Sunday, July 6, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 16



การขยายตัว
เมล็ดได้งอกขึ้นและได้กลายเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง ดอกตูมเล็ก ๆ บัดนี้ได้กลายเป็นดอกไม้ที่เบ่งบาน ณ เวลานี้ถึงเวลาของสถาบันที่ดอกไม้จะปรากฏเป็นผล  ผลไม้ทางดวงวิญญาณที่ีมีชีวิตจริง ๆ  ซึ่งเราสามารถจะส่งไปบำรุงเลี้ยงโลกที่หิวโหย  ดังคำเขียนของ B.K.Dyaniji  ผู้ซึ่งทำงานรับใช้ของพระเจ้าใน อัมบาลา (Ambala)

"ด้วยการศึกษาความรู้ของพระเจ้า ความถ่อมตน ความรัก ความบริสุทธิ์ ความร่าเริง ไม่ยึดติด ความเห็นใจ และความรู้สึกที่จะให้ประโยชน์ ควรจะถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติในชีวิตของมนุษย์ ลูกของบาบาได้กลายเป็นตัวอย่างแรก  ซึ่งสามารถพิสูจน์คำสอนของบาบาได้"

"รสชาติของคุณธรรมเป็นสิ่งเสพติด  ใครก็ตามที่ได้พบกับซีเนียร์ ซิสเตอร์ ก็ต้องการจะมีชัยชนะเหนือประสาทสัมผัสในชีวิตของเขาเช่นเดียวกัน  ลูกของบาบาได้อยู่เหนือโลกแล้ว  พวกเขาไม่สามารถถูกดึงกลับมาอยู่ในโลกเก่า มันไม่ใช่แต่เพียงเสื้อผ้าชุดขาวและชีวิตที่เรียบง่ายเพียงเท่านั้น  แต่จิตใจและร่างกายนี่เองที่อยู่ในความสงบ ไม่มีระลอกคลื่นของความปรารถนาใด ๆ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับผิวหน้าของน้ำซึ่งเย็นสงบภายใน  ไม่มีละอองของความทะยานอยากตกลงมาบนกระจกใส สตรี 300 คนจากครอบครัวที่แตกต่าง  ได้ลอยขึ้นอยู่เหนือความจำกัดของกายเนื้อ ได้ละทิ้งสถานะภาพความเป็นหญิงของพวกเธอ  และลบทั้งความริษยาและความปราถนาออกจากบุคลิกลักษณะของพวกเขา ความสัมพันธ์ทั้งหมดของพวกเธอมีเพียงกับพระเจ้าแต่ผู้เดียว

เหมือนอย่างเช่นน้ำทะเลได้กลายเป็นไอด้วยความร้อนของดวงอาทิตย์  ได้ลอยสูงขึ้นไปในอากาศ  ไปอยู่ในรูปของเฆม  และได้ไปกระทบเข้ากับภูเขา และตกลงมายังพื้นที่ทั่วโลก  ทำให้โลกเขียวขจี  หล่อเลี้ยงสรรพสิ่งสร้างทั้งหมด  เช่นเดียวกันชิพบาบาสุริยาแห่งความรู้  ได้เผาผลาญหยดน้ำของมหาสมุทร  ลูก ๆ ของสถาบัน  พวกเธอได้ลอยขึ้นเหนือเมฆที่เต็มไปด้วยพลังที่สูงส่ง ลอยอยู่เหนือภูเขาอาบู  บัดนี้ พวกเธอกำลังกลายเป็นฝนซึ่งตกลงเหนืออินเดีย  ดินแดงซึ่งถูกเผาด้วยความปราถนา  พวกเขาได้นำมาซึ่งฝนที่แสนหวานของความสงบ ความสุข  และความเงียบ ซิสเตอร์เหล่านั้นได้เรียนรู้ศิลปะของการพูดต่อสาธารณชน  ต่อการเขียนบทละคร  ในไม่ช้าจุลสารและเอกสารได้ถูกตีพิมพ์  และแจกจ่ายไปยังที่ต่าง ๆ เป็นบริเวณกว้าง  จดหมายได้ถูกส่งไปยังบุคคลสำคัญ  ในที่สุดโลกก็เริ่มสังเกต การดำรงอยู่ของกลุ่มมนุษย์ที่น่าทึ่งเหล่านั้น

โดยปกติโครงการของการเขียนหนังสือได้เริ่มทำมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว  ตัวอย่างเช่น ระหว่างเวลาที่สตรีถูกก่อกวนโดยครอบครัวและสามีของพวกเขา  บาบาได้ให้พวกเขาเขียนจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ อย่างเช่นจดหมายหนึ่งฉบับได้ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันการกระทำทารุณกรรมต่อสัตว์  จ่าหน้าซองถึงรัฐมนตรี R. Piggot ณ วันที่ 23 กรกฏาคม 1938  จดหมายบรรยายว่า  เด็กหญิงอายุ 15 ถูกขังและทำร้ายโดยญาติ อยู่ในห้องถึง 4 วัน โดยปราศจากอาหารอย่างไร  พี่ชายของเธอได้ทุบตีเธออย่างทารุณเช่นนี้  จดหมายจึงถูกส่งไปยังรัฐมนตรี "ป้องกันการทำทารุณกรรมต่อสัตว์เพียงเท่านั้นหรือ  ท่านจะทำอะไรเกี่ยวกับการกระทำทารุณกรรมต่อมนุษย์ด้วยกัน ?  ถ้าสถาบันของท่านทำงานแต่เพียงป้องกันการกระทำทารุณกรรมต่อสัตว์เพียงเท่านั้น เราคิดว่าควรตั้งสถาบันอื่นซึ่งสามารถป้องกันการกระทำทารุณกรรมต่อมนุษย์ขึ้นมา"

มหาตมะ คานธี ระพินนารถ ถากอร์ และ จักราวาร์ ราชโกปา ลาซายา ทั้งหมดได้รับจดหมาย โทรเลข และแม้แต่เมอร์ลีที่สมบูรณ์แบบ

บาบาได้ส่งโทรเลขถึงมหาตมะ คานธี  โทรเลขได้ส่งไปในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1939  ระหว่างที่คานธีกำลังถืออด  ข้อความในโทรเลขกล่าวว่า  "การอดอาหารและชุมนุมไม่ให้ความร่วมมือ เป็นการอดอาหารในรูปแบบของ หัตถโยคะ ท่านสามารถได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ ก็โดยพลังแห่งความรู้ของพระเจ้าเพียงเท่านั้น  และด้วยการหยั่งรู้จักตนเองที่สูงส่ง  ท่านจึงจะสามารถบรรลุถึงชัยชนะเหนือพลังของวิทยาศาสตร์  ด้วยพลังของดวงวิญญาณ เวลาปัจจุบันนี้เป็นเวลาแห่งความมืดสนิทของศาสนา บัดนี้ พระเจ้ากำลังก่อตั้งศาสนาของเทวาและเทวีอีกครั้งหนึ่ง นี่คือช่วงเวลาที่ถูกบรรยายไว้ในมหาภารตยุทธ"

บาบาให้ข่าวสารการลงมาของพระเจ้า เพื่อก่อตัั้งสัตยุค และทำลายกลียุค  ให้กับผู้นำทางการเมือง นักปราชญ์ และคนธรรมดา ท่านอธิบายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอังกฤษด้วยเช่นกัน  ท่านส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปยัง ราชินีอลิซาเบธ ราชินีแห่งกษัตริย์ยอร์จแห่งอังกฤษ ลงวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.1939 โดยโอมราเด้ ในจดหมายของสารที่สูงส่งจากบาบา ได้อธิบายอย่างชัดเจน มีข้อความบางส่วนดังนี้

อ่านต่อ >>>>  อดิเทพ ตอนที่ 3#17


Wednesday, May 28, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 15


การพิชิตอินเดีย
เมื่อการศึกษาความรู้ของพระเจ้าของพวกเขาเริ่มต้นครั้งแรก ลูก ๆ ของสถาบันคิดว่าไม่มีอะไรในโลกที่จะทำมากไปกว่านี้อีกแล้ว  "เรามีพระเจ้าแล้ว  เราได้พัฒนาธรรมชาติของเราจนสมบูรณ์ และได้เตรียมตัวจะจากร่าง  งานของเราก็มีเพียงเท่านี้  เรามีประสบการณ์ของความปิติเหนือประสาทสัมผัสทางกาย แล้วฉันจะไปค้นหาอะไรอีกล่ะ"

แต่หลังจากมาถึง อาบู ตามที่ B.K. จันทรามณีจิ ผู้เป็นหัวหน้าภาคของการทำงานรับใช้ในปัญจาบเล่าว่า พวกเขาเริ่มได้รับสัญญาณว่า หน้าที่ใหม่ในการเล่นบทบาทที่สูงส่งนี้กำลังจะเริ่มขึ้น  ม่านสำหรับฉากใหม่ซึ่งพิเศษเหนือธรรมดากำลังถูกชักขึ้น  บาบาเริ่มสอนพวกเราให้ทำความรู้จักกับหมอ ทนายความ ผู้พิพากษา และนักธุรกิจ  เพื่อแนะนำความรู้ของพระเจ้านี้ ณ เวลานั้น ไม่มีผู้ที่มีอาชีพเหล่านี้อยู่ในความรู้เลย  ดังนั้นพวกเราก็เข้าใจว่า บาบากำลังจะส่งเราออกไปข้างนอก เพื่อรับใช้ผู้คนของอินเดีย บาบาพูดว่า "ลูกรัก ลูกมีความรู้ มันเป็นความมหัศจรรย์อย่างมาก ในความเป็นจริงมันประเมินค่ามิได้ มันได้สูญหายไปเป็นเวลานาน เมื่อลูกพูดให้คนอื่นได้ยิน พวกเขาจะรู้สึกพอใจ และพวกเขาก็จะขอบคุณพระเจ้า ลูกรัก  ด้วยความรู้และโยคะนี้ ลูกเป็นเด็กหญิงเล็ก ๆ ก็จะสามารถทำให้บุคคลสำคัญและยิ่งใหญ่พ่ายแพ้ได้ 

 บุคคลเหล่านี้ ผู้ซึ่งวันนี้เขาเชื่อว่าตัวเขาเป็นพระเจ้า  หรือเชื่อว่าดวงวิญญาณก็เป็นดวงวิญญาณสูงสุด  ลูกก็จะสามารถทำให้พวกเขาโค้งคำนับต่อพระเจ้า ลูกได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำหรับการปลุกชายหญิงของโลก จากการหลับไหลที่สนิทนิ่ง"  ลูก ๆ ลูกไม่ได้ยินเสียงร้องที่ดังของการบูชาของพวกที่กราบไหว้บูชาหรือ??   ถ้าลูกเข้าไปสู่ความสันโดษ และนิ่ง ณ ที่นนั่น ลูกก็จะได้ยินเสียงร้องของผู้กราบไหว้ร้องเรียกลูก  "โอ้ แม่ของชาวโลก โอ้ เทวี เราผู้เป็นลูก ๆ ผู้ซึ่งร้องเรียกหาท่านมาเป็นเวลาช้านานและพ่ายแพ้ต่อมายา เราได้มายังประตูบ้านของท่าน  โอ้ ผู้ให้แสงสว่าง โอ้แม่ บัดนี้ จงจุดไฟแห่งความรู้ของเราซึ่งถูกดับไป จบสิ่นความมืดมิดของเรา  ให้นิมิตกับพวกเรา โปรดเมตตา การแสวงบุญของเราทั้งหมดไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลย  โอ้แม่ ช่วยเราผู้ซึ่งเป็นลูก ๆ จากการจมน้ำในแม่น้ำแห่งบาปนี้  ดึงเราขึ้นมา จงจับมือเรา จงได้ยินเสียงร้องและช่วยพวกเราด้วย"

ลูก ๆ ของสถาบันรับฟัง และพวกเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาจะต้องทำอะไร พวกเขาต้องออกไปข้างนอก หมู่บ้านต่อหมู่บ้าน เมืองต่อเมือง ตรอกต่อตรอก ในการรับใช้ต่อผู้กราบไหว้บูชาของพระเจ้า พวกเขาต้องละทิ้งมธุบันดินแดนที่แสนวิเศษของพวกเขา สถาบันซึ่งเป็นบ้านของพวกเขา

ความพยายามซึ่งเกิดขึ้นตามมาระหว่างความรักและความรู้ พวกเราจะต้องแยกจากบราห์มาบาบาและชิพบาบา ผู้เป็นที่รักของเราจริง ๆ หรือ ??  เราเป็นของชิพบาบามหาสมุทรของความรู้ ผู้ซึ่งเราละทิ้งโลก และละทิ้งครอบครัวของเรามา เราเผชิญกับการด่าทอและปัญหา เราสูญสิ้นความรู้สึกต่อผู้คนซึ่งเกี่ยวข้องกับเรา  ตอนนี้ควรหรือที่เราจะเสียสิทธิของการได้ฟังการบรรเลงขลุ่ยของความรู้ซึ่ง ๆ หน้า และควรหรือที่พวกเราจะไปอยู่ห่างไกลบาบา  ผู้ซึ่งเป็นดวงดาวในดวงตาของเรา เป็นผู้ค้ำจุนหัวใจเป็นเวลาหลาย ๆ วัน หลาย ๆ สัปดาห์ หลาย ๆ เดือน หรือแม้แต่หลาย ๆ ปี ไม่ ไม่ เราจะไม่รับข้อเสนอนี้

นั่นคือความตื่นตระหนกในขั้นแรกที่แสดงอาการตอบโต้เช่นนัั้นของพวกเขา  แต่ในขณะต่อมาเสียงในดวงวิญญาณก็ตอบโต้  โอ้โกปี้ แน่นอน ลูกถูกเลี้ยงให้เติบโตขึ้นมาด้วยความรักของพระเจ้า ลูกได้อุทิศทุกสิ่งให้กับท่าน  แม้พ่อและพาหนะที่แก่แล้วของท่านซึ่งลูกได้รับความสุขที่ไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้  ลูกจะต้องไม่เก็บมันไว้เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น  หลังจากที่ได้รับขุมทรัพย์เช่นนี้แล้ว ลูกจะไม่ให้อะไรกับผู้อื่นบ้างเลยหรือ  ลูกจะไม่ถ่ายทอดข่าวการมาถึงอย่างลับ ๆ ของพระเจ้าหรือ ลูกจะต้องนำเสนอของขวัญนั้นไปสู่โลก หรือว่าพระเจ้าจะต้องใช้ร่างที่แสนเก่านี้เดินไปตรอกแล้วตรอกเล่า เมืองแล้วเมืองเล่า เพื่อปลุกผู้คนเหล่านั้นให้ตื่นขึ้น  เขาผู้ซึ่งกำลังหลับใหลอยู่ในก้นบึ้งแห่งความโง่เขลา  ลูกเป็นโกปี้ ลูกจำพระเจ้าได้  แล้วลูกจะไม่แนะนำผู้นั้น ผู้ที่เป็นที่รักที่สุดให้กับผู้อื่นหรือ  นี่เป็นเป้าหมายในชีวิตของลูกที่จะมีชีวิตอยู่ในความล้ำลึกของความปิติสุขหรือ แล้วทิ้งดวงวิญญาณที่ทุกข์ทรมานของโลกไว้โดยไม่มีท่านหรือ การต่อสู้ภายในของพวกเขาก็เกิดขึ้นเช่นนี้

แต่เป็นไปได้หรือที่บาบาจะแฟ้  การผลักดันของท่านก็ชนะในที่สุด  "ลูก ๆ ลูกจะต้องไหลไปเหมือนกับแม่น้ำของปัญญา ส่งน้ำเข้าไปยังพื้นที่ที่แห้งผากของอินเดีย  เวลาของการปกปิดได้จบสิ้นลงแล้ว  ลูกจะต้องปลุกผู้คนที่กำลังหลับใหล"

นี่คือการอุทิศตนที่สูงส่งที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ของไฟแห่งความรู้ของพระจ้า ในที่ซึ่งม้าถูกสังเวย หลังจากที่ออกไปจากสถาบันนี้  ม้าของลูกก็จะท่องเที่ยวไปรอบโลก  นี่คือสิ่งที่กล่าวไว้ล่วงหน้าแล้วในคัมภีร์  ลูกเป็นสิ่งสร้างของสถาบันแห่งนี้ ดังนั้นบัดนี้ลูกจะต้องท่องไปในโลกและเป่าแตรสัญญาณ  สั่นกระดิ่งแห่งชัยชนะไปทั่วทุกทิศ  นั่นคือพรสวรรค์ที่พระเจ้าให้กับลูก  โดยการเป่าแตรสัญญาณของลูก  ผู้คนของอินเดียจะถูกปลุก และแล้วพวกเขาก็จะร้องเพลงสรรเสริญลูก

บาบาพูดต่ออีกว่า  "ลูก ๆ พ่อมาเพื่อก่อตั้งครอบครัวของดวงวิญญาณที่สูงส่ง ผู้นำศาสนาอื่น ๆ ก่อตัั้งศาสนาของพวกเขา"  และแล้ว ดวงวิญญาณของศาสนานั้น ๆ ก็ลงมาจากดินแดนนิพพาน  เพื่อรับร่าง ด้วยเหตุนี้ สมาชิกทุก ๆ ศาสนาจึงเพิ่มมากขึ้น แต่การกลับมก่อตั้งศาสนาของเทพอีกครั้งหนึ่ง เป็นลักษณะที่แตกต่างไปจากการก่อตั้งของพวกผู้นำเหล่านั้น ดวงวิญญาณทั้งหมดของศาสนาที่สูงส่งนี้ได้คงอยู่ก่อนแล้วบนโลกนี้ แต่พวกเขาได้ลืมตนเองและกลายเป็นผู้ตกต่ำ  ดังนั้นลูกเพียงแต่ต้องทำงานของการปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้น  ทำให้พวกเขาจำศาสนาดั้งเดิมของพวกเขาและราชวงศ์ของพวกเขา  เราจะต้องให้เป้าหมายของการกลับมาเป็นเทพและเทวีกับพวกเขาได้  ลูก ๆ ของผู้ที่อยู่ในยุคทอง โลกที่สูงส่งของรัฐบาลเดียว ศาสนาเดียว ซึ่งกำลังถูกก่อตั้งขึ้น

"ลูกผู้เป็นดวงวิญญาณผู้รับใช้ดวงวิญญาณซึ่งตกต่ำ ด้วยการทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ ลูกจะกลายเป็นกษัตริย์ในโลกใหม่ พ่อรักลูก ๆ ผู้ซึ่งสามารถทำงานรับใช้เช่นนี้ พ่อรักลูก ๆ ทุกคน แต่มีความรักเป็นพิเศษต่อดวงวิญญาณผู้มีความรู้  เพราะว่าคนที่มีความรู้ก็ทำให้คนอื่นเต็มไปด้วยความรู้  ดังนั้น ไม่ว่าลูกจะบรรลุความสำเร็จอะไร จงให้กับผู้อื่น"

ด้วยวิธีการที่อ่อนหวานเช่นนี้ บาบาได้ดลใจพวกเราเพื่องานรับใช้พระเจ้า หัวใจของลูก ๆ ตะโกนมาจากภายในว่า เราจะต้องออกนอกประเทศ ไปไกลว่านั้นอีก และทำงานรับใช้ตามพันธะที่แสนหวานของความรักของพระเจ้า  เขาเหล่านั้นผู้ซึ่งรู้สึกว่าการแยกห่างจากพระเจ้า แม้ชั่วขณะเดียวเป็นสิ่งที่ทนไม่ได้ เสียงก็ดังขึ้นในหัวใจของพวกเขา  "ขอให้เราได้แสดงต่อชาวโลก ได้รู้จักพระเจ้าและพ่อสุดที่รักของเรา และแล้วหลังจากนั้นเราจึงจะสามารถพักผ่อน เราจะต้องนำข่าวนี้กระจายไปทั่วโลก

