Tuesday, May 6, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 10



กลับสู่ภารัต
2-3 ปีผ่านไป  ตั้งแต่ญาติ ๆ ของสมาชิกของสถาบันได้ลี้ภัยจากปากีสถานไปสู่อินเดีย เขาไม่รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับโอมมันดาลีและเคยได้ฟังมาว่า  มหาวิทยาลัยของพระเจ้าได้ถูกปิดลงโดยพวกมุสลิม  และสมาชิกทั้งหมดได้กระจัดกระจายไป

เมื่อพวกเขาได้รู้ภายหลังว่าโอมมันดาลียังคงอยู่ในปากีสถาน  พวกเขาเขียนจดหมายขอร้องให้นำสถาบันกลับไปยังอินเดีย พวกเขาเกรงว่าบางทีมุสลิมชาวปากีสถานจะโจมตีสถาบัน แต่ในทางตรงกันข้าม พวกมุสลิมกลับปกป้องสถาบัน  พวกเขาเห็นว่ามันป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์  ญาติ ๆ บางคนของลูก ๆ ของสถาบันก็ยืนยันที่จะเชื้อเชิญให้การชุมนุมทางดวงวิญญาณได้กลับไปยังอินเดีย  แล้ววันหนึ่ง ชิพบาบาก็ได้พูดผ่านบราห์มาบาบา และต่อมาภายหลังก็ผ่านลูกสาวผู้นำสาร  ออกคำสั่งว่าบัดนี้ สถาบันควรจะย้ายกลับไปอินเดีย  เพราะว่าผู้คนชาวอินเดียเป็นผู้ที่จะสามารถได้รับประโยชน์สูงสุดจากความรู้ของพระเจ้า  บาบาได้บอกเราว่าจะมีสนามแห่งการทำงานรับใช้ที่ใหญ่กว่า ณ ที่นั่น  และก็ยังท้าทายมากกว่าอีกด้วย

ในที่สุดในปี ค.ศ.1950  ลูก ๆ ก็เตรียมตัวจากการาจี  เมื่อมุสลิมของสังคมชาวซินดิได้ยินข่าวพวกเขาก็พยายามที่จะขอร้องให้อยู่ต่อ  "เราจะให้เครื่องอำนวยความสะดวกสบายที่ดีกว่าแก่พวกท่าน"  พวกเขาพูดว่า  "พวกท่านจะไม่ต้องรับประสบการณ์ของความไม่มีความสุขใด ๆ ที่นี่ แล้วท่านจะจากที่นี่ไปทำไม  มันจะไม่มีการกระทำที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ในประเทศนี้้  เราจะดูแลพวกท่านทั้งหมดในทุก ๆ เรื่อง  ท่านเป็นของพระเจ้า ท่านไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองของฮินดูหรือมุสลิม"

แต่ลูก  ๆ ของสถาบันได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้เดินทางไปยังอินเดีย  ดังนั้น พวกเขาจึงจัดการสำหรับการเดินทางด้วยเรือกลไฟจากการาจีไปยัง  Okha พวกเขาได้ขายอาคารที่่ใช้อาศัยอยู่ทั้งหมด  คนสำคัญ ๆ  ก็ยังพยายามที่จะยับยั้งพวกเขาไม่ให้จากไป  Allah Bakhaji  และ Bulam Hussainji (อดีตหัวหน้าคณะรัฐมนตรี)  และอีกหลาย ๆ คนได้มาด้วยตนเองและพวกเขาก็พอใจในความรู้  "พวกเขาพูดว่า  "พวกท่านอยู่ที่นี่เถิด  เราทุกคนจะช่วยทาน"  แต่ลูก ๆ บอกพวกเขาว่า นี่เป็นคำสั่งของพระเจ้า  เราจะต้องเดินทางกลับอินเดียเพื่อทำงานรับใช้

มีสมาชิกของสถาบัน 400 คนในวันนั้น  เมื่อกระเป๋าสัมภาระถูกกองไว้ที่ท่าเรือการาจี ฝูงชนก็มารวมตัวกัน  มุสลิมและปาทานช่วยโยคีที่อยู่ในชุดขาวทั้ง 400 คน ขนลงเรือ  ผู้คนพื้นบ้านมีความรู้สึกเหมือนกับว่าญาติสนิทของพวกเขากำลังจะจากไป  ทุกคนรู้สึกเศร้าสร้อย ผู้คนชาวปากีสถานผู้มากล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายได้นำดอกไม้มาโปรยใส่สมาชิกของสถาบันราวกับสายฝนซึ่งโปรยปรายลงมา  สมาชิกของสถาบันก็ตอบสนองด้วยสายฝนของดอกไม้ของพวกเขาเอง  โปรยปรายไปยังผู้คนที่น่ารัก  ผู้ซึ่งเฝ้าดูขณะที่เรือค่อย ๆ เคลื่อนออกจากท่า

มันเป็นฉากที่ทำร้ายจิตใจ  แต่เหล่าโยคีรู้สึกเหมือนกับฝูงหงส์ที่กำลังบินจากไป  ไปสู่ฤดูกาลใหม่  บราห์มินคนหนึ่งพูดว่า  เรือไฟลำนี้เป็นเรือแห่งสัจจะ  และพวกเขากำลังข้ามมหาสมุทรของโลก  ในระหว่างการเดินทาง กัปตันและคนอื่น ๆ ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี  พวกเขาพูดอยู่เสมอว่า  "พวกเราสามารถจะให้บริการอะไรกับท่านได้  โปรดบอกพวกเรา"  ชั้นเรียนทางดวงวิญญาณก็คงดำเนินไปตามตารางสอน  ขลุ่ยแห่งความรู้ก็ยังคงบรรเลงเช่นทุกวัน แม้แต่กัปตันก็ฉวยโอกาสอันนี้ด้วย 

อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 11 

No comments:

Post a Comment