Saturday, May 10, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 12


มหาวิทยาลัยแห่งโลกของพระเจ้า
การย้ายสถาบันไปจากการาจี ไปภูเขาอาบูไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ตั้งแห่งใหม่ถูกเลือกขึ้นมาได้อย่างไร มันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ณ ที่นี่ ได้ถูกนำมาเล่าให้ฟังโดยหัวหน้าคณะผู้นำของมหาวิทยาลัยคนปัจจุบัน B.K.มานโมฮีนีจี รู้จักกันในนามดีดี้
"ฉันมีญาติที่ร่ำรวยมากในอินเดีย พวกเขาต้องการให้ฉันออกมาจากปากีสถานและบาบาก็ต้องการให้ฉันกลับมารับใช้อินเดีย  ดังนั้นเมื่อฉันได้รับตั๋วเครื่องบินและคำเชิญจากญาติของฉัน ฉันบินไปบอมเบย์พร้อมกับซิสเตอร์อื่น ๆ"

"ญาติ ๆ ฉันมารับพวกเราที่สนามบินพร้อมด้วยพวงมาลััยดอกไม้สำหรับพวกเรา  แต่บาบาได้บอกพวกเราไม่ให้รับการสักการะบูชา และพวงมาลัยซึ่งเป็นของที่จะถวายให้กับเทวาและเทวีที่บริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมเท่านั้น  แน่ละ ขณะที่เรายังทำความเพียรพยายามเพื่อบรรลุความบริสุทธิ์ เรายังไม่ได้ทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ  ด้วยเหตุนี้เราจึงปฏิเสธพวงมาลัยและอธิบายถึงคำแนะนำของบาบาให้กับพวกเขาฟัง  เราระมัดระวังที่จะทำตามคำแนะนำและคำสั่งของบาบา  ขณะที่อยู่ในการทำภารกิจนี้  ในที่สุดเรามาถึงบ้านของเขา  พวกเขาจัดเตรียมห้องที่สวยงาม 2 ห้อง ไว้สำหรับพวกเรา  และได้เตรียมห้องไว้อีกห้องหนึ่งซึ่งพวกเราสามารถพบปะกับผู้คน ผู้ซึ่งต้องการศึกษาความรู้ของพระเจ้า และเรียนรู้ศิลปะของการทำสมาธิ"

นับแต่วันนั้น ผู้คนก็เริ่มมาเพื่อเป้าหมายนั้น  บุคลลคนเดียวกันซึ่งเมื่อหลายปีก่อน  ซึ่งทำร้ายร่างกายเราและข่มขู่พยายามทำร้ายจิตใจเราด้วยการด่าทอและเป็นผู้ซึ่งเพียรพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดยั้งเราไม่ให้ไปที่โอมมันดาลี ผู้คนเหล่านั้นนั่นเองที่ขณะนี้กระตือรือร้นที่จะฟังความรู้ เพราะว่าพวกเขาประทับใจในวิถีชีวิตของพวกเรา  พวกเรามีความสุขมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสอนญาติ ๆ ของเรา บาบาพูดเสมอว่า บุญเริ่มต้นที่บ้าน บราห์มากุมารีเป็นคนซึ่งสามารถยกระดับได้ทั้งพ่อของเธอ และก็ครอบครัวของพ่อสามี ดังนั้นเราพอใจที่ญาติ ๆ ของเราทำตามคำแนะนำของพระเจ้า