ความสุขของเราได้หายไปในเกมส์แห่งความปราถนา
เราได้อยู่ในความโศกเศร้าจนกระทั่งพระเจ้ามา
บัดนี้หนี้กรรมทั้งหมด ได้มาถึงกำหนดแห่งการชำระ
และความตายก็กำลังเผชิญหน้ากับเรา
แต่พระเจ้าอยู่ ณ ที่นี่เพื่อชี้หนทาง
ไปยังชีวิตที่สูงส่ง วันของยุคทอง
ด้วยความภูมิใจของดวงวิญญาณ ไม่ใช่่ร่าง
และคิดถึงพระเจ้า และการศึกษาความรู้ของพระเจ้า
ท่านควรจะอยู่ในความสุขอย่างสม่ำเสมอ
โอ้ ดอกไม้หอมที่สุดแสนหวานแห่งต้นกัลปพฤกษ์

อ่านต่อ >>>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 16

Tuesday, May 27, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 14


ผู้ทำลายการผูกพันยึดติด
ผู้ใช้ชีวิตทางโลกมีบ่วงพันธะมากมาย  พวกเขาทนทุกข์จากการผูกพันยืดติดกับบ้านของพวกเขา กับเมือง กับญาติพี่น้อง กับอาหารและเครื่องดื่ม ประเพณีและนิสัย  ทรัพย์สินและความร่ำร่วย ด้วยการละเลิกสิ่งนี้ ประโยชน์จะเพิ่มขึ้นสำหรับการเกิดหลาย ๆ ชาติ

เป้าหมายสำหรับโยคีก็คือ การอุทิศตน เพื่อทำลายการผูกพันยืดติดเพื่อที่จะสามารถปรับชีวิตไปตามความประสงค์  ด้วยการคิดถึงพระเจ้าและปราศจากความกังวล  นี่เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น  ด้วยมุมมองนี้ บราห์มินผู้กำเนิดจากปากบราห์มา ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมของพวกเขา น้อยมากที่พ่ายแพ้และจากไป ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลำบากยากแค้นของสถาบัน

ภายในระยะเวลาอันสั้น ๆ ที่ความยากลำบากของพวกเขาดำเนินไป เหมือนอย่างเช่นศรีมัต ภควัต ซึ่งบอกว่า ขณะที่พันดาบอยู่ในป่า วันหนึ่งไหของ ดรูพาดี (Draupadi) ซึ่งเตรียมไว้และเคยไหลอย่างต่อเนื่อง กำลังจะเหือดแห้งลง มีเพียงผักโขมใบเดียวที่เหลืออยู่ แต่แล้วพระเจ้าก็สำแดงความมหัศจรรย์ และบัดนี้มันก็เกิดขึ้นในชีวิตจริง ต่อมามันก็ปรากฏชัดเจนว่า ข้อทดสอบนี้ได้นำมาซึ่งความตั้งใจของลูก ๆ เพื่อที่จะมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้น ขณะที่ผู่้อ่อนแอถูกผลักดันให้จากไป เหมือนเช่นเรือที่โคลงในกระแสของมรสุม ผู้ที่อยู่ในเรือมากมายก็ตกใจกลัว แล้วกระโดดหนีไปอยู่ในเรือกู้ชีวิต

 ดังนั้น พระเจ้าได้ให้แรงเขย่าที่รุนแรงต่อเรือแห่งสัจจะนี้ ดังนั้นผู้ที่มีจิตใจขึ้น ๆ ลง ๆ และเมาเพราะความพึงพอใจ ในบุคคลที่ได้เข้ามาอยู่ในเรือแห่งสัจจะนี้ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อเข้าถึงเป้าหมาย แต่มาเพราะยืดติดกับลูก ๆ ของสถาบัน จะได้เห็นสภาวะที่สั่นคลอน และพวกเขาจะได้จากไปด้วยตัวของเขาเอง ผู้บังคับการเรือแห่งสัจจะคือพระเจ้า และท่านรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรือนั้นลอยอยู่ได้ และลูกเรือทั้งหมดจะเข้มแข็ง ท่านชี้แนะลูก ๆ ที่น่ารักของท่านอย่างอารมณ์ดี  ให้ข้ามมหาสมุทรของโลกและดังนั้น ลูก ๆ จึงร้องเพลง
ผู้ซึ่งสายใยแห่งสติปัญญา
เชื่อมต่อกับผู้สร้าง
จะไม่รู้จักความพ่ายแพ้เลย
แสงแห่งดวงวิญญาณกำลังลุกอย่างโชติช่วง
และไส้คะเกียงก็ไม่สามารถถูกทำให้ดับ
โดยพายุใด ๆ

อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 15







Monday, May 26, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 13


มธุบัน
ถึงแม้ว่าจะมีภารกิจมากมายเป็นร้อย ๆ โครงการ บาบาเคยเขียนจดหมายด้วยลายมือของท่านเอง ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ จดหมายซึ่งเต็มไปด้วยข้อความที่ทำให้สุขใจ  ต่อผู้ที่ได้รับ จนทำให้เขาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า จดหมายเหล่านั้นประเมินค่ามิได้  ผู้คนที่ได้รับจดหมาย และพิสูจน์ว่าจะรักษาความบริสุทธิ์ต่อดวงวิญญาณ และจะแผ่กระแสพลังทั่วทั้งร่างกาย เขาจะคงอยู่ในการาจีต่อไป  การทำงานรับใช้นี้ต่อดวงวิญญาณที่หิวกระหายนับไม่ถ้วนทั่วโลก ขณะที่ลูก ๆ ที่เป็นซีเนียร์ไปยังภูเขาอาบูก่อน เพื่อตระเตรียมที่อยู่แห่งใหม่

B.K.มโนฮ่าอินทิราจิ  ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเขาเหล่านั้นได้จากมาและตรงไปยังภูเขาอาบู ได้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์วันที่บาบามาถึง "เมื่อฉันไปถึงที่อยู่แห่งใหม่ ฉันได้พบงูตัวใหญ่ในห้องชั้นบน  ฉันรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากว่าเราเลือกสถานที่ผิดเสียแล้วสำหรับสถาบัน  ดังนั้นฉันได้พบบาบาที่สนามบิน Okha ฉันกระซิบบอกบาบาว่า "บาบา มีงูอยู่ในที่ที่เราซื้อมา ฉันรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่ฉันจะต้องบอกบาบา"

บาบาตอบด้วยรอยยิ้มที่เข้าใจ "ลูกเอ๋ย ไม่มีอันตรายในสิ่งนั้น งูใหญ่มันไม่มาทำอันตรายอะไรพวกเราหรอก  เราจะต้องต่อสู้กับงูใหญ่ภายในเพียงเท่านั้น แน่นอนบาบาหมายถึง ความทะยานอยากและความโกรธและกิเลสตัวอื่น ๆ " ฉันรู้สึกเป็นสุขอีกครั้งหนึ่ง  และเข้าใจใหม่ว่าบาบานี่เองเป็นผู้เลือกสถานที่แห่งนี้

แต่ทำไมล่ะ  อะไรที่ทำให้บาบาเลือกภูเขาอาบูเป็นสถาบัน  ท่านอธิบายในวันต่อมาว่า เมื่อ 5,000 ปีก่อน เทพองค์แรก บราห์มาได้ทำการชำระสะสางกิเลสที่นี่พร้อม ๆ กับเทวีองค์แรกสรัสวตี บนภูเขาลูกนี้เป็นอนุสรณ์ต่อเหตุการณ์ที่สำคัญนี้  วัดที่สวยที่สุดในโลก Dilwara , Ambamata, Adhherdevi, Kumari Kanya และ  Achalgarh วัดเหล่านี้เล่าเรื่องราวอยู่ในหินอ่อน เกี่ยวกับกลุ่มของโยคีที่เป็นวีรบุรุษ  ผู้ซึ่งเอาชนะความตายโดยผ่านการเชื่อมต่อกับพระเจ้า  และผู้ซึ่งทำให้ดวงวิญญาณ ปรากฏมาจากแก่นในของการทำสมาธิซึ่งบริสุทธิ์และสมบูรณ์  ผู้ซึ่งกลับมาเกิดเป็นเจ้าชายแห่งสุริยวงศ์

ดังนั้น  อีกด้านหนึ่งอนุสรณ์ของสถาบัน  คงอยู่ ณ ที่นี่จากวงจรที่แล้ว  และบัดนี้เหตุการณ์นั้นได้กลับมามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนภูเขาลูกเดิมนี้ เราจะกลับมาเป็นจักรพรรดิแห่งสุริยราชวงศ์อีกครั้ง  ซึ่งเป็นเชื้อสายของวิษณุ สมาชิกของสถาบันก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ใน Brij Kothi  อย่างเรียบร้อย  ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อใหม่ว่า "มธุบัน" ป่าน้ำผึ้ง 

ทุก ๆ วันขลุ่ยแห่งความรู้ได้ถูกบรรเลง  ขณะที่ลูก ๆ โตและแข็งแรงขึ้น เมื่อมีเวลาว่าง บาบาพาพวกเขาไปเดินเล่นบนภูเขา ผู้คนที่มีโอกาสได้เห็นพวกเขา มองดูด้วยความอัศจรรย์ใจต่อขบวนแถวที่งดงามของชัคตีในชุดขาวเหล่านี้  พวกเขาฝันไปหรือ  หรือว่าเป็นภาพนิมิต  พวกเขาไม่เคยพบเห็นสตรีเช่นนี้  ปีนป่ายภูเขาด้วยความกล่องแคล่วสวยงามและเต็มไปด้วยพลัง

ตัวบาบาเองอายุมากกว่า 70 ปี  แต่ท่านยังเดินเร็วและมั่นคงกว่าใคร ๆ ทั้งหมด  ราวกับว่าอาณาจักรสวรรค์นั้นตั้งอยู่บนสันเขา  พวกเขาพักผ่อนอยู่บนยอดสันเขา บาบาพูดเพชรพลอยแห่งความรู้บางอย่าง และเพียงแต่มองเข้าไปในตาของท่าน เหล่าชัคตีก็เข้าไปสู่ฌาณที่ล้ำลึก  บางครั้งก็ร่ายรำอยู่ในฌาณด้วยการปิดตา  มีประสบการณ์ในความคิดว่าพวกเขากำลังเต้นรำกับเจ้าชายกฤษณะ  พวกเขาจะมายังขอบหน้าผา  ผู้ที่เฝ้าดูอยู่จะรู้สึกกลัว  แต่มันไม่มีความจำเป็นเลย จะเป็นไปได้อย่างไรกับผู้ซึ่งมีพระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือจะหล่นลงไป  และในความเป็นจริงไม่มีเคราะห์ร้ายใด ๆ เกิดขึ้น ความปิติของชีวิตคงอยู่อย่างไม่สามารถทำลายได้

หลายครั้งที่บาบาบอกทุกคน  "ไปเป็นกลุ่ม 2 หรือ 3 คน ไปยังเนินเขาเล็ก ๆ ที่แตกต่างกันและนั่งอยู่ในสมาธิ ใช้ความคิดของลูกไตร่ตรองความรู้  เหมือนอย่างเช่นวัวสำรอกอาหารของมันออกมา  เคี้ยวเอื้อง ทำเช่นนั้น  คิดความรู้ที่ลูกได้ยินมาซ้ำ ๆ และคงมันไว้ในความทรงจำของลูก"  เมื่อบราห์มากุมารและบราห์มากุมารีในชุดขาวนั่งอยู่บนยอดเขา  ดูจากข้างล่าง ราวกับว่าเฆมขาวปกคลุมยอดเขา  เมื่อพวกเขาปีนขึ้นเป็นทิวแถว  ผู้คนที่ถนนก็คิดว่านกสีขาวกำลังบินเข้าแถวอยู่บนท้องฟ้า

คนภายนอกคิดว่าชีวิตในศาสนาหมายถึงการสละละทิ้ง  แต่ลูก ๆ ของบาบารู้สึกว่าพวกเขาเพียงแต่โยนขยะทิ้งไป และรับเอาความสุขที่แท้จริงมาแทน ณ ที่นี่ ไม่มีการปฏิเสธตนเอง ยิ่งกว่านั้นลูกบาบาอยู่ในระหว่างวันหยุดตลอดชีวิต  บ่อยครั้งที่หลังจากชั้นเรียนตอนเช้าจะมีประกาศว่า "วันนี้บาบาจะมีปิกนิกกับลูก ๆ "

"ลูก ๆ ที่แสนหวานผู้เป็นที่รัก"  บาบาจะพูดกับพวกเขา  "เราจะไปบนภูเขาวันนี้และนั่งอยู่ในการคิดถึงชิพบาบา  แล้วเราจะเล่าเรื่องที่ล้ำลึกและเต็มไปด้วยความรักแห่งความรู้กัน  และหลังจากนั้นบาบาจะให้ (Prasad) ปราสาด (อาหาร) ด้วยมือของท่านเอง  นี่เป็นครอบครัวทางดวงวิญญาณ และในเวลาเดียวกันก็เป็นมหาวิทยาลัยของพ่อซึ่งเป็นพระเจ้า  พวกเธอทั้งหมดเป็นลูก ๆ ของพระเจ้าที่ท่านรักมาก  แยกจากกันไปหลายสิบชาติ  ได้มาพบกันตอนสิ้นสุดของกัลป์ 

 ดังนั้นมหาสมุทรของความรักจะป้อนลูก ๆ ทุกคนด้วยมือของท่านเองและจะให้ความสนุกสนาน ท่านเป็นผู้ที่ปราศจากรูปที่เป็นวัตถุ  ท่านไม่มีร่างกายเป็นของท่านเอง เพราะเหตุนั้นท่านจึงเข้ามายืมร่างของบราห์มาบาบาผู้นี้ ท่านจะให้ปราสาดของสถาบันด้วยมือคู่นี้ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่และแท้จริง  แม้แต่เทพก็มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าสำหรับปราสาดของสถาบันแห่งนี้

"ลูก ๆ  ลูกนั้นโชคดีมาก  ที่พระเจ้าผู้เป็นหนึ่งเดียวได้ลงมาป้อนอาหารด้วยมือของท่านและให้การศึกษากับลูก ๆ มันเป็นช่วงจังหวะของโชคที่ยิ่งใหญ่ที่ชิพบาบา พระผู้สร้างของ  3 โลกจากพารามธรรม ดินแดนที่ไกลโพ้น (โลกแห่งแสง) มาสอนลูก ๆ  ท่านคือผู้ซึ่งซานยาสซีค้นหาท่านในป่า  เป็นผู้ซึ่งกูรูนั่งในสมาธิภายในถ้ำ  พ่อของพระคริสต์และผู้ให้แรงบันดาลใจกับโมเสส  ผู้ซึ่งคนที่กราบไหว้บูชาพยายามค้นหาตามสถานที่แสวงบุญ ที่ มธุรา (Mathura) และ กาสี (Kashi)  ต้องการได้รับนิมิตของท่านเพียงชั่วขณะ ผู้กราบไหว้ร้องขอพร้อมที่จะตัดศีรษะของพวกเขา และกษัตริย์ก็พร้อมทีจะสละอาณาจักรของตน  พ่อผู้เป็นที่รักเช่นนี้ได้มาและสอนลูก พูดกับลูกด้วยความรัก เล่นกับลูก ท่านเป็นเพื่อนของลูก ให้พรแก่ลูกผู้ซึ่งทำให้ลูกมีโชคสว่างไสวและเป็นประกาย  มีเพลงที่โด่งดังเกี่ยวกับการพบปะกับพระเจ้าในชีวิตนี้ แต่สำหรับมนุษย์ทางโลก การที่จะคิดถึงท่านได้ในร่างของมนุษย์ธรรมดานี้เป็นสิ่งที่ยาก มันมีม่านมาบังตาผู้คนเหล่านั้น  พวกเขาไม่ได้เชื่อสิ่งใดเลยนอกจากวัตถุ"

บาบาให้ความรักกับเราอย่างเต็มที่ ทุก ๆ คำพูดที่ท่านพูดออกมา ทำให้เราถูกผลักดันให้ทำแต่สิ่งดี ๆ ท่านวางแผนที่จะไปปิกนิก  แล้วพวกเราก็เตรียมการอย่างเร่งรีบ  ด้วยการเหลือบมองด้วยสายตาหันไปรอบ ๆ "ลูก ๆ ลูกกำลังอยู่ในการคิดถึงชิพบาบา ลูก ๆ กำลังเดินตามหลังใครอยู่หรือ ถ้าลูกอยู่ในโยคะ ลูกจะมีรายได้เป็นล้านในแต่ละก้าวที่ก้าวไป"

ต่อจากนั้นท่านจะหยุด  "ลูก ๆ เดินไปข้างหน้า แล้วพ่อจะตามไปข้างหลังลูก คนเลี้ยงวัวจะอยู่ข้างหลังวัวเสมอ  พ่อจะต้องดูแลลูกไม่ให้หลงทาง  แล้วเมื่อหนทางมีอันตรายท่านจะมาอยู่ข้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง" "ผู้นำทางจะต้องบอกทางและผู้แสวงบุญจะเดินอยู่ข้างหลังท่าน"

ขณะที่มือของท่านจูงเด็กหญิงเล็ก ๆ ท่านถามว่า  "ลูก มือของใครที่ลูกกำลังจูงอยู่  มันเป็นมือของชิพบาบา หรือ บราห์มาบาบา ลูกอย่าได้ปล่อยมือนี้ไป รู้หรือไม่ว่าลูกจะถูกนำไปที่ใดด้วยการยืดมือนี้ไว้"

ในขณะต่อมา ท่านถามอีกคนหนึ่งว่า "ลูกกำลังเดินอยู่กับใคร"  ท่านได้รับคำตอบว่า  "กับบาบา"  บาบาตอบ "ใช่ ลูกรัก  แต่ลูกคิดถึงหรือเปล่าว่าลูกจะได้รับมรดกอะไรจากบาบา ?  เดินไปในความสุขของการได้รับมรดก  สำหรับบาบาแล้ว บาบากำลังสอน ราชโยคะ แก่ลูก ๆ และท่านต้องการจะทำให้ลูกเป็นกษัตริย์ของเหล่ากษัตริย์ทั้งหมด"

บางครั้งท่านก็เริ่มเดินด้วยความเร็วสูงมาก  เมื่อท่านทิ้งทั้งหมดไว้ห่างไกล  "ดูสิ  นี่หรือคือกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของ ชัคตี ลูกถูกทิ้งไว้เบื้องหลังไกลมาก คนหนุ่มก็กลายมาเป็นคนแก่" แล้วท่านอธิบายว่า มีเครื่องยนต์ 2 เครื่องในร่างกายนี้ หนึ่งนั้นคือดวงวิญญาณของบราห์มา สองคือดวงวิญญาณของชิพบาบา และดังนั้นร่างกายของบาบานี้จึงเดินเร็ว"

บางครั้งท่านจะพิจารณาอย่างรอบคอบที่จะพาลูก ๆ ไปบนถนนที่ขรุขระบนภูเขา แม่หลายคนผู้ซึ่งแก่และไม่สามารถปีนป่ายพูดว่า  "บาบา บาบา หยุด  ทำไมท่านมาเลือกทางนี้  ไม่มีที่ที่จะจับยึดเลย มีแต่หินก้อนกลม ๆ ที่ลื่น แล้วเราจะเหยียบไปตรงไหนล่ะ"  แล้วบาบาก็จะยื่นมือของท่านออกไปและให้การช่วยเหลือพวกเขา

ด้วยการเป็นผู้ค้ำจุนให้กับหัวใจทุกดวงและความคิด แม้แต่ในเรื่องที่เล็กมากในทางปฏิบัติ พระเจ้านำพวกเขาเข้าสู่ความคิดถึงของท่าน เมื่อลูกบางคนหมดทางที่จะช่วยตัวเอง พวกเขาก็คร่ำครวญออกมา  "บาบา โปรดพอเถิด กรุณาอย่าให้มันเกิดเช่นนั้นอีก  บาบาที่รักขอให้มันหยุดแค่นี้เถิด"  บางครั้งท่านก็ให้พวกเขา  ดังนั้นพวกเขาจึงพอใจ  "ดูสิ บาบาฟังพวกเรา"  บางครั้งบาบาไม่เชื่อพวกเขา แล้วพวกเขาก็เคยหัวเราะกัน  "ดูสิ บาบาไม่ฟังในสิ่งที่เราพูด"  มีการเล่นหัวและความรักในทุก ๆ การกระทำ ในทุก ๆ การสนทนามีความรู้สึกที่สูงส่ง สำหรับความสุขของกันและกัน

ด้านหนึ่งเป็นการศึกษา อีกด้านหนึ่งคือการสอบ ลูก ๆ ของสถาบันทำตาปาเซียบนภูเขาอาบู  เหมือนเช่น ภาวาตี ทำสาธนา ก่อนจะแต่งงานกับชีว่า การศึกษา โยคะ การเปลี่ยนแปลง งานรับใช้  ทุกการกระทำเป็นเพื่อยกระดับการกระทำ  ความยากลำบากก็มีอยู่ที่นั่นด้วย เพื่อทำให้พวกเขาระมัดระวังตัวเขาเอง  ในหัวข้อนี้ B.K.Vishwa Ratanji ผู้ที่อาศัยอยู่ในมธุบันเล่าว่า

"Brij Kothi  อยู่ใกล้กับป่าช้าฝังศพ ในพื้นที่ที่เปลี่ยว มันเป็นที่ว่างเปล่ามาช้านานก่อนที่ลูก ๆ จะมา ประชากรของอาบูพูดว่ามีผีร้ายอาศัยอยู่ในบ้าน  ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตเมืองและติดกับป่า มีงูใหญ่และสัตว์อื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง"

"สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างความกลัวใด  ๆ ให้กับพวกเขา ถ้างูผ่านเข้ามาให้เห็น พวกเขาก็ดูมันอย่างละวาง "เราเป็นของชิพบาบา พวกเขาคิดกับตนเอง แล้วพวกเราก็ไม่เคยทำร้ายสิ่งสร้างของโลกเหล่านี้เลย ดังนั้นทำไมพวกเขาจะมาทำร้ายเราล่ะ ?"  หลายครั้งวิญญาณร้ายได้มาแต่เพราะพลังของโยคะ  และความบริสุทธิ์ พวกเขาไม่สามารถทนได้  ในที่สุดผีร้ายก็ถูกบังคับให้ไปอยู่ที่อื่น  เพราะที่นี่เทวีทั้งหลายกำลังเติบโตในพลัง  เรียนรู้ที่จะมีชัยชนะเหนือปีศาจร้ายของโลกกว้างแห่งความทะยานอยาก  ความโกรธ  ความโลภ  หยิ่งทะนง และกิเลสอื่น ๆ พวกเขาประคองจิตใจให้มีความสัมพันธ์กับชิพบาบาผู้ประทานชัยชนะโดยการมีสัมพันธ์นี้  พวกเขากลายเป็นผู้ที่ไม่สามารถทำให้แพ้ได้  พวกเขาหมดความเกรงกลัวต่อผู้คนที่เต็มไปด้วยตัณหาความทะยานอยาก ที่มีพิษยิ่งกว่างูใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิษ  แล้วพวกเขาจะรู้สึกกลัวต่อสถานที่เปลี่ยว หรืองูที่เลื้อยไปได้อย่างไร ในทางตรงข้าม พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้พลังโยคะที่มั่นคงเพิ่มขึ้น  จากสถานที่และบรรยากาศที่เปล่าเปลี่ยวนี้ ใช่  พวกเขาชอบสถานที่นี้เป็นอย่างมาก

ในวันเหล่านั้นหลังจากสงคราม ต้องมีการปันส่วนข้าวสาลีที่ภูเขาอาบู  แป้งสาลีหาได้น้อยมาก  มันยังมีแป้งข้าวโพดและธัญพืช  และข้าวคุณภาพต่ำก็มีอยู่บ้าง  แม้กระนั้นปริมาณก็ยังไม่พอเพียง รสชาติที่แปลกของน้ำแร่บนภูเขาอาบู  และอากาศที่แห้งและเบาบาง เป็นเครื่องทดสอบสำหรับลูก ๆ ของสถาบัน  หลายคนมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและไม่เคยมีประสบการณ์ที่ยากลำบากทางร่างกาย  ตอนนี้พวกเขาได้บทเรียนความอดทน ความประหยัด และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์

"พวกเขาผ่านข้อสอบของความหิว ความกระหาย และอากาศ พวกเขากลายเป็นคนกินน้อย แต่วันหนึ่งข้อสอบจริงก็มา ชิพบาบาออกคำสั่งให้พวกเขากินแต่เพียงโรตีและบัตเตอร์มิลล์ 15 วัน  แม้แต่ลูกที่ป่วยก็ต้องกินเช่นเดียวกัน  ดวงวิญญาณหลายดวงมีคำถามว่า คนป่วยจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างไรด้วยอาหารเพียงเท่านั้น  พวกเขาจะไม่ป่วยมากขึ้นไปหรือ แต่คนที่ป่วยยอมรับอาหาร โดยปราศจากแม้แต่ความคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น แล้วด้วยศรัทธาที่สมบูรณ์พร้อมนั้น  อะไรก็ตามที่ได้รับจากบาบา คือ บราห์มาโบจัน เป็นยาขนานเอกของทั้งหมด และในไม่ช้า สุขภาพของทุกคนก็ดีขึ้น  จากเหตุการณ์นี้ บทเรียนได้ฝังรากอย่างลึกด้วยการกินตามคำสั่งของบาบา  ประโยชน์อย่างมากจะได้รับเสมอ  ความคิดที่ว่าจะมีโทษจากสิ่งที่พระเจ้าพูด เป็นความผิดที่ใหญ่ที่สุด จากนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าสถานการณ์จะดูเหมือนพลิกผันอย่างไร พวกเขาก็ค้นพบว่ามีประโยชน์ในสถานการณ์นั้น

ดวงวิญญาณผู้ซึ่งเป็นทายาทของบราห์มา ได้ค้นพบว่า การสรรเสริญและการประฌาม ชัยชนะและพ่ายแพ้ สูญเสียหรือได้กำไร หิวและกระหาย ร้อนและเย็น ยากจนและร่ำรวย ทุกอย่างเป็นคู่ของความตรงข้ามกันทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งทดสอบ  ซึ่งมาถึงโยคีคนหนึ่งในช่วงชีวิตของเขาด้วยการคิดถึงพระเจ้าและศรัทธาที่ไม่มีขีดจำกัด  ผู้คนก็สามารถเผชิญทุกสถานการณ์ด้วยใบหน้าที่สดชื่น

อ่านต่อ  >>>> อดิเทพ ตอนที่  3 # 14

Saturday, May 10, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 12


มหาวิทยาลัยแห่งโลกของพระเจ้า
การย้ายสถาบันไปจากการาจี ไปภูเขาอาบูไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ตั้งแห่งใหม่ถูกเลือกขึ้นมาได้อย่างไร มันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ณ ที่นี่ ได้ถูกนำมาเล่าให้ฟังโดยหัวหน้าคณะผู้นำของมหาวิทยาลัยคนปัจจุบัน B.K.มานโมฮีนีจี รู้จักกันในนามดีดี้
"ฉันมีญาติที่ร่ำรวยมากในอินเดีย พวกเขาต้องการให้ฉันออกมาจากปากีสถานและบาบาก็ต้องการให้ฉันกลับมารับใช้อินเดีย  ดังนั้นเมื่อฉันได้รับตั๋วเครื่องบินและคำเชิญจากญาติของฉัน ฉันบินไปบอมเบย์พร้อมกับซิสเตอร์อื่น ๆ"

"ญาติ ๆ ฉันมารับพวกเราที่สนามบินพร้อมด้วยพวงมาลััยดอกไม้สำหรับพวกเรา  แต่บาบาได้บอกพวกเราไม่ให้รับการสักการะบูชา และพวงมาลัยซึ่งเป็นของที่จะถวายให้กับเทวาและเทวีที่บริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมเท่านั้น  แน่ละ ขณะที่เรายังทำความเพียรพยายามเพื่อบรรลุความบริสุทธิ์ เรายังไม่ได้ทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ  ด้วยเหตุนี้เราจึงปฏิเสธพวงมาลัยและอธิบายถึงคำแนะนำของบาบาให้กับพวกเขาฟัง  เราระมัดระวังที่จะทำตามคำแนะนำและคำสั่งของบาบา  ขณะที่อยู่ในการทำภารกิจนี้  ในที่สุดเรามาถึงบ้านของเขา  พวกเขาจัดเตรียมห้องที่สวยงาม 2 ห้อง ไว้สำหรับพวกเรา  และได้เตรียมห้องไว้อีกห้องหนึ่งซึ่งพวกเราสามารถพบปะกับผู้คน ผู้ซึ่งต้องการศึกษาความรู้ของพระเจ้า และเรียนรู้ศิลปะของการทำสมาธิ"

นับแต่วันนั้น ผู้คนก็เริ่มมาเพื่อเป้าหมายนั้น  บุคลลคนเดียวกันซึ่งเมื่อหลายปีก่อน  ซึ่งทำร้ายร่างกายเราและข่มขู่พยายามทำร้ายจิตใจเราด้วยการด่าทอและเป็นผู้ซึ่งเพียรพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดยั้งเราไม่ให้ไปที่โอมมันดาลี ผู้คนเหล่านั้นนั่นเองที่ขณะนี้กระตือรือร้นที่จะฟังความรู้ เพราะว่าพวกเขาประทับใจในวิถีชีวิตของพวกเรา  พวกเรามีความสุขมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสอนญาติ ๆ ของเรา บาบาพูดเสมอว่า บุญเริ่มต้นที่บ้าน บราห์มากุมารีเป็นคนซึ่งสามารถยกระดับได้ทั้งพ่อของเธอ และก็ครอบครัวของพ่อสามี ดังนั้นเราพอใจที่ญาติ ๆ ของเราทำตามคำแนะนำของพระเจ้า

เราอยู่ที่นั่น 2 เดือน ไม่ว่างเว้นอยู่ตลอดเวลากับงานรับใช้ บ่อยครั้งที่ญาติของเราจะพาไปเที่ยวชมในบอมเบย์  แต่พวกเราปฏิเสธ โลกนี้ไม่มีสีสรรและรสชาติสำหรับเราอย่างแท้จริง "เราจะไปเที่ยวชมในสวรรค์"  เราเล่าให้พวกเขาฟัง  "ณ ที่นั่นเราจะอยู่ในพระราชวังที่ทำด้วยทองคำและเงิน เราจะบินไปด้วยเครื่องบินที่ยอดเยี่ยม และใช้พลังงานอะตอมมิคในการขับเคลื่อนและควบคุมทิศทางด้วยพลังของความคิด ผู้คน ณ ที่นั่นจะมีความสุข มันจึงเป็นความสนุกที่จะได้พบแต่ละดวงวิญญาณ ที่นี่คือนรกและทำไมเราจึงต้องปรารถนาที่จะไปเที่ยวชมทวีปที่โหดร้ายเช่นนี้  นี่เป็นอินเดียแห่งกาลียุคใช่ไหมล่ะ"  เหมือนอย่างเช่นบทประพันธ์ได้เขียนไว้ว่า

อินเดียได้สูญเสียความศรัทธาของเธอ
เธอเคยเป็นเทพที่ควรแก่การคราบไหว้บูชา
วันนี้ได้กลายเป็นผู้กราบไหว้ร้องขอ
ความบริสุทธิ์ของเธอในอดีตดูเหมือนเป็นแต่เพียงความฝัน
สำหรับวันนี้เราทุกคนเป็นเพียงขอทาน
ความพึงพอใจทางประสาทสัมผัสได้ดึงเราต่ำลงมา
ส่งเราไปสู่ความตาย
ความหลงไหลในร่างกายเป็นภาพลวงตาของงูร้าย
ด้วยการ ขบกัดเพียงครั้งเดียวและจิตใจของเราก็ถูกบดขยี้
บัดนี้มีบางคนพูดว่า ในทุกสิ่งมีพระเจ้า
แต่บางคน ก็พูดว่า ไม่มีพระเจ้า
เราได้ยินเรื่องราวมากมาย ตราบที่พวกเขามีปากที่จะพูด
แต่ไม่มีใครสักคนที่จะรู้จักความจริง

ดีดี้เล่าต่อ  "ไม่มีใครรู้สักสิ่งเดียว จนกระทั่งชิพบาบาได้ให้ดวงตาคู้ใหม่กับเรา ตอนนี้เรารู้จักโลกสวรรค์  ดังนั้นเราจะปรารถนาอะไรในบอมเบย์ ซึ่งมีแต่สิ่งลวงตา ในไม่ช้พวกเขาก็หยุดความพยายามที่จะชักนำดีดี้และคนอื่น ๆ ให้ออกไปเที่ยว ข้อทดสอบต่อไปสำหรับซิสเตอร์เกี่ยวกับเรื่องอาหาร  เจ้าของบ้านได้นำอาหารท่ี่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ชนิด มาให้พวกเธอทุก ๆ มื้อ แต่แทนที่จะยอมจำนนต่อการจูงใจเช่นนี้ พวกเธอก็ทำเพียงโรตีแค่สองอันด้วยมือของพวกเธอเองและกินกับผัก หลังจากอาหารค่ำดีดี้รายงาน พวกเราร้องเพลงของพระเจ้า ดังนั้นพวกเราก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้คนที่เราอยู่ร่วมกับพวกเขา พวกเขาเห็นว่าไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ ของพวกเขา หรือความพอใจที่จะดึงดูดเราได้  การสละละทิ้งของพวกเราทำให้พวกเขาเกรงใจ  พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเราได้มีประสบการณ์ของความสุข  ซึ่งพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะฝันถึงได้  พวกเขาต้องการให้เราพักอยู่กับพวกเขาต่อไป  แต่ในที่สุดเราก็เตรียมตัวกลับการาจี  มันเป็นเวลาที่จะต้องไป  บัดนี้เราได้ให้ข่าวสารของเรากับพวกเขา บางคนแต่งเพลงขึ้นมาอย่างไพเราะ"

โอ้ดวงวิญญาณที่สุขสกาว คิดถึงพ่อชีว่า
จงมารับสิทธิ ที่เป็นของท่าน
เวลาปัจจุบันเป็นยุคแห่งการบรรจบพบกัน
การพบปะของลูก ๆ กับพระเจ้า 
ชีว่าได้มายังโลกนี้อีกครั้ง
และผ่านปากที่บริสุทธิ์เช่นดอกบัวของบราห์มา
ก็ได้ขับกล่อมเพลงของสัจจะอีกครั้งหนึ่ง
ในไม่ช้าเราจะเป็นพยานต่อการจบสิ้นของโลก
วันที่น่าสะพรึงกลัวกำลังรอด้วยอาการอ้าปากค้าง
นั้นเป็นวาระสุดท้ายของทุก ๆ คน
ดังนั้นบาบาก็สอนพวกเราทุกคน
ชีว่าชัคตีและกองทัพพันดาพกำลัังเป่าแตรสัญญาณแห่งสวรรค์
ด้วยการนำของพระเจ้าด้วยตัวท่านเอง
การประกาศสงครามได้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ความตายมาสู่ผู้อ่อนแอ
ความตายมาสู่กิเลส ความตายมาสู่ความตายด้วยตัวของมันเอง
ความชั่วร้ายจะต้องถูกทำลายไป
และนำชีวิตไปสู่โลกที่บริสุทธิ์

เรากลับไปหาบาบา เราได้สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้คนมากมายในบอมเบย์ หลังจากนั้นเล็กน้อย ญาติของเราก็ส่งจดหมายเชิญเราทั้งหมดให้ย้ายกลับไปอินเดีย  พวกเขาจะออกค่าใช้จ่ายสำหรับการขนย้ายทั้งหมด บาบาส่งโทรเลขกลับไป  "จะรับคำเชิญจากผู้ที่มีความปรารถนาที่จะฟังความรู้เท่านั้น และจากผู้ซึ่งต้องการที่จะประพฤติตนตามกฏของพระเจ้า"

พวกเขายอมรับเงื่อนไข พวกเขาขอร้องพวกเราให้หาที่ตั้งที่ใดก็ได้ที่เราต้องการ ดังนั้นฉัน และ B.K. Lilavatiji ก็ได้ไปตรวจสอบไปดูอาคารหลายแห่งที่ ปูนา และ อัมมาดาบัด แต่ไม่สามารถหาสถานที่ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 250-300 คน มีคนสำคัญหลายคนช่วยเราในการหาสถานที่และเราก็ได้ผูกมิตรอย่างมากมาย  เพื่อมหาวิทยาลัยของพระเจ้า (กูรูคนหนึ่ง สิทธานันดาจี ช่วยพวกเราเป็นอย่างมากและสุดท้ายก็มาเยี่ยมพวกเรา  เมื่อเราได้ก่อตั้งภูเขาอาบูเสร็จ ในการอำลาจาก เขาพูดว่า  "ฉันเคยมีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงและผู้ชายอยู่ร่วมกัน พวกเขาจะไม่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้เลย  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน  ที่ฉันมีประสบการณ์ว่ามันเป็นไปได้จากหลาย ๆ วันที่ฉันอาศัยอยู่ที่นี่  ไม่มีสักวันเลยที่ฉันจะมีสำนึกว่านั่นเป็นหญิงนั่นเป็นชาย  แต่เป็นดวงวิญญาณอยู่อย่างสม่ำเสมอที่ฉันเห็น  และโดยปกติในสำนึกของดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่หลังจากที่อยู่กับ คาร์มา ซานยาสซี (Karma Sanyasis)  นิมิตของดวงตาของความคิดของฉันก็ไม่เคยบริสุทธิ์ดังกล่าวเลย"

"ในที่สุดการเสาะหาของเราก็นำเรามายังภูเขาอาบู  ญาติบางคนของเราก็มาเป็นเพื่อน ขณะที่พยายามหาบ้านกับซิสเตอร์ Rukmaniji ฉันได้ผ่านที่พักอันว่างเปล่าของกษัตริย์ ฉันชอบมัน สถานที่นั้นชื่อว่า Brij Kothi  ถ้ามองกันอย่างทางโลก  มันไม่สวยมาก  แต่ทันทีที่ฉันเห็นมัน ฉันก็คิดถึงคำพูดของบาบา ซึ่งทำให้ฉันสรุปได้ทันทีว่านี่คือที่ตั้งที่ถูกต้องสำหรับพวกเรา  หลายปีก่อนหน้านี้บาบาได้พูดไว้  "ลูก  ๆ ในตอนท้าย  ลูก ๆ ซึ่งเป็นบราห์มินก็จะเดินทางไปยังภูเขาและทำการชำระสะสางที่นั่น  และลูกก็จะพักอยู่ ณ ที่พักอาศัยของกษัตริย์"  คำพูดของบาบาได้เข้ามาในจิตใจอย่างรุนแรงจนกระทั่งฉันเชื่อว่า ภูเขาอาบูนี้เองเป็นภูเขาที่บาบาพูดถึง และที่พักแห่งนี้ของเรา เป็นบ้านที่เรากำหนดไว้ในตอนท้าย  บาบาพูดว่า  "ขณะที่ทำสมาธิบนภูเขาลูกก็จะออกจากร่าง"  ฉันรีบกลับไป อัมมาดาบัดและโทรศัพท์ถึงบาบาที่คาราจี  และขอคำแนะนำจากท่านเกี่ยวกับ Brij Kothi  บาบาอนุญาตให้ทันทีที่จะรับเองสถานที่นี้ แล้วท่านก็ให้โอกาสพวกเราหาบ้านด้วยตัวเราเอง  เพราะท่านเชื่อในพลังโยคะของพวกเรา  และท่านหวังว่าเราจะได้ทำงานรับใช้ เรามีความสุขอย่างที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นตามละคร"

บาบาได้ส่งบราเดอร์ Vishwa Kishore  ซึ่งมีความสามารถไปยังภูเขาอาบู  และจัดการซื้อ Brij Kothi บราเดอร์ Vishwa Kishor (ชื่อที่บาบาตั้งให้มีความหมายว่า เจ้าชายของโลก)  เขาเป็นหนึ่งในเพชรพลอยที่มีค่าที่โด่งดังที่สุดของกัลกัตต้า  ก่อนที่จะเข้ามาในความรู้ของพระเจ้าเขาเป็นหลานของบราห์มาบาบา  แล้วเขาก็มีความรักความเคารพอย่างสูงต่อบาบา  บาบาได้ให้ความรู้ทั้งหมดในธุรกิจค้าเพชรแก่เขา

เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้เข้ามาครอบครองชีวิตของดาด้า  และท่านได้ยุติในอาชีพของท่าน Vishwa Kishore  ก็ต้องการที่จะละทิ้งชีวิตทางโลกด้วยเช่นกัน  "ฉันควรจะติดตามบาบา"  เขาตันสินใจ แต่เมื่อพูดความปรารถนาของเขากับบาบา บาบาบอกให้เขารอไปก่อน ให้ทำงานต่อไป"  ในเวลาที่เหมาะสม เธอจะได้รับคำแนะนำให้อุทิศตนให้กับพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ"

Vishwa Kishore  เป็นชายที่มีความลับของการที่จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขภายใต้ทุก ๆ สถานการณ์  อะไรก็ตามที่บาบาแนะนำ  เขาพร้อมที่จะทำตาม หลายปีต่อมา เขาได้รับการบันดาลใจที่จะอุทิศตนในสถาบันความรู้ของพระเจ้าแห่งนี้  มันเป็นการบันดาลใจภายใน  ไม่ใช่อิทธิพลจาก บราเดอร์

บราเดอร์ Vishwa Kishore   มีประสบการณ์ มีความคิด การตัดสินใจ  ที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความซื่อตรง  เขามาเจรจาและประสบความสำเร็จในการซื้อบ้านและที่ดิน

อ่านต่อ  >>>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 13

Friday, May 9, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 11


พันดาพในสนามรบ
ในที่สุดสมาชิกของสถาบันเข้าเทียบท่าที่เรือของ Okha จากที่นั่นพวกเขาตรงไปยังภูเขาอาบูโดยรถไฟ  ภูเขาทั้งลูกเป็นที่แสวงบุญสำหรับนักบุญและนักปราชญ์ และ ณ ที่นี่เป็นสถานที่ที่อยู่ในการคิดถึงของประชาปิตาบราห์มาที่เร้นลับ  วัดดีลวาราที่น่ารัก (Dilwara)  เป็นที่ตั้งที่ประดิษฐานรูปของอดิเทพ 2 รูป  เป็นเทพองค์แรกที่ถูกสร้างขึ้น  รูปปั้นแรกสีดำ อีกรูปหนึ่งเป็นสีขาว  ทั้งสองเป็นตัวแทนของบราห์มาบาบา  ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากความไม่บริสุทธิ์คือองค์ดำไปสู่ความสมบูรณ์พร้อมคือองค์ขาว  ในผนังในวัดเป็นกรอบขนาด 108 นิ้ว  ซึ่งบรรจุไว้ด้วยโยคีที่อยู่ในการทำสมาธิ  เป็นบรรยากาที่สงบเงียบและสันโดษที่ปรากฏอยู่ทั่วไป

ร่างกายถูกแสดงให้เห็นว่าเปลือยเปล่า  ซึ่งชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเข้าสู่สภาวะของการเป็นดวงวิญญาณ  เพชรเม็ดใหญ่อยู่ตรงหัวใจของโยคีรูปนั้น  เพื่อแสดงถึงความรักที่คงที่ต่อชิพบาบา  แต่ละคนมีดวงตาที่สาม  เพื่อแสดงถึงการครอบครองไว้ซึ่งความรู้สูงสุด เหตุผลที่มี 108 โยคีเช่นนี้เป็นเพราะว่าจากดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก มีเพียงจำนวน 108 นี้เท่านั้นที่สามารถทำลายสำนึกแห่งความเป็นร่างได้อย่างหมดจดและ ดังนั้นจึงเป็นการมีชัยเหนือความตาย มีจิตใจที่ท่วมท้นไปด้วยสัจจะนั่นคือวัดดีลวาราทั้งหมด  ซึ่งหมายถึงผู้ซึ่งขโมยหัวใจของท่านไป สะท้อนเหตุการณ์จริง ๆ  ซึ่งเกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันเป็นความเคลิบเคลิ้มอย่างเต็มที่สำหรับลูก ๆ ของบาบาที่ได้มาเยือนสถานที่วิจิตรงดงามเช่นนี้  และเห็นตัวเองในรูปหินอ่อน  ซึ่งเป็นอนุสรณ์อยู่ตลอดไป ไม่มีใครในโลกนี้แม้แต่คนเดียวที่สามารถจะเข้าใจได้  ภูเขาอาบูมีชื่อเสียงในคัมภีร์ว่าพระเจ้าชีว่าได้ลงมา แต่ใครล่ะที่จะเชื่อว่าชิพบาบาอยู่ ณ ที่นี่  ณ ขณะนี้  ด้วยคำสั่งของท่านสถาบันถูกตั้งขึ้น ณ ที่นี่ เพื่องานอันดับสุดท้าย

กวีที่ยิ่งใหญ่ Shuklaji  มาพบบราห์มาบาบา หลังจากที่บราห์มาบาบามาถึงไม่นานนัก และคำประพันธ์ก็ได้เกิดขึ้น
คำสรรเสริญแซ่ซ้องที่มีสำหรับภูเขาอาบูนั้นมีมากมายสุดคณานับ
ช่างสวยงามวิจิตรตระการตาเสียนี่กระไร  สถานที่นี้
เปลวไฟแห่งความรู้ได้ลุกโพลงเผาผลาญ ณ ที่นั่น
สิ่งลวงตาทั้งหลายถึงกาลวินาศโดยบัดดล
ณ กาลเวลาที่ิชิพบาบาได้ลงมา ณ ภูเขาอาบู
ด้วยของขวัญซึ่งเป็นของฝากสำหรับทุก ๆ ดวงวิญญาณ
ท่านได้มาสอนศาสนาที่แท้จริง ณ ที่นี่
และแล้วสัตยุคก็ถูกก่อตั้งขึ้นดั่งการตั้งครรภ์
ณ จุดสุดท้ายของทุก ๆ กัลป์
กีตะก็ถูกบรรเลงซ้ำ
ผ่านความรู้ของพ่อผู้ไร้ร่าง
มันเกิดขึ้นทีละคนทีละคน
คนที่ไม่รู้จักชีว่า
ก็จะไม่รู้จักตนเอง
คนที่ไม่สามารถเข้าใจได้
แล้วชีวิตของเขาจะมีค่าอะไรเล่า ?
นี่เป็นประสบการณ์ของข้าพเจ้า
อะไรก็ตามที่ข้าได้ยินมา
ข้าทำให้ท่านได้ยินเช่นเดียวกัน
อะไรที่ข้าได้พบเห็น
ข้าเขียนมันลงไป

งานของพระเจ้าดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว ในคัมภีร์มหาภารัตได้ถูกเขียนไว้ว่าพันดาพได้ลี้ภัยไปอยู่ในป่า 12 ปี  และอยู่ในการหลบซ่อนตัวเป็นเวลา 1 ปี และนี่เองที่พวกเขาจึงจะสามารถออกมาสู่สงครามได้  สถาบันได้อยู่ในซินดิเป็นเวลา 13 ปี (1937 - 1950) ด้วยการอยู่ในความสันโดษจากผู้คนภายนอก 12 ปี และ 1 ปี ที่ใช้เวลาในการฝึกฝนในการเพ่งเพียรพยายามอย่างล้ำลึก  หรือเรียกว่า ตาปาเซีย  ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็มีภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากสิ่งชั่วร้าย กลายเป็นโยคีที่มั่นคง แล้วในที่สุดพวกเขาก็ออกมาเปิดเผยตัวเองเพื่อการมีชัยชนะเหนือมายา  ช่วงเวลาของโกปี้ได้สิ้นสุดลง  ตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นแม่น้ำคงคาแห่งความรู้ที่ลึกและสามารถชำระล้างด้วยความรัก  เช่นนี้เองที่ลูก ๆ ของพระเจ้าเริ่มต้นภารกิจเหนือมนุษย์ของพวกเขา ด้วยการยกระดับอินเดียและโลกอีกครั้งหนึ่ง จากสภาพที่ตกต่ำไปสู่สภาพของความบริสุทธิ์ พวกเขาร้องรำด้วยความสุขต่อความท้าทายที่อยู่ข้างหน้า
เรากำลังเปลี่ยนแปลงโลก
และพวกเราสอนราชโยคะ
ครั้งหนึ่งพระราชวังของเราทำด้วยทองคำ
พวกเรามีอาณาจักรเดียว
มีศาสนาเดียว
เป็นโลกแห่งความสุข
รีบเร่งร่วมในการสร้างโลกนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เราคือผู้เปลี่ยนแปลงตัวของเราเอง
และพวกเราก็สอนราชโยคะ

อ่านต่อ >>>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 12

Tuesday, May 6, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 10



กลับสู่ภารัต
2-3 ปีผ่านไป  ตั้งแต่ญาติ ๆ ของสมาชิกของสถาบันได้ลี้ภัยจากปากีสถานไปสู่อินเดีย เขาไม่รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับโอมมันดาลีและเคยได้ฟังมาว่า  มหาวิทยาลัยของพระเจ้าได้ถูกปิดลงโดยพวกมุสลิม  และสมาชิกทั้งหมดได้กระจัดกระจายไป

เมื่อพวกเขาได้รู้ภายหลังว่าโอมมันดาลียังคงอยู่ในปากีสถาน  พวกเขาเขียนจดหมายขอร้องให้นำสถาบันกลับไปยังอินเดีย พวกเขาเกรงว่าบางทีมุสลิมชาวปากีสถานจะโจมตีสถาบัน แต่ในทางตรงกันข้าม พวกมุสลิมกลับปกป้องสถาบัน  พวกเขาเห็นว่ามันป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์  ญาติ ๆ บางคนของลูก ๆ ของสถาบันก็ยืนยันที่จะเชื้อเชิญให้การชุมนุมทางดวงวิญญาณได้กลับไปยังอินเดีย  แล้ววันหนึ่ง ชิพบาบาก็ได้พูดผ่านบราห์มาบาบา และต่อมาภายหลังก็ผ่านลูกสาวผู้นำสาร  ออกคำสั่งว่าบัดนี้ สถาบันควรจะย้ายกลับไปอินเดีย  เพราะว่าผู้คนชาวอินเดียเป็นผู้ที่จะสามารถได้รับประโยชน์สูงสุดจากความรู้ของพระเจ้า  บาบาได้บอกเราว่าจะมีสนามแห่งการทำงานรับใช้ที่ใหญ่กว่า ณ ที่นั่น  และก็ยังท้าทายมากกว่าอีกด้วย

ในที่สุดในปี ค.ศ.1950  ลูก ๆ ก็เตรียมตัวจากการาจี  เมื่อมุสลิมของสังคมชาวซินดิได้ยินข่าวพวกเขาก็พยายามที่จะขอร้องให้อยู่ต่อ  "เราจะให้เครื่องอำนวยความสะดวกสบายที่ดีกว่าแก่พวกท่าน"  พวกเขาพูดว่า  "พวกท่านจะไม่ต้องรับประสบการณ์ของความไม่มีความสุขใด ๆ ที่นี่ แล้วท่านจะจากที่นี่ไปทำไม  มันจะไม่มีการกระทำที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ในประเทศนี้้  เราจะดูแลพวกท่านทั้งหมดในทุก ๆ เรื่อง  ท่านเป็นของพระเจ้า ท่านไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองของฮินดูหรือมุสลิม"

แต่ลูก  ๆ ของสถาบันได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้เดินทางไปยังอินเดีย  ดังนั้น พวกเขาจึงจัดการสำหรับการเดินทางด้วยเรือกลไฟจากการาจีไปยัง  Okha พวกเขาได้ขายอาคารที่่ใช้อาศัยอยู่ทั้งหมด  คนสำคัญ ๆ  ก็ยังพยายามที่จะยับยั้งพวกเขาไม่ให้จากไป  Allah Bakhaji  และ Bulam Hussainji (อดีตหัวหน้าคณะรัฐมนตรี)  และอีกหลาย ๆ คนได้มาด้วยตนเองและพวกเขาก็พอใจในความรู้  "พวกเขาพูดว่า  "พวกท่านอยู่ที่นี่เถิด  เราทุกคนจะช่วยทาน"  แต่ลูก ๆ บอกพวกเขาว่า นี่เป็นคำสั่งของพระเจ้า  เราจะต้องเดินทางกลับอินเดียเพื่อทำงานรับใช้

มีสมาชิกของสถาบัน 400 คนในวันนั้น  เมื่อกระเป๋าสัมภาระถูกกองไว้ที่ท่าเรือการาจี ฝูงชนก็มารวมตัวกัน  มุสลิมและปาทานช่วยโยคีที่อยู่ในชุดขาวทั้ง 400 คน ขนลงเรือ  ผู้คนพื้นบ้านมีความรู้สึกเหมือนกับว่าญาติสนิทของพวกเขากำลังจะจากไป  ทุกคนรู้สึกเศร้าสร้อย ผู้คนชาวปากีสถานผู้มากล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายได้นำดอกไม้มาโปรยใส่สมาชิกของสถาบันราวกับสายฝนซึ่งโปรยปรายลงมา  สมาชิกของสถาบันก็ตอบสนองด้วยสายฝนของดอกไม้ของพวกเขาเอง  โปรยปรายไปยังผู้คนที่น่ารัก  ผู้ซึ่งเฝ้าดูขณะที่เรือค่อย ๆ เคลื่อนออกจากท่า

มันเป็นฉากที่ทำร้ายจิตใจ  แต่เหล่าโยคีรู้สึกเหมือนกับฝูงหงส์ที่กำลังบินจากไป  ไปสู่ฤดูกาลใหม่  บราห์มินคนหนึ่งพูดว่า  เรือไฟลำนี้เป็นเรือแห่งสัจจะ  และพวกเขากำลังข้ามมหาสมุทรของโลก  ในระหว่างการเดินทาง กัปตันและคนอื่น ๆ ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี  พวกเขาพูดอยู่เสมอว่า  "พวกเราสามารถจะให้บริการอะไรกับท่านได้  โปรดบอกพวกเรา"  ชั้นเรียนทางดวงวิญญาณก็คงดำเนินไปตามตารางสอน  ขลุ่ยแห่งความรู้ก็ยังคงบรรเลงเช่นทุกวัน แม้แต่กัปตันก็ฉวยโอกาสอันนี้ด้วย 

อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 11 

Saturday, May 3, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 9


คำสั่งของพระเจ้า :  รับใช้อินเดีย
สิงหาคม ค.ศ.1947 มีประกาศว่าอินเดียจะมีการแบ่งแยก ครอบครัวฮินดูมากมายได้บินออกจากปากีสถานซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่  ผู้คนเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม  บาบาอธิบายกับลูก ๆ ว่า ถึงแม้ว่ามหาตมะคานธี  กำลังทำความพยายามที่จะเอาชนะในการประกาศอิสรภาพและก่อตั้งอาณาจักรของพระเจ้า รามราชยา (Ram Rajya)  ให้เป็นจริง  รามราชยาสามารถที่จะก่อตั้งขึ้นได้เมื่อหญิงและชายแต่ละคนมีความบริสุทธิ์เหมือนรามและสีดา  เมื่อพวกเขาได้กลายเป็นมนุษย์ที่สูงที่สุด ทำตามระเบียบ วิธีปฏิบัติที่สูงที่สุด ทำลายซึ่งโซ่ตรวน แห่งความโกรธ ความทะยานอยาก  ความหยิ่งทะนง  ความโลภ  และความยึดมั่นผูกพัน  ด้วยการวางรากฐานสำหรับอาณาจักรสวรรค์  บาบาเคยพูดว่าพรรคคองเกรส และพรรคอื่น ๆ จะนำอิสรภาพทางการเมืองมาสู่อินเดีย  แต่ไม่ใช่ว่าความสุขและความมั่งคั่งเพราะว่าไม่เคยมีความพยายามที่จะก่อตั้งกฏแห่งความประพฤติที่สูงสุดและบริสุทธิ์  บาบาบอกพวกเรามาก่อนแล้วว่า ชาวฮินดูและมุสลิมจะทำร้ายและฆ่าฟันกัน  เหตุเพราะความทนไม่ได้ในศาสนาของแต่ละฝ่าย  ผู้คนในยุคนี้ได้กลายเป็นปีศาจ  เหตุเพราะความก้าวร้าวและความคิดที่สกปรกของพวกเขา กล่าวสั้น ๆ คือ พวกเขาได้กลายเป็นพวกต่อต้านพระเจ้า

เมื่อมีการฆ่าฟันเริ่มต้นขึ้น  มันไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับพวกเรา หรือทำให้พวกเราตื่นเต้นตกใจกลัว  บาบาได้พิมพ์เผยแพร่คำเตือนของท่านในหนังสือ  และกระตุ้นเตือนเป็นรายบุคคลทั้งนอกและในประเทศ  ท่านได้เขียนจดหมายแสดงต่อสาธารณะในหนังสือพิมพ์  แต่สังคมไม่ได้เชื่อต่อคำเตือนล่วงหน้านั้น  ฮินดูเกือบทั้งหมดบินจากปากีสถานกลับอินเดียหลังจากการแบ่งแยก  แต่สถาบันของพระเจ้าก็ยังอยู่ต่อไปในการาจี  แต่พวกมุสลิมก็ไม่เคยที่จะทำร้ายพวกเขา  บางครั้งเจ้าหน้าที่มุสลิมก็จะมาแล้วถามคำถาม  แต่พวกเขาไม่เคยก้าวร้าว  พวกเขามีความสุขที่ได้รับคำแนะนำให้รู้จักอัลล่าห์

หนึ่งในคำถามของพวกเขาคือ  อะไรคืองานของสถาบันแห่งนี้  พวกเขาได้รับคำตอบว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่คือคนรับใช้ของพระเจ้า  คิดถึงพระเจ้าเพียงผู้เดียว  ฝึกปฏิบัติการละวางและถือความบริสุทธิ์  พวกเราบอกเขาว่า "มุสลิม พูดว่า  พระเจ้าคือสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านไม่ได้กลายเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ ท่านเพียงแต่ได้รับชื่อว่าปากีสถาน (ดินแดนบริสุทธิ์)  ณ บัตนี้ เป็นคำสั่งของพระเจ้าว่าท่านจะต้องกลับมาบริสุทธิ์"  ด้วยการได้รับฟังคำพูดเช่นนี้ พวกเขายอมรับพร้อมด้วยรอยยิ้ม  พวกเขาพูดว่า  "มีอะไรที่พวกเราสามารถจะช่วยท่านได้  ขอให้บอกเรา  ท่านเป็นผู้คนที่ประเสริฐมาก  มันเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะให้การบริการท่าน  เพราะท่านสักการะบูชาพระเจ้าและพวกท่านบริสุทธิ์"

