทางดวงวิญญาณของลูกก็เช่นกัน จงอยู่อย่างละวางอย่างสม่ำเสมอ จงอย่าเป็นผู้ละวางแต่เพียงบางครั้ง แต่จงเป็นตลอดเวลา ผู้ซึ่งมีการละวางเพียงบางครั้งจะไ้ด้รับอาณาจักรเพียงบางครั้งเท่านั้น ถ้าลูกปรารถนาที่จะปกครองอาณาจักรตลอดเวลา แล้วลูกจะต้องคงอยู่ในการละวางตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ขีดเส้นใต้คำว่า "ตลอดเวลา" (Avyakt 31/12/93)
ณ เวลาที่เหมาะสมตามศรีมัทและตามสัญญาณจากดวงวิญญาณเครื่องมือ ใน 1 วินาที สติปัญญาควรจะกลายเป็นผู้ละวาง จากสภาพที่มีความรัก ในประเด็นนี้ลูกไม่สามารถกลายเป็นผู้ละวางอย่างรวดเร็วเหมือนอย่างเช่นลูกได้กลายเป็นผู้ที่มีความรัก ลูกนั้นฉลาดในการกลายเป็นผู้ที่มีความรัก แต่ในการกลายเป็นผู้ละวางลูกใช้ความคิดถึงสองครั้งเกี่ยวกับสิ่งนี้ และลูกก็ต้องการความกล้าหาญ การกลายเป็นผู้ละวางหมายถึง การจากไปจากชายฝั่ง (Avyakt 13/12/90)
ขณะที่ลูกเดิน ขณะที่ลูกเคลื่อนไหว ตรวจสอบสิ่งนี้ : ฉันคือผู้ขับขี่ยานพาหนะ นั่นคือฉันมั่นคงอยู่ในสภาวะของการละวางและมีความรัก เป็นผู้ที่ทำให้ทุกสิ่งเคลื่อนไปใช่่ไหม ผู้ขับขี่ยานพาหนะโดยธรรมชาติแล้วเป็นผู้เฝ้าดู อะไรก็ตามที่ลูกทำ ลูกจะำทำมันหลังจากตรวจสอบและคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับมันเช่นผู้เฝ้าดู ลูกจะดูมัน ไตร่ตรองมันและแล้วก็ทำมัน ลูกจะำทำทั้งหมดนี้ในทุก ๆ สิ่ง และคงอยู่เหนืออิทธิพลใด ๆ นั่นคือลูกจะเป็นผู้ละวางจากผลกระทบของมายา (Avyakt 09/12/89)
วิธีที่ง่ายของการมีทัศนคติที่ถูกต้องของความสิ้นเยื่อใยไร้ความปรารถนาคือ แม้แต่ขณะที่เข้ามามีการพูดคุยกับดวงวิญญาณ ขณะที่ใช้เครื่องอำนวยความสะดวก หรือขณะที่ได้รับโชคของการเป็นผู้รับหน้าที่สำคัญของการทำงานรับใช้ เมื่อเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับทุก ๆ คน ลูกควรจะมีความรักในระดับเดียวกันกับที่ลูกมีความละวาง ควรจะมีความสมดุลในสิ่งนี้ (Avyakt 05/12/94)
คุณธรรม - ความคิดสร้างสรร(Creativity)
ดวงวิญญาณเป็นที่รู้จักกันว่าผู้ซึ่งสามารถจะสร้างสรรได้มาก ถึงระดับที่สติปัญญาของเขาถ่อมตน มันเป็นสติปัญญานั่นเองที่สร้างสิ่งใหม่ (Avyakt 27/12/87)
Monday, November 11, 2013
คุณธรรม - ความกล้าหาญ(Courage)
ลูกมีความกล้ามากเท่าใด ลูกอย่าได้มีความท้อแท้ ลูกไม่เคยมีความท้อแท้ใช่ไหมลูก.... อดีตคืออดีต... อย่างไรก็ตามอย่าทำเหมือนเดิมในอนาคต ลูกจะต้องมีความมุ่งมั่นในความคิดเหมือนพ่อบราห์มา แล้วลูกจะไม่กลายเป็นผู้ที่มีความท้อแท้ ลูกต้องรักษาหัวใจของลูกให้มีความสุขอย่างสม่ำเสมอ ลูกมีความกล้าหาญอย่างมากเช่นนี้ในอนาคตใช่ไหมลูก... ลูกจะไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ ถ้าแม้ว่ามายาจะพยายามทำให้ลูกเป็นเช่นนั้นใช่ไหม... ลูกจะทำอะไรถ้ามายามา ลูกจะกลายเป็นผู้พิชิตมายาใช่ไหมลูก.... ถ้าลูกมีความคิดมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นผู้พิชิตมายา มายาจะไม่ทำสิ่งใด ๆ ให้มีสำนึกนี้เสมอ
ไม่สำคัญว่ามายาจะมาในรูปที่ใหญ่เท่าใด มันไม่มีสิ่งใดใหม่ กี่ครั้งมาแล้วที่ลูกได้รับชัยชนะ (นับครั้งไม่ถ้วน) ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะกลายเป็นสิ่งนั้นอีกครั้งหนึ่ง มันกลายเป็นเช่นนั้นใช่ไหม.... ลูกจะไม่กลัวถ้ามายามาหาลูกในรูปที่ใหญ่ใช่ไหม ..ไม่...ลูกแน่ใจหรือ... ถ้าเธอมาในรูปที่ใหญ่เท่าภูเขาหิมาลัย...แล้วอะไร...(เราจะหาวิธี เราจะบิน) เราจะไม่หาหนทาง แต่เพียงแต่โบยบิน ลูกรู้วิธีที่จะบินอยู่ในสภาวะที่โบยบินใน 1 วินาทีหรือไม่... ลูกรู้หรือจะต้องใช้เวลา ภูเขาจะกลายเป็นอะไรสำหรับผู้ซึ่งมีสภาวะที่โบยบินใน 1 วินาที มันจะเป็นเหมือนกับผ้าขนสัตว์ ไม่ว่ารูปของมายาจะมาใหญ่เท่าใด ลูกจะต้องไม่กลัว... นั่นเป็นเพียงเสือกระดาษ ภูเขากระดาษ
ดังนั้น ดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยอำนาจเช่นนี้ ผู้ซึ่งทำตามพ่อบราห์มา จะเข้ามาใกล้และกลายเป็นผู้ทัดเทียม ดังนั้นลูกจะคิดถึงอะไร ทำตามพ่อในทุก ๆ ความคิด คำพูด และการกระทำของลูก สิ่งแรกตรวจสอบว่า ลูกกำลังทำตามพ่อในสิ่งนั้น ดังนั้น แล้วลูกจะได้รับเป้าหมายที่ลูกตั้งใจไว้อย่างแน่นอน ลูกได้แสดงความกล้าหาญที่ดี อย่างไรก็ตามลูกจะต้องไม่ทิ้งความกล้าหาญไว้ที่นี่ ลูกจะต้องนำมันกลับไปกับลูก (Avyakt 17/03/91)
ก้าวหนึ่งของความกล้าหาญของลูก ๆ สามารถที่จะทำให้ลูกทุกคนได้รับความช่วยเหลือหลายล้านก้าวจากพ่อ ความกล้าหาญแรกที่ลูกได้ทำนั้นคือ ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ด้วยความกล้าหาญของการซึมซับความบริสุทธิ์ ลูกมีความคิดที่มุ่งมั่นว่าพวกเราจะต้องกลับมาบริสุทธิ์
เมื่อลูกมีความกล้าหาญ ลูกสามารถที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อมากเท่าที่ลูกต้องการ มันไม่ใช่เป็นการให้อย่างประหยัด ไม่ว่าบางคนจะเป็นลูกเพียง 1 ปี หรือเป็นลูกมา 50 ปี ไม่ว่าจะอุทิศตนหรือาศัยอยู่ในบ้านก็มีสิทธิเท่ากัน อย่างไรก็ตามมันได้รับโดยผ่านวิธีการที่ถูกต้องแม่นยำ ดังนั้น ลูกเข้าใจกฏของพระเจ้าหรือไม่ อย่างไรลูกก็มีความกล้าหาญอย่างดี ลูกได้มาถึงที่นี่ที่ไกลแสนไกล เพราะว่าลูกมีความกล้าหาญ ลูกมีความกล้าหาญที่จะเป็นของบาบาด้วย และนี่เองที่ทำไมลูกได้กลายเป็นของท่าน มีความแตกต่างระหว่างการดำเนินไปกับวิธีการของการมีความกล้าหาญอย่างสม่ำเสมอ และกลายเป็นมีค่าต่อการช่วยเหลือ และได้รับความสำเร็จ ด้วยการใช้วิธีการเพียงบางครั้ง บรรลุเ้ป้าหมายของการกลายเป็นอันดับเลขหนึ่ง ด้วยการมีความกล้าหาญอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ก้าว และเป็นผู้มีค่าต่อการรับความช่วยเหลือ เพียงบราห์มาผู้เดียวจะกลายเป็นอันดับหนึ่ง แต่จะมีจำนวนมากในพวกที่หนึ่ง นี่เองที่ทำไมจึงมีการพูดกันว่าให้กลายเป็นอันดับหนึ่ง ลูกเข้าใจไหม... ลูกสามารถมาในพวกที่หนึ่ง..ลูกทำได้ไหม.. นี่เองที่รู้กันว่าการกลายเป็นอันดับหนึ่ง (Avyakt 22/11/87)
ลูกไม่ควรสับสนเกี่ยวกับปัจจุบันหรืออนาคต ในความเป็นจริงสถานการณ์ไม่มีอะไรเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าของสภาวะดั้งเดิมของตน ไม่สำคัญว่าสภาพการณ์จะใหญ่เท่าใด เมื่อลูกอยู่เหนือภูเขา ภูเขาดูเหมือนจะเล็ก เมื่อความยากลำบากใด ๆ ที่ใหญ่เข้ามา ให้มีประสบการณ์ของสภาวะโบยบิน และความยากลำบากจะดูเหมือนกับของเล่น เป็นอะไรก็ตาม เป็นอย่างไรก็ตาม มันไม่มีอะไรเลยเมื่อมาอยู่ต่อหน้าผู้ที่มีสภาวะที่โบยบิน