เราอยู่ที่นั่น 2 เดือน ไม่ว่างเว้นอยู่ตลอดเวลากับงานรับใช้ บ่อยครั้งที่ญาติของเราจะพาไปเที่ยวชมในบอมเบย์  แต่พวกเราปฏิเสธ โลกนี้ไม่มีสีสรรและรสชาติสำหรับเราอย่างแท้จริง "เราจะไปเที่ยวชมในสวรรค์"  เราเล่าให้พวกเขาฟัง  "ณ ที่นั่นเราจะอยู่ในพระราชวังที่ทำด้วยทองคำและเงิน เราจะบินไปด้วยเครื่องบินที่ยอดเยี่ยม และใช้พลังงานอะตอมมิคในการขับเคลื่อนและควบคุมทิศทางด้วยพลังของความคิด ผู้คน ณ ที่นั่นจะมีความสุข มันจึงเป็นความสนุกที่จะได้พบแต่ละดวงวิญญาณ ที่นี่คือนรกและทำไมเราจึงต้องปรารถนาที่จะไปเที่ยวชมทวีปที่โหดร้ายเช่นนี้  นี่เป็นอินเดียแห่งกาลียุคใช่ไหมล่ะ"  เหมือนอย่างเช่นบทประพันธ์ได้เขียนไว้ว่า

อินเดียได้สูญเสียความศรัทธาของเธอ
เธอเคยเป็นเทพที่ควรแก่การคราบไหว้บูชา
วันนี้ได้กลายเป็นผู้กราบไหว้ร้องขอ
ความบริสุทธิ์ของเธอในอดีตดูเหมือนเป็นแต่เพียงความฝัน
สำหรับวันนี้เราทุกคนเป็นเพียงขอทาน
ความพึงพอใจทางประสาทสัมผัสได้ดึงเราต่ำลงมา
ส่งเราไปสู่ความตาย
ความหลงไหลในร่างกายเป็นภาพลวงตาของงูร้าย
ด้วยการ ขบกัดเพียงครั้งเดียวและจิตใจของเราก็ถูกบดขยี้
บัดนี้มีบางคนพูดว่า ในทุกสิ่งมีพระเจ้า
แต่บางคน ก็พูดว่า ไม่มีพระเจ้า
เราได้ยินเรื่องราวมากมาย ตราบที่พวกเขามีปากที่จะพูด
แต่ไม่มีใครสักคนที่จะรู้จักความจริง

ดีดี้เล่าต่อ  "ไม่มีใครรู้สักสิ่งเดียว จนกระทั่งชิพบาบาได้ให้ดวงตาคู้ใหม่กับเรา ตอนนี้เรารู้จักโลกสวรรค์  ดังนั้นเราจะปรารถนาอะไรในบอมเบย์ ซึ่งมีแต่สิ่งลวงตา ในไม่ช้พวกเขาก็หยุดความพยายามที่จะชักนำดีดี้และคนอื่น ๆ ให้ออกไปเที่ยว ข้อทดสอบต่อไปสำหรับซิสเตอร์เกี่ยวกับเรื่องอาหาร  เจ้าของบ้านได้นำอาหารท่ี่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ชนิด มาให้พวกเธอทุก ๆ มื้อ แต่แทนที่จะยอมจำนนต่อการจูงใจเช่นนี้ พวกเธอก็ทำเพียงโรตีแค่สองอันด้วยมือของพวกเธอเองและกินกับผัก หลังจากอาหารค่ำดีดี้รายงาน พวกเราร้องเพลงของพระเจ้า ดังนั้นพวกเราก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้คนที่เราอยู่ร่วมกับพวกเขา พวกเขาเห็นว่าไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ ของพวกเขา หรือความพอใจที่จะดึงดูดเราได้  การสละละทิ้งของพวกเราทำให้พวกเขาเกรงใจ  พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเราได้มีประสบการณ์ของความสุข  ซึ่งพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะฝันถึงได้  พวกเขาต้องการให้เราพักอยู่กับพวกเขาต่อไป  แต่ในที่สุดเราก็เตรียมตัวกลับการาจี  มันเป็นเวลาที่จะต้องไป  บัดนี้เราได้ให้ข่าวสารของเรากับพวกเขา บางคนแต่งเพลงขึ้นมาอย่างไพเราะ"