อ่านต่อ >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 #10

Tuesday, April 29, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 8


บทเรียนของความอุตสาหะ
บางครั้งบาบาก็จะไปในครัวและช่วยตระเตรียมอาหาร ท่านจะให้โยคะ ดริชตี (การให้พลังผ่านดวงตาที่สาม)  และพูดคำพูดที่แสนหวาน "ลูกสาวของพ่อ ถ้าลูกทำอาหารอยู่ในการคิดถึงชิพบาบา มันจะมีพลังในอาหาร ให้คิดว่าลูกกำลังตระเตรียมอาหารสำหรับท่าน นี่คือสถาบันของชิพบาบาที่ไม่สามารถทำลายได้ เก็บความคิดนี้ไว้ในจิตใจขณะที่ลูกทำงาน"

ถ้าบางคนกำลังเย็บผ้าโดยไม่มีจักรเย็บเป็นเครื่องช่วย  ซึ่งจะต้องใช้ความอุตสาหะ บาบาจะมาเพื่อจุดประกายบรรยากาศ  การปรากฏตัวของท่าน ทำให้ดวงวิญญาณมีความสุข และท่านก็ไม่เคยหมดสิ้นซึ่งเพชรพลอยแห่งความรู้ บาบากล่าวว่า  "ลูก ๆ ทางดวงวิญญาณ ขณะที่ลูกทำงานด้วยอวัยวะทางร่าง  คิดถึงพระเจ้าด้วยสติปัญญาของลูก และลูกก็จะสร้างรายได้ที่ไม่สามารถจะถูกทำลายได้ ด้วยการคิดถึงชิพบาบา ลูกก็จะกลายเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าผู้สวมใส่เสื้อคลุมแห่งกษัตริย์ในสัตยุค  ดังนั้นจงทำความเพียรด้วยการคิดถึงบาบาขณะที่ลูกกำลังปักเย็บ"

ถ้าใครบางคนกำลังซักผ้า บาบาก็จะไปหาเขา ลูกกำลังซักผ้าของร่างกาย ชิพบาบาเป็นผู้ซักผ้าที่ไม่มีขีดจำกัด ผู้ซึ่งทำดวงวิญญาณที่ตกต่ำทั้งหมดให้บริสุทธิ์ จงคิดถึงแล้วลูกก็จะทำการขำระดวงวิญญาณไปพร้อม ๆ กับการซักผ้า บาบาทำให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณที่โชคดีที่สุด เป็นดวงดาวที่โชคดีอย่างแท้จริง พวกเขาทำงานเพื่อค่าจ้างที่สูงสุดเท่าที่มีการจ้างและทำงานในระดับที่ละเอียดอ่อน  ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะเป็นไปได้ ตอนนี้ความปิติของการใช้ร่างในงานรับใช้พระเจ้า ขณะที่อยู่ในการคิดถึงท่าน คือ ความปิติสุขที่สุดแสนหวานของทั้งหมด

เมื่อบาบาพาพวกเขาออกไปเดินเล่น  บาบาจะพูดว่า "ดูซิ  พร้อมกับการแสวงบุญทางร่างนี้ จงไปแสวงบุญในระดับที่ละเอียดอ่อนด้วย  อยู่ในการคิดถึงพารามธรรม (บ้านที่สงบเงียบของดวงวิญญาณ)  โอ้  เพชรพลอยที่ประมาณค่ามิได้ของฉัน  ทั้งหมดในโลกมีเพียงลูกเท่านั้นที่มีความรู้เกี่ยวกับการแสวงบุญที่ละเอียดอ่อนนี้"

ณ เวลาใกล้เคียงกันนั้น ชิพบาบาก็ส่งสารอื่นลงมาด้วย  หนึ่งในสารนั้นซึ่งจะเป็นการทดสอบพวกเขาในไม่ช้านี้

อ่านต่อ >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 9 

Monday, April 28, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 7


ตัวอย่างการดลใจของบาบา
ไม่เพียงแต่บาบาจะตระเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ด้วยพลังอำนาจที่อ่อนโยนและไม่สั่นคลอน ท่านก็ค่อย ๆ สอดแทรกพลังอำนาจลงไปในลูก ๆ ด้วยการเห็นสีหน้าที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา ผู้อื่นก็ได้กำลังใจและเรียกพลังอำนาจของพวกเขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าถนนที่พวกเขาดำเนินไปพร้อมกันนั้นจะสูงชัน ถึงแม้ว่าจะมีความยากลำบาก จะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะยอมแพ้อย่างสิ้นหวัง หรืออ่อนแอ

ความเป็นมิตรของบาบา เป็นขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถึงแม้ท่านจะชราเพราะอายุมาก แต่ท่านก็เป็นโยคีที่ชอบเล่นมากที่สุดในหมู่พวกเขา ท่านทำงานหลายชั่วโมง ทำงานรับใช้ทุกชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งงานที่เป็นงานของคนรับใช้แท้ ๆ มุ่งมั่นในการรับใช้นี้  ในความถ่อมตนและการอุทิศตัว ได้กลายเป็นแบบอย่างในทางปฏิบัติของทุก ๆ คน ท่านสอนดวงวิญญาณว่าจะให้ความร่วมมืออย่างไรและโดยปกติระหว่างการทำงาน สติปัญญาของท่านก็ไตร่ตรองความรู้ของพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ปัญญาก็เพิ่มขึ้นและการระลึกถึงก็เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และเป็นธรรมชาติ แล้วท่านก็แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่สมบูรณ์แบบของสำนึกแห่งการเป็นดวงวิญญาณ

อ่านต่อ >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 8

Wednesday, April 16, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 6


ศาลพิจารณาคดีของพระเจ้า
บางครั้งศาลถูกตั้งขึ้นในตอนกลางคืน มีเหตุการณ์ซึ่งสามารถทำได้  ซึ่งในชุมนุมอื่นไม่สามารถจะทำได้  ในวิถีที่จะใช้พลังอำนาจนี้เป็นเครื่องมือที่จะทำการปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพใหม่ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องมีความเชื่ออย่างสมบูรณ์ในผู้ที่ได้รับเลือกสรร  และผู้ที่ได้รับเลือกสรรจะต้องยุติธรรมและละวางอย่างเต็มที่ ณ  ที่นี้ เป็นพระเจ้าโดยตัวท่านเองเป็นประธานในการประชุม  ศาลดำเนินการไปในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ ถ้ามีใครบางคนได้กระทำความผิดใด ๆ  เขาเพียงแต่บอกความผิดนั้นกับบาบาและมาม่า ต่อหน้าทุกคน และประกาศความตั้งใจที่มั่นคงว่าจะไม่ทำผิดอีก หรือ ถ้าใครคนใดคนหนึ่งเห็นอีกคนหนึ่งทำผิด เขาก็จะพูดด้วยจุดประสงค์ที่จะยกระดับดวงวิญญาณตามนั้นและเพื่อนำเขากลับมาในหนทางที่ถูกต้อง  ไม่เคยมีการกล่าวแย้งหรือมีความรู้สึกที่หนักหน่วง  มีแต่การกระตุ้นเพื่อช่วยกันให้แต่ละคนก้าวหน้าไปสู่ความสมบูรณ์พร้อม

บาบาและมาม่ามีความใส่ใจต่อลูก ๆ ทั้งหมดจากหัวใจ ทั้งสองอธิบายวิธีการง่าย ๆ ที่จะหลีกเลี่ยงการทำผิดและกลยุทธ์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบของนิสัยเดิม  และทั้งสองท่านก็ตอบสนองตามคำขอด้วย  ด้วยการขอบางสิ่งต่อหน้าคนทั้งหมด  และเช่นเดียวกันด้วยการยอมรับความผิดของพวกเขาต่อหน้าทุกคน ลูก  ๆ พบว่า ไม่มีความเครียดและแรงกดดัน หรือความรู้สึกผิดเกิดขึ้นกับผู้ใด แล้วพวกเขาก็สามารถอยู่เหนือความทะนงตน  เรื่องซุบซิบเกี่ยวกับความชอบเป็นการส่วนตัวก็จบสิ้นลงด้วยไม่มีความลับที่ดำมืดไม่มีความสงสัย

บรรยากาศของครอบครัวที่อบอุ่นก็ถูกสร้างขึ้น ศาลก็ไม่ใช่กิจกรรมที่ทำให้เกิดความกดดันหรือตื่นกลัว  มันถูกพิจารณาโดยทุกคนว่าเป็นประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้อย่างสูงสุด  มันเป็นที่ตระเตรียมช่วงเวลาของสัจจะ  ความหลุดพ้นของลูก ๆ  ของสถาบันทั้งหมด  จากนิสัยและความผิดซึ่งอาจทำให้พวกเขาพบกับความทุกข์โศกในที่สุด  ศาลเป็นที่ระบายออกของการทำความสะอาดตนเอง มันเป็นสาระสำคัญแห่งอิสรภาพ

นี่เป็นเพลงซึ่งแต่งขึ้นมาโดยลูกคนหนึ่ง ได้แสดงออกซึ่งอารมณ์ทั้งหมด
เวลานี้เป็นคืนที่มืดสนิทของโลก
ท่านได้มาจากโลกแห่งแสง
เพื่อมาปฏิบัติงานที่ยิ่งใหญ่ของการกำจัดบาปของโลก
เวลานี้เป็นเวลาที่ดีทีสุด
ในละครของการขึ้นและตก
ด้วยการช่วยเหลือของท่าน เราก็ข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม
ท่านได้เปลี่ยนโชคร้ายของเราไปสู่โชคดี
คำพูดของท่านเป็นอาหารที่สุดแสนหวาน
การตัดสินของท่านคือการช่วยให้สภาพที่เป็นเทพดั้งเดิมของเราให้กลับคืนมา
โอ้พระเจ้า ท่าน คือ ผู้ที่สูงที่สุดของที่สูง
ท่านคือผู้สร้างของโลกใหม่ที่บริสุทธิ์
พ่อ ชีว่า ท่านได้มาถึงยังภารัตในที่สุด
และด้วยการเปลี่ยนชีวิตของพวกเรา
ท่านก็หมุนวงจรโลกอีกครั้ง

อ่านต่อ  >>>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 7 

Saturday, April 12, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 5


คาร์มาโยคะ (Karma Yoga)
ลูก ๆ ของพระเจ้าได้กลับกลายมาเหมือนพ่อผู้สูงสุดของพวกเขามากขึ้น ๆ ตามลำดับ พวกเขายิ่งลึกลง ๆ ไปในประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้โดยละเอียด จากนัยสำคัญที่ซ่อนอยู่ในความรู้ของพระเจ้า พวกเขาซึมซับคุณสมบัติของพ่อของพวกเขา  และพวกเขาก็สอบผ่านการทดสอบของชีวิต

แม้แต่ระเบียบปฏิบัติประจำวันที่ครบถ้วนก็เพื่อเพิ่มเส้นใยให้กับกล้ามเนื้อของดวงวิญญาณ โปรแกรมทั่ว ๆ ไป ของวันมีดังนี้  เปิดเพลงที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เช่น ตื่นเถิดโอ้เจ้าสาวของฉัน ถูกเปิดผ่านลำโพง เพื่อปลุกให้พวกเขาตื่นขึ้นในตอนเช้าตรู่  เพื่อว่าความสำคัญแห่งการคิดถึงพระเจ้าจะถูกประทับเป็นสิ่งแรกในความคิดของพวกเขาในการเริ่มต้นของวันใหม่

ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงโยคีเหล่านี้ ทำความแน่วแน่ อย่างเช่น "บัดนี้ด้วยการละทิ้งการหลับไหลอยู่ในความงมงายไม่รู้  ฉันจะต้องปลุกดวงวิญญาณขึ้นมาอย่างสมบูรณ์  เหมือนอย่างเช่นที่ฉันทำต่อร่างกาย"  นั่งอยู่บนเตียงพวกเขาจะใช้เวลาเล็กน้อยในสมาธิตามด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ เวลา 5.30 น. พวกเขาก็พร้อม แล้วรวมตัวกันเพื่อเข้าชั้นเรียน เพื่อฟังขลุ่ยแห่งความรู้ของบาบา  เล่นท่วงทำนองใหม่ที่ทำให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล

หลังจากชั้นเรียน พวกเขาทานอาหารเช้า และแล้วก็เริ่มทำงานประจำวัน บางคนซักผ้าในห้องซักรีด บางคนทำงานในครัว  บางคนทำงานเอกสาร  บางคนก็ซ่อมรถ  หรือเป็นช่างไม้ ทุก ๆ หน้าที่ถูกทำอยู่ในการคิดถึงที่เต็มไปด้วยความรักในพระเจ้า หนังสือซึ่งเป็นความรู้ของพระเจ้านับพันถูกส่งไปยังบุคคลต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ทุกวัน ลูก ๆ หลายคนทำงานทั้งวันและอย่างหนักในการเขียน พิมพ์ดีด และทำสิ่งตีพิมพ์ และเข้าเล่มหนังสือเหล่านี้ งานผลิตหนังสือถูกทำขึ้นอย่างสมบูรณ์โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในสถาบัน  ด้วยความกระตือรือร้นที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ละวันของพวกเขาผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับพวกเขา เวลา อาหารค่ำจะมาถึงอย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ


ปกติอาหารทุกมื้อจะรับประทานอยู่ในการคิดถึงบาบา ในความเงียบ แล้วก็ตามมาด้วยการพักผ่อน  และการสนทนาเพื่อผ่อนคลาย หรือเพื่อความต้องการส่วนตัวอื่น ๆ ก่อนเริ่มรับประทานอาหารค่ำ โยคีเรียงแถวเข้าไปในห้องประชุม  เพื่อการทำสมาธิเป็นกลุ่ม เมื่อทรานส์แมสเซนเจอร์  จะขึ้นไปในดินแดนละเอียดอ่อน เพื่อที่จะถวาย (ออฟเฟอร์) อาหารให้กับพระเจ้าก่อนแล้ว หลังจากนั้นโยคีก็นำอาหารมาเป็นอาหารของพวกเขา หลังอาหารค่ำ ก็จะมีชั้นเรียนอีกที่ พวกเขาสามารถจะเข้าร่วมในหัวข้อเกี่ยวกับความรู้ของพระเจ้าที่พวกเขาสนใจ มาม่าและบาบาเคยสอนในชั้นพวกนี้ด้วยตัวท่านเอง  ถ่ายทอดการไตร่ตรองของพวกเขาเกี่ยวกับแก่นสารของสาระอะไรก็ตามที่พระเจ้าได้สอนไว้ตอนเช้า หลังจากนั้นพวกเขาก็จะนั่งโยคะร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง

ด้วยการจดจำคิดถึงชิพบาบาที่ถูกเพาะลงไปอย่างมั่นคงในจิตใจของพวกเขา เหล่าบราห์มิน กลับไปยังห้องนอนของตนเอย่างเงียบ ๆ และเต็มไปด้วยความพึงพอใจ  มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงสิ่งใดที่เป็นข้อบกพร่องของตนเองที่ได้จดไว้ในวันนี้สำหรับวันรุ่งขึ้น  พวกเขานอนอยู่ในความสงบและบริสุทธิ์  บนตักของพ่อผู้เป็นที่รักยิ่งของพวกเขา

อ่านต่อ >>> อดิเทพ ตอนที่ 3 # 6

Monday, April 7, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 4


ไฟโยคะ
ระหว่างวันของความเงียบนี้ ผู้อาศัยอยู่ในสถาบันกินแต่ผลไม้ พวกเขาคงอยู่ในโยคะตลอดทั้งวัน  จาก 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มครึ่งตอนกลางคืน  ตอน 6 โมงเช้า ชิพบาบาจะลงมาจากโลกวิญญาณ และสนทนาความรู้ผ่านบราห์มา เรียกว่า เมอร์ลี (เมอร์ลีแปลว่า ขลุ่ย) แล้วลูกบาบาก็จะไตร่ตรองเกี่ยวกับประเด็นที่บาบาพูดทั้งวัน สิ่งนี้เรียกว่า บัทตี (Bhatti) หรือ เตาอบ 

เหมือนอย่างเช่น ก้อนอิฐหรือหม้อดินเผา จะถูกทำให้แกร่งด้วยการเผาในเตาเผา เหมือนกับทองที่จะทำให้บริสุทธิ์ด้วยความร้อน หรือ รูปร่างของเหล็กที่จะเปลี่ยนไปเมื่อถูกเปลวไปเผาจนแดง และแล้วก็ถูกตีขึ้นรูปโดยช่างเหล็ก  

ดังนั้นโยคีเหล่านี้ก็เช่นกัน เผาความไม่บริสุทธิ์ต่าง ๆ ทิ้งโดยใชัความคิดในไฟสูงสุดของโยคะ โดยพลังอำนาจที่ล้ำลึกในการคิดถึงพระเจ้าอย่างต่อเนื่องเช่นนี้พวกเขาก็ได้รับประสบการณ์ของการละวางจากร่างกายและสำนึกที่เป็นร่าง  พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเบายิ่งกว่าอากาศ เป็นเหมือนเองเจิ้ล ซึ่งพวกเขาได้พลังอำนาจมาจากความเงียบ

อ่านต่อ >>>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 5

Wednesday, April 2, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 3


ความลับของบราห์มาที่สอง
หัวข้อเกี่ยวกับฌาณ สร้างความสนใจอย่างยิ่งใหญ่ให้กับดวงวิญญาณหลายดวง ถึงอย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นชิพบาบาได้บอกกับเราว่า  ประสบการณ์การเป็นทรานส์แมสเซนเจอร์เช่นนี้ ไม่สามารถตัดกรรมของคนใดได้และมันไม่ใช่เครื่องวัดสภาวะในโยคะ หรือความใกล้ชิดกับพระเจ้าของคนใด ไม่ใช่หัวหน้าของคณะผู้บริหารของสถาบันและไม่ใช่ทั้งดวงวิญญาณผู้ซึ่งมีสติปัญญาทีสูงและใสสะอาด

แต่บาบาก็ใช้ผู้นำสารนำข้อมูลใหม่ ๆ มายังลูก ๆ ของท่าน ข้อมูลซึ่งไม่สามารถบอกหรือถ่ายทอดในลักษณะใด ๆ ประสบการณ์ของผู้นำสารคนหนึ่ง B.K.Hirday Mohimi เป็นตัวอย่าง นี่คือสิ่งที่เธอย้อนระลึก

"วันหนึ่งบาบาประกาศโปรแกรมใหม่สำหรับ 1 สัปดาห์เต็ม พวกเราจะต้องอยู่ในความเงียบอย่างสมบูรณ์ ทั้งคำพูดและความคิด นั่นหมายถึงไม่มีการคิดแผนการและความคิดใด ๆ นิ่งอยู่ภายในอย่างสมบูรณ์"

"เราเริ่มปฏิบัติทันที ทั้ง 300 ชีวิตผู้อาศัยอยู่ในสถาบัน ทำงานเหมือนเดิมแต่อยู่ในความเงียบ ไตร่ตรองภายในอย่างเต็มที่ บรรยากาศดูเหมือนกับเป็นสภาพแห่งแสงอย่างสูงสุด และลูก ๆ ก็ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยความสงบ ความบริสุทธิ์ และเบาสบายเคลื่อนไหวอย่างงดงามเช่นเทพ"