ดังนั้น อะไรคือปีกทั้งสองของสภาพที่โบยบิน (ญาณและโยคะ) พร้อมกับญาณและโยคะ ก็คือความกล้าหาญกระตือรือร้นและจริงจัง ถ้าลูกมีความกล้าหาญ และเพราะความกล้าหาญนั้น ลูกสามารถทำอะไรก็ได้ที่ลูกต้องการ นี่เองที่ทำไมมีการจดจำกันว่า ที่ไหนมีความกล้าหาญ ลูกจะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อ ดังนั้น ลูกมีความกล้าหาญจริงจังและกระตือรือร้นหรือไม่ เพราะว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีความจริงจังและกระตือรือร้นในการที่จะได้รับความสำเร็จในงานต่าง ๆ ถ้าไม่มีความจริงจังและกระตือรือร้น แล้วงานก็จะไม่สามารถประสบความสำเร็จ ทำไมหรือ ที่ไหนที่ไม่มีความจริงจังและกระตือรือร้น มันจะมีความเหนื่อยหน่าย และผู้ซึ่งเหนื่อยหน่ายจะไม่ประสบความสำเร็จ ลูกจะได้รับประสบการณ์ของสภาวะโบยบินอย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่บนพื้นฐานของความกล้าหาญ ความจริงจังและกระตือรือร้นเท่านั้น (Avyakt 25/11/93)
ผู้ซึ่งรักษาความกล้าหาญจะได้รับความช่วยเหลือ สิ่งแรกจะต้องมีความกล้าหาญของลูกและแล้วพ่อก็จะช่วย แต่ถ้าลูกสูญเสียความกล้าหาญ และแล้วคิดว่าลูกไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบาบา และบาบาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยในขณะที่มีความต้องการ ดังนั้น อย่าได้จำเพียงครึ่งประโยค บาบาเป็นผู้ช่วย แต่ช่วยใคร ลูกลืมครึ่งแรกของมัน และจำครึ่งหลัง และคิดว่าบาบาช่วยแต่เพียงมหาระตี และว่าท่านไม่ช่วยลูก ว่าท่านไม่เห็นแม้แต่ลูก ในความเป็นจริงมันเป็นลูกก่อน มหาระตีเป็นที่สอง อย่าได้ท้อแท้ เมื่อมีสำนึกของฉันแล้ว ไม่สำคัญว่าลูกจะพยายามที่จะแก้ปัญหามากเท่าใด มันจะกลายเป็นสับสนมากขึ้น ดังนั้น ลูกจะต้องไม่กลายเป็นอะไรในทุก ๆ สถานการณ์ ลูกจะต้องไม่เคยแม้แต่จะกลายเป็นผู้ท้อแท้ ลูกได้ทำสัญญาที่มั่นคงว่าลูกเป็นลูก ๆ ของพระเจ้า ใช่ไหมลูก... แม้แต่มายาก็ไม่สามารถทำให้ลูกเปลี่ยนแปลงจากสิ่งนี้ ลูกได้ทำสัญญาที่มั่นคง แล้วลูกก็มีศรัทธาว่าลูกเป็นลูกของพระเจ้า และถ้าแม้แต่ลูก ๆ ของพระเจ้าได้กลายเป็นผู้ท้อแท้ แล้วใครล่ะ...ที่จะเป็นคนที่มีหัวใจที่กล้าหาญ มันจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหรือ มันจะต้องเป็นลูกผู้ซึ่งเป็นสิ่งนี้ ดังนั้น แล้วลูกจะทำอะไร ดังนั้น จงกลับมาทรงอำนาจ และทำให้บทเรียนของ "ลูกเปิดเผยพ่อ" ให้มั่นคง อย่าได้อ่อนแอในสิ่งนี้ แต่จงทำให้บทเรียนนี้มั่นคงเป็นอย่างมาก ลูก ๆ ทั้งหมดเป็นผู้กล้าหาญใช่หรือไม่... ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้ใช่ไหม...
มีดวงวิญญาณมากมายที่ประสบกับความทุกข์เป็นอย่างมาก เพราะเหตุของความตึงเครียด แต่พวกเขาเพียงแต่ไม่มีความกล้าหาญใด ๆ ที่จะก้าวไปข้างหน้า ดังนั้น ลูกผู้เป็นนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด ควรจะให้ความกล้าหาญกับพวกเขา และพวกเขาจึงจะสามารถที่จะมา เมื่อบางคนไม่มีขา เขาได้รับขาไม้ และดังนั้นอย่างน้อยเขาก็จะสามารถที่จะเดิน ดังนั้น ลูกควรจะให้ขาแห่งความกล้าหาญ อย่าให้ขาที่ทำด้วยไม้ แต่ให้ขาของความกล้าหาญ พวกเขาได้มีประสบการณ์ของความทุกข์อย่างมากมาย และดังนั้น จงมีความเมตตาปราณี (Avyakt 18/01/96)
ลูกมีความฉลาดในการกลายเป็นผู้ที่มีความรัก แต่ในการกลายเป็นผู้ละวางลูกคิดมันถึงสองครั้ง และลูกก็ต้องการความกล้าหาญด้วย ลูกได้รักษาความกล้าหาญไว้ และลูกก็จะได้รับความช่วยเหลือจากบาบาในทุก ๆ ทางเสมอ ดังนั้น ลูกจึงมีประสบการณ์ของสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากบาบาโดยผ่านความกล้าหาญ และเฝ้าแต่จะโบยบินอย่างง่ายดายอย่างต่อเนื่อง บาบาให้การช่วยหลือ แต่ผู้ซึ่งต้องการความช่วยเหลือต้องรับมัน นายผู้ให้ให้ แต่ผู้รับก็รับมันไปตามแต่ความสามารถของพวกเขา ดังนั้นลูกจะต้องไม่เป็นผู้ซึ่งรับมันตามความสามารถของตนเอง แต่ลูกต้องเป็นผู้ซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ (Avyakt 13/12/90)
ผู้ที่ได้รับชัยชนะจะกระตุ้นความกล้าหาญในผู้อื่น เขาจะไม่พยายามทำให้ผู้อื่นดูเหมือนกล้าหาญน้อย เพราะว่าเพชรพลอยผู้พิชิตเป็นผู้ให้ เป็นนายผู้ช่วยเหลือเหมือนบาบาผู้ซึ่งยกระดับผู้อื่น ผู้ที่มีความศรัทธาในสติปัญญาจะอยู่อย่างห่างไกลจากสิ่งไร้สาระเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความคิด คำพูด และการกระทำที่ไร้สาระ การถอยห่างไปจากความไร้สาระหมายถึงการเป็นผู้ได้รับชัยชนะ มันเป็นเพราะความไร้สาระนั่นเองที่มีบางเวลาที่พ่ายแพ้และบางเวลาได้รับชัยชนะ ถ้าความไร้สาระจบสิ้น การพ่ายแพ้ก็จบสิ้น การจบสิ้นความไร้สาระเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ (Avyakt 25/11/85)
กุมารหมายถึงผู้ซึ่งมีความกล้าหาญ และสามารถที่จะบรรลุอะไรก็ตามที่เขาเลือก ดังนั้น บัพดาดาจึงแนะนำลูกใหใช้วิธีการที่มีอยู่เพื่อที่จะได้รับความสำเร็จเสมอ ๆ กุมารหมายถึงโยคีที่สม่ำเสมอเพราะโลกกุมารเป็นโลกของการมีบาบาเพียงผู้เดียว มีแต่บาบาเป็นโลก และแล้วสติปัญญาก็ไม่สามารถไปที่อื่นใดยกเว้นโลกนี้ เมื่อมีเพียงหนึ่งเดียว แล้วมีการคิดถึงหนึ่งเดียวนี้เสมอ มันเป็นการง่ายมากที่จะคิดถึงเพียงหนึ่ง และผลก็คือลูกก็จะเป็นอิสระจากสิ่งอื่น ๆ มากมาย ทุกสิ่งได้หลอมรวมอยู่ภายในหนึ่งเดียว (Avyakt 10/04/84)
ความใหม่อะไรที่ลูกจะต้องนำมาในความสัมพันธ์และการติดต่อของลูก ปีนี้จงเป็นปีของการมีประสบการณ์ของสำนึกของการเป็นนายผู้ให้ ลูก ๆ ของผู้ให้ ดวงวิญญาณไหนก็ตามที่ลูกได้เข้าไปติดต่อและมีสัมพันธ์ด้วย ไม่ว่าเขาจะเป็นดวงวิญญาณบราห์มินหรือดวงวิญญาณธรรมดา พวกเขาควรจะมีประสบการณ์ของการบรรลุผลโดยผ่ายนายผู้ให้ พวกเขาอาจจะได้รับความกล้าหาญ อาจจะได้รับความจริงจังและกระตือรือร้น พวกเขาอาจได้รับความสงบหรืออำนาจ พวกเขาอาจได้รับความสุข หรือพวกเขาได้ค้นพบวิธีที่ง่ายที่จะทำให้พวกเขามีประสบการณ์ที่จะทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นในประสบการณ์ของพวกเขา ลูกจะต้องให้บางสิ่งกับทุกดวงวิญญาณ ลูกจะต้องไม่รับเอา แต่ให้การรับนั้นหลอมละลายอยู่ในการให้ (Avyakt 31/12/90)
ลูกมีความกล้าหาญที่จะทำสัญญาไหม หรือลูกพยายามที่จะรักษาความกล้าหาญนั้นไว้ อะไรเป็นสัญลักษณ์ของลูก ๆ ผู้กล้าหาญ พวกเขาจะไม่เคยได้รับความพ่ายแพ้ ถ้าลูกทุกคนกล้าหาญ แล้วจากวันนี้ลูกจะไม่มีประสบการณ์ของความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ผู้ที่ได้รับชัยชนะมาเป็นเวลานานจะกลายเป็นลูกปัดของพวงปะคำแห่งชัยชนะ ถ้าลูกปรารถนาที่จะถูกร้อยเข้าไปในพวงปะคำแห่งชัยชนะ ลูกจะต้องนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของการเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ลูกจะต้องตรวจสอบประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลง มันง่ายมาก ๆ (Avyakt 25/10/69)
จงให้ทุกคำพูดเต็มไปด้วยอำนาจและส่งผลต่อการให้ความกล้าหาญและความกระตือรือร้น และไม่มีสิ่งไร้สาระ เมื่อเป้าหมายและการกระทำกลายเป็นสิ่งเดียวกัน จะมีความทัดเทียมกับพ่อ (Avyakt 01/01/86)
อะไรเป็นก้าวแรกของความกล้าหาญที่บราห์มาบาบารับมาสำหรับสิ่งนี้ ก้าวแรกโดยผ่านสิ่งที่ท่านมีประสบการณ์ว่าท่านเองเป็นผู้ที่มีโชคหลายล้านเท่าจากตอนเริ่มต้น ก้าวแรกนั้นเป็นการอุทิศตน ในทุก ๆ กรณี ท่านอุทิศทุก ๆ สิ่ง ท่านไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งใด ๆ ว่า "อะไรจะเกิดขึ้น มันจะเกิดขึ้นอย่างไร" ภายใน 1 วินาทีตามหนทางอันสูงส่งของบาบา บาบาก็พูดมันออกมา ท่านให้สัญญา และทันทีที่บาบาให้สัญญาณเสร็จ บราห์มาบาบาลงมือทำและรับเอาขั้นตอนนั้น
นี่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นก้าวแรกของความกล้าหาญ ท่านอุทิศร่างกายของท่าน ท่านทำให้จิตใจของท่านกลายเป็นรูปธรรมของความสำเร็จ โดยผ่านวิธีการของ มานมานาบาพ นี่เองที่ทำไมจิตใจ นั่นคือทุก ๆ ความคิดนำความสำเร็จมาให้ ท่านได้กลายเป็นผู้ไร้กังวล และอุทิศทรัพย์ของท่านโดยปราศจากความกังวลใด ๆ ถึงอนาคต ทำไมหรือ เพราะว่าท่านได้มีศรัทธาว่านี่ไม่ใช่การให้ แต่เป็นการรับหลายพันล้านเท่า เช่นเดียวกันท่านได้มอบอุทิศความสัมพันธ์ ท่านได้เปลี่ยนความสัมพันธ์ทางโลกไปเป็นความสัมพันธ์ทางดวงวิญญาณ ท่านไม่ได้ทิ้งพวกเขา
แต่ท่านนำประโยชน์มาสู่พวกเขา ท่านเปลี่ยนแปลงพวกเขา ท่านได้อุทิศสติปัญญาของสำนึกของความเป็นฉัน สติปัญญาของความหยิ่งยโส และนี่เองที่ทำไมด้วยจิตใจ ร่างกาย และสติปัญญาของท่าน ท่านดำรงอยู่ในความใสสะอาด เยือกเย็นและให้ความสุข ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นความยากเข้ามาโดยผ่านครอบครัวทางโลกของท่าน หรือดวงวิญญาณที่โง่เขลาในโลก
ท่านไม่ได้หวั่นไหวด้วยความสงสัยแม้แต่ในรูปที่ละเอียดอ่อน หรือมีร่องรอยใด ๆ ของมันในรูปของความคิดหรือความฝัน ความอัศจรรย์ของบราห์มาคือความพิเศษของประเด็นนี้ บราห์มาเป็นตัวอย่างบนโลกเบื้องหน้าของลูก ๆ ทุกคน แต่ไม่มีตัวอย่างทางโลกเบื้องหน้าของบราห์มา ท่านเพียงแต่มีความศรัทธาที่ไม่ไหวหวั่น และการช่วยเหลือจากศรีมัทของบาบา (Avyakt 21/01/88)
ลูกเพียงแต่ได้รับความรักเช่นนี้ ณ เวลานี้ ระหว่างการเกิดของชาตินี้ ความรักของพระเจ้า ณ เวลานี้สร้างสรรค์รางวัลให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักหลายชาติเกิด อย่างไรก็ตาม บัดนี้เป็นเวลาของการบรรลุผลนั้น บัดนี้เป็นเวลาแห่งการเพาะหว่านเมล็ด มีความสำคัญเป็นอย่างมากของเวลานี้ ผู้ซึ่งได้รับความรักโดยผู้เดียว ด้วยหัวใจที่แท้จริง ดำรงอยู่ในการหลอมรวมในความรักอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีใครที่จะมีความกล้าหาญที่จะเข้าใกล้หรือต่อต้านดวงวิญญาณผู้ซึ่งหลอมรวมอยู่ในความรัก ถ้าลูกหลอมรวมอยู่ในความรัก ความดึงดูดของใครก็ไม่สามารถดึงดูดลูกได้ เหมือนกับพลังของวิทยาศาสตร์ซึ่งพามนุษย์ออกไปพ้นจากแรงดึงดูดของโลก เช่นเดียวกันสภาวะการหลอมรวมอยู่ในความรักพาลูกให้ไกลไปอย่างมากจากแรงดึงดูดทุกชนิด ถ้าลูกไม่หลอมรวมอยู่ในความรัก มันก็จะมีการขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะว่าถึงแม้ว่าจะมีความรัก ลูกก็ไม่ได้หลอมรวมไปในความรัก การช่วยเหลืออันสม่ำเสมอของบาบาทำให้ลูกมีความจริงจังและกระตือรือร้น พร้อมทั้งความกล้าหาญและพลังที่ไม่มีความเหนื่อยอ่อน เมื่อมีความจริงจังและกระตือรือร้น และไม่เหนื่อยอ่อนต่องาน งานนั้นจะจบลงอย่างไร มันจะจบลงอย่างประสบความสำเร็จหรือไม่ บาบาไม่ได้ทำงานด้วยมือ ท่านทำงานของการให้ความช่วยเหลือลูก ดังนั้นชีวิตของการเป็นคาร์มาโยคีเป็นชีวิตที่ทำงานด้วยพลังทั้งสอง
ที่ใดที่มีความกล้าหาญ ความกล้าหาญของพระเจ้า ซึ่งไม่ใช่ความกล้าหาญของดวงวิญญาณธรรมดา ที่ใดมีความกล้าหาญของพระเจ้านี้ ก็มีการช่วยเหลือ ดวงวิญญาณที่ได้กลายมาเป็นเครื่องมือก็จะพัฒนาความกล้าหาญโดยอัตโนมัติ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนเช่นนี้ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ของการช่วยเหลือเช่นนี้ พวกเขามีความคิดอะไร ไม่มีอะไรใหม่ ชัยชนะได้รับการค้ำประกัน ความสำเร็จได้รับการค้ำประกัน นี่คือประสบการณ์ของคนรักที่แท้จริง (Avyakt 13/02/92)
ลูกกลายเป็นผู้ซึ่งมีค่าที่จะรับความช่วยเหลือจากบาบา เนื่องจากความกล้าหาญของลูก ลูกเอาชนะบ่วงพันธะหลาย ๆ ชนิดของมายา และได้ก้าวข้ามเส้นกั้นของประเพณีและระบบหลายชนิดและมาถึงที่นี่ ความกล้าหาญนี้ไม่ใช่เล็กน้อย วิธีหนึ่งเป็นการรักษาเพียงจุดเดียวในสติปัญญา และได้กลายเป็นตัวของจุด และให้ใช้จุดในการกระทำ ลูกควรจะเป็นตัวของจุดและเป็นจุดนั้น (Avyakt 25/02/91)
ลูกทั้งหมดอยู่ในหัวใจของบาบาใช่หรือไม่ ลูกไม่สามารถถูกแยกออกจากหัวใจ ไม่มีใครสามารถที่จะมีความกล้าหาญที่จะแยกลูกออกจากหัวใจของผู้ปลอบประโลมใจ ลูกแม้แต่ร้องเพลงว่า ท่านไม่สามารถแยกออกไป แม้แต่โลกทั้งโลกพยายามจะแยกลูก แม้กระนั้นลูกก็ไม่สามารถถูกแยกไป เพราะลูกเป็นเพียงหนึ่งผู้ซึ่งเป็นเพียงน้อยนิดจากหลายพันล้าน ผู้คนเหล่านั้นไม่มีอะไรเลยเมื่อเปรียบเทียบกับลูก นี่คือสัญลักษณ์ของการเป็นกลุ่มที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยการเห็นความก้าวหน้าของลูก ๆ แม้แต่บาบาก็ยอมสละตัวท่านเอง (Avyakt 18/02/94 กลุ่ม4)
ลูกเพียงแต่ได้รับความรักเช่นนี้ ณ เวลานี้ ระหว่างการเกิดของชาตินี้ ความรักของพระเจ้า ณ เวลานี้สร้างสรรค์รางวัลให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักหลายชาติเกิด อย่างไรก็ตาม บัดนี้เป็นเวลาของการบรรลุผลนั้น บัดนี้เป็นเวลาแห่งการเพาะหว่านเมล็ด มีความสำคัญเป็นอย่างมากของเวลานี้ ผู้ซึ่งได้รับความรักโดยผู้เดียว ด้วยหัวใจที่แท้จริง ดำรงอยู่ในการหลอมรวมในความรักอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีใครที่จะมีความกล้าหาญที่จะเข้าใกล้หรือต่อต้านดวงวิญญาณผู้ซึ่งหลอมรวมอยู่ในความรัก ถ้าลูกหลอมรวมอยู่ในความรัก ความดึงดูดของใครก็ไม่สามารถดึงดูดลูกได้ เหมือนกับพลังของวิทยาศาสตร์ซึ่งพามนุษย์ออกไปพ้นจากแรงดึงดูดของโลก เช่นเดียวกันสภาวะการหลอมรวมอยู่ในความรักพาลูกให้ไกลไปอย่างมากจากแรงดึงดูดทุกชนิด ถ้าลูกไม่หลอมรวมอยู่ในความรัก มันก็จะมีการขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะว่าถึงแม้ว่าจะมีความรัก ลูกก็ไม่ได้หลอมรวมไปในความรัก การช่วยเหลืออันสม่ำเสมอของบาบาทำให้ลูกมีความจริงจังและกระตือรือร้น พร้อมทั้งความกล้าหาญและพลังที่ไม่มีความเหนื่อยอ่อน เมื่อมีความจริงจังและกระตือรือร้น และไม่เหนื่อยอ่อนต่องาน งานนั้นจะจบลงอย่างไร มันจะจบลงอย่างประสบความสำเร็จหรือไม่ บาบาไม่ได้ทำงานด้วยมือ ท่านทำงานของการให้ความช่วยเหลือลูก ดังนั้นชีวิตของการเป็นคาร์มาโยคีเป็นชีวิตที่ทำงานด้วยพลังทั้งสอง
ที่ใดที่มีความกล้าหาญ ความกล้าหาญของพระเจ้า ซึ่งไม่ใช่ความกล้าหาญของดวงวิญญาณธรรมดา ที่ใดมีความกล้าหาญของพระเจ้านี้ ก็มีการช่วยเหลือ ดวงวิญญาณที่ได้กลายมาเป็นเครื่องมือก็จะพัฒนาความกล้าหาญโดยอัตโนมัติ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนเช่นนี้ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ของการช่วยเหลือเช่นนี้ พวกเขามีความคิดอะไร ไม่มีอะไรใหม่ ชัยชนะได้รับการค้ำประกัน ความสำเร็จได้รับการค้ำประกัน นี่คือประสบการณ์ของคนรักที่แท้จริง (Avyakt 13/02/92)
ลูกกลายเป็นผู้ซึ่งมีค่าที่จะรับความช่วยเหลือจากบาบา เนื่องจากความกล้าหาญของลูก ลูกเอาชนะบ่วงพันธะหลาย ๆ ชนิดของมายา และได้ก้าวข้ามเส้นกั้นของประเพณีและระบบหลายชนิดและมาถึงที่นี่ ความกล้าหาญนี้ไม่ใช่เล็กน้อย วิธีหนึ่งเป็นการรักษาเพียงจุดเดียวในสติปัญญา และได้กลายเป็นตัวของจุด และให้ใช้จุดในการกระทำ ลูกควรจะเป็นตัวของจุดและเป็นจุดนั้น (Avyakt 25/02/91)
ลูกทั้งหมดอยู่ในหัวใจของบาบาใช่หรือไม่ ลูกไม่สามารถถูกแยกออกจากหัวใจ ไม่มีใครสามารถที่จะมีความกล้าหาญที่จะแยกลูกออกจากหัวใจของผู้ปลอบประโลมใจ ลูกแม้แต่ร้องเพลงว่า ท่านไม่สามารถแยกออกไป แม้แต่โลกทั้งโลกพยายามจะแยกลูก แม้กระนั้นลูกก็ไม่สามารถถูกแยกไป เพราะลูกเป็นเพียงหนึ่งผู้ซึ่งเป็นเพียงน้อยนิดจากหลายพันล้าน ผู้คนเหล่านั้นไม่มีอะไรเลยเมื่อเปรียบเทียบกับลูก นี่คือสัญลักษณ์ของการเป็นกลุ่มที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยการเห็นความก้าวหน้าของลูก ๆ แม้แต่บาบาก็ยอมสละตัวท่านเอง (Avyakt 18/02/94 กลุ่ม4)
Saturday, October 26, 2013
คุณธรรม - ความร่วมมือ(Co-operation)
พื้นฐานของการได้รับความร่วมมือจากทุกคนคือสภาวะของความปรารถนาดี ผู้ซึ่งมีความปราถนาดีกับทุกคนได้รับความร่วมมือโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกของความปรารถนาดีสำหรับทุกคนสร้างความรู้สึกของความร่วมมือในหัวใจของคนอื่นโดยง่ายดายและอัตโนมัติ ความรักปรากฏขึ้นจากหัวใจของทุกคนสำหรับดวงวิญญาณผู้ที่มีความรัก และความรักนั้นทำให้พวกเขาร่วมมือ ที่ใดก็ตามที่มีความรัก ดวงวิญญาณก็พร้อมที่จะอุทิศเวลา ทรัพย์ และความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ความปรารถนาดีจะทำให้พวกเขาพัฒนาความรัก และความรักจะทำให้พวกเขาอุทิศความร่วมมือในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหมด ดังนั้นจงเป็นผู้ที่มีความคิดที่บริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอ จงเป็นผู้ที่มีความปรารถนาดีและทำให้ทุกคนพัฒนาความรัก และทำให้พวกเขามีความร่วมมือ ในการที่จะสร้างโลกที่ดีกว่า นั่นคือโลกทีสูงส่ง เราจะกลายเป็นผู้ร่วมมือ โดยผ่านการมีความรู้สึกที่สูงส่งสำหรับทุกคน เราจะจบสิ้นความคิดไร้สาระทั้งหมด และความคิดไร้สาระเกี่ยวกับผู้อื่นด้วย นั่นคือเราจะใส่จุดฟูลสต๊อปกับทุกสิ่งในอดีต และกลายเป็นจุด เราจะกลายเป็นเพชรพลอยและให้แสงกับโลก ด้วยลำแสงของความรู้สึกที่สูงส่ง ความคิดที่สูงส่งของเรา ความรู้สึกของความรักและทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ที่ทรงอำนาจ ก่อนที่ลูกจะทำให้ทั้งโลกร่วมมือ ลูกเป็นเครื่องมือ ที่ให้ความร่วมมือก่อน (Avyakt 10/11/87)
มากเท่าที่ลูกมีศรัทธาในตัวลูกเอง บัพดาดาจะกลายเป็นผู้ช่วยของลูกเท่านั้นอย่างแน่นอน ผู้ที่มีความรักจะได้รับความร่วมมืออย่างแน่นอน เพื่อที่จะได้รับความร่วมมือจากผู้ใด ลูกจะต้องเป็นผู้ทีมีความรัก ผู้ที่มีความรักไม่ต้องร้องขอสำหรับความร่วมมือ เมื่อลูกมีความรักให้กับบัพดาดา และมีความรักให้กับครอบครัว ลูกก็จะได้รับความร่วมมือโดยอัตโนมัติ (Avyakt 28/09/69)
ความรักของพระเจ้าทำให้ดวงวิญญาณร่วมมือและผูกดวงวิญญาณไว้ร่วมกัน เพื่อที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าเป็นหนึ่งเดียว ลูกมีประสบการณ์เช่นนี้ ก่อนอื่นความรักทำให้ดวงวิญญาณร่วมมือ หลังจากทำให้พวกเขาร่วมมืออย่างสม่ำเสมอ ในเวลานั้นมันจะทำให้เขากลายเป็นโยคีที่ง่ายดายโดยอัตโนมัติ สัญลักษณ์ของการกลายเป็นผู้ให้ความร่วมมือนั้นคือ วันนี้เขาให้ความร่วมมือ พรุ่งนี้เขาจะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดาย ความรักของพระเจ้านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลง
ลูกเห็นใบสองใบของต้นไม้ (หมายถึงบราห์มา และมาม่า) ของการทำให้ดวงวิญญาณให้ความร่วมมือ ด้วยความคิดและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ในทางปฏิบัติจริงด้วย บัดนี้ ลำต้นกำลังจะเติบโตและจะให้ผลในทางปฏิบัติ (Avyakt 01/10/87)
ลูกร่วมมือซึ่งกันและกัน กลายเป็นเพื่อน และสนับสนุนซึ่งกันและกันให้ก้าวหน้า อย่าได้เป็นเพื่อนร่วมชีวิตซึ่งกันและกัน แต่เป็นเพื่อนกันในภาระกิจ (Avyakt 31/12/87)
พร้อมกับความรักลูกเป็นผู้ให้ความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอ ลูกเป็นผู้ร่วมมือในเรื่องอะไร ลูกเป็นผู้ให้ความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอในการทำตามหนทางของพ่อ ลูกเป็นผู้ร่วมมืออย่างสม่ำเสมอในการทำตามศรีมัท และในการเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ (Avyakt 18/11/93)
ตรวจสอบว่า ฉันให้ความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอในงานของบาบาหรือไม่ ฉันให้ความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอด้วยร่างกาย จิตใจ และทรัพย์ ทั้งสาม หรือว่าฉันให้ความร่วมมือเพียงบางครั้ง เหมือนอย่างงานทางโลก มีบางคนทำงานเต็มเวลา และบางคนทำงานชั่วคราว ดังนั้นมันมีความแตกต่าง ดังนั้นมีความแตกต่างระหว่างผู้ที่ร่วมมือเป็นบางครั้งกับผู้ที่ร่วมมือสม่ำเสมอ อย่าเพียงแต่ให้ความร่วมมือเมื่อมีเวลา หรือเมื่อมีความกระตือรือร้น หรือเมื่ออารมณ์ดี ขณะที่ในเวลาอื่น ๆ แทนที่จะร่วมมือ ลูกก็กลายเป็นผู้ต่อต้าน ดังนั้นตรวจสอบว่า ฉันให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในรูปแบบทั้งสาม นั้นคือ ร่างกาย จิตใจ และทรัพย์ หรือเพียงครึ่งเดียว (Avyakt 16/12/85)