โอ้ดวงวิญญาณที่สุขสกาว คิดถึงพ่อชีว่า
จงมารับสิทธิ ที่เป็นของท่าน
เวลาปัจจุบันเป็นยุคแห่งการบรรจบพบกัน
การพบปะของลูก ๆ กับพระเจ้า 
ชีว่าได้มายังโลกนี้อีกครั้ง
และผ่านปากที่บริสุทธิ์เช่นดอกบัวของบราห์มา
ก็ได้ขับกล่อมเพลงของสัจจะอีกครั้งหนึ่ง
ในไม่ช้าเราจะเป็นพยานต่อการจบสิ้นของโลก
วันที่น่าสะพรึงกลัวกำลังรอด้วยอาการอ้าปากค้าง
นั้นเป็นวาระสุดท้ายของทุก ๆ คน
ดังนั้นบาบาก็สอนพวกเราทุกคน
ชีว่าชัคตีและกองทัพพันดาพกำลัังเป่าแตรสัญญาณแห่งสวรรค์
ด้วยการนำของพระเจ้าด้วยตัวท่านเอง
การประกาศสงครามได้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ความตายมาสู่ผู้อ่อนแอ
ความตายมาสู่กิเลส ความตายมาสู่ความตายด้วยตัวของมันเอง
ความชั่วร้ายจะต้องถูกทำลายไป
และนำชีวิตไปสู่โลกที่บริสุทธิ์

เรากลับไปหาบาบา เราได้สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้คนมากมายในบอมเบย์ หลังจากนั้นเล็กน้อย ญาติของเราก็ส่งจดหมายเชิญเราทั้งหมดให้ย้ายกลับไปอินเดีย  พวกเขาจะออกค่าใช้จ่ายสำหรับการขนย้ายทั้งหมด บาบาส่งโทรเลขกลับไป  "จะรับคำเชิญจากผู้ที่มีความปรารถนาที่จะฟังความรู้เท่านั้น และจากผู้ซึ่งต้องการที่จะประพฤติตนตามกฏของพระเจ้า"

พวกเขายอมรับเงื่อนไข พวกเขาขอร้องพวกเราให้หาที่ตั้งที่ใดก็ได้ที่เราต้องการ ดังนั้นฉัน และ B.K. Lilavatiji ก็ได้ไปตรวจสอบไปดูอาคารหลายแห่งที่ ปูนา และ อัมมาดาบัด แต่ไม่สามารถหาสถานที่ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 250-300 คน มีคนสำคัญหลายคนช่วยเราในการหาสถานที่และเราก็ได้ผูกมิตรอย่างมากมาย  เพื่อมหาวิทยาลัยของพระเจ้า (กูรูคนหนึ่ง สิทธานันดาจี ช่วยพวกเราเป็นอย่างมากและสุดท้ายก็มาเยี่ยมพวกเรา  เมื่อเราได้ก่อตั้งภูเขาอาบูเสร็จ ในการอำลาจาก เขาพูดว่า  "ฉันเคยมีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงและผู้ชายอยู่ร่วมกัน พวกเขาจะไม่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้เลย  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน  ที่ฉันมีประสบการณ์ว่ามันเป็นไปได้จากหลาย ๆ วันที่ฉันอาศัยอยู่ที่นี่  ไม่มีสักวันเลยที่ฉันจะมีสำนึกว่านั่นเป็นหญิงนั่นเป็นชาย  แต่เป็นดวงวิญญาณอยู่อย่างสม่ำเสมอที่ฉันเห็น  และโดยปกติในสำนึกของดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่หลังจากที่อยู่กับ คาร์มา ซานยาสซี (Karma Sanyasis)  นิมิตของดวงตาของความคิดของฉันก็ไม่เคยบริสุทธิ์ดังกล่าวเลย"

