Tuesday, April 30, 2013
ความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ความสัมพันธ์กับพระเจ้า
พระเจ้า พ่อชีว่าเป็นมหาสมุทรของความรู้ ความสงบ ความรัก ความปิติ ความบริสุทธิ์ และพลังอำนาจ ท่านไม่ได้ลงมาในวงจรของการเกิดและการตาย ท่านเป็นผู้หลุดพ้นตลอดกาล บริสุทธิ์ตลอดกาล เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจทั้งหมด ท่านได้ให้คุณสมบัติของตัวท่านเองคือ ความสงบ ความปิติ ฯลฯ กับดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีโยคะกับท่าน
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ที่มีกับท่านจะเป็นไปได้ทุกรูปแบบ พระเจ้า ชีว่าก็มีความสัมพันธ์พื้นฐานสามประการกับทุก ๆ ดวงวิญญาณ ท่านเป็นพ่อสูงสุด ครูสูงสุด และเป็นผู้นำทางดวงวิญญาณสูงสุด (สัตกูรู) ในความสัมพันธ์ทางโลกนั้นเห็นได้ชัดเจนว่า พ่อ ครู และผู้ชี้นำทางดวงวิญญาณของมนุษย์เป็นผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงประโยชน์ที่มีขีดจำกัด พระเจ้าชีว่าได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อสูงสุดของทุกคน ท่านก็ยังมีอีก 2 บทบาทคือ ครู และ ผู้นำทางดวงวิญญาณ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่มวลมนุษย์
พระเจ้าในฐานะเป็นพ่อสูงสุด
ในฐานะที่เป็นพ่อ พระเจ้าชีว่า ให้กำเนิดทางดวงวิญญาณแก่มวลมนุษย์ทั้งหมด กล่าวคือท่านปลุกพวกเขาขึ้นมาจากไม่มีความรู้เรื่องดวงวิญญาณ และให้มรดกที่สูงส่งของท่านกับพวกเขา ลูกชายได้รับมรดกซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของพ่อเขา เมื่อดวงวิญญาณมีการเกิดทางดวงวิญญาณและกลายเป็นลูกของพระเจ้า ดวงวิญญาณก็จะได้รับมรดกซึ่งเป็นคุณลักษณะของพระเจ้าในรูปของ ความบริสุทธิ์ ความสงบและความปิติโดยอัตโนมัติ ซึ่งนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพดีและความสุขที่แท้จริง ซึ่งคงอยู่อย่างยาวนาน มรดกที่ไม่สามารถทำลายได้นี้เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ดวงวิญญาณมนุษย์ฺทุกดวงสามารถจะได้รับจากพระเจ้าในฐานะที่ท่านเป็นพ่อ
ความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกนำไปสู่การสรุปว่า ทุกดวงวิญญาณเป็นลูก ๆ ของพ่อที่อยู่เหนือความรู้และความเข้าใจด้วยสติปัญญาของมนุษย์เหมือนกันและเป็นพี่น้องกัน ดวงวิญญาณเป็นจุดแห่งแสงซึ่งปราศจากร่าง ไม่ใช่เพศหญิงหรือเพศชาย ดังนั้น ท่ามกลางความสัมพันธ์อย่างชาวโลก แม้จะเป็นพี่ชายน้องสาว สามี ภรรยา พ่อและลูกชาย ลุงและลูกพี่ลูกน้อง ฯลฯ ก็เป็นลูก ๆ ของพ่อสูงสุดเช่นเดียวกันเป็นพี่น้องกัน เมื่อมองกันและกันว่าเป็นดวงวิญญาณ ความสัมพันธ์ทางร่างมีมากมายหลายอย่าง แต่ความสัมพันธ์ทางดวงวิญญาณมีอย่างเดียว และนั่นก็คือความเป็นพี่น้องสากล บทสรุปอีกอัีนหนึ่งก็คือทุกคนมีพ่อสองคน พ่อคนแรกคือพ่อทางกายซึ่งให้กำเนิดทางร่างกาย อีกหนึ่งคือพ่อทางดวงวิญญาณ ผู้ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ ดวงวิญญาณสูงสุด ชีว่า