จงให้ความร่วมมือและเป็นโยคีโดยธรรมชาติด้วยวิธีนี้ ขอให้สิ่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเพื่อตนเองเท่านั้น แต่กระแสของความหวังและความกระตือรือร้นของความร่วมมือของลูกควรจะทำให้ผู้อื่นกลายเป็นผู้ให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน อย่างที่สองด้วยความพิเศษของความร่วมมือของลูก ดวงวิญญาณทั้งหมดควรจะมีความรู้สึกว่า นี่เป็นดวงวิญญาณทีให้ความร่วมมือกับฉัน นั่นคือคนนี้เป็นผู้ที่ให้ความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอ และให้วิธีการกับฉันสำหรับการก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าสภาวะของสำนึกจะอ่อนแออย่างไร หรือความลำบากภายนอกจะเป็นอย่างไร ควรจะมีประสบการณ์ของความพิเศษของความร่วมมือกับทุกดวงวิญญาณจากลูกผู้เป็นดวงวิญญาณ นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่าสภาวะของการใช้ความพิเศษของลูกในงานรับใช้ ลูกเป็นผู้ร่วมมือกับบาบา แต่บาบาเป็นผู้ที่ซึ่งให้ความร่วมมือไปทั้งโลก ภายในดวงวิญญาณแต่ละดวงควรจะมีคำพูดของประสบการณ์เกี่ยวกับลูก ๆ ว่า "พวกเขาเหมือนกับพ่อและให้ความร่วมมือกับทุกคน" อย่าให้ความร่วมมือเป็นการส่วนตัวกับคนหนึ่งหรือสองคน เพราะว่ามันจะเป็นความร่วมมือที่ถูกกระตุ้นจากความเห็นแก่ตัว แล้วลูกก็จะถูกจำกัด แล้วลูกก็จะให้ความร่วมมือที่จำกัด ความร่วมมือที่แท่้จริงเป็นความร่วมมือที่ไม่มีขีดจำกัด อะไรเป็นสมญานามของลูกทั้งหมด ลูกเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก หรือเพียงแต่เป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อศูนย์ของลูก หรือลูกเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน หรือเป็นนักเรียนของชั้นเรียน นั่นไม่ใช่ชีวิตของลูกใช่ไหม ลูกเป็นผู้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก และเป็นนายของโลกของลูกเอง หรือลูกจะกลายเป็นนายของพระราชวังของลูกเอง? ผู้ทีอยู่จำกัดในศูนย์เดียวจะเป็นนายแต่เพียงพระราชวังของเขา ดังนั้น ประกาศสิทธิ์ในมรดกจากพ่อผู้ไม่มีขีดจำกัด ไม่ใช่มีขีดจำกัด ผู้ซึ่งใช้ความพิเศษของความร่วมมือกับทุก ๆ คน ในทุก ๆ งาน และถูกเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณผู้ให้ความร่วมมือ (Avyakt 21/06/93)
ผู้ซึ่งมีธรรมชาติที่ง่าย ๆ จะให้ความร่วมมือกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน ผู้ที่มีความรักให้กับทุกคนก็จะได้รับความร่วมมือจากทั้งหมด และนี่เองที่ทำไมพวกเขาสามารถจะเผชิญกับทุกสิ่งหรือเก็บ (pack up) อย่างง่ายดาย ธรรมชาติที่ง่าย ๆ ของพวกเขาไปถึงระดับใด มายาก็จะเผชิญหน้ากับพวกเขาน้อยเท่านั้น พวกเขาเป็นทีรักของทั้งหมด (Avyakt 06/12/69)
Friday, October 25, 2013
คุณธรรม - ความเยือกเย็น(Coolness)
สิ่งแรกความเยือกเย็นของแม่จะทำให้ดวงวิญญาณมีคุณค่า และแล้วอำนาจแห่งสัจจะ สุริยาแห่งความรู้จะทำให้ดวงวิญญาณเป็นโยคี อำนาจของความเยือกเย็นของจันทราแห่งความรู้ ทำให้ดวงวิญญาณมีคุณค่าที่จะอยู่เบื้องหน้าของพ่อ ถ้าดวงวิญญาณยังไม่มีคุณค่า ดวงวิญญาณก็ไม่สามารถกลายเป็นโยคี เบื้องหน้าของสัจจะก็สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าต้องเป็นความเยือกเย็น ต้องมีอำนาจเพื่อที่จะสามารถซึมซับสัจจะ (Avyakt 21/2/85)
ความอดทนและความง่ายจะทำให้งานใดก็ตามประสบความสำเร็จ เหมือนอย่างเช่นบุคคลซึ่งมีความอดกลั้นงานใด ๆ ด้วยความระมัดระวังและไตร่ตรอง และดังนั้นจึงได้รับความสำเร็จ เช่นเดียวกัน เขาผู้ซึ่งมีความอดทนสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นที่มีสันสการ์ที่แข็งกระด้างและสร้างความเจ็บปวดเย็นลง หรือทำงานที่ยากให้ง่ายด้วยอำนาจของความอดทนของพวกเขา (Avyakt 08/06/71)
ด้วยการมีประสบการณ์ของประโยชน์ แม้แต่ภายในฉากของการทำลายล้าง จงมีความศรัทธาเช่นนั้นในสติปัญญา ถ้าแม้ว่าบรรยากาศจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมาทำให้เราสั่นคลอน ถึงแม้ว่าปัญหาจะเป็นปัญหาที่น่ากลัว จงมีความศรัทธาในสติปัญญาอย่างสม่ำเสมอ ดวงวิญญาณเช่นนั้นเป็นดวงวิญญาณที่ได้รับชัยชนะ บนพื้นฐานของความศรัทธา ปัญหาที่น่ากลัวก็จะกลับกลายเป็นความเยือกเย็นด้วย (Avyakt 05/12/79)
คำสรรเสริญของความเยือกเย็นถูกจดจำอยู่ในรูปของเทวีของความเยือกเย็น การมีธรรมชาติของความอ่อนโยนหมายถึงการมีธรรมชาติของความเยือกเย็น สถานการณ์อาจจะเป็นสถานการณ์ที่มีความกดดัน แต่ถ้าเราดำรงอยู่ในความอ่อนโยน แล้วเราก็จะถูกเรียกว่าเป็นครูผู้ประสบความสำเร็จ (Avyakt 26/11/94)
Monday, October 21, 2013
คุณธรรม - ความพอใจ (Contentment)
วันนี้บัพดาดากำลังดูเพชรพลอยแห่งความพอใจอันสูงส่งจากทั้งสี่ทิศ ยุคแห่งการบรรจบพบกันเป็นยุคสำหรับการคงอยู่ด้วยความพอใจ ความพอใจเป็นบุคลิกภาพของความบริสุทธิ์ของชีวิตบราห์มิน ด้วยบุคลิกภาพนี้ลูกก็กลายเป็นดวงวิญญาณพิเศษอย่างง่ายดาย ถ้าไม่มีบุคลิกภาพของความพอใจ ลูกก็จะไม่สามารถถูกเรียกว่าดวงวิญญาณพิเศษ ทุกวันนี้บุคลิกภาพสองชนิดได้รับการสรรเสริญ หนึ่งนั้นคือบุคลิกภาพทางร่างกาย อีกอันหนึ่งคือบุคลิกภาพของตำแหน่ง บุคลิกภาพของความพอใจ ปรากฏให้เห็นในการแสดงออกของดวงวิญญาณบราห์มิน ผู้ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ของความพอใจในชีวิตบราห์มินของเขา และเพียงแต่บุคลิกภาพของตำแหน่งของสภาวะที่สูงส่งของเขาเป็นที่เห็นได้ พื้นฐานของความพอใจคือ ความสมบูรณ์ด้วยการบรรลุทุกสิ่งที่ได้รับโดยสิทธิ์จากบาบา นั่นคือการพูดว่าดวงวิญญาณนั้นกำลังท่วมท้น การขาดสิ่งใด ๆ เป็นเหตุผลสำหรับความไม่พอใจ การบรรลุผลทุกสิ่งนำมาซึ่งความพอใจ
ไม่มีชื่อหรือร่่องรอยของความไม่พอใจในชีวิตบราห์มิน นี่เป็นที่รู้กันว่าเป็นประสบการณ์ของความสุขของชีวิตบราห์มิน ด้วยบุคลิกภาพนี้ นี่คือชีวิตของความพอใจ ชีวิตของความรื่นเริง ความหมายของตาปาเซียนั้นคือบุคลิกภาพของความพอใจควรจะเห็นได้ในดวงตาของลูก บนใบหน้าในการแสดงออก และการกระทำ บาบากำลังสร้างลูกประคำของเพชรพลอยแห่งความพึงพอใจเช่นนี้