"2 - 3 วัน หลังจากโปรแกรมนี้เริ่มต้น  กระแสนั้นสูงส่งมาก  แล้วทั้งหมดก็อยู่ในสภาวะปิติสุข  เย็นวันหนึ่ง ฉันกำลังนั่งอยู่กับซิสเตอร์คนหนึ่ง  อยู่ในขั้นตอนของการดำดิ่งลึกลงไปสู่การสำนึกเป็นดวงวิญญาณ  เมื่อฉันได้รับนิมิตที่สูงส่งแวบเดียวจากพ่อผู้เป็นพระเจ้าของเรา"

"ฉันเข้าไปสู่มิติที่ละเอียดอ่อน  คาดว่าจะได้เห็นภาพของยุคทองเช่นที่ผู้อื่นเห็นนิมิตของกฤษณะและราเด้  หรือบทบาทของพวกเขาต่อมาซึ่งเป็นนารายัญและลักษมี  สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจเกิดขึ้นแทนที่ อย่างทันทีทันใด  ฉันเผชิญหน้ากับบราห์มาบาบา ท่านมีความดึงดูดที่โดดเด่นมาก  ฉันไม่เข้าใจว่าบาบาสามารถที่จะมาอยู่ในโลกวัตถุได้อย่างไร และอยู่ในสภาพที่ละเอียดอ่อน อะไรเป็นความลับที่อยู่เบื้องหลังบราห์มาที่มีร่างแสงนี้"

"ฉันไม่สามารถตอบคำถามนี้  ดังนั้นเมื่อฉันกลับออกจากฌาณ ฉันไปถามมาม่า  แต่ดูเหมือนเธอก็ไม่รู้ด้วยเช่นกัน  และพูดว่าฉันควรจะเล่าเรื่องประสบการณ์ของฉันกับบราห์มาบาบา น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง  ดูเหมือนท่านเองก็ไม่แน่ใจ  ในที่สุดท่านพูดว่า  ลูกสาวของพ่อ ชิพบาบาอาจจะกำลังพยายามอธิบายความลับบางอย่าง  ถ้าลูกเข้าฌาณและเห็นบราห์มาบาบา คนนั้นอีกครั้ง ลูกควรจะถามท่าน เพื่อให้ท่านแนะนำตนเองต่อลูก"

"วันนั้นผ่านไป  เย็นวันถัดมาฉันพยายามอีกครั้ง  ที่จะอยู่ในสำนึกของการเป็นดวงวิญญาณ เมื่อฉันรู้สึกว่าถูกดึงทันทีทันใด  จากร่างของฉันไปยังโลกละเอียดอ่อน  ครั้งนี้ ฉันอยู่ในฌาณอย่างต่อเนื่องถึง 7 วัน"

"เมื่อภาพร่างของบราห์บาบาปรากฏต่อฉัน ฉันทำตามปิตาศรี (บราห์มาบาบาที่เป็นกายเนื้อ)  ที่บอกฉันไว้ให้ทำ  ฉันจำได้ว่าถามท่าน  ฉันจะมีโชคพอที่จะได้รับการแนะนำจากท่านอย่างสมบูรณ์หรือไม่  ท่านตอบในรูปแบบของร่างแสง  "ลูกรัก พ่อเป็น อเวียกบราห์มา (Avyakt Brahma)" (บราห์มาที่ละเอียดอ่อน หรือ ไม่ใช่กายวัตถุ)  รูปที่สมบูรณ์พร้อมของบราห์มาที่เหมือนกับบราห์มาทางกายวัตถุที่ลูกรู้จัก"

"ฉันพบท่านหลายครั้งหลังจากนั้น  และบราห์มาที่ละเอียดอ่อนในรูปแสงนั้น  อธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความลับของความรู้แห่งพระเจ้า ท่านสอนฉันเกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริงของโลกที่ละเอียดอ่อนนั้น  ซึ่งเป็นโลกที่ไกลโพ้นไปจาก ดวงจันทร์ ดาวอาทิตย์ และดวงดาวทั้งหลาย ฉันเรียนรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดที่บริสุทธิ์ได้อย่างไร  ฉันได้เห็นโลกแห่งดวงวิญญาณ ซึ่งปราศจากร่างด้วย และมีการให้นิมิตของสิ่งที่สูงที่สุด จุดแสง ดวงวิญญาณสูงสุด ชีว่า จากที่นั่น ฉันเดินทางผ่านฉากของการทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ของโลกที่ไม่บริสุทธิ์ ณ เวลานี้และแล้วก็ไปสู่สัตยุคของโลกที่สูงส่ง  โลกยุคทอง  ฉันได้ยินภาษาซึ่งเราจะใช้พูดที่นั่น  รู้สึกถึงวัตถุสิ่งของที่ส่องประกายระยิบระยับจากเสื้อผ้าเครื่องใช้ที่เราสวมใส่  เฝ้าดูกิจวัตรประจำวันที่เราจะทำตามและเห็นขนบธรรมเนียมของท้องพระโรงที่สูงส่งของเทพ  ฉันแปลกใจว่าทั้งหมดที่รุ่งโรจน์และเต็มไปด้วยความสุขนี้เป็นของพวกเรา"

"เมื่อฉันกลับมาพบบราห์มาในร่างแสง  ฉันสรุปได้ว่า นี่คือสภาพของปิตาศรีที่สมบูรณ์พร้อมอย่างแน่นอน  และชิพบาบานั้นจะต้องอยู่กับท่านด้วย"

โดยผ่านบราห์มาในร่างแสงนั้นที่พ่อสูงสุดชีว่า  ได้ให้ชื่อใหม่กับลูก ๆ ของท่านเป็นพิเศษระหว่างช่วงเวลานี้  ที่พวกเขาอุทิศตนอย่างเต็มที่ ชื่อเหล่านั้น ตอนนี้ไม่มีการให้อีกแล้ว แต่ข่าวสารจากฌาณยังถูกนำกลับมาอย่างสม่ำเสมอ

ที่เป็นหนึ่งในสารทั้งหมดที่สูงส่งของผู้ที่เป็นที่รักยิ่ง อเวียกบัพดาดา  "จากโลกที่ละเอียดอ่อนผ่านซิสเตอร์กูลซ่าร์ ณ 6 มิถุนายน ค.ศ.1980

วันนี้ ขณะที่ฉันก้าวผ่านซุ้มประตูของป้อมปราการที่ละเอียดอ่อนของบัพดาดา  ผู้ที่เป็นที่รักที่สุด  ในตอนเช้าตรู่ ซึ่งเป็นเวลาแห่งอมฤตเวลา 
อา!!  มันเป็นทัศนียภาพทั้งหมดของอะไรกันนี่ อำนาจอันเฉียบขาดของโลก  อยู่ในสภาพที่รื่นเริง  และท่าทางที่ดึงดูดมีเสน่ห์ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศที่มีกระแสที่ทรงพลังอำนาจ นั่นคือสภาพที่ฉันสังเกตดูบาบาจากระยะทางที่ค่อนข้างจะไกลว่าท่านเป็นอย่างไร  และ 
โอ้!!!  เมื่อฉันใกล้เข้าไป ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวฉันเองกลายเป็นผู้ไร้ร่างเป็นแก่นที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ  จนกระทั่งไปยืนเผชิญหน้ากับบาบาในสภาพที่ดื่มด่ำอยู่ในดวงวิญญาณ ของชีพชัคตี เช่นเดียวกับพ่อ

สภาวะที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจนี้คงอยู่เพียงสั้น ๆ 
อา !!! เมื่อใดก็ตามที่ฉันย้อนระลึกถึงประสบการณ์นั้นทันที  ฉันรู้สึกว่าตัวฉันได้ถูกล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่เคยเห็นราวกับเป็นจริงนั้นอีกครั้งหนึ่ง  ช่วงเวลาที่ผ่านมาบาบายิ้ม และคำพูดที่แสนหวานก็พรั่งพรูออกมา "ลูกที่น่ารัก แม้แต่ประสบการณ์ สั้น ๆ ของเหตุการณ์นี้ จะช่วยลูกในการฝึกฝนให้ตัวลูกกลับมามีสภาพที่ละเอียดอ่อน"  ฉันตอบ : "จริง ๆ หรือบาบา มันเป็นเหมือนกับว่าถ้าลูกได้ประสบการณ์ ทางร่างอย่างเป็นจริงของสภาพสูงสุดวันนี้  นั่นจะเป็นสภาพของนายผู้ทรงฤทธิ์ที่มีสิทธิอำนาจอันเฉียบขาดของโลก มันก็จะดีมาก"

แล้วบาบาก็กระซิบที่หูของฉัน  "ลูกรัก  ลูกจะต้องรักษาสำนึกที่ทรงพลังอำนาจนี้ไว้อย่างคงที่วันแล้ววันเล่า  ในไม่ช้า พายุแห่งความเครียด จะเริ่มรุนแรงไปทั่วทั้งจักรวาล ในขณะที่เวลาแห่งความเครียดเช่นนั้นมาถึง  ด้วยการตั้งใจของลูก  ลูกจะต้องแสดงภารกิจของการลบล้างความเครียดนั้น  ความเครียดจะทำให้เกิดค่ารักษาที่สูงมาก  มันจะทำให้เกิดบาดแผลแห่งความเศร้าโศกกับดวงวิญญาณและเกิดความทุกข์ทรมานทางร่างกาย  และมันจุดไฟกองใหญ่ของความเจ็บปวดในมนุษย์และธรรมชาติ  ดังนั้น เมื่อมนุษย์เร่ร่อนอย่างมืดบอด  เพื่อหาความพอใจสำหรับความปรารถนาที่ไม่ยั่งยืนของพวกเขา  การไขว่คว้าหาความสุขที่ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา แต่สิ่งสุดท้ายจะได้พบกับการขจัดสิ่งลวงตา ในทุก ๆ สนามของชีวิตด้านการเมือง ด้านจริยธรรม และวัตถุด้วย

"แต่" บาบากล่าวว่า "ผลจะเป็นการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่  แต่จังหวะเดียวโลกทั้งโลกจะเปลี่ยน มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร  ขณะนี้มนุษย์ได้กลายเป็นผู้ที่ลุ่มหลงและใช้ธรรมะในการฉกฉวยความพึงพอใจที่เต็มไปด้วยกิเลสทางโลก  พวกเขาได้ขายตนเองสำหรับสิ่งนี้  และขายหลักการของพวกเขา แม้กระนั้น ความต้องการเกินขอบเขตอย่างสูงสุดของพวกเขาก็ยังถูกปล่อยทิ้งไว้โดยมิได้มีการทำความเข้าใจ  และตัณหาแห่งความปราถนาก็ได้แตกหน่อขึ้นมาให้พวกเขาพึงพอใจ  พวกเขารู้สึกหมดกำลัง เหมือนกับว่าถูกดูดจมเข้าไปในวังวนของสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกับความต้องการ"

"แล้วการตื่นขึ้นภายในก็จะมาถึง  และพวกเขาก็จะเมินหน้าของพวกเขามาจากความต้องการทางโลก  ไปยังความหวังและความปรารถนา  เพื่อการบรรลุถึงจุดสูงสุด  แต่การซึมซับต่อความตั้งใจสูงส่งนี้จะไม่เกิดขึ้นทันทีหรือฉับพลัน  แต่มันจะผ่านขั้นตอนของการค้นหาบางสิ่งที่สามารถสัมผัสได้และเป็นแก่นสาร  หลังจากที่สำนึกตนว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะได้รับความสุข  ผ่านวิธีการที่ได้พยายามมาก่อนหน้านั้น  มันจะต้องมีบางสิ่งใหม่  หนทางใหม่สำหรับการบรรลุถึงความสุข  และความสงบของจิต  พวกเขาจะไตร่ตรอง ในที่สุด เมื่อความพยายามนี้ไม่ประสบความสำเร็จ  ความสำนึกรู้อย่างจริงใจก็จะเข้ามาในความคิดของพวกเขา ใช่  โอ้พระเจ้า ท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ช่วยเหลือและปลดปล่อยเรา  จุดประสงค์และเป้าหมายสุดท้ายของเรานี้จะเป็นการบรรลุถึงจุดสูงสุด  การสำนึกรู้ในทางหนึ่งว่าพระเจ้าเป็นพ่อเพียงผู้เดียวที่ให้ความช่วยเหลือและแก้ใขปัญหาของพวกเขา  และอีกทางหนึ่งจะเป็นผู้ทำลายความปรารถนาและความหวังทางโลกกิเลส  และก็จะมาถึงจะแผ่กระจายกระแสไปทั่วโลกและบรรยากาศทั่วไปของการละทิ้งที่สมบูรณ์  และการสละละวางที่ไม่มีขีดจำกัดจะปรากฏทั่วไปทั้งโลก

"ด้วยการสำนึกรู้สิ่งนี้เพียงอย่างเดียวจะควบคุมและมีพลังอำนาจเหนือบรรยากาศของความตึงเครียด ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากความปรารถนาทางโลกทั้งหมด  และรวบรวมความสนใจอย่างสมบูรณ์แบบของทั่วโลกไปที่แก่นสารหนึ่งเดียว  พระเจ้า ในชั่วพริบตาเดียว เพียงแค่กลิ่นหอมของกลิ่นที่เต็มไปด้วยพลัง จะแผ่กระจายครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ใน 1 วินาที ดังนั้น พื้นดินของดวงวิญญาณทั้งหมดจะอ่อนนุ่มด้วยอิทธิพลของการสละละทิ้งกิเลสพร้อมกันกับมีสัมพันธ์กับพระเจ้า ณ เวลาเช่นนี้ ลูก ๆ ก็เป็นเครื่องมือของการหว่านเมล็ดของความรู้ของพระเจ้าผู้เป็นพ่อให้กับพวกเขา และก็เป็นผู้ให้อย่างทันที กับผลที่เขาจดจำพ่อสูงสุดของพวกเขาได้  ด้วยความรักและความจริงใจ  นี่จะเป็นเวลาเมื่อลูกต้องการสภาพที่ทรงพลังอำนาจของผู้ที่มีอำนาจและสิทธิเฉียบขาดเช่นพ่อนี้ จะทำให้ลูกสามารถและมีอำนาจที่จะให้พรและให้ประโยชน์กับดวงวิญญาณทั้งหมด เป็นดั่งผลของความศรัทธาที่ได้รับมาใหม่ ๆ"

กล่าวเช่นนี้เสร็จ บาบาก็ดำดิ่งลึกเข้าไปในมหาสมุทรของความคิด ดูเหมือนกับว่าบาบากำลังทำอะไรบางสิ่งที่สำคัญ  ชั่วครู่ฉันถามว่า  "บาบาท่านไปที่ไหนมา"  คำตอบของบาบาคือ "ใช่"

บาบาห่วงใยกับความแตกต่างระหว่างสภาวะปัจจุบันของลูก ๆ และสภาวะสุดท้าย ลูก ๆ บางคนก็ยังเล่นเกมส์ไม้กระดานหกของความเครียดและความใส่ใจ

ลูกจะต้องถ่ายทอดสารนี้ไปยังลูก ๆ สุดที่รักของพ่อ  ตอนนี้เมื่อลูกทำความอุตสาหะพยายาม เพื่อเป็นตัวแทนของรูปที่สมบูรณ์พร้อมก่อนที่โลกจะร้องสรรเสริญต่อบาบา เป็นการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ ลูกต้องตั้งใจถึงเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของโลกด้วยความเข้าใจอย่างล้ำลึกเหมาะสม ต่อความยิ่งใหญ่ของเทศกาลที่จะมาถึง บัพดาดามีความสุขอย่างมากในการเฝ้าสังเกต  ความเร่งรีบและกระตือรือร้นเป็นอย่างมากและพูดว่าในอนาคตก็เช่นกัน  จงคงอยู่ในความสุขอย่างคงที่และมีโชคและเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติแห่งความสนุกสนาน  ก้าวไปข้างหน้าและแจกจ่ายทรัพย์สมบัติของความสุขให้กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง แล้วลูกจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

อ่านต่อ  >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 4

่   

Tuesday, April 1, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 2


ฌาณ
พระเจ้าได้อธิบายต่อมนุษยชาติว่า โครงสร้างของจักรวาลแบ่งเป็น 3 ส่วน ไกลโพ้นจากมิติของวัตถุธาตุนี้เป็นที่ตั้งอยู่ของอาณาเขตที่สว่างกระจ่างชัดที่กว้างใหญ่ไพศาล เรียกว่า โลกละเอียดอ่อน ซึ่งตัวของมันเองประกอบด้วย 3 ชั้น  ที่ซึ่งมีนิมิตชนิดต่าง ๆ ซึ่งดวงวิญญาณหลายดวงได้รับประสบการณ์ ชิพบาบาใช้อาณาเขตนี้เป็นบ้านพักครึ่งทางเมื่อท่านได้ลงมาจากดินแดนที่ปราศจากร่างอันเป็นที่อยู่ของท่าน ระหว่างช่วงเวลาซึ่งท่านไม่ได้อยู่ในร่างของบราห์มาบาบาบนโลกนี้

ไกลออกไปจากโลกละเอียดอ่อน เป็นที่ตั้งของโลกแสงที่ไม่มีที่สิ้นสุด เรียกว่า บราห์ม (Brahm) หรือ บราห์ม ตัตตวา (Brahm Tattawa)  ชาวพุทธเรียกว่า นิรวาณ  ในโลกแห่งแสงสีแดงทอง  พ่อของเราอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดของวงจร  ในส่วนของโลกนี้ซึ่งเรียกว่า พารามธรรม (Paradham) บ้านสูงสุด นี่เป็นบ้านที่แท้จริงของดวงวิญญาณมนุษย์ทุกดวง ที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ก่อนหน้าที่เราจะลงมาเกิดและที่ซึ่งเราจะกลับไปไม่ช้านี้ ที่ซึ่งสงบอย่างสมบูรณ์แบบ นิ่งเงียบอย่างสมบูรณ์แบบ ชิพบาบาสอนเราให้ไปที่นั่น ณ เวลานี้ ด้วยความคิดของเราและนั่งอยู่ในความรักเคียงข้างท่าน นี่คือการทำสมาธิ ในไม่ช้าทุก ๆ ราชโยคีก็ได้ประสบการณ์ว่าตัวเองเป็นจุดแสงที่มีชีวิต  ซึ่งกำลังแผ่กระจายลำแสงชำระตัวเองอยู่ในมหาสมุทรแห่งความสงบและปิติ  ที่เบาสบายและทรงพลังอำนาจ นี่คือวิธีการที่พระเจ้าทำให้มนุษย์เกิดขึ้นมาเหมือนกับพระเจ้า

นักเรียนบางคนได้รับของขวัญจากบาบาให้เข้าฌาณ เพื่อจะไปรับข่าวพิเศษจากชิพบาบา ในโลกที่ละเอียดอ่อน  ดวงวิญญาณเหล่านี้ส่วนมากเป็นผู้หญิงรู้จักกันในนาม ทรานส์แมสเซนเจอร์ (Trance Messengers)  บาบาได้แสดงให้พวกเขาเห็นฉากของยุคทองที่งดงามตระการตาของท้องพระโรงของจักรพรรดิ์ ที่งดงามและประดับประดาไปด้วยเพชรของเหล่าเทพ  บาบาบอกให้ลูกสาวเหล่านั้น ตัดเสื้อผ้าที่พวกเขาได้เห็นมาและสวมใส่มัน  ดังนั้นคนอื่นก็สามารถจะเห็นและเข้าใจความจริงว่าอะไรที่กำลังจะเป็นในอนาคต  เช่นนี้ความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับสัจจะก็จะสมบูรณ์

บางโอกาส ชิพบาบาก็จะบอก ทรานซ์แมสเซนเจอร์  เหล่านี้เกี่ยวกับนักเรียนบางคนซึ่งมีสันสการ์ที่ไม่ดี  ซึ่งพวกเขาได้ซ่อนไว้  ซึ่งนักเรียนเหล่านี้คิดว่าไม่มีใครเห็นว่าเขาทำอะไร ไม่มีใครรู้ว่าความคิดไม่บริสุทธิ์  ซึ่งเกิดขึ้นในจิตใจของพวกเขา  แต่เมื่อลูกสาวที่เป็นทรานส์แมสเซนเจอร์เปิดเผยความลับของพวกเขา  ต่อพวกเขาเป็นการส่วนตัว  พวกเขาสำนึกรู้ซึ่งถึงความจริงที่ไม่น่าเชื่อนั้น  บาบารู้ความลับของความคิดและการกระทำของพวกเราทั้งหมด

ทรานส์แมสเซนเจอร์  ได้รับและถ่ายทอดบทลงโทษ  ซึ่งจะได้รับสำหรับการกระทำชั่ว ระหว่างการตัดสินครั้งสุดท้าย เมื่อได้ยินรายละเอียดที่น่าสยดสยองของการลงโทษ  ลูก ๆ ของบาบาก็ทำความเพียรอย่างสุดกำลังเพื่อพัฒนาตนเอง  และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ

ทรานส์แมสเซนเจอร์  ได้นำการเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตหลาย ๆ ชาติของบราห์มาบาบากลับมา  เช่นเดียวกับนิมิตของบาบาในช่วงสุดท้ายของท่าน  รูปที่สมบูรณ์พร้อม มันได้ซึมเข้าไปในสติปัญญาของผู้คนที่ละน้อย ๆ ว่าประชาปิตาบราห์มา และจั๊กกัดอัมบ้าสรัสวาตีผู้นี้เป็นดวงวิญญาณผู้ซึ่งถูกเขียนไว้ในคัมภีร์และในตำนานอื่น ๆ อีกมากมาย  ผู้ซึ่งถูกเปลี่ยนไปเป็นอาดัมและอีฟ อดิเทพและอดิเทวี  พ่อและแม่ของโลกทั้งหมด เพราะว่าการอุทิศตัว  การช่วยเหลืออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยต่อมวลมนุษย์  และความสมบูรณ์พร้อมของการซึมซับคุณสมบัติที่สูงส่งที่สุด ซึ่งเขาได้บรรลุผล ณ เวลานี้

อ่านต่อ >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 3

Monday, March 31, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 3 # 1


ชีวิตในท้องพระโรงของพระเจ้า
เกือบ ๆ 300 ชีวิตทั้งลูกชายและลูกสาวของสถาบันนี้ซึ่งอยู่รวมกันในอาคาร 5 หลัง พวกเขาเป็นบุคคลที่มาจากพื้นฐานต่าง ๆ อายุ วรรณะ เศรษฐกิจ และลำดับชั้นของเศรษฐกิจด้วยความหลากหลายของดวงวิญญาณเช่นนี้ที่มาอาศัยอยู่ด้วยกัน วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ในโลกภายนอก แม้แต่ครอบครัวซึ่งมี 3-4 คน ก็เป็นการยากที่จะมีการจัดการให้อยู่ร่วมกันด้วยความสงบ แต่ลูกของบาบาเจริญเติบโตขึ้นมาโดยปราศจากความขัดแย้ง หรือการวิวาท

สมาชิกของแอนตี้ปาร์ตี้พยายามบอกตัวเองว่า มันจะอาศัยเวลาเท่านั้นก่อนที่การแตกแยกจะปรากฏขึ้นในกลุ่ม  แต่พวกเขาคาดการณ์ผิด แม้แต่เมื่อเงินขาดมือ  ความเหนียวแน่นของศรัทธาระหว่างลูก ๆ และพ่อไม่เคยขาด กลุ่มสามารถรอดพ้นจากพายุทั้งหลาย  เพราะว่ามันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์  หรือมันไม่ได้คงอยู่สำหรับมนุษย์คนใดเป็นที่สุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในร่างบุคคลได้ก่อตั้งสถาบันนี้  และพลังอำนาจของท่านก็ปกป้องคุ้มครองสถาบันอยู่  ภายใต้รัศมีแห่งความรักของชิพบาบา ลูก ๆ ของท่านดำเนินการชำระล้างสันสการ์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์บุคลิกภาพเช่นเพชรเม็ดงามสำหรับตัวพวกเขาเอง  บาบาและมาม่าได้แจกจ่ายความกระตือรือร้นอย่างสม่ำเสมอ ความกระตือรือร้นที่ไม่มีผู้ใดจะสั่นคลอนได้  การชี้แนะที่ชัดเจน และ ตัวอย่างจากชีวิตจริงของพวกเขาที่แน่วแน่มั่นคง

อ่านต่อ  >>>  อดิเทพ ตอนที่ 3 # 2

Wednesday, March 26, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 2 # 31


ารแสวงบุญสู่บ้านเกิด
เหล่าซิสเตอร์ที่อยู่ในชุดส่าหรีสีขาว ด้วยใบหน้าที่เปล่งประกายออกจากการาจี กลับคืนสู่ไฮดราบัด นำข่าวสารของพระเจ้าไปกับพวกเขา ทุกคนแยกย้ายไปยังครอบครัวที่ให้กำเนิดแก่พวกเขา

6 ปี เป็นเวลายาวนานที่มีการจากไป ไม่ได้มีการเขียนจดหมายกลับไปทางบ้านยกเว้นบางโอกาสที่ต้องการอธิบายคำสอนของบาบาบางอย่าง ตอนนี้เมื่อพวกเขากลับมา พวกเขาไม่ได้บอกกล่าวครอบครัวของพวกเขาก่อนเป็นการล่วงหน้าเลย

ญาติ ๆ ส่วนมากคิดว่าเด็กหญิงเหล่านี้จะไม่ปรารถนาที่จะกลับมาอีกแล้ว  ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นเหล่า ชัคตี พวกเขาตกตะลึง

มโนฮ่าอินทราจี  เป็นซิสเตอร์คนหนึ่งที่น้องสาวคนเล็กสุดเห็นเธอเป็นคนแรก ขณะที่เธอใกล้จะถึงบ้าน  น้องสาววิ่งเข้าไปข้างในบอกกับทุกคนในบ้าน  
"คนนั้นคนที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนนี้"  เธอตะโกนบอก  
"คนที่เคยไปอยู่โอมมันดาลี คนที่หนีไปกำลังมา"  
น้องสาวคนเล็กจำชื่อเธอไม่ได้  เพราะว่าขณะนั้นเธอเล็กเกินไปที่จะจดจำ เมื่อมโนฮ่าอินทราจากไป

ครอบครัวทั้งหมดไม่เชื่อ ทันใดนั้นทั้งบ้านก็เกิดความโกลาหล แม่ผู้ซึ่งมีชื่อว่า "ลักษมี"  ออกมาจากครัว เมื่อเธอได้ยินว่าใครผู้ที่กำลังเดินเข้ามา  เธอวิ่งออกไปเพื่อพบกับลูกสาวของเธอ สายใยแห่งความรักยังทำหน้าที่อย่างลึกยิ่ง

ทั้งคู่มาพบกันที่บันไดของระเบียง ตาของแม่เปิดกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอมีความปรารถนาอย่างรุนแรงที่จะกอดลูกสาว ดึงเข้ามาไว้ในอ้อมอก แต่ก็ต้องระงับไว้  "ฉันยืนอยู่ในความสงบ"  มโนฮ่าย้อนระลึก  "อย่างน้อย 1 นาทีที่ผ่านไป น้ำตาก็ไหลรินมาจากตาทั้งคู่ของแม่ ฉันยังคงดำรงอยู่ในความสงบ"

"ท่านรู้ไหมว่าใครกำลังยืนอยู่ที่ประตูบ้านของท่าน"  มโนฮ่าถามลักษมี  "ท่านยังจำเราได้ใช่ไหม  เราเป็นพลังของชีว่า - ชีว่าชัคตี  ฉันได้กลายเป็นลูกสาวของบราห์มา  ฉันไม่ได้เป็นลูกสาวของท่านอีกต่อไป  แต่เราเป็นพี่น้อง เราทั้งคู่เป็นลูกของพระเจ้าสูงสุด"

"พระเจ้าได้ให้ข่าวสารนี้กับเราและให้เรานำมาบอกกับลูก ๆ คนอื่นของท่าน  ในช่วงเวลาสั้น ๆ ยุคเหล็กของโลกนี้จะถูกทำลาย  และการจัดระเบียบของสวรรค์ จะถูกก่อตั้้งขึ้น"

"ทุกวันนี้มนุษยชาติทนทุกข์ทรมาน  เพราะการกระทำที่เลวร้าย  และความคิดที่ไม่บริสุทธิ์  ณ เวลานี้เป็นเวลาที่จะหารายได้สำหรับการเกิดใหม่ในดินแดนของความสุข  โครงการทำความเพียรพยายามภายในเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  ท่านจะเดินไปบนถนนที่นำท่านไปสู่สวรรค์หรือไม่???

แม่ของมโนฮ่าตกตะลึง ขณะนี้สมาชิกของครอบครัวที่เหลือทั้งหมดได้มายืนที่ปากประตูและรับฟังอยู่ด้วย  พวกเขาตกใจกลัวต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในบุตรสาวคนนี้ เธอได้กลับมาเยี่ยงโยคีนีเทวีแห่งความรู้  ดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจทางดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่  ทั้งครอบครัวรู้สึกได้ถึงสัจจะที่อยู่ในคำพูด  ดวงวิญญาณที่หลับไหลได้ถูกปลุกขึ้นทันที

"จ๊ะ  เราจะมาในโลกแห่งสวรรค์อย่างแน่นอน"  แม่ของเธอพูด น้ำตาแห่งความรักได้ไหลรินออกจากดวงตาทั้งคู่ของผู้เป็นแม่  "ลูกต้องพาแม่ไปกับลูก"

"แม่พาฉันเข้าไปในบ้านอย่างช้า ๆ " มโนฮ่าย้อนระลึก  "เธอเดินไปข้างหน้า  ฉันเดินตามเธอไป แม่สังเกตกริยาในการเดินของฉันโดยหันกลับมามอง  แล้วเธอก็รู้สึกประหลาดใจ  เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีราชนิกูลมาที่บ้าน  เธอมองไปรอบ ๆ เพื่อจะหาที่ให้ฉันนั่ง  เธอปูผ้าคลุมเตียงลง แล้วพูดว่านั่งที่นี่  และเธอก็เอาหมอนอิงมาวางบนเก้าอี้  แล้วพูดว่านั่งที่นี่ แต่ทุกครั้งเธอก็ไตร่ตรองว่าที่นั่งตรงนี้มันไม่ดีพอสำหรับลูกสาวของเธอ  แต่ฉันก็นั่งลงบนพื้น และเริ่มต้นแสดงตัวตนของฉันในรูปของดวงวิญญาณ"

"ภายใน 2-3 นาที  กลุ่มญาติ ๆ และผู้คนจากบ้านใกล้เรือนเคียงได้มาล้อมรอบตัวฉัน ฉันพูดกับพวกเขา 1 ชั่วโมง  ผลกระทบที่ล้ำลึกสามารถรู้สึกได้ สัจจะที่ล้ำลึกของบาบาสะท้อนอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของความเป็นมนุษย์ของพวกเขา  ในตอนสุดท้ายพวกเขากระตือรือร้นที่จะฟังมากขึ้น"

"ฉันอยู่กับพวกเขาหลายวัน  ช่วงเวลานั้นเพื่อนบ้านหลายคน  ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ได้มาและฟังความรู้  บรรยากาศเป็นเช่นสัตสัง  พวกเขาถามคำถาม คำตอบที่พวกเขาได้รับก็ค่อย ๆ กระชับเข้ามารวมกัน  และฟังดูเป็นเหตุผลต่อพวกเขา ด้วยการฝึกโยคะ จิตใจของพวกเขากระจ่างชัดขึ้น ความคิดผิด ๆ ที่ผู้คนสร้างขึ้นเกี่ยวกับโอมมันดาลีก็สลายไป"

"มีหลายคนที่กลับมาเป็นการส่วนตัวที่จะศึกษาต่อไปให้ล้ำลึกในความรู้และการทำสมาธิ พวกเขาได้ประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยพลัง  ฉันรักษาสติปัญญาของฉันให้เชื่อมต่อกับพระเจ้าขณะที่พูดกับพวกเขา  และดังนั้นฉันก็ประสบความสำเร็จในการเปิดล็อคสำนึกของพวกเขา ฉันระมัดระวังเป็นอย่างมากต่อการกินเพียงผลไม้  และไม่ยอมรับเงินใด ๆ จากผู้ใดทั้งสิ้น

วันหนึ่งหลังจากที่พิจารณาความเปลี่ยนแปลงของลูกสาวตัวเองอย่างลึกซึ้ง และคุณภาพของความรู้ แม่ของมโนฮ่าพูดว่า  "ฉันจะไปที่สถาบันกับเธอด้วย  ฉันจะไปดูอาศรมของเธอ และ ฟังความรู้จากบาบา และฉันหวังว่าจะได้พบกับประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์"

มโนฮ่ารู้สึกประหลาดใจและมีความสุข  นี่เป็นบุคคลเดิมที่เคยต่อต้านและไม่ยอมให้เธอไปสัตสังของบาบา  บัดนี้เธอตื่นเต้นที่จะมาร่วมกับกลุ่ม  มาฟังความรู้และเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่อยู่บนถนนแม่ของเธอแสดงความปรารถนา "ฉันได้ทำการกราบไหว้ร้องขอมาอย่างมาก แต่ฉันไม่ได้บรรลุถึงการหยั่งรู้ในตัวเอง  เธอจะช่วยฉันให้ได้รับนิมิตของพระเจ้าได้ไหม? ฉันได้ฟังมาว่าในสถาบันของเธอ  ผู้คนได้รับการเปิดเผยเช่นนี้อย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้รับประสบการณ์เช่นนี้ ฉันก็จะไม่สามารถที่จะมีศรัทธาและความเชื่อถือได้"

มโนฮ่าตอบว่า "ไม่มีดวงวิญญาณใดสามารถทำให้ท่านตระหนักรู้ในพระเจ้า  นอกจากตัวพระเจ้าเอง  ท่านเป็นผู้ประทานสติปัญญาที่สูงส่งเพียงผู้เดียว  ถ้ามันเป็นความปราถนาที่ท่านมีอยู่ ว่าสิ่งนั้นควรจะเกิดขึ้น  แล้วมันก็จะเกิดขึ้น  ถ้าท่านได้ทำการบูชาที่สูงเช่นนั้นในชาติก่อนมาแล้ว  หรือท่านได้มีการกระทำที่สูงส่ง  หรือถ้าธรรมชาติของท่านเป็นเช่นนั้น  แล่้วท่านก็จะได้รับนิมิตที่สูงส่งอย่างแน่นอน"

พวกเขามาถึงมหาวิทยาลัยของพระเจ้า และ 2 วันให้หลัง ลักษมีก็มีประสบการณ์ที่ล้ำลึกเกี่ยวกับการตระหนักรู้   ครูคนหนึ่งเป็นโยคีที่ยิ่งใหญ่ ชื่อ Dhyani  ได้สอนความรู้ทางดวงวิญญาณบทที่ 1 กับเธอจนจบ  "ท่านเป็นดวงวิญญาณที่เป็นอมตะ  และไม่สามารถทำลายได้  ท่านไม่ใช่ร่าง จงลืมร่างกายเนื้อนี้  มันเป็นเพราะว่าด้วยสำนึกของความเป็นร่างกายนี้เกิดขึ้น จิตใจที่ขึ้น ๆ ลง ๆ   ก็มีอำนาจเหนือท่าน   ถ้าท่านเพียงแต่ทิ้งนิสัยทางจิตใจของความไม่มั่นคงเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง ท่านก็จะได้ไปเกิดในยุคทอง  ด้วยการอธิบายเช่นนี้ Dhyani  ถามว่า "ร่างกายของท่านชื่ออะไร"

"ร่างกายของฉันชื่อ  ลักษมี"

"โอ้  ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นลักษมีที่แท้จริง  แต่ต่อมาเธอก็ลืมรูปที่แท้จริงของเธอ บัดนี้นั้น เป็นเวลาที่เธอจะต้องกลับมาเป็นลักษมีที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง จงตื่นขึ้น ณ บัดนี้  รู้จักตัวตนของเธอ และจงกลายเป็นลักษมีที่แท้จริง"

จากการได้ยินคำพูดที่เต็มในด้วยพลังอำนาจ  หญิงผู้นั้นมีประสบการณ์การไหลบ่าของพลังอำนาจที่ประหลาด เธอบรรลุถึงสภาพไร้ร่าง  ขณะที่นิ่งอยู่ในสภาพที่ปิติสุขนั้น  เธอได้รับการเปิดเผยที่สูงส่ง เป็นผลของการทำการกราบไหว้บูชาจากการเกิดเมื่อชาติก่อน

ลักษมีเห็นปราสาททองคำอยู่บนพื้นผิวของทะเล  มีท้องพระโรงที่รุ่งโรจน์อยู่ภายใน และที่นั่งอยู่ภายใน  และที่นั่งบนบัลลังก์กษัตริย์เป็นลักษมีและนารายัญ  ทั้งคู่มีความงามที่สามรถทำให้คนลุ่มหลง

ขณะที่เธอกำลังเล่าประสบการณ์ หลังจากนั้นแม่ของมโนฮ่าพูดว่า  "ความคิดของฉันบอกตัวเองว่า ฉันควรจะเข้าไปในท้องพระโรง  แต่ฉันไม่มีความกล้าหาญที่จะทำเช่นนั้น เพราะฉันรู้สึกว่าฉันไม่บริสุทธิ์และไม่มั่นคง"

ขอบคุณสำหรับนิมิตนี้  เธอได้เพิ่มศรัทธาในคำสอนของบาบา หลังจาก 1 สัปดาห์ที่อยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัยของพระเจ้ และเธอก็แสดงความในใจปราถนาที่จะอยู่ที่นั่นตลอดขั่วชีวิตของเธอ  บรรยากาศที่นี่เป็นบรรยากาศที่บริสุทธิ์อย่างวิจิตรบรรจงเป็นอย่างมาก  ฉันมีความสงบในจิตใจอย่างเหลือคณา แต่บาบาก็ไม่ได้อนุญาตให้เธออยู่นานกว่านั้น

มโนฮ่าไปพบบาบาแล้วถามว่า ทำไม  "ลูกถูกข่มขู่และถูกขับไล่ออกจากบ้าน"  บาบาตอบ "ถ้าไม่เช่นนั้น แล้วทำไมลูกถึงต้องจากมา  ลูกยังเด็กและต้องพึ่งพาพวกเขา ผู้คนเหล่านั้นไม่อนุญาตให้ลูกอาศัยอยู่อย่างที่ลูกต้องการ  และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมลูกจึงต้องมาที่นี่ แต่แม่ของลูกนั้นแก่กว่า เธอมีบ้านของเธอเอง เธอสามารถทำอะไรก็ได้ที่เธอชอบ  ดังนั้นบอกเธอว่าหลังจากกลับไปบ้าน เธอสามารถให้ความรู้กับผู้อื่น และทำบ้านให้เป็นอาศรม"

ได้ฟังคำอธิบายเช่นนี้ แม่ของเธอกลับบ้านพร้อมกับการตัดสินใจที่มุ่งมั่นว่าจะทำบ้านของเธอให้มีบรรยากาศที่สูงส่ง
เรื่องจริงเช่นนี้สามารถที่จะบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวของลูกบาบาหลายๆ คน มันเป็นช่วงเวลาของการเปิดเผย  บาบาได้ให้นิมิตของท่านออกไปทั้งหมด
และดังนั้นสมาชิกของนักศึกษาของพระเจ้าได้เพิ่มขึ้น ๆ และสถานภาพภายในนั้นได้สูงขึ้น ๆ

อ่านต่อ  >>>  ตอนที่ 3 # 1

Saturday, March 22, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 2 # 30


เริ่มงานรับใช้โลก
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ผู้ที่มีรูปเป็นแสง พ่อผู้เป็นพระเจ้า ชีว่า ลงมาจากอาณาจักรของแสงอย่างสม่ำเสมอทุกวัน มายังโลกที่มีตัวตน ท่านมาเข้าร่างของบราห์มา บาบา และพูดผ่านปากของ บราห์มา แสดงสัจจะที่ลึกยิ่งขึ้นให้กับดวงวิญญาณที่มีโชคพอที่จะจำท่านได้  ท่านกระตุ้นพวกเขาให้สำนึกว่าตัวพวกเขาคือดวงวิญญาณ  ท่านอธิบายว่าทำอย่างไรที่จะได้สภาพเอนเจิ้ล (angel - สภาพดวงวิญญาณในร่างแสง) ที่ล้ำค่าของเรากลับคืนมา

แต่พระเจ้าไม่ได้ลงมายังโลกเพียงเพื่อยกระดับมนุษย์เพียงจำนวนน้อย  ในดินแดนที่ห่างไกลของอินเดีย  ท่านมาเพื่อมนุษย์ทั้งโลก และดังนั้นเมื่อลูกคนแรกของท่านแข็งแรงพอ ท่านก็เริ่มส่งพวกเขาออกไปถ่ายทอดคำพูดให้กับคนอื่น  ในที่สุด ข่าวของพระเจ้าก็ได้ออกไปสู่ชาวโลกอย่างทั่วถึง  เพราะดวงวิญญาณทุกดวงคือลูกของพระเจ้า และสมควรได้รับโอกาสที่จะมารับเอามรดกของพวกเขา

แน่นอน มีมากมายที่ปฏิเสธสิ่งที่พระเจ้าประทานให้  เพราะว่าพระเจ้าผู้พร้อมสรรพไปด้วยพลังอำนาจ เลือกที่จะใช้ร่างของบุคคลธรรมดา แทนที่จะใช้ร่างประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ หรือแม้แต่เซนต์หรือ กูรู ผู้ซึ่งมีสติปัญญาที่อ่อนแอก็คิดว่าบราห์มาบาบา เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันตัวจริง  พวกเขามีความเชื่อว่าท่านคือกูรูของบราห์มากุมารี  เพราะว่าชิพบาบานั้นไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ  พวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่าท่านดำรงอยู่จริง  ถึงอย่างไรก็ตามในความเป็นจริงนั้น  ท่านพูดกับมวลมนุษยชาติโดยตรงทุกวันด้วยคำพูดที่สูงส่งและยิ่งใหญ่  บทกวีที่สง่าผ่าเผยและสัจจะ ซึ่งไม่มีมนุษย์ใด ๆ สามารถที่จะมาเทียบกับความสามารถในการถ่ายทอดของท่านได้

ในความโง่เขลา พวกเขาพรั่งพรูการด่าทอมายังบราห์มาทั้งหมด  แต่อย่างไรก็ตาม งานของพระเจ้าคงดำเนินต่อไปอย่างสอดคล้องกับแผนที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว  และบัดนี้ ลูกๆ ของบาบาก็เข้ามามีส่วนรับผิดชอบที่สำคัญกว่าที่เคยเป็นมา  เพราะพวกเขากระตือรือร้นที่จะก่อตั้งสวรรค์  และแล้วก็ไปอาศัยอยู่ที่นั่น  ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปิติสุขชีวิตแล้วชีวิตเล่า  งานวันนี้ขยายตัวออกไปหลังจากที่สถาบันได้ก่อตั้งได้ 5 - 6 ปี  
วันหนึ่ง ชิพบาบา พูดผ่านปากบราห์มา ถึงแม่และซิสเตอร์ผู้ที่อยู่รอบ ๆ บริเวณนั้น  "บัดนี้ลูกมีวุฒิภาวะ และลูกก็มีพลังอำนาจของพระเจ้าอยู่ในตัวลูกอย่างเต็มเปี่ยม  ลูกจะต้องกลับไปยังพ่อแม่ทางกายและญาติ ๆ และ เขาเหล่านั้นผู้ซึ่งเคยทำร้ายลูกมาก่อน  แล้วลูกต้องแก้ไขบ่วงพันธะที่ลูกมีต่อพวกเขา  ลูกรู้ถึงสุภาษิตที่ว่าการสร้างบุญนั้นเริ่มต้นจากบ้านของเรา"

บาบาให้คำแนะนำ  เมื่อลูกออกไปทำงานรับใช้ต่อญาติ ๆ ทางโลกจะต้องมีข้อระมัดระวัง 6 ประการคือ

1.  สภาวะทางดวงวิญญาณของลูกจะต้องสมบูรณ์  ลูกจะต้องสร้างตัวเองให้อยู่ในสำนึกแห่งความเป็นดวงวิญญาณ  ดังนั้น ผู้อื่นอาจจะได้รับประสบการณ์ที่สูงส่ง  อย่าสร้างภาพลวงตาว่าเราเป็นลูกหรือพี่น้องกับพวกเขา  พวกเขาต้องเข้าใจว่านั่นคือ ชัคตี  เอนเจิ้ลที่เต็มเปี่ยมด้วยบุญญาธิการ กำลังยืนอยู่หน้าพวกเขา
2.  ลูกจะต้องปรากฏให้เห็นว่า เป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง  ซึ่งพวกเขาจะไม่กล้าเข้ามากอดลูกด้วยความยืดติด
3.  ลูกสามารถที่จะรับประทานผลไม้ หรือ นม หรือ อาหารบริสุทธิ์ อย่ารับสิ่งอื่นใดอีก เป็นอันขาด
4.  เพราะว่าลูกเป็นลูกของพระเจ้า  ลูกไม่สามารถรับเงินจากพวกเขาเด็ดขาด อาหารและเงินของคนอื่นมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อจิตใจของเรา
5.  ด้วยการให้พวกเขาถึงความรู้ที่สูงสุด  ลูกจะต้องเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตให้กับพวกเขา และกระตุ้นพวกเขาให้เกิดความปราถนาที่สูงที่จะดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และการคงอยู่ที่สูงส่ง โดยทำให้พวกเขาตระหนักรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของชีวิตของเขาเอง
6.  อยู่ในสภาวะสำนึกที่เข้มข้นของการคิดถึงพระเจ้า ขณะที่่ให้คำแนะนำ ซึ่งเป็นคำสอนของท่าน และพวกเขาจะเกิดความยำเกรง  และอยากที่จะรู้มากขึ้น  และเพื่อที่จะมีประสบการณ์ของความปิติสุขและพลังที่พวกเรามี แล้วพวกเขาก็จะตามมายังสัตสังด้วย

อ่านต่อ อดิเทพ ตอนที่ 2 # 31

Friday, March 21, 2014

อดิเทพ ตอนที่ 2 # 29


ลอบสังหารบราห์มา
ยักย่า (สถาบัน) ไฟบูชายัญ ที่ซึ่งม้า นั่นคือสำนึกแห่งความเป็นร่างถูกสังเวย ได้เติบโตขึ้นกว่าเดิมและมีชื่อเสียง โอมราเด้ เป็นผู้บริหารสถาบันพัฒนาคุณสมบัติที่สูงส่งของเธอขึ้นไปสู่จุดสูงสุด และได้นำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน  เธอเป็นเช่นกระจกที่สมบูรณ์พร้อม สะท้อนให้เห็นดวงวิญญาณทุกดวงในสภาวะสุดท้าย และถึงแม้ว่าใครบางคนได้กระทำการบางอย่างผิดพลาด มาม่าดูเหมือนกับจะไม่ได้สังเกต  "ความผิดเพียงครั้งเดียวไม่สามารถนำมาตัดสินผู้อื่น"  เธอพูดอย่างง่าย ๆ "ความรู้สึกรำคาญเป็นสิ่งผิด แล้วฉันจะทำมันได้อย่างไร"

ในบางโอกาส บางดวงวิญญาณก็ยึดติดกับความกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาด ข้อบกพร่องของตัวเขาเอง "นี่เป็นสำนึกของความเป็นร่าง" 
มาม่าพูด "ไม่ต้องกังวล เพียงแต่เฝ้าสังเกตความผิดและแล้วก็ขจัดมัน และแทนที่ความผิดพลาดด้วยคุณธรรม อย่าเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น"
เธอกล่าวซ้ำ "ยกเว้นบาบา เช่นนี้จะทำให้เราก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากความเหงาหงอยเศร้าสร้อย หรือความหยิ่งยโสโอหัง"

คุณสมบัติหลักของมาม่า คือการตรวจสอบภายในตนเอง เธอยึดถือคำพูดของชีพบาบาอย่างจริงจัง "กลับเข้าสู่ภายในและพ่อจะเผาบาปให้เธอ
มาม่าได้รับชื่อที่น่ารักมากมายระหว่างช่วงเวลาที่เธอดูแลอยู่ที่มหาวิทยาลัยของพระเจ้า 
ชีพบาบาประกาศด้วยตัวท่านเองว่าเธอคือ สรัสวตีตัวจริง เทวีแห่งความรู้ แม่ของชาวโลก คนอื่น ๆ เรียกเธอว่า แม่ของสถาบัน  แต่ชื่อที่ซึ่งติดปากและเป็นสิ่งซึ่งแสดงความรักและเชื่อมั่นอย่างสูงสุดคือ "มาม่า"

บุคลิกภาพของบราห์มา บาบา และ มาม่า นั้นบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่จะต่อต้านได้โดยตรง แต่แรงต้านของแอนตี้ปาร์ตี้ก็ยังมีอาการคุกรุ่นด้วยความโกรธ  พวกเขาได้กุเรื่องสุดท้ายฉากที่ร้ายกาจ  ที่ซึ่งจะจบสิ้นการทำงานของสถาบันโดยสิ้นเชิง  แผนของพวกเขาคือ ลอบสังหารบราห์มาบาบา !!!!  
คณะกรรมการของแอนตี้ปาร์ตี้ได้ออกไปยังเขตแดนของเทือกเขาอินเดีย  เพื่อค้นหาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่สุดและกระหายเลือดที่สุดในการลอบสังหารที่เขาจะสามารถค้นหาได้  ชื่อหนึ่งที่พวกเขาได้ยินบ่อยมากจากกลุ่มใต้ดินที่พวกเขาติดต่อ นั่นคือนักรบตามตำนาน  จอมโจรชาวซิกส์ของชนเผ่าซึ่งอยู่ห่างไกล  ซึ่งถูกประกาศจับต้องการตัวในข้อหาฆาตกรรมในหลายรัฐ  พวกเขาได้พบจอมโจรผู้นี้ หลังจากได้ใช้ความเพียรพยายามอย่างหนัก  ชายผู้นี้ดำทะมึนผอมสูงด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง  ชั่วชีวิตของการเดินเท้าเปล่าในทุก ๆ ฤดูกาลตลอดในที่ราบสูงหิมาลายัน  ต่อสู้ด้วยมีด ดาบ และหอกที่ทำด้วยมือ  เขานุ่งกางเกงขาสั้นแบบแขก มีผ้าโพกศีรษะ และมีดาบยาวที่ส่งประกายวูบวาบที่แขวนอยู่ที่เอวของเขา

สมาชิกของแอนตี้ปาร์ตี้ได้เสนอเงื่อนไขกับเขาและโจรร้ายก็รับข้อตกลง  โจรนั้นกลับมาการาจีพร้อมพวกเขา ณ ที่นั่น พวกเขาเอาภาพของบราห์มา บาบา มาให้โจรดู  พวกเขาวาดแผนที่ภายในบ้านที่บาบาอยู่  และค่อย ๆ บรรจงวงกลมสีแดง  ห้องซึ่งพวกเขารู้ว่าบาบาอาศัยอยู่ ณ ที่นั่นให้โจรร้ายดู  โจรร้ายจะต้องแหวกวงล้อมเข้าไป  แล้ววิ่งขึ้นไปบนห้องบาบาเพื่อทำงานที่ชั่วร้ายของเขา  และนำบางสิ่งซึ่งเด่นชัดว่างานของเขาได้สำเร็จลงจริง  ไปยัดจุดนัดพบที่จัดเตรียมไว้ก่อน และเขาก็จะได้รับค่าจ้าง ณ ที่นั้น แล้วจะมีรถพาเขาไปส่งยังเชิงเขา  ซึ่งเป็นอาณาเขตของโจรร้าย  จอมโจรยิ้มอย่างปราศจากอารมณ์  เขากลับไปยังที่นอนเพื่อไปลับมีดโค้งยาว ซึ่งเป็นอาวุธดาบที่ใช้ฆ่ามนุษย์ของเขา เขาจะรอจนถึงคืนที่มืด ปราศจากดวงจันทร์เพื่อลงมือปฏิบัติการ

มหาวิทยาลัยของพระเจ้าได้มีการตระเตรียมการป้องกันผู้บุกรุกที่ไม่ต้องการซึ่งจะล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตมาเป็นเวลานานแล้ว  มีบราเดอร์ผู้ซึ่งเดินเวรกลางคืนในอาณาบริเวณของประตูและก็ยังมีผู้เฝ้ายามอยู่บนชั้นสองด้วยเป็นการเพิ่มเติม บาบาจะหาเวลาอยู่แต่ผู้เดียวยากมาก ปกติบาบาจะบอกให้เขียนจดหมายตามคำบอกในเวลากลางคืน  ดังนั้นเพื่อว่าอย่างน้อยที่สุดต้องมีซิสเตอร์คนหนึ่งอยู่ช่วยท่านที่โต๊ะทำงาน

แต่คืนหนึ่ง เหตุการณ์ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ ได้เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ ทำให้การรักษาความปลอดภัยของสถาบันค่อย ๆ ลดลง รถของโรงเรียนคันหนึ่งขับเข้ามาด้วยยางที่แบน  และบราเดอร์ที่เฝ้ายามก็ไปยังเพิงพัก เพื่อช่วยถอดมาซ่อม  ซิสเตอร์ที่ประจำอยู่ที่ประตูก็ถูกเรียกไปทำบางสิ่งในครัว  คนที่อยู่บนชั้นสองก็ลงมารับอาหารค่ำสำหรับบาบา ซึ่งในเย็นวันนั้นท่านอยู่คนเดียวในห้องทำงานของท่าน

มันเป็นคืนนั้น  ซึ่งแม้แต่แสงดาวก็ไม่สามารถทะลุผ่านเมฆมืดนั้นเองที่โจรร้ายเลือกที่จะโจมตี เขามาถึงในขณะที่ไม่มีการป้องกันใด ๆ เขาเดินตัดสนามหญ้า แอบเปิดหน้าต่างด้านหน้าและลอบเข้าไปข้างในอย่างเงียบเชียบ  จอมโจรปรับตัวเองเข้ากับสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว  หาบันไดทางขึ้น เขากระหืดกระหอบขึ้นไปบนชั้นสอง ที่นั่นเขาเคลื่อนไปทางขวา  เผชิญหน้ากับประตูห้องของบาบา ดาบอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว  เขาบิดลูกบิดและก้าวยาว ๆ เข้าไปข้างในอย่างดุร้าย  เพื่อฆ่าบุคคลที่เขาค้นหา

บราห์มาบาบา เงยหน้าขึ้นจากกระดาษของท่าน ที่ท่านกำลังเตรียมประเด็นเกี่ยวกับพลังของความบริสุทธิ์ที่จะรวมเข้าไปในหนังสือใหม่ของความรู้ของพระเจ้า  ท่านกำลังรวบรวมประเด็นที่กรองมาจากการอภิปรายในตอนเช้าโดยชีพบาบา  เมื่อท่านเห็นผู้มาเยือนที่ไม่ได้ประกาศนามของท่าน  บาบาเข้าใจทุกสิ่งทันทีทันใด  แต่บาบาก็มิได้มีปฏิกริยา ท่านไม่รู้สึกกลัว ไม่แม้แต่จะมีการเคลื่อนไหวใด ๆ ปรากฏขึ้นในร่างกายของท่านโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

บราห์มาบาบาเป็นผู้ที่อุทิศตนอย่างสมบูรณ์พร้อมให้พระเจ้า ซึ่งท่านไม่ได้ห่วงใยกับความผาสุกของร่างกายของท่านแม้แต่น้อยนิด  ถ้าชีพบาบาปรารถนาที่จะใช้ร่างที่เก่าแก่และชราภาพนี้ต่อไปเพื่อเป็นเครื่องมือของท่าน ท่านให้เหตุผล แล้วท่านจะเห็นว่าพาหนะนี้จะสามารถคงอยู่ได้ มันเป็นความรับผิดชอบของชิพบาบา ไม่ใช่ของฉัน  และด้วยความคิดเช่นนั้น บาบามองดูโจรร้าย จอมโจรซิกส์ด้วยสภาพที่เต็มไปด้วยบุญญาธิการ และเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรม ท่านยิ้มด้วยรอยยิ้มที่สูงส่ง

แต่จอมโจรไม่ได้ยิ้มตอบ ตามความเป็นจริงเขาไม่ได้เห็นแม้แต่ว่าบาบานั่งอยู่ตรงหน้าของเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะห่างกันเพียง 5 ฟุต  ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง  โจรร้ายก็ถูกครอบคลุมไว้ด้วยอิทธิพลของแสงทอง

ด้วยแสงที่ไม่มีบนโลก ทำให้โจรร้ายมองอะไรไม่เห็น และสะเปะสะปะไป  ความตั้งใจที่จะทำลายเริ่มอ่อนลง คลื่นของความปิติสุขมีพลังอำนาจครอบคลุมเหนือเขา  เขาสูญสิ้นความรู้สึกทางร่างกายของเขาทั้งหมด  เขาล้มลงและเขารู้สึกว่าเขาได้ตายและขึ้นไปสู่ดินแดนนิพพาน ความทรงจำอันเป็นจุดประสงค์ดั้งเดิมของเขาได้ถูกชำระไป ดาบได้หล่นลงจากมือของเขา

ซิกส์ซึ่งเต็มไปด้วยความงุนงง  คลำหาทางออกจากห้องไปยังห้องโถงด้วยความรู้สึกที่ถูกชำระล้างใหม่  ในที่สุดซิสเตอร์ก็กลับมาพร้อมกับอาหารค่ำของบาบาและพบผู้บุกรุก  เธอส่งสัญญาณเตือน  โจรร้ายถูกนำมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว แต่บาบาได้กำชับพวกเขาให้ดูแลโจรร้ายดี ๆ นักรบที่ป่าเถื่อนได้รับข้อมูลว่าเขาได้มาถึง ณ ที่อยู่ของพระเจ้า และที่นั่นเขาสามารถที่จะสำนึกผิดต่อบาปในอดีตที่เขาได้ทำด้วยการใช้ชีวิตอยู่ในความบริสุทธิ์  โจรซิกส์นั้นมีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนี้  เขายิ้มอย่างเปิดเผยเหมือนเด็ก ๆ พวกเขาให้อาหารกับโจรแล้วส่งเขากลับออกไป พร้อมกับคำแนะนำให้คิดถึงพระเจ้า และสาวเท้าก้าวออกไปยังทิศทางภูเขาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา

วันรุ่งขึ้น  เมื่อแอนตี้ปาร์ตี้รับรู้ว่าอะไรได้เกิดขึ้น พวกเขาก็รับรู้อย่างไม่เชื่อ  และพวกเขาก็ไม่ได้ทำความเพียรพยายามที่จะกระทำการเช่นนั้นอีกต่อไป

อ่านต่อ >>>  อดิเทพ ตอนที่ 2 # 30