พระเจ้าในฐานะที่เป็นครูสูงสุด
ในฐานะที่เป็นครูสูงสุด พระเจ้าชีว่าเป็นมหาสมุทรของความรู้ได้ลงมาสู่โลกในเวลาที่มีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นจนถึงจุดสูงสุด เพื่อที่จะมาแก้ไขสติปัญญาของมนุษย์ให้กลับไปสู่ความประเสริฐ และทำให้เขาสามารถแยกแยะระหว่างสิ่งถูกและผิด ดีและเลว ความจริงและความหลอกลวง ท่านเปิดเผยความรู้อย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับตัวท่านและสิ่งสร้างของท่าน รวมทั้งสอนหลักการและวิธีปฏิบัติของราชโยคะ
ในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำทางสูงสุด (Satguru) พระเจ้าทำให้ดวงวิญญาณทั้งหมดหลุดพ้นจากกิเลสและพาพวกเขากลับไปยังบ้านดั้งเดิมที่มีแต่ความสงบ ความอ่อนหวานและเงียบ นั่นคือโลกวิญญาณ หรือพารามธรรม ไม่มีดวงวิญญาณใดสามารถกลับบ้านโดยไม่ผ่านการชำระให้บริสุทธ์ ผู้นำทาง ทางดวงวิญญาณสูงสุดชำระดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์จากบาปของพวกเขาโดยผ่าน ราชโยคะ
ผู้คนโดยทั่วไปไม่เข้าใจนัยสำคัญที่ถูกต้องในความสัมพันธ์ทั้งสามของการเป็นพ่อ พร้อมทั้งเป็นครู และผู้นำทางของดวงวิญญาณของดวงวิญญาณสูงสุด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสิทธิ์ตัวเขาเองจากมรดกของเขา ซึ่งมันควรจะเป็นของเขา เมื่อเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักกับดวงวิญญาณสูงสุดในทางปฏิบัติในชีวิตจริงของพวกเขา
พระเจ้าในฐานะเป็นผู้ชี้ขาดสูงสุด
เวลาไม่ได้เพียงแต่ถูกกำหนดไว้แล้วแต่ก็มีเวลาที่จำกัดสำหรับพระเจ้าที่จะสะสางงานของท่านในฐานะพ่อสูงสุด ครู และผู้ชี้นำทางแก่ดวงวิญญาณด้วยเช่นกัน เมื่อบทบาทนั้นของท่านจบลง พระเจ้าก็จะรับบทบาทของธรรมราช(Dharamaraj) นั่นคือผู้ตัดสินชี้ขาดสูงสุด เมื่อพระเจ้าผู้เป็นพ่อเปิดเผยวิธีการที่ง่ายต่อการพัฒนาตัวเราเอง ท่านให้พลังอำนาจทั้งหมดเพื่อชำระบาปของเรา และเราก็ยังเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของท่านและไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย ดวงวิญญาณของเราจะต้องถูกชำระล้างโดยการถูกลงโทษในฐานะที่เป็นกฎแห่งกรรม นี่คือบรรทัดฐานที่ละครโลกหมุนไปไม่จบสิ้น ทุกๆการกระทำที่กระทำไปโดยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้าจะต้องถูกลงโทษ ณ เวลาของการตัดสิน พระเจ้าผู้เป็นพ่อจะไม่เข้ามาแทรกแซงเพื่อปกป้องดวงวิญญา๊ณทั้งหลาย แต่จะอยู่อย่างละวางและรักษาความเป็นกลางในฐานะผู้ชี้ขาดสูงสุด
จากหนังสือ "ราชโยคะ ศาสตร์เพื่อการรู้แจ้ง"
BK.เรืออากาศเอกทรงยศ เปี่ยมใจ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment