Friday, May 9, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 11


พันดาพในสนามรบ
ในที่สุดสมาชิกของสถาบันเข้าเทียบท่าที่เรือของ Okha จากที่นั่นพวกเขาตรงไปยังภูเขาอาบูโดยรถไฟ  ภูเขาทั้งลูกเป็นที่แสวงบุญสำหรับนักบุญและนักปราชญ์ และ ณ ที่นี่เป็นสถานที่ที่อยู่ในการคิดถึงของประชาปิตาบราห์มาที่เร้นลับ  วัดดีลวาราที่น่ารัก (Dilwara)  เป็นที่ตั้งที่ประดิษฐานรูปของอดิเทพ 2 รูป  เป็นเทพองค์แรกที่ถูกสร้างขึ้น  รูปปั้นแรกสีดำ อีกรูปหนึ่งเป็นสีขาว  ทั้งสองเป็นตัวแทนของบราห์มาบาบา  ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากความไม่บริสุทธิ์คือองค์ดำไปสู่ความสมบูรณ์พร้อมคือองค์ขาว  ในผนังในวัดเป็นกรอบขนาด 108 นิ้ว  ซึ่งบรรจุไว้ด้วยโยคีที่อยู่ในการทำสมาธิ  เป็นบรรยากาที่สงบเงียบและสันโดษที่ปรากฏอยู่ทั่วไป

ร่างกายถูกแสดงให้เห็นว่าเปลือยเปล่า  ซึ่งชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเข้าสู่สภาวะของการเป็นดวงวิญญาณ  เพชรเม็ดใหญ่อยู่ตรงหัวใจของโยคีรูปนั้น  เพื่อแสดงถึงความรักที่คงที่ต่อชิพบาบา  แต่ละคนมีดวงตาที่สาม  เพื่อแสดงถึงการครอบครองไว้ซึ่งความรู้สูงสุด เหตุผลที่มี 108 โยคีเช่นนี้เป็นเพราะว่าจากดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก มีเพียงจำนวน 108 นี้เท่านั้นที่สามารถทำลายสำนึกแห่งความเป็นร่างได้อย่างหมดจดและ ดังนั้นจึงเป็นการมีชัยเหนือความตาย มีจิตใจที่ท่วมท้นไปด้วยสัจจะนั่นคือวัดดีลวาราทั้งหมด  ซึ่งหมายถึงผู้ซึ่งขโมยหัวใจของท่านไป สะท้อนเหตุการณ์จริง ๆ  ซึ่งเกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันเป็นความเคลิบเคลิ้มอย่างเต็มที่สำหรับลูก ๆ ของบาบาที่ได้มาเยือนสถานที่วิจิตรงดงามเช่นนี้  และเห็นตัวเองในรูปหินอ่อน  ซึ่งเป็นอนุสรณ์อยู่ตลอดไป ไม่มีใครในโลกนี้แม้แต่คนเดียวที่สามารถจะเข้าใจได้  ภูเขาอาบูมีชื่อเสียงในคัมภีร์ว่าพระเจ้าชีว่าได้ลงมา แต่ใครล่ะที่จะเชื่อว่าชิพบาบาอยู่ ณ ที่นี่  ณ ขณะนี้  ด้วยคำสั่งของท่านสถาบันถูกตั้งขึ้น ณ ที่นี่ เพื่องานอันดับสุดท้าย

กวีที่ยิ่งใหญ่ Shuklaji  มาพบบราห์มาบาบา หลังจากที่บราห์มาบาบามาถึงไม่นานนัก และคำประพันธ์ก็ได้เกิดขึ้น
คำสรรเสริญแซ่ซ้องที่มีสำหรับภูเขาอาบูนั้นมีมากมายสุดคณานับ
ช่างสวยงามวิจิตรตระการตาเสียนี่กระไร  สถานที่นี้
เปลวไฟแห่งความรู้ได้ลุกโพลงเผาผลาญ ณ ที่นั่น
สิ่งลวงตาทั้งหลายถึงกาลวินาศโดยบัดดล
ณ กาลเวลาที่ิชิพบาบาได้ลงมา ณ ภูเขาอาบู
ด้วยของขวัญซึ่งเป็นของฝากสำหรับทุก ๆ ดวงวิญญาณ
ท่านได้มาสอนศาสนาที่แท้จริง ณ ที่นี่
และแล้วสัตยุคก็ถูกก่อตั้งขึ้นดั่งการตั้งครรภ์
ณ จุดสุดท้ายของทุก ๆ กัลป์
กีตะก็ถูกบรรเลงซ้ำ
ผ่านความรู้ของพ่อผู้ไร้ร่าง
มันเกิดขึ้นทีละคนทีละคน
คนที่ไม่รู้จักชีว่า
ก็จะไม่รู้จักตนเอง
คนที่ไม่สามารถเข้าใจได้
แล้วชีวิตของเขาจะมีค่าอะไรเล่า ?
นี่เป็นประสบการณ์ของข้าพเจ้า
อะไรก็ตามที่ข้าได้ยินมา
ข้าทำให้ท่านได้ยินเช่นเดียวกัน
อะไรที่ข้าได้พบเห็น
ข้าเขียนมันลงไป

งานของพระเจ้าดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว ในคัมภีร์มหาภารัตได้ถูกเขียนไว้ว่าพันดาพได้ลี้ภัยไปอยู่ในป่า 12 ปี  และอยู่ในการหลบซ่อนตัวเป็นเวลา 1 ปี และนี่เองที่พวกเขาจึงจะสามารถออกมาสู่สงครามได้  สถาบันได้อยู่ในซินดิเป็นเวลา 13 ปี (1937 - 1950) ด้วยการอยู่ในความสันโดษจากผู้คนภายนอก 12 ปี และ 1 ปี ที่ใช้เวลาในการฝึกฝนในการเพ่งเพียรพยายามอย่างล้ำลึก  หรือเรียกว่า ตาปาเซีย  ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็มีภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากสิ่งชั่วร้าย กลายเป็นโยคีที่มั่นคง แล้วในที่สุดพวกเขาก็ออกมาเปิดเผยตัวเองเพื่อการมีชัยชนะเหนือมายา  ช่วงเวลาของโกปี้ได้สิ้นสุดลง  ตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นแม่น้ำคงคาแห่งความรู้ที่ลึกและสามารถชำระล้างด้วยความรัก  เช่นนี้เองที่ลูก ๆ ของพระเจ้าเริ่มต้นภารกิจเหนือมนุษย์ของพวกเขา ด้วยการยกระดับอินเดียและโลกอีกครั้งหนึ่ง จากสภาพที่ตกต่ำไปสู่สภาพของความบริสุทธิ์ พวกเขาร้องรำด้วยความสุขต่อความท้าทายที่อยู่ข้างหน้า
เรากำลังเปลี่ยนแปลงโลก
และพวกเราสอนราชโยคะ
ครั้งหนึ่งพระราชวังของเราทำด้วยทองคำ
พวกเรามีอาณาจักรเดียว
มีศาสนาเดียว
เป็นโลกแห่งความสุข
รีบเร่งร่วมในการสร้างโลกนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เราคือผู้เปลี่ยนแปลงตัวของเราเอง
และพวกเราก็สอนราชโยคะ

อ่านต่อ >>>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 12

No comments:

Post a Comment