เพชรพลอยแห่งความพอใจหมายถึงเพชรพลอยที่ปราศจากรอยตำหนิใด ๆ สัญลักษณ์ของความพอใจนั่นคือดวงวิญญาณที่พอใจจะประสบกับสภาพที่ตนพึงพอใจ และคนอื่นก็จะพึงพอใจกับดวงวิญญาณนั้นด้วย ในสภาวะของความพึงพอใจ และหัวใจไม่ได้มีคำถามใด ผู้ที่มีหัวใจที่พึงพอใจก็คงอยู่ในความพอใจ เพราะเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับละคร และไม่มีคำถามใด ๆ การถามคำถามอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับตนเองหรือผู้อื่น ลูกจะได้คำตอบด้วยตัวลูกเองเป็นคนแรก บาบาได้บอกลูกมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ว่าไม่ให้ถามว่าอะไรหรือทำไม แต่ให้ใส่จุด เปลี่ยนสิ่งนั้นภายใน 1 วินาที จากรายละเอียดไปสู่สาระในวินาทีต่อมา ผู้ที่มีความพึงพอใจถึงระดับนั้นก็ดำรงอยู่ในความเบาสบายเสมอ ดังนั้นตรวจสอบว่ามีเครื่องหมายของเพชรพลอยแห่งความพอใจเช่นนั้นในตนเองหรือไม่ บัพดาดาได้มอบสมญานาม "เพชรพลอยแห่งความพอใจ" กับทุก ๆ คน บัพดาดากำลังถามเพชรพลอยแห่งความพอใจทั้งหมด เฮ้ เพชรพลอยแห่งความพอใจ ลูกพอใจไหม (ฮาจี) อัชชา ลูกมีความพอใจกับตัวลูกเองเสมอหรือไม่ นั่นคือกับความเพียรพยายามของลูก กับความเพียรพยายามของการเปลี่ยนแปลงสันสการ์ของลูก ในเปอร์เซ็นของความเพียรพยายามของลูก หรือสภาวะของลูกหรือไม่ ลูกไม่ได้พูดว่า "ฮาจี" เมื่อมีประเด็นของ "เสมอ ๆ" คำถามที่สอง ลูกพอใจอยู่ กับความคิด คำพูด และการติดต่อเสมอ ๆ หรือไม่ ในทั้งหมด 3 สิ่ง ไม่เพียงแต่ชนิดเดียวของงานรับใช้ แต่ลูกพึงพอใจกับงานรับใช้ทั้ง 3 ชนิดนั้นเสมอหรือไม่ ดังนั้นลูกจะพูดว่าอะไร ลูกพอใจกับตัวลูกเองและกับผู้อื่น เมื่อเข้ามาติดต่อและสัมพันธ์กับดวงวิญญาณอื่นเสมอหรือไม่ หรือลูกกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้เพราะว่าระหว่างปีของตปาเซีย นี่เป็นผลสำเร็จของตาปาเซียที่ลูกจะต้องได้รับ ควรจะมีความพอใจกับตนเอง กับงานรับใช้ และกับผู้อื่น กับทุก ๆ สิ่ง เหมือนอย่างกับลูกมีเป้าหมายที่จะมีโยคะ 8 ชั่วโมง เช่นกัน รักษาเป้าหมายที่ชัดเจนและสูงส่งที่จะบรรลุถึงผลของความพอใจทั้ง 3 ชนิดนี้ ลูก ๆ บางคนพิจารณาตัวพวกเขาว่าอยู่อย่างพอใจจากความฉลาดของพวกเขา อย่าพอใจด้วยวิธีนี้ หนึ่งคือเมื่อหัวใจยอมรับ และอีกหนึ่งคือเมื่อมันสมองยอมรับ ลูกพอใจกับตนเอง ด้วยสติปัญญาความคิดของลูก "พวกเรามีความกังวลอะไร พวกเราเบาสบาย" การพิจารณา่ว่า ตัวลูกเองพึงพอใจด้วยสติปัญญาของลูกมันไม่ใช่ความพอใจ ลูกจะต้องเข้าใจเรื่องนี้อย่างถูกต้อง สัญลักษณ์ของความพอใจควรจะเป็นประสบการณ์ของตน หัวใจของลูกพึงพอใจเสมอ มีบุคลิกภาพเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าลูกคิดว่าลูกมีบุคลิกภาพนั้น แต่ผู้อื่นไม่เห็นว่าลูกมีบุคลิกภาพนั้น มันหมายความว่าลูกพิจารณาตัวลูกเองว่าเป็นผู้ที่ฉลาด ดังนั้นมันไม่ควรจะมีความพอใจชนิดนี้ แต่ลูกจะต้องกลายเป็นดวงวิญญาณที่พอใจด้วยประสบการณ์ที่ถูกต้อง ความพอใจหมายความว่าหัวใจและสติปัญญาจะอยู่อย่างพักผ่อนเสมอ ทั้งสองจะอยู่ในสภาวะของความเบาสบายและความสุข จะไม่มีความวุ่นวาย พวกเขาจะมีความสุขและความสบาย เพชรพลอยของความเบาสบายเช่นนี้จะเปล่งประกายเหมือนกับเพชรพลอยบนหน้าผากของบาบาเสมอ ตรวจสอบตัวลูกเอง ความพอใจสามารถทำให้ลูกได้รับพรจากบาบาและผู้อื่นทั้งหมด ดวงวิญญาณที่พอใจจะมีประสบการณ์ว่าตัวเขาเองกำลังโบยบินอยู่บนวิมานของพรของบาบาและของผู้อื่นทั้งหมดวันแล้ววันเล่า พรเหล่านี้เป็นพาหนะที่โบยบินสำหรับดวงวิญญาณนั้น เขาจะไม่ร้องขอพร แต่พรก็จะมาถึงเขาโดยอัตโนมัิติ การเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจเช่นนี้หมายถึง ตปาสวี (ผู้ที่ทำความเพียรอย่างเข้มข้น) ผู้ซึ่งเป็นรูปธรรมแห่งความสำเร็จ
ถึงดวงวิญญาณที่พอใจ ผู้ซึ่งยิ่งใหญ่ทั้งหมดในทั้งสี่ทิศ ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีความพึงพอใจในหัวใจอย่างสม่ำเสมอ เขาเหล่านั้นผู้ซึ่งดำรงอยู่ในความเบาสบาย ถึงดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นผู้รับใช้ ผู้ซึ่่งทำงานรับใช้ด้วยความเร็วที่เร็วมาก ด้วยการรับใช้ทั้งสามชนิดในเวลาเดียวกัน ถึงดวงวิญญาณตปาสวีเหล่านั้นซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งของสภาวะอันสูงส่ง ด้วยความรักของบัพดาดา ด้วยความคิดถึงและนมัสเต (Avyakt 17/03/91)
ความสำเร็จที่มีขีดจำกัดยัดเยียดความมีขีดจำกัดให้ในหัวใจ ดังนั้นจึงมีประสบการณ์ของความไม่พอใจ และแล้วความมีขีดจำกัดรบกวนงานรับใช้ ทำไมหรือ เพราะว่าไม่มีการบรรลุผลของความปรารถนาที่มีขีดจำกัดที่ต้องการผล อย่างไรก็ตามผลของความปรารถนาที่มีขีดจำกัดเป็นผลชั่วคราว สัญลักษณ์ของความพอใจในผู้ซึ่งพอใจในความคิดและหัวใจกับผู้อื่น กับบาบา และละครก็จะมีกระแสของความพอใจปรากฏให้เห็นในความคิดและร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สำคัญว่าสถานการณ์อาจจะเป็นอะไร แม้ว่าดวงวิญญาณเฝ้าแต่มาต่อต้าน แม้ว่ามันมาเพื่อชำระสะสางบ่วงกรรมหรือแม้แต่ความทุกข์ทรมานของร่างกายมาต่อต้าน ดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นอิสระจากความปรารถนาที่มีขีดจำกัด ก็จะเห็นได้เหมือนกับดาวที่เปล่งประกาย กำลังเปล่งประกายอย่างคงที่ด้วยความพึงพอใจเพราะความพอใจ ความคิดที่พึงพอใจจะไม่เป็นความคิดที่มีคำถามในทุกประเด็น จิตใจที่ถามคำถามหมายถึงจิตใจนั้นมีความสงสัย ถ้ามีคำถามมันหมายความว่ามีความไม่พึงพอใจ สัญลักษณ์ของผู้ซึ่งมีความคิดที่พึงพอใจ พวกเขาจะไม่เห็นแก่ตัวอย่างสม่ำเสมอ และจะรู้สึกเสมอว่าไม่ควรประฌามผู้อื่น พวกเขาจะไม่กล่าวหาผู้อื่น พวกเขาจะไม่ประฌามผู้ให้โชคโดยพูดว่า "่ท่านสร้างโชคของฉันเช่นนี้หรือ" พวกเขาจะไม่ประฌามละครโดยพูดว่า "บทบาทของฉันเป็นเช่นนี้ในละคร" หรือจะไม่ประฌามบุคคลใด ๆ โดยพูดว่า "สันสการ์ของผู้นี้เป็นเช่นนี้" พวกเขาจะไม่ตำหนิธรรมชาติโดยพูดว่า "บรรยากาศของธรรมชาติเป็นเช่นนี้" และจะไม่ตำหนิบ่วงกรรมของร่างกายโดยพูดว่า "ร่างของฉันเป็นเช่นนี้" การเป็นผู้ที่พึงพอใจหมายถึงไม่เห็นแก่ตัวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยทัศนคติและการมองซึ่งไม่ตำหนิผู้ใดเลย ความพิเศษของยุคแห่งการบรรจบพบกันคือความพึงพอใจ และสัญลักษณ์ของความพึงพอใจคือความสมหวัง (Avyakt 05/10/87)
ลูกมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากเท่าใด มากเท่านั้นที่ลูกจะต้องใช้สติปัญญา ลูกเป็นอะไรก็ตาม ลูกอยู่ที่ใดก็ตาม ขอให้ลูกอยู่ในความสุขเสมอ ผู้ซึ่งคงอยู่ในความพอใจแม้เพียงสิ่งเล็กน้อย ก็มีประสบการณ์ของการบรรลุผลทั้งหมด ความพอใจเป็นทรัพย์สมบัิติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งหมด ผู้ซึ่งมีความพอใจมีทุกสิ่ง ผู้ซึ่งไม่มีความพอใจไม่มีอะไรเลยแม้แต่ในขณะที่มีทุกสิ่ง เพราะว่าดวงวิญญาณไม่พอใจจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความปรารถนาเสมอ ๆ ความปรารถนาหนึ่งจะประสบความสำเร็จ แล้วก็มี 10 ความปรารถนาปรากฏขึ้นมาอีก (Avyakt 16/12/93)