"ในที่สุดการเสาะหาของเราก็นำเรามายังภูเขาอาบู  ญาติบางคนของเราก็มาเป็นเพื่อน ขณะที่พยายามหาบ้านกับซิสเตอร์ Rukmaniji ฉันได้ผ่านที่พักอันว่างเปล่าของกษัตริย์ ฉันชอบมัน สถานที่นั้นชื่อว่า Brij Kothi  ถ้ามองกันอย่างทางโลก  มันไม่สวยมาก  แต่ทันทีที่ฉันเห็นมัน ฉันก็คิดถึงคำพูดของบาบา ซึ่งทำให้ฉันสรุปได้ทันทีว่านี่คือที่ตั้งที่ถูกต้องสำหรับพวกเรา  หลายปีก่อนหน้านี้บาบาได้พูดไว้  "ลูก  ๆ ในตอนท้าย  ลูก ๆ ซึ่งเป็นบราห์มินก็จะเดินทางไปยังภูเขาและทำการชำระสะสางที่นั่น  และลูกก็จะพักอยู่ ณ ที่พักอาศัยของกษัตริย์"  คำพูดของบาบาได้เข้ามาในจิตใจอย่างรุนแรงจนกระทั่งฉันเชื่อว่า ภูเขาอาบูนี้เองเป็นภูเขาที่บาบาพูดถึง และที่พักแห่งนี้ของเรา เป็นบ้านที่เรากำหนดไว้ในตอนท้าย  บาบาพูดว่า  "ขณะที่ทำสมาธิบนภูเขาลูกก็จะออกจากร่าง"  ฉันรีบกลับไป อัมมาดาบัดและโทรศัพท์ถึงบาบาที่คาราจี  และขอคำแนะนำจากท่านเกี่ยวกับ Brij Kothi  บาบาอนุญาตให้ทันทีที่จะรับเองสถานที่นี้ แล้วท่านก็ให้โอกาสพวกเราหาบ้านด้วยตัวเราเอง  เพราะท่านเชื่อในพลังโยคะของพวกเรา  และท่านหวังว่าเราจะได้ทำงานรับใช้ เรามีความสุขอย่างที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นตามละคร"

บาบาได้ส่งบราเดอร์ Vishwa Kishore  ซึ่งมีความสามารถไปยังภูเขาอาบู  และจัดการซื้อ Brij Kothi บราเดอร์ Vishwa Kishor (ชื่อที่บาบาตั้งให้มีความหมายว่า เจ้าชายของโลก)  เขาเป็นหนึ่งในเพชรพลอยที่มีค่าที่โด่งดังที่สุดของกัลกัตต้า  ก่อนที่จะเข้ามาในความรู้ของพระเจ้าเขาเป็นหลานของบราห์มาบาบา  แล้วเขาก็มีความรักความเคารพอย่างสูงต่อบาบา  บาบาได้ให้ความรู้ทั้งหมดในธุรกิจค้าเพชรแก่เขา

เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้เข้ามาครอบครองชีวิตของดาด้า  และท่านได้ยุติในอาชีพของท่าน Vishwa Kishore  ก็ต้องการที่จะละทิ้งชีวิตทางโลกด้วยเช่นกัน  "ฉันควรจะติดตามบาบา"  เขาตันสินใจ แต่เมื่อพูดความปรารถนาของเขากับบาบา บาบาบอกให้เขารอไปก่อน ให้ทำงานต่อไป"  ในเวลาที่เหมาะสม เธอจะได้รับคำแนะนำให้อุทิศตนให้กับพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ"

Vishwa Kishore  เป็นชายที่มีความลับของการที่จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขภายใต้ทุก ๆ สถานการณ์  อะไรก็ตามที่บาบาแนะนำ  เขาพร้อมที่จะทำตาม หลายปีต่อมา เขาได้รับการบันดาลใจที่จะอุทิศตนในสถาบันความรู้ของพระเจ้าแห่งนี้  มันเป็นการบันดาลใจภายใน  ไม่ใช่อิทธิพลจาก บราเดอร์

บราเดอร์ Vishwa Kishore   มีประสบการณ์ มีความคิด การตัดสินใจ  ที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความซื่อตรง  เขามาเจรจาและประสบความสำเร็จในการซื้อบ้านและที่ดิน

อ่านต่อ  >>>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 13

No comments:

Post a Comment