ดวงวิญญาณที่มีความพอใจได้รับความรักจากตนเอง พวกเขาได้รับความรักจากทุกคน และ แน่นอนพวกเขาได้รับความรักจากพ่ออยู่แล้ว เพราะว่าในชีวิตบราห์มินที่สูงส่งนี้ ไม่มีการกล่าวถึงการขาดแคลนของผลสำเร็จ ดังนั้นที่ไหนมีความสำเร็จทั้งหมดความพอใจมีอยู่โดยอัตโนมัติและเป็นธรรมชาติ ลักษณะนิสัยที่เป็นธรรมชาตินั้นคือความพอใจ รูปลักษณะและสันสการ์ดั้งเดิมของความพอใจนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง ซึ่งโดยสภาวะแวดล้อมที่พอใจ กระแสและบรรยากาศของความพอใจก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงดวงวิญญาณที่ไม่พอใจให้กลายเป็นดวงวิญญาณที่พอใจได้ ความพอใจเป็นของขวัญพิเศษจากบัพดาดา ณ ยุคแห่งการบรรจบพบกัน ความพิเศษของความพอใจจะนำผู้อื่นผู้ซึ่งพิเศษเข้ามาใกล้ชิดกับลูก แต่ลูกจะต้องเป็นผู้ที่พอใจอย่างสม่ำเสมอ ไม่สำคัญว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด สภาพของความพอใจไม่สามารถจะเปลี่ยนโดยสถานการณ์ สถานการณ์ภายนอกเหล่านั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนไป แต่สภาพของความพอใจของตนเป็นสิ่งที่จะต้องนำความก้าวหน้ามาอย่างสม่ำเสมอ สำหรับดวงวิญญาณเช่นนี้ ไม่สำคัญว่าสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปมากเท่าไรที่พยายามจะเขย่าลูก มันจะเป็นประสบการณ์เหมือนอย่างเช่นนมันเป็นการแสดงหุ่นกระบอก ดังนั้นนี่เป็นการแสดงของมายาด้วย หรือธรรมชาติซึ่งลูกควรจะเฝ้าสังเกตอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ขณะที่กลายเป็นรูปธรรมของความพอใจ
การมีการบรรลุผล มีความสัมพันธ์และทรัพย์สมบัติทั้งหมดคือสาระสำคัญเป็นพิเศษ ในสัมพันธภาพด้วยเช่นกัน ถ้ามีว่าสัมพันธภาพใดสัมพันธภาพหนึ่งขาดหายไป มันก็จะไม่เป็นความพอใจที่สมบูรณ์ ดังนั้นในรูปของสัมพันธภาพลูกต้องการสัมพันธภาพทั้งหมดอย่างเป็นอมตะ ถ้าสัมพันธภาพใด ๆ สามารถถูกทำลายลงได้ แล้วมันก็จะมีการขาดของความสำเร็จและความไม่พอใจโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียง ณ เวลาปัจจุบันของยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ที่ลูกสามารถมีประสบการณ์ของความสัมพันธภาพทั้งหมด และสัมพันธภาพอันไม่มีวันดับสูญทั้งหมดกับพ่อผู้เดียว ในยุคทองด้วยเช่นกัน ลูกจะมีสัมพันธภาพน้อยมาก ลูกจะไม่มีสัมพันธภาพทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ณ เวลาปัจจุบัน สัมพันธภาพอะไรก็ตามที่ดึงดูดลูก สัมพันธภาพอะไรก็ตามที่ลูกปรารถนาจะมีประสบการณ์ ลูกสามารถมีประสบการณ์ผ่้านพระเจ้า ณ เวลานี้ แต่ละคนชอบสัมพันธภาพที่แตกต่างกันในชีวิตของเขา บางคนไม่ชอบสัมพันธภาพของพ่อ แต่จะชอบสัมพันธภาพของเพื่อนมากกว่าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามลูกมีสัมพันธภาพทั้งหมดกับพ่อในเวลาเดียวกันหรือไม่ ลูกมีหรือไม่ หรือว่ามีบางสิ่งยังขาดหายไป พร้อมกับความร่ำรวยทางวัตถุ ถ้าลูกไม่มีความร่ำรวยของคุณธรรมทั้งหมด ความร่ำรวยของอำนาจทั้งหมด และความร่ำรวยของความรู้สมบูรณ์แบบที่สูงส่งแล้ว ความพอใจก็ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามลูกทั้งหมดก็มีความร่ำรวยที่สูงส่งนี้ใช่ไหมลูก (Avyakt 03/04/94)
ก่อนอื่นจงเป็นผู้เฝ้าดูที่ละวางและตรวจสอบตัวลูกเอง ลูกเองเป็นรูปธรรมของความพอใจกับตารางบันทึกการฝึกฝนของตัวเอง ด้วยความคิดที่จริงจังและหัวใจที่ซื่อตรงหรือไม่ สิ่งที่สองพิจารณาถึงเปอร์เซนต์ในวิธีการที่ถูกต้องของการคิดถึงบัพดาดาพิจารณาจะให้ลูกมีตารางบันทึกการฝึกฝนของลูกตรงตามวิธีการในความคิด คำพูด การกระทำ และสัมพันธภาพหรือไม่ นั่นคือบาบาควรจะพอใจด้วย สิ่งที่สาม ครอบครัวบราห์มินพอใจกับชีวิตโยคีอันสูงส่งของลูกหรือไม่ การมีประสบการณ์ทั้งสามชนิดของความพอใจหมายถึงการมีค่าที่จะประกาศสิทธิ์ในรางวัล ถ้าลูกทำตามคำชี้แนะของการทำตารางบันทึกการฝึกฝนอย่างละเอียด แล้วผู้ที่เชื่อฟังเช่นนี้จะได้รับคะแนน อย่างไรก็ตามผู้ที่เชื่อฟังเหล่านั้น พร้อมกับการรักษาตารางบันทึกการฝึกฝนและการประสิทธิ์ในคะแนน โดยวิธีการที่ถูกต้องของความเพียรพยายามและความก้าวหน้า จะได้รับคะแนนเต็ม ผู้ซึ่งทำตามการฝึกฝนนี้ และมีความถูกต้องในการรักษาตารางการฝึึกฝนของพวกเขา มีค่าที่จะรับการแสดงความยินดีจากบัพดาดาและจากครอบครัว แต่เพียงแต่ผู้ซึ่งมีค่าควรที่จะรับการแสดงความยินดีสำหรับความพอใจของทุกคน เป็นผู้มีค่าที่จะประกาศสิทธิ์ในรางวัล พลังอำนาจของสภาวะของตัวตนดั้งเดิมก็จบสิ้นอิทธิพลของสถานการณ์ใด ๆ เหมือนอย่างเช่นมันเป็นเพียงฉากที่ให้ความบันเทิงนั้น ปรากฏต่อหน้าของลูกแล้วก็จากไป ลูกไม่ควรที่จะรับเอาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของสถานการณ์ไว้ในความคิดของลูก (Avyakt 31/12/91)
ลูกควรเป็นอิสระจากอุปสรรคในงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ จงพึงพอใจกับคุณธรรมของลูกอย่างสม่ำเสมอ และจงเป็นผู้ที่ทำให้ผู้อื่นพอใจด้วย คุณธรรมของความพอใจเป็นกระจกที่จะส่องให้เห็นถึงการซึมซับของคุณธรรมอื่น ๆ ทั้งหมด ลูกจะต้องประกาศสิทธิ์ในประกาศนียบัตรของความพอใจสำหรับตัวลูกเอง และจากผู้อื่นในรูปของคุณธรรมของลูก นี่คือสัญลักษณ์ของผู้ซึ่งผ่านด้วยเกียรติ สัญลักษณ์ของเพชรทั้งแปด (Avyakt 30/03/85)
ผู้ซึ่งอยู่ในความเป็นรูปธรรมของความพอใจจะทำให้ผู้อื่นพอใจ และขณะที่เดินและเคลื่อนไหว พวกเขาจะมีประสบการณ์ของการเป็นเช่นร่างแสง คุณธรรมความอดทนเป็นคุณธรรมของความรู้ที่สำคัญมาก ลูกเห็นพลังอำนาจของความอดทนในตัวลูกมากเท่าใด ลูกควรพิจารณาตัวลูกเองเป็นผู้ที่พอใจในตัวเองมากตามนั้น แล้วผู้อื่นก็พอใจไปกับลูก การมีความพอใจหมายถึงการได้รับความสำเร็จ (Avyakt 08/06/71)
เมื่อดวงวิญญาณนั้นเข้มแข็ง บัญชีกรรมหรือความป่วยไข้ของร่างกายก็เปลี่ยนรูป ประสบการณ์เหมือนเช่นการถูกตรึงบนไม้กางเขนเปลี่ยนไปเป็นเช่นเพียงแค่ถูกหนามตำ และเพราะสภาวะเช่นนั้นของดวงวิญญาณ ก็จะมีประสบการณ์ของความเข้มแข็ง ดวงวิญญาณเช่นนี้ไม่เคยมีประสบการณ์ของความเจ็บปวดของความป่วยไข้ หรือพวกเขาจะพูดถึงความเจ็บปวดของพวกเขาที่จะแพร่กระจายกระแสความเจ็บปวด ตามความเป็นจริงพวกเขาจะเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นความพอใจ ด้วยพลังอำนาจของการเปลี่ยนแปลง ด้วยความเป็นผู้พอใจ พวกเขาก็นำกระแสของความพอใจไปสู่ผู้อื่น นั่นคือพวกเขาคือนายผู้ทรงฤทธิ์ผู้มีสิทธิและอำนาจเฉียบขาด และพวกเขาได้ใช้พลังอำนาจของความอดทนและพลังอำนาจของการกลืนหายในเวลาที่ถูกต้องจากพรแห่งอำนาจที่ได้รับมา ด้วยการใช้พรของพลังอำนาจทั้งหมดนั่นคือทรัพย์สมบัติ ณ เวลาที่ต้องการใช้ ได้กลายเป็นพรของพวกเขา พรนั้นได้ทำงานเป็นยารักษาสำหรับพวกเขา (Avyakt 29/10/87)
บาบาได้บอกลูกตั้งแต่ตอนต้นด้วยว่า ในตารางของตปาเซีย มีหลายคนผู้ซึ่งให้คะแนนตัวเอง ผู้ซึ่งให้ใบรับรองตัวเอง แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ได้ใบรับรองความพอใจจากทุกคน บาบาเคยบอกลูก ๆ ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า มีลูก ๆ หลายคนพูด "พวกเราสบายดี แต่ดวงวิญญาณอื่นมีบัญชีกรรมที่รุนแรงเช่นนี้กับพวกเรา มันไม่มีปัญหา เราพยายามจะทำให้พวกเขาพอใจมากเท่าไร พวกเขาไม่ได้เคยพอใจ" บัพดาดาได้กล่าวไว้ในตอนต้นเช่นกัน ถ้ามีบัญชีกรรมที่รุนแรงเช่นนี้ ลูกควรจะยังต้องรับใบรับรองของคะแนน 95% จากคนอื่น ๆ ไม่ต้องสนใจคนอีก 5% ที่มีบัญชีกรรมที่รุนแรง นั่นคือการให้อภัย ดังนั้น 95% ควรจะให้พรกับลูกจากหัวใจ (Avyakt 08/04/92)
มีความหลากหลายสามชนิดของสัมพันธภาพ อย่างแรกกับครอบครัวบราห์มิน อย่างที่สองกับดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นนักเรียน อย่างที่สามกับครอบครัวทางโลก สัญลักษณ์ของความพอใจของลูกและกับดวงวิญญาณต่างชนิดทั้งสาม ซึ่งเข้ามามีสัมพันธภาพกับลูกตลอดทั้งวัน นั่นคือตัวลูกเองจะต้องเบาสบายในจิตใจ และคงอยู่ในความสุข และผู้อื่นก็จะคงอยู่ในความสุขกับลูก สัญลักษณ์ของความไม่พอใจ คือว่าลูกจะมีความหนักหน่วงในจิตใจ ความคิดจะเฝ้าแต่เข้ามาในจิตใจของลูก แม้ว่าลูกจะไม่ปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ฉันไม่ควรจะพูดสิ่งนี้" "มันเป็นการดีกว่ามากถ้าฉันทำอย่างนี้" "มันจะเป็นการดีกว่าที่จะพูดเช่นนี้และทำอย่างนี้" ภาวะนี้จะไม่ทำให้ลูกคงอยู่ในความสุข ความใสสะอาดในสัมพันธภาพหมายถึงความพอใจ (Avyakt 06/01/90)
สัญลักษณ์ของดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีสิทธิต่ออาณาจักรที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือ เขาจะมีความพอใจกับความเพียรพยายามของเขาอย่างสม่ำเสมอ และพร้อมกันนั้นดวงวิญญาณทั้งหมดที่เข้ามามีความสัมพันธ์และติดต่อด้วยกับดวงวิญญาณที่ประสบความสำเร็จนั้น จะได้รับความพอใจในตัวเขาอย่างสม่ำเสมอ และการขอบคุณก็จะปรากฏขึ้นมาจากหัวใจของพวกเขาำสำหรับดวงวิญญาณนั้น พร้อมกับเสียงเพลงจากหัวใจของทุกคน จะมีเพลงของบาบาบรรเลงอย่างสม่ำเสมอ ในหูของเขาจะได้ยินเพลงแห่งความมหัศจรรย์อย่างสม่ำเสมอ (ว๊าว...ว้าว) และคำขอบคุณจากทุกคน นี่เป็นเพลงอัตโนมัติ (Avyakt 25/02/91)
ดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีความปรารถนาดีสามารถได้รับสิทธิ์ในใบรับรองของความพอใจจากทุกคนได้อย่างง่ายดาย (Avyakt 10/11/87)
ใครสามารถได้รับพร ผู้ซึ่งคงอยู่ในความพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ ที่ใดมีความพอใจก็จะีมีพร ถึงแม้ว่าลูกจะไม่รู้สิ่งใดเลย มันไม่สำคัญ ถ้าลูกไม่รู้ว่าจะให้คำบรรยายอย่างไร มันไม่สำคัญ ถ้าลูกรู้สึกยากลำบากอย่างมากที่จะซึมซับคุณธรรมทั้งหมด ถ้าลูกพบว่าเป็นความเพียรพยายามที่จะควบคุมพลังอำนาจทั้งหมด อย่าได้ใส่ใจเพียงแต่ซึมซับสิ่งหนึ่ง : ฉันจะต้องให้พรและรับพร ลูกจะไม่ต้องทำความเพียรพยายามใด ๆ ลองทำและเฝ้าดู วันหนึ่งจากอมฤตเวลาจนถึงกลางคืนทำการบ้านนี้ ฉันจะต้องให้พรและรับพร และเวลากลางคืนตรวจสอบตารางบันทึกการฝึกฝน และตรวจดูว่ามันเป็นความเพียรพยายามที่ง่ายหรือไม่ หรือว่าลูกต้องใช้ความเพียร อย่าได้ทำสิ่งอื่นแต่ให้พรและรับพร สิ่งนี้มันง่ายใช่หรือไม่ ทุกสิ่งรวมอยู่ในนี้ คุณธรรมที่สูงส่งและอำนาจจะมาเองโดยอัตโนมัติ ถ้าบางคนให้ความทุกข์กับลูก แม้กระนั้นลูกก็ต้องให้พร (Avyakt 30/11/92)
การเป็นร่างแสงหมายถึงการคงอยู่อย่างพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ ลูกคงอยู่อย่างพอใจหรือลูกได้อยู่อย่างไม่พอใจในบางเรื่อง หรือถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ลูกไม่พอใจหรือไม่ ลูกจะคงอยู่อย่างพอใจหรือไม่ ถ้ามีบางคนมาประฌามลูก ลูกจะคงอยู่อย่างพอใจหรือไม่ เมื่อมีบางคนพยายามทำให้ลูกขึ้น ๆ ลง ๆ คิดให้ดีก่อนที่ลูกจะตอบ ถ้าครูไม่ได้พูดกับลูกมากนัก หรือไม่ได้ถามเกี่ยวกับลูก ลูกยังคงอยู่อย่างพอใจหรือรู้สึกไม่พอใจ เราควรจะถามถึงประวัติของลูกหรือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูก ๆ ของผู้ให้ก็ยังเป็นผู้้ให้ และดังนั้นลูกไม่สามารถจะเป็นผู้ที่ไม่พอใจในสถานการณ์ใด ๆ ความพอใจเป็นคุณสมบัติพิเศษของบราห์มิน การคงอยู่ด้วยความพอใจกับตัวลูกเองและผู้อื่น มีความพอใจกับบทบาทที่ลูกได้รับคือการเคลื่อนไปข้างหน้า ลูกพอใจในขอบเขตนี้ไหม ผู้เป็นแม่เป็นเทวีของความพอใจ ใช่หรือไม่ เทวีของความพอใจได้รับการบูชา รักษาความคิดมุ่งมั่นว่าลูกจะต้องไม่ละทิ้งความพอใจ และแล้วความสำเร็จก็จะอยู่กับลูกเสมอ ควรจะมีความมุ่งมั่นในความคิด คำพูด การกระทำของลูก มันไม่ควรจะเป็นว่าลูกมีความคิดมุ่งมั่น แต่มีการเปลี่ยนแปลงในการกระทำ ไม่ใช่ ปีนี้คงอยู่อย่างพอใจอย่างสม่ำเสมอ หมายถึงคงอยู่ในความสำเร็จ อย่าปล่อยให้ความสำเร็จของลูกผ่านไป ไม่สำคัญว่ากระดาษสอบจะยากลำบากอย่างไรที่อาจจะมา ลูกจะต้องคงอยู่อย่างพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ เพราะว่าสมญาของลูกคือผู้ที่ให้คุณประโยชน์ต่อโลก (Avyakt 18/01/94 กลุ่ม6)
สัญลักษณ์ของการกระทำที่สูงส่ง นั่นคือตัวลูกเองจะคงอยู่อย่างพอใจ และผู้อื่นจะพอใจด้วย มันไม่ควรจะเป็นว่าลูกนั้นพอใจ และมันก็ไม่สำคัญว่าผู้อื่นจะพอใจหรือไม่ ผู้ซึ่งมีชีวิตเป็นโยคีจะมีอิทธิพลโดยธรรมชาติต่อชีวิตของผู้อื่น ถ้าลูกไม่พอใจ หรือผู้อื่นไม่พอใจกับลูก แล้วลูกควรจะเข้าใจว่าลูกกำลังขาดในการใช้ยุทธวิธีที่ถูกต้องในขณะที่อยู่ในโยคะ ดังนั้นลูกทั้งหมดพอใจหรือไม่ หรือลูกเพียงแต่ทำให้ตัวเองพอใจ และคิดว่าตัวลูกเป็นผู้ที่ถูกต้องอย่างสมบูรณ์ทั้งหมดหรือไม่ ลูกทั้งหมดพอใจหรือบางคนพอใจ และคนอื่นๆ ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ ลูกคงอยู่ในความพอใจกับตัวลูกเองหรือไม่ หรือว่าลูกไม่พอใจเมื่อมีความอ่อนแอใด ๆ ปรากฏขึ้น ลูกรู้สึกเช่นนี้ในบางครั้ง หรือลูกได้สมบูรณ์พร้อมแล้ว ความพอใจเป็นเป้าหมายหลักของผู้ซึ่งมีชีวิตเป็นโยคี ดังนั้นควรที่เราจะถามเพื่อน ๆ ของลูกหรือไม่ว่าพวกเขาพอใจกับลูกหรือไม่ พวกเขาจะพูดว่าใช่ หรือพวกเขาจะทำให้พวกเขาเสียหน้าหรือไม่ เขาผู้ซึ่งมีชีวิตเป็นโยคีควรจะมีใบรับรอง 3 ใบ หนึ่ง มีความพอใจกับตนเอง สอง บาบาควรจะมีความพอใจกับลูก และสาม คือครอบครัวทางโลกและทางดวงวิญญาณควรจะพอใจกับลูก ลูกมีใบรับรองทั้ง 3 นี้ หรือลูกต้องเรียกร้องมัน (Avyakt 10/01/94 กลุ่ม 4)
Subscribe to:
Posts (Atom)